ขยล ตันติชาติวัฒน์ แห่ง Metthier บริการบริหารจัดการอสังหาริมทรัพย์อัจฉริยะรายแรกในไทย

• เมทเธียร์ (Metthier) ภายใต้การนำของ ขยล ตันติชาติวัฒน์ เปิดตัวอย่างเป็นทางการในฐานะผู้ให้บริการบริหารจัดการอสังหาริมทรัพย์อัจฉริยะรายแรกในไทย
• ขยล ตันติชาติวัฒน์ เชื่อว่า บริการและเทคโนโลยีล้ำสมัยที่มอบให้กลุ่มลูกค้าที่เป็นอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่จะสร้างความเปลี่ยนแปลงในทางธุรกิจได้

โลกแห่งอนาคตมาถึงแล้วในวันนี้ กำเนิดบริการบริหารจัดการอสังหาริมทรัพย์อัจฉริยะ (Smart Facility Management) รายแรกในไทยโดย เมทเธียร์ (Metthier) ตอบโจทย์การดูแลจัดการอสังหาริมทรัพย์ขององค์กรทุกระดับ

ขณะที่ประเทศไทยอยู่บนเส้นทางของการพัฒนาในหลายมิติ โครงสร้างพื้นฐานเป็นอีกหนึ่งองค์ประกอบสำคัญ พื้นที่ใช้สอยต่าง ๆ ที่ผู้คนชาวไทยสัมผัสอยู่ทุกวินาทีของชีวิตไม่ได้เป็นเพียงแค่พื้นที่ อาณาบริเวณเหล่านั้นคืออีกหนึ่งจักรวาลย่อม ๆ ที่มีผู้คน บริการ และระบบต่าง ๆ เกี่ยวข้องมากมาย พื้นที่ใช้สอยอย่าง อาคาร สำนักงานต่าง ๆ มีระบบเบื้องหลังที่คอยรันให้ผู้คนทั่วไปได้ใช้งานทุกสิ่งอย่างสะอาด สะดวกสบาย และปลอดภัย

ประเทศชั้นนำของโลกมีระบบบริหารจัดการอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นโครงสร้างพื้นฐานสำคัญสำหรับประชาชน ไม่ว่าจะเป็นสนามบิน สำนักงาน และองค์กรต่าง ๆ ความสำคัญของการบริหารจัดการพื้นที่และอาคารเหล่านี้นำมาสู่หน่วยงานและองค์กรที่ทำหน้าที่ดูแลบริหารจัดการพื้นที่ให้ประชาชนได้สัมผัสประสบการณ์อย่างเหมาะสมกับวิถีชีวิตของผู้คน

แวดวงธุรกิจและผู้คุ้นเคยกับกิจการด้านดูแลรักษาอาคารและสถานที่ชั้นนำของประเทศไทยน่าจะรู้จักบริษัท รักข์สยาม (SAMCO) ซึ่งให้บริการมายาวนานร่วม 30 ปีเป็นอย่างดี บริษัท รักข์สยาม ถูก SKY บริษัทที่เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีเข้าซื้อกิจการเรียบร้อยแล้ว

ที่เราเอ่ยถึงบริษัท SKY (สกาย ไอซีที จำกัด (มหาชน) หรือสกาย กรุ๊ป) เป็นเพราะกิจการนี้เป็นบริษัทแม่ของเมทเธียร์ (Metthier) นั่นเอง เมื่อผนวกรวมกับกิจการในไทยอย่างรักข์สยาม ที่มีประสบการณ์ยาวนานและมีบุคลากรจำนวนมากอยู่แล้ว ภายใต้บริษัทแม่ที่เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี ยิ่งทำให้เมทเธียร์ จึงได้รับ Knowhow ด้านเทคโนโลยีมาด้วย หมายความว่าขุมกำลังหลักในบริการของเมทเธียร์ ย่อมแข็งแกร่งทั้งแง่ทรัพยากรบุคคลที่เชี่ยวชาญไปจนถึงจุดแข็งด้านเทคโนโลยีด้านการบริหารจัดการอสังหาริมทรัพย์ที่ถูกพัฒนาอย่างล้ำสมัย

เมทเธียร์ นิยามตัวเองว่า เป็นผู้ให้บริการบริหารจัดการอสังหาริมทรัพย์อัจฉริยะแบบครบวงจรด้วยเทคโนโลยีแห่งอนาคตเป็นรายแรกในไทย

ขยล ตันติชาติวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมทเธียร์ จำกัด (Metthier) ซึ่งมาร่วมงานเปิดตัวเมทเธียร์ ในวันที่ 25 ตุลาคม 2566 ลั่นวาจาไว้ว่าการบริหารจัดการอสังหาริมทรัพย์จะเปลี่ยนแปลงอย่างสิ้นเชิงด้วยระบบและเทคโนโลยี

“เรามีวิสัยทัศน์พัฒนาประเทศให้ดีขึ้นด้วยเทคโนโลยี” ขยล กล่าวถึงวิสัยทัศน์ของบริษัทบนเวทีเปิดตัวเมทเธียร์ 

ผู้บริหารของเมทเธียร์ยังเล่าว่า ทีมงานของเมทเธียร์ ผ่านกระบวนการหล่อหลอมรวมทีมกันกว่า 5 ปี ด้วยสโลแกนว่า Rise above ordinary โดยนำเทคโนโลยีมาสร้างความแตกต่างให้กับบริการที่นำเสนอให้องค์กรต่าง ๆ

แนวคิดสำคัญของเมทเธียร์ ที่อยากนำเสนอให้กับประเทศไทยคือเปลี่ยน Facility Management ให้เป็น Smart Facility Management โดยมีผู้ใช้บริการคือ Industrial Estate, Mixed-Use Development, Hospital (โรงพยาบาล), Financial Institute (สถาบันทางการเงิน) และ Education Campus (พื้นที่ของสถาบันการศึกษา)

Smart Facility Management จะประกอบด้วยเทคโนโลยีขั้นสูงและมาพร้อมบริการที่หลากหลาย นำเสนอบริการบริหารจัดการดูแลอสังหาริมทรัพย์อัจฉริยะ โดยมีศูนย์ปฏิบัติการอัจฉริยะเมทเธียร์ (Metthier Intelligent Operation Center: MIOC) ซึ่งเป็นศูนย์รวมระบบปฏิบัติการล้ำสมัยมาช่วยบริหารจัดการความปลอดภัยและมอบความสะดวกสบายภายในอาคารหรือพื้นที่ต่าง ๆ อย่างมีประสิทธิภาพ ตัวอย่างของการทำงานของระบบศูนย์ปฏิบัติการฯ คือ แบบจำลองอาคาร 3 มิติ (3D Visualizaion) และสามารถระบุพิกัดภายในอาคารในรูปแบบดิจิทัล (Digital Mapping) แสดงผลพื้นที่ในอาคารและระบุตำแหน่งอย่างแม่นยำ

สำหรับอาคารที่เป็นเป้าหมายของเมทเธียร์ และตั้งเป้าขยายฐานลูกค้าคือกลุ่มเจ้าของหรือผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่ 5 กลุ่ม คือ โรงงานอุตสาหกรรม, โครงการมิกซ์ยูส (Mixed-Use), โรงพยาบาล, สถาบันการเงิน และสถานศึกษา

บริการของเมทเธียร์ แบ่งได้ 3 รูปแบบหลัก

1) ระบบบริหารจัดการผู้มาติดต่อ (Visitor Management Solutions) ใช้เทคโนโลยีจดจำใบหน้า (Face Recognition) ที่มีความแม่นยำสูง สามารถจัดการและรายงานข้อมูลผู้มาติดต่ออย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ผู้มาติดต่อได้รับประสบการณ์ที่ดีและปลอดภัยมากยิ่งขึ้นทันที พร้อมเชื่อมต่อเข้ากับ 2 ระบบ คือ ระบบควบคุมการเข้าออกแบบอัตโนมัติ (Access Control Solution) และระบบจอดรถอัจฉริยะ (Smart Parking Solution)

2) ให้บริการด้านความปลอดภัย (Security as a Service) บริการรักษาความปลอดภัยระดับสูงด้วยเทคโนโลยีและเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่ได้รับการอบรมด้านความปลอดภัยอย่างเข้มข้น ให้ผู้ใช้บริการได้รับการดูแลและปลอดภัยในทุกสถานการณ์ เช่น ระบบบริหารจัดการเหตุการณ์ฉุกเฉินอัจฉริยะ (Smart Incident Management)ทำงานเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ Smart IoT โดยการใช้ AI ในการวิเคราะห์

3) การบริหารจัดการอสังหาริมทรัพย์ (Facility Management Service) ยกระดับการทำงานของการอำนวยความสะดวกภายในอาคารสถานที่ เพื่อให้ผู้รับบริการมั่นใจว่าทุกอาคารสำนักงานและสถานที่ต่างๆ ที่อยู่ภายใต้การดูแลของ Metthier มีสภาพแวดล้อมที่ดีและสะอาดอยู่เสมอ ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย

ขยล ตันติชาติวัฒน์ มองว่าบริการของเมทเธียร์ จะสร้างความเปลี่ยนแปลงในระบบอย่างมีนัยสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการบริหารจัดการการใช้งานพื้นที่ต่าง ๆ ด้วยเทคโนโลยีจดจำใบหน้า (Face Recognition) ที่มีความแม่นยำสูง ไปจนถึงเรื่องการจัดการข้อมูลผู้ใช้บริการอาคารสถานที่ การบริหารจัดการอย่างเป็นระบบจะนำไปสู่ประโยชน์เรื่องการจัดการต้นทุน เช่น การใช้พลังงานในอาคารสถานที่นั้น ข้อมูลการใช้งานพื้นที่ที่มีคนน้อยอาจไม่จำเป็นต้องเปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าในช่วงที่ไม่จำเป็น

ขณะที่บริการรักษาความปลอดภัยและบริหารจัดการอสังหาริมทรัพย์ที่ใช้เทคโนโลยีเข้าช่วยอย่าง AI และหุ่นยนต์อัจฉริยะ (Smart Robotics) หุ่นยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วย AI และติดตามการทำงานได้

ขยล ยังยกตัวอย่างว่า หุ่นยนต์ที่เข้ามาให้บริการช่วยเหลือพนักงานหรือเจ้าหน้าที่ดูแลความสะอาดที่บางคนเริ่มเข้าสู่ช่วงสูงวัย เมื่อมีเครื่องมือมาช่วยทำงานย่อมช่วยยืดระยะเวลาที่พนักงานสามารถทำงานได้ และให้ประสิทธิผลได้ดีขึ้นด้วย

ขยล เล่าถึงแนวคิดเบื้องหลังเมทเธียร์ อย่างน่าสนใจว่า

“เราเห็นแล้วว่าไม่ใช่แค่เรื่องเทคโนโลยีแค่ CCTV เบื้องหลังคือเจ้าหน้าที่ คือคนบริหารจัดการพื้นที่ ถ้าอย่างนั้นเราต้องคิดใหญ่กว่านั้น เราคิดสเกลเล็กเริ่มต้นได้ดีแล้ว ถ้าเกิดเราทำบริการให้ครบล่ะ? มันดีกว่า แทนที่เราจะขาย solutions (แนวทางแก้ปัญหา) ที่เขาจะบอกว่าไม่พร้อม ไม่จำเป็น งั้นเราขายสิ่งที่จำเป็นแล้วเทคโนโลยีมาด้วยกันนะ นี่คือ Game Changer นี่คือความแตกต่างที่เปลี่ยนแปลงธุรกิจ”

 

สำหรับผู้สนใจแนวคิดของผู้บริหารหนุ่มรายนี้ หรือสนใจธุรกิจบริหารจัดการอสังหาริมทรัพย์แบบอัจฉริยะ สามารถติดตามเพิ่มเติมในเวที THE PEOPLE TALK : GAME CHANGER FORUM 2023 ถอดบทเรียน ‘คน’ เปลี่ยนเกม จัดขึ้นในวันพฤหัสบดีที่ 9 พฤศจิกายน 2566 เวลา 10:00 น. เป็นต้นไป ณ คริสตัล บ็อกซ์ ชั้น 19 เกษร เออร์เบิน รีสอร์ท แยกราชประสงค์ กรุงเทพมหานคร

ในวาระครบรอบ 5 ปี และก้าวสู่ปีที่ 6 THE PEOPLE ชวนคุณร่วมปลุกพลัง “ความเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลง” เพื่อทะยานสู่เส้นทางแห่งอนาคตกับงาน THE PEOPLE TALK : GAME CHANGER FORUM 2023 ถอดบทเรียน ‘คน’ เปลี่ยนเกม งานเสวนาที่จะมาแบ่งปันความรู้และประสบการณ์จากผู้นำองค์ระดับประเทศ เพื่อการเปลี่ยนแปลงให้ก้าวนำอนาคต

The People Talk : Game Changer Forum 2023 ได้รับเกียรติจาก นายแพทย์ สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองประธาน คณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ ขึ้นเป็นประธานและแสดงวิสัยทัศน์หัวข้อ “การเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลง บนโลกที่เปลี่ยนเร็ว” จากนั้นจะเข้าสู่ช่วง

Visionary Leadership Talk เวทีแสดงวิสัยทัศน์ของผู้บริหารชั้นนำที่มีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนประเทศ อาทิ

- คุณสันติ โหลทอง นายกสมาคมกีฬาอีสปอร์ตแห่งประเทศไทย
- คุณแซม ตันสกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท กรุงศรี ฟินโนเวต จำกัด
- คุณสินนท์ ว่องกุศลกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บ้านปู เน็กซ์ จำกัด

Panel Discussion เสวนาพิเศษจากตัวจริงของแวดวงธุรกิจไทย ที่จะมาแบ่งปันประสบการณ์ในการสร้างพลวัตการเปลี่ยนแปลง “คน” และ “องค์กร” เพื่อพัฒนาให้พร้อมสำหรับโลกอนาคต ภายใต้หัวข้อ : CHANGE อย่างไรให้ก้าวนำโลก โดยได้รับเกียรติจาก

- คุณธนา เธียรอัจฉริยะ ประธานกรรมการ บริษัท บลูบิค กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)
- คุณขยล ตันติชาติวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมทเธียร์ จำกัด
- คุณรวิศ หาญอุตสาหะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ศรีจันทร์สหโอสถ จำกัด
- คุณศุภโชค ปัญจทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซท ไฟว์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)

ดำเนินการเสวนาโดย หนุ่ย พงศ์สุข หิรัญพฤกษ์

ลงทะเบียนร่วมงานได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย (รับจำนวนจำกัด) ที่ https://www.eventpop.me/e/16261