สีสันแห่งชีวิตของ ‘ณวัฒน์ อิสรไกรศีล’ บุคคลเบื้องหลังเวทีขวัญใจมหาชน ‘มิสแกรนด์’ เวทีที่ให้มากกว่านางงาม

สีสันแห่งชีวิตของ ‘ณวัฒน์ อิสรไกรศีล’ บุคคลเบื้องหลังเวทีขวัญใจมหาชน ‘มิสแกรนด์’ เวทีที่ให้มากกว่านางงาม

เปิดเรื่องราวของ ‘ณวัฒน์ อิสรไกรศีล’ ชีวิตเต็มไปด้วยสีสัน สู่เส้นทางผู้บริหารในหลายธุรกิจ กลายเป็นพัฒนาการก้าวกระโดดที่ขึ้นไปสู่บอสใหญ่แห่งเวทีประกวดนางงามขวัญใจมหาชน

จากพิธีกรรายการดัง ฝีปากเก่งบนหน้าจอโทรทัศน์ ทุกวันนี้หลายคนรู้จักเขาในนามของ ‘บอส’ เจ้าของเวทีการประกวดที่จัดจ้านที่สุดในประเทศไทยอย่าง ‘มิสแกรนด์ ไทยแลนด์’

แต่ก่อนจะมาเป็นบอสแห่งเวทีมิสแกรนด์ บอสของ ‘อิงฟ้า’ ‘ชาล็อต’ และสาวๆ อีกมากมายที่แจ้งเกิดจากเวทีที่เต็มไปด้วยสีสันแห่งนี้ ‘ณวัฒน์ อิสรไกรศีล’ มีเส้นทางชีวิตชีวิตที่น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว ไม่ว่าจะจากการเป็นเซลล์ เป็นไกด์ท่องเที่ยว ก่อนมีโอกาสได้เข้าสู่วงการทีวี และได้จับงานผู้บริหารเบื้องหลังของหลายรายการดัง

ความสามารถที่หลากหลายของเขา ผสมลงตัวกับวิสัยทัศน์ อย่างกลมกล่อมจนกลายเป็นบอส ‘ณวัฒน์’ ที่ทำให้โซเชียลมีเดียต้องพูดคุยถึงเขาไม่เว้นแต่ละวันเลยทีเดียว

 

เส้นทางจากไกด์ทัวร์ สู่เจ้าของเวทีสุดแกรนด์

ณวัฒน์ มีชื่อเล่นว่า ‘ไก่’ เป็นชาวอำเภอดำเนินสะดวก จังหวัดราชบุรี เกิดและเติบโตที่นั่น ก่อนที่เขาจะจบการศึกษามัธยมต้นจากโรงเรียนในจังหวัดราชบุรี  และได้เข้ามาเรียนต่อระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย จากโรงเรียนบดินทรเดชา สิงห์ สิงหเสนี และจบการศึกษาระดับปริญญาตรี จากคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ในกรุงเทพฯ

ณวัฒน์ใกล้ชิดกับวงการบันเทิงตั้งแต่ช่วงมัธยมปลาย เพราะเขาตระเวนเข้าร่วมเล่นรายการเกมโชว์มากมายหลายสิบรายการ ถ้าพูดถึงหลายคนคงร้องอ๋อ... แน่ ๆ ไม่ว่าจะเป็นรายการพลิกล็อก, รายการลาภติดเลข, รายการมาตามนัด ฯลฯ ซึ่งรางวัลจากการร่วมเล่นเกมต่างๆ นี่แหละที่ทำให้ณวัฒน์ส่งเสียตัวเองจนเรียนจบได้ 

หลังเรียนจบ อาชีพแรกของเขาคือ พนักงานออฟฟิศฝ่ายการตลาดบริษัทรถยนต์แบรนด์หนึ่ง ก่อนที่จะผันตัวมาเป็นไกด์นำเที่ยวซึ่งเป็นอาชีพที่ทำให้เขาได้เดินทางตระเวนไปที่ต่างๆ ทั่วโลก จนกระทั่งได้เปิดบริษัทนำเที่ยวของตัวเอง ภายใต้ชื่อว่า บริษัท โบอิ้ง ฮอลิเดย์ ทัวร์ แอนด์ ทราเวล จำกัด

เส้นทางสู่วงการบันเทิงในฐานะพิธีกรมากความสามารถเกิดขึ้นเมื่อเขาได้รับคำชวนจากผู้บริหารของสถานีโทรทัศน์ไอทีวีในยุคแรก พร้อมกันนั้นเขาได้เปิดบริษัทด้านรายการโทรทัศน์ชื่อว่า บริษัท ฮอลิเดย์ เทเลวิชั่น จำกัด เพื่อผลิตรายการโทรทัศน์เข้าช่อง โดยมีหลายรายการที่เป็นที่จดจำ โดยเฉพาะรายการเกี่ยวกับการท่องเที่ยว ที่ต้องบอกเลยว่าหากสมัยที่จอทีวีรุ่งเรือง หากพูดถึงณวัฒน์ ก็จะนึกถึงการไปท่องเที่ยวสถานที่แปลกใหม่ เช่น รายการเปิดเมืองแปลก เป็นต้น 

ถัดจากยุคไอทีวี เขาได้เซ็นต์สัญญาเข้าช่องสามในตำแหน่งพิธีกร ผู้ประกาศข่าว และ Executive Producer และมีผลงานที่ส่งให้เขาดังขึ้นไปอีก เช่น รายการเมืองแปลกในต่างแดน, รายการทูไนท์โชว์, รายการครัวคุณต๋อย นอกจากนั้น เขายังได้ทำงานร่วมกับสถานีโทรทัศน์อื่นๆ อีกมากมาย

แต่จุดเริ่มต้นเส้นทางนางงามของณวัฒน์คงจะเป็นตอนที่เขาอยู่ช่องสาม และได้รับหน้าที่เป็นผู้อำนวยการกองประกวดมิสไทยแลนด์เวิลด์ พร้อมทำหน้าที่พิธีกรเวทีดังกล่าวตั้งแต่ปี 2007 จนถึงปี 2012

ดังนั้นพอหมดสัญญา เขาจึงตัดสินใจขอซื้อลิขสิทธิ์มาทำเอง แต่ทางเจ้าของลิขสิทธิ์ปฏิเสธ จึงเป็นจุดหักเหที่ณวัฒน์ตัดสินใจเลือกที่จะตั้งเวทีประกวดด้วยตัวเองภายใต้ชื่อ  "มิสแกรนด์ไทยแลนด์" โดยร่วมกับทางช่อง 7 ในการเผยแพร่ออกอากาศ และยังเป็นประธานและผู้ก่อตั้งเวทีการประกวดนานาชาติ โดยใช้ชื่อว่า "มิสแกรนด์อินเตอร์เนชันแนล" สำหรับการประกวดระดับโลกอีกด้วย

 

ชีวิตติดแกรนด์ของ ‘ณวัฒน์’

คนไทยชอบเชียร์นางงามไม่เกินจริง เพราะแม้ว่าในยุโรป ในอเมริกา และในอีกหลายประเทศ จะมีความนิยมต่อเวทีนางงามลดลง แต่ในประเทศไทยกลับไม่เป็นเช่นนั้น ปัจจุบันหลายเวทีระดับโลกอยู่ภายใต้การกุมบังเหียนและการเป็นเจ้าของของคนไทย

‘มิสแกรนด์’ มีความแตกต่างออกไปเล็กน้อยจากเวทีระดับโลกอื่น ๆ เพราะเป็นแบรนด์เวทีที่มีจุดเริ่มต้นในประเทศไทย แต่ก็เป็นแบรนด์นางงามที่ต้องยอมรับเลยว่าประสบความสำเร็จอย่างยิ่งจากฝีมือการปั้นของณวัฒน์ จนมีหลายประเทศซื้อลิขสิทธิ์ไปจัดประกวดในประเทศตัวเอง 

มิสแกรนด์เป็นเวทีที่พูดได้ว่า ฉีกขนบ ‘นางงาม’ สวยสง่า ดูหรู ดู posh โดยนำเสนอนางงามที่เปี่ยมความสามารถ เป็นตัวของตัวเอง เต็มไปด้วยความมั่นใจ กล้าแสดงออก ร่าเริง เปี่ยมด้วยพลัง จนกลายเป็นไวรัลแนะนำตัวเองพร้อมชื่อจังหวัดด้วยเสียงดังกังวาน ลากยาว  และก็ต้องบอกเลยว่าเป็นเวทีที่ใจกล้าอย่างยิ่ง ที่จะแตะประเด็นร้อนการเมืองในหลายต่อหลายครั้ง เปิดโอกาสให้ผู้เข้าประกวดได้แสดงทัศนะประเด็นทางสังคม การเมือง อย่างตรงไปตรงมาบนเวทีถ่ายทอดสด

เป้าหมายของมิสแกรนด์ไม่ได้มีเพียงแค่การประกวดเวทีนางงามเท่านั้น เมื่อการประกวดจบลง นางงามที่ได้รับตำแหน่งจะยังทำงานภายใต้ชื่อมิสแกรนด์ ภายใต้บริษัท “มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล" ที่นอกจากจะดูแลเวทีการประกวดทั้ง 2 เวที (ในประเทศ/ นานาชาติ) แล้ว ยังเป็นบริษัทที่ดำเนินธุรกิจด้านโฆษณา, การจัดการศิลปิน, การจัดอีเวนต์, ขายสินค้า อาทิ เครื่องสำอาง, ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ, อาหารแปรรูป  เป็นต้น

ณวัฒน์มีความฝันที่อยากจะต่อยอดเวทีนางงามให้หารายได้ได้จากหลายทาง ไม่ใช่แค่การประกวดหรือสปอนเซอร์...

ความสำเร็จหนึ่งที่เป็นที่ประจักษ์ของมิสแกรนด์คือ ความโด่งดังของ ‘อิงฟ้า วราหะ’ Miss Grand Thailand 2022 ที่กลายเป็นขวัญใจมหาชน จากความสามารถ ทั้งร้องและเต้นระดับมืออาชีพ และยังมีกระแสคู่จิ้นกับ ‘ชาล็อต ออสติน’ ผู้เข้าประกวดปีเดียวกัน เป็นครั้งแรกที่วงการนางงามมีคู่จิ้น และมี ‘ชาวด้อม’ คอยสนับสนุนทุกอย่างที่เธอทำ

จนได้ฉายาว่า ‘อิงฟ้า ร้อยล้าน’ โกยรายได้มหาศาลเข้าองค์กร ทำให้ปัจจุบันมูลค่าบริษัทมิสแกรนด์สูงกว่าเจ็ดพันล้านบาท แม้จะเปิดขายหุ้นครั้งแรก (IPO) เมื่อราวปลายปีที่ผ่านมานี่เอง ทั้งหลายคนยังเตือนว่าสถานการณ์ตลาดหุ้นไม่ค่อยจะดี 

ณวัฒน์เป็นคนแรกที่กล้านำบริษัทนางงามสู่ตลาดหุ้นคนแรกของโลก

โดยจะเห็นได้ว่า จากเส้นทางชีวิตที่ผ่านมาของ ‘บอส’ คนนี้ เขาเป็นคนที่มองการณ์ไกล และกล้าที่จะแตกต่าง -- หลายคนอาจจะมองว่าธุรกิจนางงามแคบ และต่อยอดไม่ได้เยอะ สปอนเซอร์ไม่หลากหลาย นางงามใช้งานได้ยาก ฯลฯ แต่ไม่ใช่กับณวัฒน์ที่กล้าจะฉีกกรอบ

“ผมจึงคิดหาวิธีการที่จะสร้างมูลค่าและก็สร้างเม็ดเงินรายได้ต่อปีให้มันมากขึ้นกว่าคำว่า 'นางงาม' จนกระทั่งในปี 2018 จึงได้มีการแต่งตั้ง (FA) ที่ปรึกษาทางการเงินและเดินทางตามเส้นเรื่องที่เป็นคุณสมบัติที่สำคัญของ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (กลต.) ในเรื่องของการดูแลทางด้านเกี่ยวข้องกับภาษี เรื่องราวเกี่ยวข้องกับการวางระเบียบทางการเงินและวิธีการหาเงินเข้ามาสู่บริษัท" ณวัฒน์ให้สัมภาษณ์กับทางสปริงนิวส์

เขาให้นิยามวิธีบริหารแบบเขาว่า เป็นอะไรที่แตกต่าง “ผมเป็นคนนึงที่เวลาทำอะไรแล้วจะไม่ค่อยเหมือนตลาด เพราะฉะนั้นถ้าตลาดเป็นแบบนี้ผมก็คาดหวังว่าผมจะไม่เหมือนกับตลาดที่เป็นอยู่ครับ" 

ณวัฒน์บอกว่า ในการทำธุรกิจของเขา เขาเลือกหันหลังให้ธุรกิจทีวีที่เขาเติบโตมา และใช้โซเชียลมีเดียแทน เพราะเชื่อว่าโลกกำลังจะเปลี่ยนไปแล้ว... แน่นอนว่าเขาเป็นผู้บริหารที่ใช้โซเชียลมีเดียทำงานอย่างคล่องแคล่ว ทั้งในการจุดกระแสนางงาม และการที่เขาออกมาไลฟ์สดแชร์เรื่องราว หรือกระทั่งไลฟ์ขายของใน TikTok ด้วยตัวเอง 

อย่างไรก็ตาม พูดถึงเรื่องโซเชียลมีเดีย หากย้อนไปราวสามปีก่อน ช่วง COVID-19 คงจะพอจำกันได้ว่า บนหน้าโซเชียลมีเดีย ณวัฒน์มีชื่อเสียงทั้งในทางดีและไม่ดี เพราะเขาออกมาวิพากษ์วิจารณ์รัฐ และมีการพาดพิงไปถึงคนอื่น จนกลายเป็นดราม่ายาวนานนับสัปดาห์

หลังจากนั้น เขาก็ยังคงใช้เครื่องมือออนไลน์เหล่านี้ในการออกมาพูดเรื่องต่าง ๆ หรือในการตำหนิผู้เข้าประกวดทั้งในเวลาและต่างเวทีออกอากาศ จนราวกับว่าสิ่งนี้คือหนึ่งในซิกเนเจอร์การทำงานของณวัฒน์ ที่เขาจะต้องออกมาพูดทุกเรื่องต่อสาธารณชนอย่างถึงพริกถึงขิง

ทั้งนี้ ในระยะยาว ณวัฒน์วาดโปรเจกต์มิสแกรนด์ไว้ว่าจะต้องเป็นมากกว่าเวทีนางงาม นางงามทุกคนที่จะชนะการประกวดจะต้องมองว่าสามารถใช้ประโยชน์ได้ในระยะยาว เป็นมากกว่าคนวงการบันเทิงแต่ต้องสร้างแรงบันดาลใจด้วย 

ปัจจุบัน ด้วยความสามารถ และลีลาการบริหารงานที่โดดเด่นของณวัฒน์ นอกจากการเป็นเจ้าของเวทีมิสแกรนด์แล้ว เขายังนั่งเก้าอี้กรรมการบริษัทและประธานบอร์ดอีกหลายที่ เช่น เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เขาเข้านั่งตำแหน่งกรรมการบริษัท เอเจ แอดวานซ์ เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ AJA และถัดมาเมื่อต้นเมษายน เมื่อ MGI ได้เข้าทำการซื้อหุ้นบริษัท สบาย เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ SABUY ก่อนที่ณวัฒน์จะขอถอนตัวออกจากตำแหน่งรองประธานบอร์ด

สิ่งเหล่านี้จึงเป็นตัวชี้วัดสำคัญถึงวิสัยทัศน์ของ ‘ณวัฒน์ อิสรไกรศีล’ ที่มองไกลและกล้าที่จะแตกต่างอยากคนอื่นอย่างน่าจับตา

 

เรื่อง: Niris

อ้างอิง:

บอส MGI"ณวัฒน์" แจ้งลาออกจากรองประธานบอร์ด SABUY ส่งตัวแทนนั่งแทน

“ณวัฒน์ อิสรไกรศีล” นั่งบอร์ด AJA มีผล 23 ก.พ. ติดอันดับ 9 ถือหุ้นใหญ่

ณวัฒน์ อิสรไกรศีล ผู้นำบริษัทนางงามสู่ตลาดหุ้นพันล้านเจ้าแรกของโลก

สวยครบจบที่ อิงฟ้า วราหะ เปิดประวัติรอง 1 มิสแกรนด์อินเตอร์คนแรกของไทย

วิเคราะห์ประเด็นร้อน Miss Grand Thailand 2023 และเจาะลึกชีวิต ‘อุ้ม ทวีพร’ ผู้คว้ามงฯ

ประวัติ "ณวัฒน์ อิสรไกรศีล" หนุ่มนักธุรกิจ ผู้จัดนางงามมากความสามารถจากรั้วหอการค้า

เจาะขุมทรัพย์ "ณวัฒน์ อิสรไกรศีล" เจ้าของเทวีมิสแกรนด์ ที่ไม่ได้มีแค่ธุรกิจนางงาม