เซลีน วิเพียนา หญิงหัวก้าวหน้าผู้ก่อตั้ง Celine จากร้านขายรองเท้าเด็กสู่ไอคอนแฟชั่นของโลก

เซลีน วิเพียนา หญิงหัวก้าวหน้าผู้ก่อตั้ง Celine จากร้านขายรองเท้าเด็กสู่ไอคอนแฟชั่นของโลก

Celine เป็นหนึ่งแบรนด์หรูที่โดดเด่นมากในปัจจุบัน โดยผู้ก่อตั้ง ก็คือ ‘เซลีน วิเพียนา’ (Céline Vipiana) หญิงแกร่งหัวก้าวหน้าที่เริ่มต้นแบรนด์จากร้านขายรองเท้าเด็ก และพลิกให้มาเป็นไอคอนแฟชั่นของโลกอย่างที่เห็น

  • Celine แบรนด์หรูที่เติบโตเร็วสุดตอนนี้
  • แบรนด์นี้มี ‘เซลีน วิเพียนา’ (Céline Vipiana) เป็นผู้ก่อตั้ง 
  • เธอเป็นผู้หญิงที่มีหัวก้าวหน้า และเปลี่ยน Celine จากร้านขายรองเท้าเด็กมาเป็นแบรนด์หรู 

กระเป๋าและเสื้อผ้าที่ ‘ลิซ่า BLACKPINK’ ใส่บ่อยที่สุดคือแบรนด์อะไร? แม้ไม่ใช่แฟนคลับตัวยง…แต่หลายคนก็น่าจะพอตอบคำถามนี้ได้ผ่านการปรากฎตัวตามสื่อต่าง ๆ ทั่วโลก

จากแบรนด์หรูที่คนรุ่นใหม่เกือบหลงลืม ได้ถูกฉายแสงสปอตไลท์เจิดจ้าให้โดดเด่นที่สุดในโลกแฟชั่น จนน้อยคนที่จะไม่รู้จัก ไม่เคยได้ยิน หรือไม่เห็นผ่านตาแบรนด์ที่ชื่อว่า ‘Celine’ ก่อตั้งโดยหญิงแกร่งหัวก้าวหน้าอย่าง ‘เซลีน วิเพียนา’ (Céline Vipiana)

เซลีนเมื่อวันวาน 

ผลงานชิ้นโบว์แดงจากสถาปนิกและนักวางผังเมือง ‘บารอน เฮาส์มันน์’ (Baron Haussmann) เปลี่ยนโฉมปารีสให้เป็นเมืองที่มีสถาปัตยกรรมตึกรามบ้านช่องอันสวยงามอลังการแบบที่เราเห็นกันในปัจจุบัน ได้เสร็จสิ้นลงตั้งแต่ทศวรรษ 1870 และได้สร้างแรงบันดาลใจให้คนรุ่นหลัง ความภาคภูมิใจในความเป็นฝรั่งเศส และรสนิยมการแต่งกายที่สวยหรูให้เป็นของคู่กันกับบ้านเมืองที่งดงาม

เซลีนเกิดเมื่อปี 1915 ประเทศฝรั่งเศส เป็นอีกคนรุ่นหลังที่เติบโตมาท่ามกลางสภาพแวดล้อมที่สวยงามและสร้างแรงบันดาลใจในไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต เธอหลงใหลในศิลปะความเป็นฝรั่งเศสและมีความฝันต้องการถ่ายทอดสิ่งที่ดีที่สุดออกไป

ความฝันของเธอเริ่มก่อร่างสร้างตัวขึ้นที่ถนน 52 Rue de Malte กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส กับ ‘Celine’ ชอปแบรนด์แรกในชีวิตของเธอ ซึ่งเธอร่วมแรงกับสามีในการทำมันให้เกิดขึ้นจนได้ โดยสินค้าแรกที่เธอทำยังไม่ใช่กระเป๋าหรือรองเท้าที่เราคุ้นเคย แต่เป็น ‘รองเท้าเด็ก’ แบบสั่งทำพิเศษต่างหาก

ในยุคสมัยนั้น ผู้หญิงส่วนใหญ่ยังถูกคาดหวังให้เป็นแม่บ้านทำงานบ้านอยู่เลย พวกเธอต้องเป็นช้างเท้าหลัง และต้องพึ่งพารายได้จากสามีในการจุนเจือยังชีพเท่านั้น แต่เซลีนปฏิเสธแนวคิดนี้ เธอเป็นหญิงแกร่งที่กล้าตัดสินใจและออกมายืนแถวหน้า ความหัวก้าวหน้า เด็ดเดี่ยว ที่แฝงด้วยสไตล์อันมีรสนิยมถูกถ่ายทอดสู่งานดีไซน์ทุกผลิตภัณฑ์ของเธอ

ลูกค้าผู้ปกครองสัมผัสได้ว่าสินค้าของเธอเป็นมากกว่าสินค้า แต่แฝงด้วยงานศิลปะ มีความพิถีพิถันละเอียดอ่อน ใช้วัสดุคุณภาพ และสะท้อนแนวคิดหัวก้าวหน้าสุภาพสตรีแบบเธอ เรียกว่าแบรนด์ Celine ประสบความสำเร็จขั้นแรก ซื้อใจลูกค้า มีลูกค้าประจำแวะเวียนมาไม่ขาดสาย กิจการดีมากจนสามารถขยายสาขาได้ในปี 1948 

เปิดประตูแห่งจินตนาการ

อย่างไรก็ตาม ต้องรอถึง 15 ปีกว่าที่คุณเซลีนจะตัดสินใจเริ่มจำหน่ายกระเป๋า เครื่องหนัง และ ‘รองเท้าผู้หญิง’ ความน่าสนใจคือ เซลีนโฟกัสการออกแบบงานดีไซน์ที่ต้องใช้งานได้จริงบ่อย ๆ ในชีวิตประจำวัน สวมใส่ได้หลายโอกาส สร้างบันดาลใจและกระตุ้นความคิดบวก (Practical yet elegant) ถ้าคนเราสามารถเปลี่ยนวันธรรมดาให้เป็นวันที่พิเศษขึ้นอีกนิดได้…ก็คงจะดีไม่น้อย

หนึ่งในไฮไลท์คือ การออกแบบรองเท้าหนังที่มีเหล็กคาดห่วงติดประดับอยู่ (Horsebit shoes) ซึ่งมีส่วนผสมที่ช่างสวยงาม ภูมิฐาน เนี้ยบ แต่ยังแฝงด้วยความเก๋ แบบไม่เป็นทางการ…รู้หรือไม่ว่า รองเท้าทรงนี้พวกเรายังใส่กันมาถึงปัจจุบันทุกวันนี้

การเปิดตัวรองเท้าทรงนี้ในยุคนั้น นำไปสู่การประสบความสำเร็จล้นหลามให้กับแบรนด์ Celine บ่งบอกสไตล์หรูหราแบบฝรั่งเศส และทำให้ชื่อของเธอไต่ระดับขึ้นมาเป็นดีไซเนอร์ชั้นนำนับแต่นั้น

โปรดักท์ไลท์เริ่มขยับขยายทีละนิดอย่างมั่นคง เริ่มในปี 1963 Celine ได้เปิดตัว Vent Fou น้ำหอมครั้งแรก โดยเป็นส่วนผสมของกัลบานัม ดอกมะลิ และดอกกุหลาบ ให้กลิ่นอายความเป็นกุลสตรีอันอ่อนช้อย และเป็นกลิ่นที่สื่อถึงความรัก

และเมื่อมาถึงทศวรรษที่ 1970 มาถึงตอนนี้ Celine ได้กลายเป็นแบรนด์อินเตอร์เป็นที่เรียบร้อย และได้ขยายสาขาไปทั่วโลกตั้งแต่ลอนดอน นิวยอร์ค โตเกียว ฮ่องกง และเมืองใหญ่อื่น ๆ อีกหลายที่

จากการเห็นโอกาสเติบโตเป็นแบรนด์ระดับโลกอย่างแท้จริงพร้อมทีมบริหารมืออาชีพ ปี 1987 เซลีนได้ตัดสินใจให้ Celine ถูกรวมเข้าเป็นส่วนหนึ่งของบริษัท LVMH ที่เป็นเจ้าของแบรนด์หรูมากมาย (เช่น Louis Vuitton) ซึ่งมาขอเข้าซื้อกิจการ อย่างไรก็ตาม เธอยังดำรงตำแหน่งบทบาทนำในฐานะหัวหน้าดีไซเนอร์อยู่จนถึงวันสุดท้ายที่เธอจากไปเมื่อปี 1997

โตด้วยทีม

เมื่อมาถึงยุคปัจจุบัน ปฏิเสธไม่ได้ว่าองค์กรขับเคลื่อนด้วย ‘คน’ ยิ่งองค์กรมีคนเก่งเท่าไร ยิ่งเติบโตได้มากเท่านั้น และ Celine เลือกไม่ผิดที่แต่งตั้งให้ Hedi Slimane ดำรงตำแหน่งครีเอทีฟไดเรกเตอร์ของแบรนด์ในปี 2018 เขามีพาวเวอร์มากพอในการตัดสินทิศทางงานดีไซน์ของทั้งแบรนด์เลยทีเดียว

เขาวิพากษ์วิจารณ์ว่า Celine เป็นแบรนด์ที่ดู ‘แก่’ (ไม่ใช่ ‘คลาสสิค’) เขาริเริ่มด้วยการลบตัวอักษร é แบบฝรั่งเศสออกไป จนเหลือแค่ Celine ที่ดูโมเดิร์นขึ้น และไม่จำกัดในกรอบความเป็นฝรั่งเศส และนำไปสู่การทรานฟอร์มด้านงานดีไซน์ที่ดูเด็กลง เข้ากับยุคสมัยมากขึ้น เจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ และเป็นดีไซน์ที่ไม่ว่าจะ ‘เพศสภาพ’ ไหนก็ใส่ได้ทั้งหมด เป็นจุดเริ่มต้นการ ‘ขีดเส้นแบ่ง’ ระหว่าง Celine ยุคเก่า x ยุคใหม่เลยก็ว่าได้

การเริ่มปรับเปลี่ยนหัวเชื้อพื้นฐานที่สุดของแบรนด์ จะสอดประสานอย่างดีกับกลยุทธ์ต่อไปที่ประสบความสำเร็จล้นหลาม

แบรนด์เติบโตเร็วที่สุดในโลกหลังจับมือลิซ่า BLACKPINK 

กลยุทธ์แบรนด์ไปจับมือศิลปินที่มีชื่อเสียง ช่วยอำนวยความสะดวกในการสร้างการรับรู้ในวงกว้างระดับโลก เข้าถึงฐานลูกค้าคนรุ่นใหม่ที่มีกำลังซื้อสูง ยังได้ฐานแฟนคลับโดยเฉพาะจากศิลปินคนนั้นที่ไปพาร์ทเนอร์ และนำไปสู่ความสามารถในการปรับขึ้นราคาได้ในอนาคตโดยไม่กระทบต่อลูกค้าและยอดขาย

Celine สามารถเติบโตก้าวกระโดดหลังเซ็นสัญญาคว้าตัว ‘ลิซ่า BLACKPINK’ มาเป็นตำแหน่ง Global Brand Ambassador ตั้งแต่ปี 2020 และเพียงแค่ 1 ปีให้หลัง Celine ขึ้นแท่นแบรนด์ที่เติบโตเร็วที่สุดในโลก โดยวัดที่มูลค่าแบรนด์เพิ่มขึ้นเกือบ 120% แซงหน้าแบรนด์หรูอื่น ๆ ไปมาก

แค่ลิซ่าใส่เสื้อยืดที่ประทับตราโลโก้แบรนด์ ‘Celine’ ก็เพียงพอที่จะทำให้เสื้อตัวนี้ขายดิบขายดีถล่มทลาย ไม่เพียงแค่นั้น การซื้อได้กระโดดข้ามไปสินค้าอื่น ๆ ของแบรนด์เช่นกัน เมื่อเหล่าสาวกได้ลองใช้แล้วชอบใจ เฉพาะในตลาดประเทศไทย (Celine Thailand) ที่มีฐานแฟนคลับเหนียวแน่น กำไรของแบรนด์เพิ่มขึ้นถึง 30 เท่า! ในเวลาเพียง 2 ปี หลังลิซ่าเข้ามา

กระเป๋ารุ่น Ava Bag ที่เราเห็นลิซ่าถือใช้บ่อย ๆ ผ่านสื่อ ถึงกับถูกนำไปเรียกจนติดปากแล้วว่า ‘กระเป๋ารุ่นลิซ่า’

ถ้าดูกันตามไทม์ไลน์แล้ว ปรากฎการณ์เหล่านี้อาจเป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น ความน่าตื่นเต้นและความสร้างสรรค์ใหม่ ๆ คงจะมีมาให้เห็นมากกว่านี้แน่นอน เราได้ข้ามเส้นแบ่งของ Celine ยุคใหม่มาแล้ว…ในยุคของพวกเราที่จะได้เห็นยลโฉมไปพร้อมกัน!

.

ภาพ : Celine

.

อ้างอิง 

.

lampoonmagazine

catwalkyourself

businessoffashion