15 ก.พ. 2567 | 22:29 น.
- AgongAma เป็นแบรนด์ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวสำหรับผู้สูงวัย ซึ่งมี ‘ไมล์-เกศกมล จันทร์โภคาไพบูลย์’ เป็นผู้ก่อตั้ง
- ความจริงเธอคิดค้นผลิตภัณฑ์ขึ้นมาสำหรับแก้ปัญหาผิวแห้งให้กับองกง คนที่เธอรักและผูกพันตั้งแต่เด็ก
- แต่ด้วยประสิทธิภาพของสินค้า บวกกับเห็นโอกาสตลาด ทำให้เธอพัฒนาแบรนด์ของตัวเองขึ้น มา
‘ถ้าเรียนต่ออีก 3 ปี กลับมาอากงไม่อยู่แล้วแน่เลย’ เป็นคำพูดที่อากงบอกกับ ‘ไมล์-เกศกมล จันทร์โภคาไพบูลย์’ เมื่อเธอปรึกษาเรื่องรับทุนไปเรียนต่อยังประเทศญี่ปุ่น และนั่นเป็นประโยคที่ทำให้เธอเลือกทิ้งโอกาสนั้นและกลับบ้านเกิดที่พัทลุงเพื่อมาดูแลอากง บุคคลที่เธอรักและผูกพันตั้งแต่วัยเด็ก ซึ่งต่อมากลายเป็นจุดเริ่มต้นของ AgongAma (อากงอามา) ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวสำหรับผู้สูงอายุที่ตั้งใจเป็นตัวแทนของความรัก และความห่วงใยที่อยากส่งต่อให้คนสูงวัยในครอบครัว
“ตอนเรียนอยู่คณะเภสัชศาสตร์ ที่จุฬาฯ ไมล์คุยกับอากงทุกวันชอบเล่าให้เขาฟังว่า ทำอะไร ไปเที่ยวไหน พอเรียนจบมีโอกาสได้ทุนเรียนต่อที่ญี่ปุ่น เลยโทรถามอากงซึ่งตอนนั้นอายุ 90 กว่าแล้ว พออากงตอบแบบนั้นไมล์ตัดสินใจกลับบ้านทันที คิดแค่ว่ายังมีอากงอยู่ ต้องรีบกลับไป ถ้าตอนนั้นเลือกเรียนคงเสียใจ เพราะ 3 ปีต่อมา อากงก็เสียจริงๆ”
กลับมาดูแลอากง จุดเริ่มต้นของการทำแบรนด์
ตอนกลับไปบ้านไมล์ไม่มีความคิดจะทำธุรกิจของตัวเอง คิดแค่ว่า อยากดูแลอากง พาอากงไปเที่ยวตามที่ต่าง ๆ เพื่อให้เห็นภาพเหมือนที่เธอเคยเล่าให้ฟัง แล้วรู้สึกว่า เห้ย อากงมีความสุข จึงเริ่มทำเพจที่ชื่อว่า ‘Go with อากง’ ขึ้นมา ลงรูปตอนไปเที่ยวกับอากงและแชร์ทริกดูแลคนสูงวัย เพื่อจะเป็นตัวแทนบอกคนรุ่นเดียวกับไมล์ว่า การใช้ชีวิตหรือไปท่องเที่ยวกับคนสูงวัยไม่ใช่เรื่องยาก
เพราะทุกคนชอบบอกว่า ไมล์เก่งนะพาอากงเที่ยวได้ ซึ่งจริง ๆ ไม่ได้ยากเลย เราต้องให้เขาใช้ชีวิตด้วยตัวเองเหมือนเดิม เขาไม่ได้อ่อนแออย่างที่ใครคิด การดูแลเขาดีเทลอาจจะเยอะ แต่ไม่ยาก เราแค่ช่วยทำให้ชีวิตเขาง่ายขึ้น เช่น ตอนกินข้าวก็ให้เขากินเอง แต่เริ่มสังเกตว่า ถ้าใช้ช้อนยาวเขาจะตักยาก เลยลองให้ใช้ช้อนสั้นดูเขากินได้ง่ายขึ้น หรือตอนอาบน้ำ ช่วยเซ็ตของใช้ให้ง่ายขึ้น ในห้องน้ำมีราวจับ แต่ตอนนี้ไม่ได้เพจทำแล้วเพราะอากงเพิ่งเสีย
อยู่มาวันนึงตอนไปเที่ยวด้วยกันไมล์เห็นอากงดูเหนื่อยและหลับบนรถ ทำให้เริ่มสังเกตจนรู้สาเหตุว่า มาจากการคันเพราะผิวแห้งจนเป็นขุยตามตัว ทำให้ตอนกลางคืนนอนหลับไม่สนิท ตื่นตลอดทั้งคืน วันถัดมาจึงอ่อนเพลีย ซึ่งเราหาครีมทาผิวเพื่อมาแก้ปัญหาให้อากงกลับมามีความสุขในการใช้ชีวิต ตอนแรกทาไปก็หายคัน แต่รู้สึกเหนียวเหนอะหนะ ไม่สบายตัว เขาเลยไม่ใช้ต่อ พอไม่ใช้อาการคันก็กลับมา
สุดท้ายด้วยความที่เราเป็นเภสัชกรได้ไปศึกษาเพิ่มเติมพบว่า ผิวแห้งในผู้สูงอายุเพราะผิวของเขาผลิตน้ำมันและน้ำน้อยลงตามวัยที่เสื่อมสภาพไป จึงเกิดการคันตามผิวหนัง บวกกับพ่อทำโรงงานผลิตยาสมุนไพรโบราณ เลยไปถามว่า จะสมุนไพรตัวไหนมาแก้ปัญหานี้ได้ พอได้มาก็ ลองเอามาทำครีมให้อากงใช้ ปรากฏว่าหาย แถมไม่เหนียวเหนอะหนะด้วย
ไม่ได้คิดทำธุรกิจ แค่อยากแก้ปัญหาให้คนที่รัก
ตอนนั้นเราแค่อยากให้เข้ากลับมา Joy ตอนไปเที่ยวด้วยกัน ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข พอทำไปเห็นว่ามีตลาดจากสถิติของผู้สูงวัยในบ้านเราที่เพิ่มขึ้น เลยทำออกมาดู ทำเองหมด ทั้งดีไซน์แพ็กเกจจิ้ง ดีไซน์โลโก้เป็นหน้าอากง และใช้ชื่อแบรนด์ว่า อากง ปรากฏคนสนใจขายได้เกือบพันชุด
แต่อยากที่รู้การเริ่มต้นทำธุรกิจต้องมีทุน ซึ่งตอนนั้นไมล์จบใหม่มามีเงินไม่มากนัก เลยพยายามมองหาคอร์สในการเตรียมตัวเพิ่มทักษะเป็นผู้ประกอบการที่ภาครัฐเปิดสอนฟรี อีกส่วนพยายามส่งสินค้าเข้าประกวดในโครงต่าง ๆ เพื่อนำเงินรางวัลที่ได้มาต่อยอดแบรนด์ของตัวเอง
วันหนึ่งไปเจอโครงการ Idea Lab ของกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศเลยเข้าร่วม เขาให้คำแนะนำในการทำแบรนด์แนะให้เปลี่ยนชื่อ เพราะอากง เหมือนกับสินค้าทำให้แต่ผู้ชายใช้ ซึ่งเราไม่ยอมเพราะตั้งใจแต่แรกจะใช้ชื่อนี้ เขาบอกว่า เป็นอากงอาม่าได้ไหม ไมล์เลยโอเคเพราะจริง ๆ สนิทกับอาม่าด้วย แล้วมีการช่วยออกแบบแพ็กเกจจิ้ง เปลี่ยนโลโก้ใหม่
จากนั้นไมล์ส่งแบรนด์เข้าประกวดในโครงการนิลมังกรของ NIA (สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ)ได้ออกรายการโทรทัศน์และได้รางวัลที่ 2 มา คนเลยรู้จักเราและขายดีมากขึ้น โดยตอนนี้สินค้าของ AgongAma มีทั้งครีม สบูก้อน และครีมอาบน้ำ
สำหรับไมล์แบรนด์นี้ไม่ได้เป็นแค่ผลิตภัณฑ์หรือธุรกิจ แต่เป็นสิ่งที่แสดงถึงความรักและความห่วงใยของตัวเองที่มีให้อากง ซึ่งความตั้งใจตอนทำอยากให้แบรนด์นี้เป็นตัวแทนที่อยากส่งต่อความรักและความห่วงใยไปสู่คนสูงวัยในครอบครัวอื่นด้วย
ลองทำธุรกิจเอง ทำให้เข้าใจ Generation Gap
การทำแบรนด์เป็นเจ้าของธุรกิจเอง สิ่งหนึ่งที่ไมล์ได้เรียนรู้ คือ Generation Gap กับทีมงาน ซึ่งคิดว่าทุกคนต้องเจอ ไมล์เองเคยมีปัญหาเรื่องนี้กับพ่อ คือ ตอนกลับมาบ้าน นอกจากจะมาดูแลอากง ยังอยากมาช่วยที่บ้าน พ่อจบแพทย์แผนไทยทำธุรกิจโรงงานผลิตยาสมุนไพรโบราณ แต่คุยกับพ่อไม่รู้เรื่องทะเลาะกัน ทั้ง ๆ ที่มีจุดประสงค์เหมือนกัน คืออยากให้โรงงานโตเหมือนกัน พ่อรักไมล์ ไมล์ก็รักพ่อ พ่อรักโรงงาน ไมล์ก็รักโรงงาน
ตอนนั้นไมล์อายุ 25 ปีเอง เพิ่งเรียนจบแบบรุ่นใหม่ไฟแรง แล้วจบจากจุฬาฯ ด้วย มีความ proud มี ego ในตัวครบ เป็นเด็กปากแจ๋วคนนึงเลย ไมล์ว่า มันเป็นปัญหาเบสิคของเด็กมากเลย แบบกลับมาทำธุรกิจที่บ้าน แล้วอยากเปลี่ยนทุกอย่าง เพราะคิดว่าเป็นสิ่งที่ดี แต่เราลืมมองในมุมของพ่อว่า เขาก็มีความสำเร็จตามแบบที่เขาเคยทำมาก่อน
วันนึงมาเปิดบริษัทของตัวเอง ตอนรับน้องใหม่เข้ามาหรือแบบเราคุยกับเด็ก เขาจะแบบพี่ทำอันนี้สิ อันนั้น เรายังรู้สึกเลยว่า เราทำของเรามาแบบนี้มันก็สำเร็จนะ แล้วคุณเป็นใคร เลยทำให้ไมล์ย้อนกลับไปมองตัวเอง ถ้าไม่นับในฐานะลูก พ่อไม่เคยเห็นผลงานเราเลยนะ ทำไมต้องเชื่อเรา เป็นสิ่งที่ทำให้เข้าใจพ่อมากขึ้น
"พอเจอเรื่อง Generation Gap กับพ่อ ไมล์เริ่มต้นไปหาเวิร์คชอปที่เกี่ยวกับการพูดคุย วิธีการสื่อสารคือตอนแรกไมล์ไป ด้วยเหตุผลอยากเปลี่ยนพ่อ อยากเปลี่ยนคนรอบตัวให้เขาเข้าใจเราทำยังไง ซึ่งจากการไปเวิร์คชอปไปโค้ชชิ่ง มันเป็นเรื่องเดียวกับการทำงาน คือต้องฝึกเริ่มจากเข้าใจคน พยายามให้เราคิดด้านดี ๆ ของอีกคนเพื่อจะเข้าใจเขา แล้วให้เราค่อย ๆ ใจเย็นกับคนนั้น"
เช่น เขาจะให้เราเริ่มคิดว่าการที่พ่อเป็นคนโผงผาง อาจจะเป็นสิ่งที่แสดงออกมันแค่ 20% แต่ลึก ๆ อาจไม่ใช่แบบนั้น พอใช้วิธีนี้ไปเรื่อย ๆ ความสัมพันธ์กับพ่อดีขึ้น ไมล์เชื่อว่า ชีวิตเราไม่ใช่แบบชีวิตด้านงานอย่างเดียว มีด้านอื่นอีก พอดีด้านนึง ด้านอื่นก็จะดีตาม
และไมล์ได้คำตอบนึง คือ สิ่งที่เราพยายามเข้าใจคนอื่น หรือการที่เราอารมณ์เบาลง ความจริงแล้วเราไม่ได้ทำเพื่อคนอื่นเลย เพราะสุดท้ายคนที่สบายใจขึ้นมาก ๆ เลยคือตัวเราเอง พอนิ่งขึ้น เราสบายใจขึ้น เราทำงานได้ดีขึ้น ดังนั้น อยากให้พยายามเข้าใจคนอื่นด้วย
.
ภาพ : AgongAma