02 ก.พ. 2567 | 20:00 น.
เธอนั่งนิ่งไม่ไหวติง สวมชุดเดรสคอเต่าสีดำตัวยาวตัดกับผิวขาวเนียนละเอียด ใบหน้าของเธอเรียบตึง ไม่แสดงอารมณ์ความรู้สึกออกมาแม้แต่น้อย มีเพียงสายตาที่ทอดมองไปยังมุมหนึ่งของห้อง ห้องที่ตอนนี้เต็มไปด้วยผู้คนนับสิบชีวิต กำลังเซตอุปกรณ์เตรียมเก็บภาพเคลื่อนไหวของหญิงสาว ฝากเอาไว้บนโลกออนไลน์ตลอดกาล
10 นาทีผ่านไปเธอยังคงไม่ขยับ ปล่อยเวลาให้ไหลผ่านไปอย่างช้า ๆ แววตายังคงจดจ้องไปกับบางสิ่ง บางสิ่งที่เราไม่มีทางรู้เลยว่าเธอกำลังเฝ้ามองอะไร และไม่รู้เลยว่าภายในหัวของเธอมีอะไรวิ่งวนอยู่บ้าง ห้องทั้งห้องมืดมิด มีเพียงแสงไฟสปอตไลต์สาดส่องไปหาเธอ เธอที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ตัวสูงกำลังถูกช่างแต่งหน้า-ทำผม กรูกันเข้ามาจัดแต่งผู้หญิงคนนี้ให้สมบูรณ์แบบที่สุด
เพราะอีกไม่กี่นาที ทั้งใบหน้าและคำพูดจะถูกกดอัดเก็บไว้เป็นหลักฐานว่าครั้งหนึ่งเธอเคยมีความคิดเช่นนี้ ความคิดที่ไม่มีใครรู้เลยว่าในอนาคตจะย้อนกลับมาทำร้ายตัวเองในวันไหน
เมื่อทุกอย่างพร้อม เธอเผยรอยยิ้มเล็ก ๆ ออกมา จากห้องที่มืดมิดพลันสว่างขึ้นมาทันตา เธอถามเราด้วยความสงสัยว่า เพราะอะไรเราถึงอยากคุยกับเธอ ทั้ง ๆ ที่ชีวิตของเธอราบเรียบเสียจนไม่น่ามีใครอยากรู้เรื่องที่ไม่หวือหวาเช่นนี้เป็นแน่
.
เรายิ้มแทนคำตอบ
เธอยังคงสงสัย ความประหม่าฉายชัดอยู่บนใบหน้า
ก่อนจะบอกว่าเราชอบที่เธอเป็นเธอ หญิงสาวที่ไม่มีข่าวมุ่งร้ายต่อเพื่อนในวงการบันเทิงมาตลอดยี่สิบปี ไม่เคยปรากฏภาพที่น่าอับอายออกสู่สาธารณะ และคนในกองถ่ายต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าเธอคือ นางฟ้า
เราพูดคุยทำความเข้าใจก่อนเริ่มสัมภาษณ์อย่างจริงจัง หญิงสาวพยักหน้ารับรู้ บางครั้งก็เผลอแสดงท่าทีตกใจออกมา เพราะไม่แน่ใจนักว่าสิ่งที่เราต้องการ จะได้จากเธอจริงไหม
ส่วนเหตุผลที่หญิงตรงหน้าไม่มีข่าวเสียหายในวงการบันเทิงเลย คงเป็นเพราะการที่เธอมีโลกส่วนตัวสูงอยู่ไม่น้อย ทำงานเสร็จ กลับห้อง ไปหาคู่ชีวิตที่ครองรักกันมาไม่ต่ำกว่า 14 ปี ชีวิตวนลูปแบบนี้ไม่รู้จบมาโดยตลอด แต่นั่นไม่ได้ทำให้ชื่อเสียงของเธอห่างหายจากวงการ เพราะยิ่งเก็บตัวเงียบเท่าไร แสงไฟก็ยิ่งสาดส่องไปหาเธอมากขึ้นเท่านั้น
ข่าวใหญ่ที่ทำให้คนทั้งประเทศจับตาคงหนีไม่พ้นธุรกิจที่เธอและคนรักฟูมฟักถูกเปลวเพลิงถาโถมเข้าใส่ในพริบตา เธอร้องไห้สายตัวแทบขาด กินไม่ได้นอนไม่หลับ ปล่อยให้ความเศร้าถาโถมเข้ามาไม่หยุดหย่อน ขณะที่คนรักของเธอเองก็เจ็บปวดไม่แพ้กัน เพียงแค่นึกถึงเหตุการณ์ครั้งนั้นก็ทำให้หยาดน้ำตาซึมออกมาทีละน้อย เธอหยุดพัก สูดหายใจ ก่อนจะบอกขอโทษด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา
ขณะบทสนทนากำลังไหลเอื่อย เธอหยุดชะงัก ใบหน้าเริ่มเหยเกด้วยความเจ็บปวด ใครจะไปคิดว่า ‘มัจจุราช’ กำลังแอบมองเธออยู่มุมหนึ่งของห้อง กลมกลืนไปกับความมืดมิด ร่างกายของหญิงสาวเริ่มคดงอ เสียงกรีดร้องเปล่งออกมาอย่างทรมาน มือกุมไปที่ท้องราวกับมีบางสิ่งทำร้ายเธออยู่ภายใน เธอล้มตัวลงกระแทกพื้นอย่างแรง เสียงเก้าอี้เหล็กกระทบพื้นดังก้องไปทั่วห้อง เทปสัมภาษณ์ถูกตัด ทุกอย่างหยุดชะงัก ความวุ่นวายก่อตัวขึ้นทันที ทุกคนต่างวุ่นวายรัวนิ้วกดเบอร์โทรศัพท์หาโรงพยาบาลเพื่อมารับนางฟ้าคนนี้
คนรักของเธอมาถึงโรงพยาบาลแทบทันที ยืนรอหญิงคนรักอยู่หน้าห้องฉุกเฉิน ไม่แน่ใจนักว่าเขารออยู่นานแค่ไหน แต่ทุกวินาทีกลับรู้สึกนานราวกับจะขาดใจ ประตูห้องผ่าตัดถูกเปิดออก ร่างกายของเขาทรุดลงและร้องไห้สายตัวแทบขาด ไม่ใช่เพราะเธอจากไป แต่ร้องไห้เสียใจเพราะไม่รู้มาก่อนว่าคนรักของเขาจะป่วยหนักถึงขั้นนี้
คุณหมอเจ้าของไข้อธิบายอาการให้ฟังอย่างละเอียด ว่านี่คือโรคที่มักเกิดขึ้นกับสตรี หากมาช้าเพียงเสี้ยววินาที ประตูสวรรค์คงเปิดต้อนรับนางฟ้ารายนี้กลับไปเป็นแน่ นี่คือสิ่งที่ทำให้เขารู้สึกจุกในอก และรับรู้ทันทีว่าชีวิตนี้มันช่างเปราะบาง เขาจะอยู่ได้อย่างไรหากขาดเธอคนนี้
เธอลืมตาตื่น หน้าตาซีดเซียว ข้างกายมีคนรักกุมมือเธอเอาไว้ไม่ห่าง แม้มือของเขาจะเย็นเฉียบจนแทบจะกลายเป็นน้ำแข็ง แต่เมื่อหญิงสาวขยับตัว เขาก็โผกอดเธออย่างแรง เธอยังคงงุนงง
สิ่งที่จำได้ก่อนสลบไปในห้องผ่าตัดคือ เธอคิดแค่ว่าขออย่าให้เป็นวันนี้ เธอยังไม่อยากตาย ยังมีอะไรให้ทำอีกเยอะ ยังอยากใช้ชีวิตสักอีกยี่สิบสามสิบปีไปกับชายคนรัก อยากจะมีครอบครัวที่สมบูรณ์แบบ เธอยังไม่มีลูกเป็นของตัวเองเลย คิดได้เท่านั้นทุกอย่างก็ดับมืด
ขอบคุณพระเจ้า
คือคำแรกที่ผุดขึ้นมาในหัว แม้จะรู้ดีว่าเป็นเพราะหมอผ่าตัดระบายเลือดข้นคลั่กในท้องของเธอออกไปก็ตาม แต่พระเจ้าก็ยังเป็นสิ่งที่เธออยากจะขอบคุณอยู่ดี
หญิงสาวกลับบ้านพร้อมกับความคิดที่ตีกันไปมาไม่หยุดว่า ชีวิตนี้เธอใช้คุ้มหรือยัง เธอเคยทำร้ายใครไหม หรือมีอะไรที่ยังไม่ได้ทำก่อนตายอีกบ้าง
คำตอบคือ ไม่มี หากเธอตายเพราะไปโรงพยาบาลไม่ทัน ชีวิตนี้ไม่มีอะไรให้น่าเสียใจ เธอชอบทุกอย่างที่ตัวเองเป็น ชอบโลกใบนี้ รักทุกสิ่งที่หลอมรวมให้เธอเป็นเธอ
ขอบคุณพ่อแม่
ขอบคุณน้องทั้งสองคน
ขอบคุณคนรัก
และขอบคุณที่อ่านเรื่องราวของเธอจนสุดหน้ากระดาษ
เรื่อง : วันวิสาข์ โปทอง
ภาพ : กัลยารัตน์ วิชาชัย