25 มี.ค. 2567 | 11:00 น.
มือน้อย ๆ ของเธอปัดป่ายไปมาราวกับกำลังหาที่พึ่งพิง
ริมฝีปากเล็กจิ๋วส่งเสียงอ้อแอ้ฟังไม่ได้ศัพท์ พยายามสื่อสารอะไรบางอย่างมาถึงผม
น้ำลายที่เปรอะเปื้อนไปทั้งใบหน้า ทำให้ผมเห็นแล้วได้แต่นึกสงสัยว่าทำไมเธอช่างไร้เดียงสาเสียจริง
ผมรู้ว่าเธอกำลังร้องหาอ้อมกอดของใครสักคน ใครสักคนที่ทำให้เธอไม่ว้าวุ่นใจ ส่วนผมก็ได้แต่ยืนมองเด็กหญิงตัวน้อยอยู่ห่าง ๆ แต่ยิ่งเพ่งมองเท่าไรก็ยิ่งปวดใจมากขึ้นเท่านั้น เพราะใบหน้าของเธอคล้ายกับคนที่ผมรักมากที่สุดในชีวิต จนไม่อาจมองหน้าเด็กผู้หญิงตรงหน้าได้อีก
ทุกการเคลื่อนไหวของเธอมันทำให้เจ็บปวด เธอคือคนที่ช่วงชิงคนที่ผมรักที่สุดในชีวิตไป
เธอคือคนที่ทำลายคำว่า ‘ครอบครัว’
เธอคือคนที่ ‘ฆ่า’ คนรักของผม
แม้จะปวดใจเพียงใด แต่ขาทั้งสองข้างของผมก็เดินไปอุ้มเธอขึ้นมากอดอย่างแผ่วเบา พยายามทะนุถนอมเธอให้มากที่สุด เพราะนี่คือสิ่งเดียวที่คนรักของผมมอบไว้ให้ ก่อนจะจากผมและลูกไปตลอดกาล
จู่ ๆ น้ำตาผมก็ไหลอาบแก้ม พลอยให้เสื้อของเธอเปียกชุ่มไปด้วย ผมรู้ว่ามันไม่ใช่ความผิดของเธอหรอก แต่ใจของผมมันทรมานเหลือเกิน ทำไมมันถึงเจ็บปวดได้ขนาดนี้ ผมได้แต่พร่ำบอกกับตัวเองอยู่ทุกคืนวันว่า ‘ผมรักเธอ’ บอกตัวเองซ้ำ ๆ ว่ารักเธอ
แต่ใจของผมมันแหลกสลายไปตั้งแต่สามเดือนก่อน ใจที่เคยอิ่มสุข ตอนนี้เหลือเพียงเศษเสี้ยวแห่งความรวดร้าว กระจัดกระจายเกาะอยู่ตามร่างกายเล็ก ๆ ของลูกสาวผม
ช่วงแรกผมไม่อยากแตะต้องเธอเลย ผมไม่อยากมองหน้า ไม่อยากได้ยินเสียง หลังจากเสร็จงานศพ ส่งดวงวิญญาณของคนรักไปยังสรวงสวรรค์ ผมตัดสินใจฝากลูกสาวไว้กับย่า เพื่อทบทวนชีวิตที่เหลือต่อจากนี้ แต่สิ่งที่หลงเหลืออยู่ในใจมีเพียงแค่ความทรงจำถึงเธอ... คนที่ผมรัก
เราใช้เวลาอยู่ด้วยกันมา 8 ปีแล้ว เป็นเวลาที่ผมไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าตัวเองจะเป็นผู้ชายที่โชคดีได้ขนาดนี้ ตัวผมเองไม่ใช่ผู้ชายที่เลิศเลออะไร แต่เธอน่ารักกับผมมาตลอดตั้งแต่วันแรกที่เราคบกัน จนมาถึงวันที่เธอเดินมาบอกข่าวดีกับผมว่า เธอกำลังอุ้มท้องลูกของเรา
อีกนิดเดียวครอบครัวเราก็จะสมบูรณ์แบบแล้ว แต่เหมือนฟ้าจะไม่รักผมมากเท่าไร หลังจากภรรยาคลอดลูกได้เพียงสามเดือน เธอก็จากไปเสียแล้ว โลกของผมถล่มลงตรงหน้า ผมยังไม่ทันได้บอกเลยว่าตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกันมา ผมโชคดีแค่ไหนที่มีเธอ
ผมเป็นผู้ชายปากแข็ง ไม่ค่อยแสดงความรัก หรือบอกรักเธอเท่าไร เพราะคิดว่าเธอคงรู้อยู่เต็มหัวใจว่าผมรักเธอมากแค่ไหน ผมรู้ว่าเธอรู้ แต่อดเสียใจไม่ได้ที่ไม่ได้บอกรักเธอให้บ่อยกว่านี้
ผมพยายามเข้มแข็ง บอกทุกคนว่ายังไหว แต่ทุกครั้งที่มองหน้าลูกสาว น้ำตาผมก็ไหลออกมาทุกที และยิ่งบังเอิญเปิดเจอสมุดไดอารีของภรรยา เธอจดบันทึกทุกอย่างของลูกเอาไว้ ตั้งแต่เวลาตื่นนอนจนเข้านอน ลูกควรดื่มนมช่วงเวลาไหน อาบน้ำแบบไหนให้ลูกสบายตัวที่สุด มาจนถึงวิธีการเลี้ยงลูกให้เติบโตมาเป็นเด็กร่าเริง
เธอวางแผนทุกอย่างเอาไว้แล้ว ผมเพิ่งรู้ในวันที่เธอจากไป ไม่รู้ว่าใจของผมจะกลับมาแข็งแรงได้อีกตอนไหน ไม่รู้ว่าต้องใช้เวลาอีกกี่สิบปีกว่าแผลในใจจะเยียวยา แต่สิ่งที่ผมรู้อย่างแน่ชัดคือ เธอคือแม่ที่ดีที่สุด แม้เธอจะจากโลกใบนี้ไปแล้วก็ตาม
เธอมอบสิ่งล้ำค่าที่สุดในชีวิตให้กับผม เพื่อให้ผมก้าวเดินต่อไป
และผมเข้าใจแล้วว่าความรักที่แม่มีต่อลูกนั้น ยิ่งใหญ่เพียงใด
ผมจะดูแลแก้วตาดวงใจดวงนี้ให้ดีที่สุด จะคอยเฝ้ามอง และมอบความรักให้เธอรับรู้ว่า ไม่ว่าแม่จะจากไปไหน แต่ความรักของแม่จะยังคงอยู่กับเธอเสมอ และผมจะทำให้เธอเห็นว่าไม่มีความรักใดยิ่งใหญ่ไปมากกว่านี้อีกแล้ว
ผมถอดแว่นตาเก็บลงกระเป๋าเสื้อ ปิดสมุดบันทึกเล่มเก่าลงอย่างเบามือ ก่อนจะหันไปมองลูกสาวของผม ตอนนี้เธออายุ 7 ขวบ ผมยาวพอจะถักเป็นเปียสองข้าง ยิ่งโตมากเท่าไร เธอก็เหมือนร่างแยกของภรรยาผมเท่านั้น
วินาทีนี้ ผมไม่ต้องย้ำตัวเองแล้วว่า ผมรักเธอ
เพราะผมรัก รักเธอโดยไม่เจ็บปวดอีกต่อไป
พ่อรักลูกเสมอ และพ่อจะมอบความรักอีกเท่าทวีคูณเพื่อให้รู้ว่าทั้งพ่อและแม่รักลูกมากแค่ไหน
ขอให้ชีวิตลูกต่อจากนี้อย่าได้มีอะไรมาทำให้ลูกเสียใจเลย
รักลูกนะ
เรื่อง : วันวิสาข์ โปทอง
ภาพ : กัลยารัตน์ วิชาชัย