14 ต.ค. 2567 | 12:10 น.
“จงกระโจนเข้าไปอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยคนเก่ง”
นี่เป็นประโยคที่ ‘ทามุระ โคทาโร่’ เขียนเอาไว้ใน ‘ถึงโมโหก็อย่าสู้กับคนโง่’ หนังสือที่พยายามเตือนให้พวกเรา หยุดเสียเวลาไปกับการโต้แย้งที่ไร้สาระ และหากจะสู้กับใครสักคน ให้เอาเวลาไปสู้กับคนเก่ง ๆ ดีกว่า
ในบทส่งท้าย ที่ ‘ทามุระ โคทาโร่’ เชียร์ให้พวกเราเอาตัวเองไปอยู่กับคนเก่ง ๆ เขาเริ่มด้วยการอธิบายว่า “เป็นเพราะมนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่เอนเอียงไปตามสภาพแวดล้อมได้ง่าย”
ทีนี้ลองนึกสภาพ หากเราเอาตัวเองอยู่กับเพื่อนร่วมงานที่วัน ๆ เอาแต่นินทาให้ร้าย และคอยแต่อิจฉาคนอื่น ๆ หรือกลุ่มเพื่อนที่เอาแต่เที่ยวเตร่ สำมะเรเทเมา หรือกลุ่มคนเฉื่อยชา มาทำงานแบบเช้าชามเย็นชาม ขอแค่สิ้นเดือนมีเงินเข้าบัญชีก็เป็นที่พอใจ
สภาพแวดล้อมเช่นนี้คงยากที่จะทำให้เรากลายเป็น ‘คนเก่ง’ ขึ้นมาได้
ในการเอาตัวเองเข้าไปอยู่ในหมู่คนเก่ง ‘ทามุระ โคทาโร่’ แนะนำว่า “ให้ไปอยู่ในกลุ่มที่เข้าเป็นสมาชิกได้ยาก”
“ผมไม่แนะนำให้คุณเข้ากลุ่มที่ใคร ๆ ก็เข้ากัน ไม่ว่าจะเป็นบริษัทหรือกลุ่มติวหนังสือ แต่คุณควรไปอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เข้าไปได้ยาก เช่น สถานที่ซึ่งมีการคัดเลือกและสัมภาษณ์อย่างเข้มงวด ต้องมีคนแนะนำจึงจะเข้าไปได้ หรือไม่ก็ต้องสอบแข่งขันหรือใช้วุฒิเฉพาะทางในการเข้าไป โดยคุณจำเป็นต้องรู้ด้วยว่า ต้องเตรียมตัวทำอะไรบ้างเพื่อให้สามารถเข้าไปอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ว่านี้ได้”
‘ทามุระ โคทาโร่’ ยกตัวอย่างเรื่องของตัวเอง ก่อนจะมาเป็น ‘นักการเมือง’ ในขณะที่เขาเริ่มทำงานในยุคฟองสบู่ เขาเคยถึงขั้นยื่นคำขาดกับผู้จัดการฝ่ายบุคคลว่า หากไม่ได้ทำงานด้าน M&A ซึ่งเป็นการติดต่อเจรจาเพื่อควบรวมกิจการ เขาก็จะลาออก
สาเหตุที่เขาอยากระโจนเข้าไปแผนกนี้ เพราะแผนกนี้เต็มไปด้วยคนเก่ง ทั้งด้านการเงิน และภาษาอังกฤษ
แต่ใช่ว่า ‘ทามุระ โคทาโร่’ จะมีเพียงคำพูดอย่างเดียว ระหว่างที่ทดลองงานนั้น เขาก็ทุ่มเทเพื่อให้ตัวเองโดดเด่นอย่างเต็มที่ เข้าร่วมการทดสอบอย่างมุ่งมั่นตั้งใจ และฟังการบรรยายที่เป็นประโยชน์ต่อการทำงานอย่างไม่ย่อท้อ กระทั่งผ่านการทดลองงาน เขาก็ได้เข้าไปอยู่ในแผนก M&A สำเร็จ
หลังจากเก็บเกี่ยวประสบการณ์จากแผนก M&A เขาก็ได้รับการคัดเลือกจากบริษัทให้ไปเรียนต่อที่โรงเรียนกฎหมายดุ๊กในอเมริกา ซึ่งขึ้นชื่อว่าเป็นแหล่งรวมหัวกะทิ และสอบเข้ายากมาก การเรียนที่นี่ทำให้เขาได้พัฒนาตนเองขึ้นไปอีก และกลายเป็นบันไดอีกขั้นที่พาเขาก้าวไปสู่การเรียนปริญญาโทด้านเศรษฐศาสตร์ ที่มหาวิทยาลัยเยล ซึ่งทำให้เขาได้พบกับคนเก่ง ๆ ระดับมันสมองมากมาย
ต่อมา ‘ทามุระ โคทาโร่’ จึงเบนเข็มมาทำงานด้านการเมือง ด้วยเหตุผลเดิมไม่เคยเปลี่ยน “การที่ผมมุ่งมั่นจะเป็นนักการเมืองนั้น ในแง่หนึ่งก็เพื่อให้ได้อยู่ท่ามกลางคนที่เก่งกว่าผมนนั่นเอง แต่แน่นอนว่า ผมมีปณิธานว่าอยากนำพาประเทศญี่ปุ่นไปในทางที่ดีขึ้นด้วย”
ระหว่างทำงานการเมืองในพรรครัฐบาล เขามีโอกาสสานสัมพันธ์กับหัวกะทิในแวดวงต่าง ๆ ทั้งธุรกิจ บันเทิง กีฬา และศิลปวัฒนธรรม ซึ่งเขามองว่าคนเหล่านี้ล้วนเป็นแรงกระตุ้นชั้นดีที่ทำให้เขาเติบโตขึ้นอีก
“ผมสามารถพูดได้อย่างภาคภูมิใจว่า ทฤษฎีเรื่อง ‘ยิ่งเราถูกรายล้อมไปด้วยคนที่เก่งกว่า ก็จะยิ่งทำให้เราเติบโต’ และ ‘คนที่เราควรจะต่อสู้ด้วยคือคนที่เก่งกว่าเรา’ นั้น ถูกต้องจริง ๆ”
เหตุที่เป็นเช่นนั้น เพราะการเลือกอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยคนเก่ง ไม่ใช่แค่การสร้างเครือข่าย แต่เป็นการสร้างแรงบันดาลใจที่ไม่มีที่สิ้นสุด เมื่อเราร่วมงานกับผู้ที่มีวิสัยทัศน์และความสามารถ เราจะถูกกระตุ้นให้ตั้งเป้าหมายที่สูงขึ้น เรียนรู้ทักษะใหม่ ๆ และเปิดมุมมองที่ไม่เคยคิดถึงมาก่อน
การอยู่ท่ามกลางคนเก่งไม่เพียงแค่พัฒนาตนเอง แต่ยังช่วยสร้างทีมที่มีพลังและความคิดสร้างสรรค์ ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญที่จะเปลี่ยนชีวิตและผลักดันเราไปสู่ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ขึ้น
หากวันนี้ยังเอาตัวเองเข้าไปอยู่ในกลุ่มคนเก่งไม่ได้ ลองเริ่มจากค่อย ๆ ถอยออกมาจากกลุ่มคนที่ไม่เก่งและทำแต่เรื่องไร้สาระก่อนก็ได้ค่ะ
สวัสดีวันจันทร์
พาฝัน ศรีเริงหล้า