รีวิวคอนเสิร์ต "น้อมคารวะศิลปินแห่งชาติ ชัยชนะ บุญนะโชติ" ฟื้นชีวิตลูกทุ่งไทยให้มีชีวิตชีวาอีกครั้ง

       จบไปแล้วสำหรับคอนเสิร์ต "น้อมคารวะศิลปินแห่งชาติ ชัยชนะ บุญนะโชติ" ซึ่งเป็นคอนเสิร์ตครั้งที่สองภายใต้โครงการ “น้อมคารวะศิลปินแห่งชาติ” ที่กรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม ร่วมกับ มังกี้อีที จัดขึ้นในวันเสาร์ที่ 20 กรกฎาคม 2019 โดยพระเอกของงานในครั้งนี้คือ ครูชัยชนะ บุญนะโชติ นักร้องลูกทุ่งเสียงดีควบตำแหน่ง “ครูเพลง” ที่ปั้นศิลปินประดับวงการลูกทุ่งไทยมานักต่อนัก โดยในครั้งนี้ ครูชัยชนะ ใช้ฝีไม้ลายเพลงของท่านในการคืนชีวิตให้กับเพลงลูกทุ่งไทยทั้งเก่าและใหม่ แบบไม่ทิ้งกลิ่นอายความสนิทชิดเชื้อระหว่างคนร้องและคนดู อันเป็นเอกลักษณ์สำคัญตามฉบับคอนเสิร์ตลูกทุ่งไทย การแสดงเริ่มขึ้นเวลา 16:00 น. ด้วยเพลงเปิดวงสั้น ๆ จากวงลูกทุ่งบางใหญ่ ก่อนจะตามมาด้วยคำทักทายจากสองพิธีกร เคน สองแคว และฟิว ปรัชญา อรเอก ที่ขึ้นมากล่าวทักทายผู้ชมพร้อมกับเชิญครูชัยชนะขึ้นมาบนเวที ก่อนจะเข้าสู่เพลงแรกที่มีชื่อเพลงว่า ‘ดอกดินถวิลฟ้า’ ครูชัยชนะ เล่าว่าเพลงนี้เป็นเพลงแหล่เพลงแรก ๆ ที่นำมาขับร้องในท่วงทำนองของลูกทุ่งประยุกต์ โดยในครั้งนี้ ได้ "น้องชิว" ศิลปินลูกทุ่งรุ่นเยาว์ มาร่วมร้องโชว์น้ำเสียงและลูกเอื้อนหวานหูให้ได้ฟังกันเพลิน ๆ หลังจบเพลงแรกก็เป็นช่วงเวลาของการพูดคุยและทักทายกับคนดูที่ล้วนเป็นญาติสนิทมิตรสหาย ตามสไตล์ลูกทุ่ง ที่ศิลปินกับแฟนเพลงมักจะสนิทสนมกลมเกลียวกันดี สร้างบรรยากาศที่เป็นกันเองให้กระจายทั่วทั้งฮอลล์ และยิ่งเป็นกันเองขึ้นไปอีกเมื่อศิลปินที่จะมาร่วมร้องในเพลงถัดไปคือ วิชา บุญนะโชติ ลูกชายของครูชัยชนะเอง ที่ขึ้นมาขับร้องคู่กับผู้เป็นพ่อเป็นครั้งแรก ในบทเพลง ‘คนนอกสังคม’ของ ครูคำรณ สัมบุญณานนท์ โดยวิชาแอบกระซิบว่าแม้จะชอบร้องเพลงเหมือนกัน แต่เขากับพ่อก็ไม่เคยร้องเพลงร่วมกันมาก่อนเลย แม้จะเป็นแบบนั้นสองพ่อลูกก็ร่วมกันถ่ายทอดบทเพลงที่มีเนื้อหาเสียดสี ตัดพ้อสังคมได้อย่างเจ็บแสบ ร้าวรานได้เป็นอย่างดี สมกับฉายา “คำรณน้อย” ที่ครูชัยชนะมักจะถูกเรียกเช่นนั้นเสมอในวัยเด็ก เนื่องจากเนื้อเสียงและวิธีการร้องที่ใกล้เคียงกัน        ก่อนจะเริ่มเพลงถัดไป ก็เป็นการเปิดตัวแขกรับเชิญสุดพิเศษที่มีชื่อเสียงในวงการดนตรีร่วมสมัยอย่าง หนึ่ง จักรวาล นักดนตรีมากความสามารถที่พ่วงตำแหน่งเพื่อนสนิทของ บัญชา บุญนะโชติ ลูกชายอีกคนของครูชัยชนะ ซึ่งบัญชาก็เล่นมุกว่าตนเองมาช้าเพราะต้องไปรับ หนึ่ง ถึงบ้าน เรียกเสียงหัวเราะจากแฟน ๆ ไปฮาใหญ่ ส่วนหนึ่งก็บอกว่ารอบนี้จะมาเล่น แอคคอร์เดียน หรือ หีบเพลงชัก ให้ในบทเพลงต่อไป ที่มีชื่อเพลงว่า ‘บางกอกน้อย’ สำหรับเพลง ‘บางกอกน้อย’ ถือเป็นบทเพลงแรกที่แจ้งเกิดให้กับครูชัยชนะได้เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในวงการเพลงลูกทุ่ง ซึ่งในการแสดงรอบนี้ก็ได้ ชัยณรงค์ บุญนะโชติ น้องชายร่วมสายเลือดของครูชัยชนะ ขึ้นมาร่วมสร้างความสนุกสนานบนเวทีอีกคน ซึ่งนอกจากความเป็นสายเลือดนักดนตรีที่ถ่ายทอดมาทางดีเอ็นเอแล้ว ก็เห็นจะเป็นความตลก มีอารมณ์ขัน ตามประสาคนลูกทุ่งนี่แหละที่ครอบครัวบุญนะโชติมีร่วมกัน เพราะก่อนเข้าเพลงนี้บ้านบุญนะโชติทั้งสี่ก็ได้รับส่งมุกกันเฮฮา ชวนให้คนดูที่นั่งฟังอยู่อมยิ้มและหัวเราะตามไปด้วย โดยเฉพาะมุกแซวอายุอานามอย่างเป็นกันเองที่ดูจะถูกใจผู้ชมวัยดึกเป็นอย่างมาก อย่างมุก “คอนเสิร์ตเราไม่ต้องมี สห. (สารวัตรทหาร) ก็ได้ มีหน่วยพยาบาลอย่างเดียวพอ” ที่เรียกเสียงฮาจากคุณลุงคุณป้าได้ดังลั่น        มาต่อกันที่บทเพลงจังหวะกลางอย่างเพลง ‘ขวัญใจโคราช’ โดยชัยณรงค์ บุญนะโชติ และตามมาด้วย ‘กระท่อมปลายนา’ ที่บ้านบุญนะโชติร่วมกันขับร้อง พร้อมกับท่อนประสานเสียงที่ทำคนฟังร้องว้าว ! ไปตาม ๆ กัน แบบที่ครูชัยชนะกล่าวทีเล่นทีจริงว่า “ให้มันรู้กันไปว่าลูกทุ่งก็ประสานเสียงได้” “สวยจริงนะน้องสาว ผิวขาวเหมือนกับแม่แตงร่มใบ” เสียงปรบมือดังขึ้นหลังจากท่อนแรกของเพลง ‘แม่แตงร่มใบ’ ดังขึ้น เพิ่มสีสันและความสวยงามของเวทีด้วยแดนเซอร์สาวกว่าสิบคนในชุดคาวเกิร์ล ที่ออกมาวาดลวดลายตามจังหวะเพลงกันอย่างสนุกสนาน ก่อนจะไปต่อกันที่บทเพลง ‘ขันน้ำ’ และ ‘ใจนางเหมือนทางรถ’ ที่ได้ลูกศิษย์ครูชัยชนะ อย่าง พรระพี มณีไทย และ ทศพล หิมพานต์ มาร่วมขับร้อง รวมไปถึงอีกเพลงอย่าง ‘สายเปลเห่กล่อม’ สำหรับเพลงนี้มีความพิเศษตรงที่เป็นเพลงสำหรับทำขวัญนาค ซึ่งเป็นอีกหนึ่งในความถนัดของครูชัยชนะ สำหรับแขกรับเชิญคนต่อไป เป็นอีกคนที่เรียกเสียงปรบมือไปได้อย่างล้นหลาม เพราะเขาคือ รุ่ง สุริยา นักร้องฉายา สุภาพบุรุษลูกทุ่ง ที่ออกมาขับร้องเพลง ‘สามปีที่ไร้นาง’ และ ‘บ้านนาป่าร้าง’ โชว์ลูกเอื้อนลูกคอเสนาะหูให้เราได้เคลิ้มตามน้ำเสียงหวาน ๆ ของเขา        สองพิธีกรออกมาพูดคุยกับเราอีกครั้งระหว่างรอเซ็ตอัพวงดนตรีใหม่ โดยในคราวนี้เป็นวงดนตรีคันทรีที่ชื่อว่า The Winchester เมื่อวงพร้อมก็เป็นเวลาที่เราจะได้ฟังบทเพลงไทยกลิ่นอายคันทรี อย่าง ‘เมื่อฉันขาดเธอ’ และ ‘วิมานบ้านทุ่ง’ ที่มีการหยิบดนตรีฝรั่งมาประยุกต์เข้ากับเนื้อไทย พร้อมกับกลุ่มแดนเซอร์ที่ออกมาอีกครั้งในเครื่องแต่งกายสีสันสดใส ดูคล้ายเครื่องแต่งกายของชนเผ่าชาวอินเดียนแดง ก่อนจะปิดท้ายด้วยบทเพลง ‘แคมป์ไฟ’ และเซ็ทอัพวงดนตรีใหม่อีกครั้ง ระหว่างรอเตรียมวงใหม่ ครูชัยชนะก็ได้พา พิกุล บุญนะโชติ ภรรยาคนสวยขึ้นมาร้องเพลงคู่ในบทเพลงที่ชื่อว่า ‘แฟนคนสวย’ เล่าเรื่องราวการจีบกันน่ารัก ๆ ของคู่รักรุ่นพ่อรุ่นแม่ ซึ่งทั้งครูชัยชนะและภรรยาก็ได้ขับร้องออกมาอย่างน่าเอ็นดูและมีอารมณ์ขัน เรียกรอยยิ้มจากคนดูได้เป็นอย่างดี        เมื่อวงลูกทุ่งบางใหญ่เข้าประจำเครื่องดนตรี เราก็ได้ฟังบทเพลงที่คุ้นหูอย่าง ‘กระท่อมกัญชา’, ‘เกาะสมุย’ และ ‘กระท่อมรัก’ ก่อนที่เหล่าลูกศิษย์รุ่นลูกอย่าง ชิว, แซลมอน และ ปานชีวา จะร่วมกันร้องเพลง ‘ครู’ ให้กับครูชัยชนะ ที่พวกเขานับถือให้เป็นครูเพลง ซึ่งหลังจบเพลงเด็ก ๆ ก็เข้ามากราบขอบคุณครูชัยชนะ สร้างบรรยากาศสุดซึ้งและอบอุ่นหัวใจให้เกิดขึ้นในฮอลล์ ในช่วงสุดท้ายครูชัยชนะได้เลือกเพลง ‘สามัคคีสี่ภาค’ มาร้องให้เราฟังพร้อมกับแขกรับเชิญทุกคนที่ขึ้นมาบนเวทีเพื่อร่วมกันขับร้อง และปิดท้ายด้วย ‘ล่องใต้’ อีกหนึ่งบทเพลงเพราะ ๆ จากครูชัยชนะ เป็นอันจบคอนเสิร์ตในวันนั้นด้วยภาพประทับใจมากมาย เรียกได้ว่าเป็นการฟื้นคืนชีวิตหลาย ๆ เพลงลูกทุ่งในอดีตที่ติดอยู่ในใจ ให้แจ่มชัดขึ้นอีกครั้ง ก่อนจะร่ำลากันไปด้วยความทรงจำดี ๆ   เรื่อง : จิรภิญญา สมเทพ