10 พ.ย. 2562 | 11:56 น.
“เป็นถึงราชาปีศาจพิคโกโล่ แต่ปกป้องเด็กจนตัวตาย หึ หึ หึ” “เพราะพวกเจ้าพ่อลูกแท้ ๆ ที่ถ่ายทอดความอ่อนแอให้ข้า” "ตะ...แต่โกฮัง มีแต่เจ้าเท่านั้นแหละ ที่พูดกับข้าอย่างตรงไปตรงมา หลายเดือนที่อยู่กับเจ้า ข้าไม่เสียใจเลย..." "อย่าตายนะ...โกฮัง หลังจากคำพูดเหล่านี้พรั่งพรูออกมาจากปากของราชาปีศาจ พิคโกโล่ก็สิ้นใจไป… ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปกี่ปี คาแรคเตอร์ของตัวละครใน Dragon Ball ก็ยังน่าจับมาวิเคราะห์ได้เสมอ ๆ ซึ่งผู้เขียนเคยวิเคราะห์ไปแล้ว 3 ครั้ง คือ ซง โกคู, จีจี้และบุลม่า และ หยำฉา และในวันนี้จะมาพูดถึงจอมปีศาจพิคโกโล่กันกับฉากจำที่อาจจะทำให้หลายคนเสียน้ำตาในวัยเด็กที่ได้อ่านหรือชมการ์ตูนเรื่องนี้ทางทีวี นั่นคือฉากที่พิคโกโล่สละชีวิตตัวเองเพื่อปกป้องโกฮังจากการโจมตีของผู้รุกรานชาวไซย่า ที่ถูกพูดถึงในข้างต้นนั่นเอง มารู้จักกับตัวละครตัวนี้กัน... หลังจากที่ดูจนจบเรื่อง และลองกลับมาพิจารณาประวัติของพิคโกโล่แล้ว จะพบว่าชาวนาเม็กผู้นี้มีชีวิตอันแสนรันทด น่าสงสารมาก เริ่มตั้งแต่บุพการีของตัวเองจับตัวเองขึ้นยานหนีมาที่โลก ทิ้งไว้เพียงจดหมายบนยานบอกว่า “สักวันหนึ่งจะมารับ” แต่วันนั้นก็ไม่เคยมาถึง... เด็กชายชาวนาเม็กผู้นั้นยังได้รับอุบัติเหตุศีรษะถูกกระแทกทำให้จำชื่อตัวเองไม่ได้ และสูญเสียความทรงจำไปหมด จำเรื่องอะไรเกี่ยวกับตัวเองได้น้อยมาก (ยกเว้นจำวิธีสร้างดรากอนบอลได้แบบเลือนราง) รอแล้วรอเล่าจนเวลาผ่านไป 20-30 ปี (เจ้าตัวก็จำไม่ได้ว่าผ่านไปนานกี่ปี) จึงตัดสินใจละจากยานของตัวเองไปสู่ยุทธจักร หลังจากใช้ชีวิตในสังคมมนุษย์ไปหลายปี ชาวนาเม็กผู้นั้นทราบว่า “พระเจ้า” ของโลกกำลังจะหมดอายุขัย จึงปีนหอคอยคารินขึ้นไปวังของพระเจ้า เพื่อขอเป็นผู้สืบทอดตำแหน่งพระเจ้าคนต่อไป แต่ถูกปฏิเสธเพราะยังมีจิตที่ชั่วร้ายผสมอยู่ในใจ ชาวนาเม็กผู้นั้นจึงฝึกฝนจิตใจตัวเองจนแยก “ความดี” และ “ความเลว” ออกจากกันเป็น 2 ร่างได้ ร่างดีมีแต่ความดีและสติปัญญาจึงสืบทอดเป็นพระเจ้าผู้ดูแลโลกต่อไป และสร้างดรากอนบอลของโลก ส่วนร่างเลวสืบทอดพลังต่อสู้และจิตใจที่เลวบริสุทธิ์ หนีลงมาโลกมนุษย์ กลายเป็นจอมปีศาจพิคโกโล่ สร้างความเดือดร้อนไปทุกหย่อมหญ้า จนกระทั่งถูกอาจารย์มุไทโตะ (武泰斗) ซึ่งเป็นอาจารย์ของผู้เฒ่าเต่าและผู้เฒ่ากระเรียนสะกดวิญญาณขังไว้ในหมอหุ้งข้าวได้ หลังจากจอมปีศาจพิคโกโล่หลุดออกมาจากหม้อหุงข้าว และได้ต่อสู้กับ ซง โกคู จนถูกโกคูฆ่า ก่อนตายนั้นจอมปีศาจพิคโกโล่ได้ออกไข่ทิ้งไว้ เพื่อให้ลูกของตัวเองมาล้างแค้น ชาวนาเม็กในไข่นี่ล่ะที่เติบโตขึ้นมาเป็น “พิคโกโล่” ในดรากอนบอลตลอดเรื่องที่เหลือ ชีวิตของพิคโกโล่ ตั้งแต่ร่างต้นฉบับที่มาเยือนโลก ก็ใช้ชีวิตอย่างอ้างว้าง เป็นเด็กกำพร้า ไร้ความทรงจำเกี่ยวกับตัวเอง พอแยกจากพระเจ้ามาเป็นร่างจอมปีศาจ และร่างจอมปีศาจได้ไข่ทิ้งไว้จนกลายเป็นพิคโกโล่ในปัจจุบัน ก็ต้องเป็นเด็กกำพร้าอีกครั้ง พิคโกโล่สืบทอดความทรงจำจากรุ่นสู่รุ่นที่เต็มไปด้วยความอ้างว้างโดดเดี่ยว มีชีวิตวัยเด็กเพียงเพื่อเป้าหมายเดียวคือฆ่าโกคูล้างแค้นให้พ่อ จึงเป็นเด็กที่ไม่เคยได้รับความรักความอบอุ่นจากใคร และเติบโตด้วยการล้างแค้นเท่านั้นเป็นสิ่งหล่อเลี้ยงจิตใจ ก็ไม่น่าแปลกใจว่าเด็กแบบนี้จะเติบโตขึ้นมาเป็นวายร้าย จนกระทั่งต่อสู้แพ้โกคู แต่โกคูก็ยังไว้ชีวิต ไม่ยอมลงมือฆ่าพิคโกโล่ จึงทำให้พิคโกโล่สูญเสียเป้าหมายในการมีชีวิตอยู่ว่าต้องอยู่เพื่อฆ่าซง โกคูเท่านั้น ณ จุดนั้นจึงเป็นครั้งแรกในชีวิตของพิคโกโล่ที่ได้ตระหนักว่า “ยังมีเป้าหมายอื่นในชีวิต นอกเหนือจากฆ่าโกคู” ดังนั้น การปรากฏตัวของ “ราดิช” จึงทำให้พิคโกโล่ค้นพบเป้าหมายชีวิตใหม่ ว่ามีศัตรูตัวใหม่ และพิคโกโล่ได้ลักพาตัวโกฮังไปเลี้ยงเพื่อให้โกฮังโตขึ้นมาเป็นนักสู้ให้ได้ เมื่อได้เลี้ยงดูโกฮัง จึงพัฒนาสัมพันธภาพแบบ “ครอบครัว” ขึ้นมาเป็นครั้งแรกในชีวิตของพิคโกโล่ ที่จริงชาวเผ่านาเม็กนั้นไม่มีการแยกเพศชาย-หญิง แต่โดยคาแรคเตอร์และเสียงพากย์เป็นเสียงผู้ชาย ผู้อ่านและโทะริยะมะผู้แต่งเรื่องเองจึงมีแนวโน้มจะมองพิคโกโล่ใกล้ไปทางเพศชายมากกว่า โดยเฉพาะการที่ร่างต้นแบบมีการรับสืบทอด “พระเจ้า” ซึ่งคนทั่วโลกเองมีแนวโน้มอยู่แล้วที่จะมอง “พระเจ้า” ว่ามีคาแรคเตอร์เป็นคุณพ่อผู้อบอุ่น มากกว่าเป็นคุณแม่ พิคโกโล่จึงมีความเป็นชายสูง พอได้เลี้ยงดูโกฮังจึงเปรียบได้เหมือนเป็น “พ่อคนที่สอง” ของโกฮังเลยทีเดียว มีหลายฉากมากที่แสดงให้เห็นว่าพิคโกโล่เป็นห่วงโกฮังมากยิ่งกว่าพ่อแท้ ๆ เช่น ฉากแอบพาโกฮังในตอนเด็กมาก ๆ ไปฝึกวิชา เจอเด็กน้อยหิว เลยสงสารจนต้องแอบโยนแอปเปิ้ลไปให้, ฉากที่พิคโกโล่ยอมรับแสงของนัปป้า และตายคาที่แทนโกฮัง อันเป็นฉากจำ ฉากซึ้งฉากหนึ่งในดรากอนบอล, ฉากที่พิคโกโล่ด่าทอโกคูตอนที่ยืนยิ้มไปดูเซลกระทืบลูกชายตัวเองไป, ในภาคซุปเปอร์ พิคโกโล่ยังช่วยโกฮังและบีเดลเลี้ยงดูน้องปังอีกต่างหาก รู้หมดว่าปังชอบกินอะไร เวลาปังร้องไห้ตอนกลางคืนต้องร้องเพลงกล่อมด้วย อะไรแบบนี้ โทะริยะมะ ผู้แต่งเรื่องนั้น มีนิสัยชอบเอาสิ่งของเครื่องใช้ในชีวิตประจำวันมาตั้งชื่อตัวละครในดรากอนบอล ชื่อ พิคโกโล่ จริง ๆ ก็มาจากเครื่องดนตรีประเภทเป่าคือ Piccolo นั่นเอง แต่ในเนื้อเรื่องดราก้อนบอลนั้น คำว่า พิคโกโล่ หมายถึง “ต่างโลก” ซึ่งชาวนาเม็กร่างต้นฉบับใช้คำว่าพิคโกโล่เป็นรหัสเสียงในการเปิด-ปิดประตูเข้าออกยานของตัวเอง พิคโกโล่ร่างเลวจึงเรียกตัวเองว่า “จอมปีศาจพิคโกโล่” ซึ่งแปลว่า “จอมปีศาจแห่งต่างโลก” นั่นเอ พอวิเคราะห์พื้นเพชาติกำเนิด ไปจนกระทั่งการเลี้ยงดูที่พิคโกโล่ได้รับ จะไม่แปลกใจว่า ทำไมเด็กในโลกแห่งความจริงหลาย ๆ คนจึงเติบโตขึ้นเป็นคนไม่ดี ออกนอกลู่นอกทาง กลายเป็นปัญหาสังคม เพราะว่า “ขาดความรัก” “ขาดความเข้าใจ” และ “ขาดเป้าหมายในชีวิต” นั่นเอง พิคโกโล่อายุมากกว่าโกฮังเพียง 3-4 ปีเท่านั้น (ตอนพิคโกโล่เกิด โกคูอายุสิบกว่าขวบแล้ว) แม้ว่าโกฮังจะมองพิคโกโล่เป็นเหมือนญาติผู้ใหญ่ แต่สำหรับพิคโกโล่แล้วโกฮังเป็นเหมือน “น้องชาย” และเป็นญาติคนเดียวที่พิคโกโล่มีอยู่ในจักรวาลนี้ ก่อนพิคโกโล่ตายในฉากนัปป้า พิคโกโล่ยังเอ่ยปากออกมาว่า โกฮังเป็นคนคนเดียวในโลกที่ “มีบทสนทนาด้วย” และช่วงเวลาหลายเดือนที่ได้ใช้ชีวิตอยู่กับโกฮังนั้นเป็นช่วงเวลาที่ไม่เลวเลย พิคโกโล่ไม่เคยมีสัมพันธภาพแบบครอบครัว ไม่เคยได้รับความรักความอบอุ่นเลยแม้แต่ครั้งเดียว แม้กระทั่ง “บทสนทนา” ที่เป็นพื้นฐานของสัตว์สังคม พิคโกโล่ก็ยังไม่เคยได้รับจากใคร จึงเติบโตขึ้นมาด้วยความชิงชังโลก ความเคียดแค้นสิ่งมีชีวิตทุกสิ่ง แต่พอได้ใช้ชีวิต ได้อบรมสั่งสอน ได้ดูแลโกฮัง ความรักความอบอุ่นจึงค่อย ๆ ละลายจิตใจชั่วช้าของจอมปีศาจไปทีละน้อย และทำให้จอมปีศาจตระหนักถึงเป้าหมายแห่งการมีชีวิตอยู่ในแบบอื่น ๆ ที่นอกเหนือจากการฆ่าฟันกันเท่านั้น แม้แต่ทายาทของจอมปีศาจที่ไร้หัวใจอย่างพิคโกโล่ หากค้นให้ลึกลงไปข้างในเราก็ยังเห็นความเป็นมนุษย์พ่อที่แสนอบอุ่นอยู่