‘จ้าวลู่ซือ’ เบื้องหลังรอยยิ้มสดใสคือวังวนโรคซึมเศร้า

‘จ้าวลู่ซือ’ เบื้องหลังรอยยิ้มสดใสคือวังวนโรคซึมเศร้า

เบื้องหลังรอยยิ้มสดใสของหญิงสาวผู้สร้างความสุขให้ผู้คน วันนี้เธอนั่งรถเข็นด้วยร่างที่อ่อนแรง ‘จ้าวลู่ซือ’ วัย 26 ปี กำลังส่งเสียงเรียกร้องความเข้าใจที่แท้จริงเกี่ยวกับ ‘โรคซึมเศร้า’

KEY

POINTS

  • เบื้องหลังรอยยิ้มสดใสของหญิงสาวผู้สร้างความสุขให้ผู้คน วันนี้เธอนั่งรถเข็นด้วยร่างที่อ่อนแรง ‘จ้าวลู่ซือ’ วัย 26 ปี กำลังส่งเสียงเรียกร้องความเข้าใจที่แท้จริงเกี่ยวกับ ‘โรคซึมเศร้า’ฃ
  • สาวน้อยที่เคยถูกตราหน้าเป็น ‘แจกันสวยไร้ประโยชน์’ สู่ดาราสาวที่ถูกบีบคั้นจนล้มป่วย
  • เสียงร่ำไห้ในความมืด ที่ไม่มีใครได้ยินแม้จะมีคนรักนับล้าน
  • “อย่าคิดมาก” ไม่ใช่คำตอบ เมื่อโรคซึมเศร้าต้องการหมอ ไม่ใช่แค่กำลังใจ

ในวัยเด็ก ฉันถูกคนรอบข้างพูดว่าฉันแค่เป็นเพียง ‘แจกันสวยที่ไร้ประโยชน์’ ตอนเรียนกวดวิชา ฉันเคยถูกครูทำร้ายร่างกายในห้องพักครู ตอนนั้นฉันคิดว่าการเรียนไม่ดีจนโดนตีเป็นสิ่งที่สมควรแล้ว ฉันไม่กล้าพูดอะไร เพราะคิดว่า

“ทุกสิ่งต้องแก้ไขมันจากตัวเองก่อน”

ในปี 2562 ฉันเริ่มมีอาการซึมเศร้า ได้ยินคำว่า “อย่าคิดมาก” “มองโลกในแง่ดีแล้วทุกอย่างจะดีขึ้นเอง” ซึ่งฉันเองก็คิดว่า ฉันคงแค่คิดมากเกินไปและอ่อนไหวเกินไปแค่นั้น ฉันจึงไม่ได้ใส่ใจปัญหาทางจิตใจของตัวเอง

ส่วนหนึ่งในคำแถลงอาการป่วยของ นางเอกสาว ‘จ้าวลู่ซือ’ ในเว่ยป๋อ (Weibo ) หลังจากมีรายงานว่านักแสดงแผ่นดินใหญ่ชื่อดังวัย 26 ปี กำลังป่วยหนัก เมื่อวันที่ 18 ธันวาคมที่ผ่านมา 

จนเมื่อวันที่ 27 ธันวาคม ได้มีการเปิดเผยว่าจ้าวลู่ซือมีอาการผิดปกติทางสมองและถูกส่งตัวไปที่โรงพยาบาลด้วยรถเข็น สถานการณ์สุขภาพในปัจจุบันของเธอทำให้เกิดความกังวลต่อแฟน ๆ จากวิดีโอที่ถูกเผยแพร่ออกมาจะเห็นได้ว่าศีรษะของเธอหล่นลงบนไหล่อย่างอ่อนแรง ลำตัวโค้งงอ ใบหน้าซีดเซียว และมีท่อสอดเข้าไปในจมูก อาการของเธอค่อนข้างรุนแรง แต่สตูดิโอของเธอเพียงยืนยันว่า จู่ ๆ จ้าวลู่ซือก็รู้สึกไม่สบายและได้ไปพบแพทย์ ในขณะนี้อยู่ระหว่างการรักษาและพักฟื้น แต่ไม่ได้อธิบายอาการหรือรายละเอียดใด ๆ เพื่อเติม จนกระทั่งจ้าวลู่ซือได้โพสต์เรื่องราวทั้งหมดเกี่ยวกับอาการป่วยของเธอในเว่ยป๋อ 
 

เว่ยป๋อส่วนตัวของ ของจ้าวลู่ซือ ที่มีผู้ติดตามราว ๆ 29.14 ล้านคน จู่ ๆ ก็ถูกตั้งค่าเป็นบัญชีส่วนตัวเมื่อวันที่ 27 ธันวาคมที่ผ่านมา จนเมื่อเวลาประมาณ 17.00 น. ของวันที่ 1 มกราคม จ้าวลู่ซือก็ได้เปิดเว่ยป๋อให้เป็นสาธารณะและโพสต์ข้อความบนเว่ยป๋อส่วนตัวของเธอ เพื่อเล่าเรื่องราวอาการป่วยของเธอจากจุดเริ่มต้น โดยก่อนหน้านี้เพื่อนสนิทของจ้าวลู่ซือได้ออกมาเปิดเผยว่าเจ้านายของเธอใช้ความรุนแรงต่อเธอ ซึ่งในโพสต์ของจ้าวลู่ซือนี้ยังยืนยันในสิ่งที่เพื่อนสนิทของเธอได้เปิดเผยไว้ก่อนหน้านี้ 

“พอฉันโตขึ้น ฉันโดนทำร้ายอีกแล้ว ตอนนั้นฉันคิดว่าเป็นความผิดของฉันจริง ๆ ที่ไม่ได้ลองแสดง ฉันไม่อยากสร้างปัญหาแค่อยากหนี ฉันคุ้นเคยกับการจัดการเรื่องของตัวเองและไม่มีนิสัยชอบขอความช่วยเหลือจากใคร”

จ้าวลู่ซือ เกิดเมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2541 ใน เมืองเฉิงตู มณฑลเสฉวน เมื่อเติบโตขึ้นมาเธอศึกษาที่โรงเรียนมัธยมในเครือ Southwest Jiaotong University และต่อมาได้ศึกษาการออกแบบแฟชั่นที่ Mingdao University ในไต้หวัน พ่อของจ้าวลู่ซือนั้นมีธุรกิจในไต้หวันนับว่าประสบความสำเร็จ จ้าวลู่ซือชอบอาหารรสเผ็ดมาก เมื่อตอนที่เรียนที่ไต้หวัน เธอมักจะทำอาหารพื้นเมืองให้เพื่อนร่วมชั้นของเธอที่ไต้หวันได้ลองกินเสมอ รสชาติถูกใจเพื่อน ๆ เป็นอย่างมาก ถึงขั้นที่เธอเปิดร้านขายเกี๊ยวในมหาวิทยาลัยอีกด้วย

จ้าวลู่ซือเข้าสู่วงการบันเทิงด้วยการเป็นพิธีกรในรายการวาไรตี Huo Xing Qing Bao Ju (火星情报局) ในปี พ.ศ. 2559 

ในปี พ.ศ. 2560 จ้าวลู่ซือเปิดตัวบทบาทการเป็นนักแสดงด้วยการแสดงในละครเว็บ (ละครที่ออกอากาศทางอินเตอร์เน็ต) ‘สูตรรักซินเดอเรลลา’ และในปีเดียวกัน เธอร่วมแสดงบทพยาบาลในภาพยนตร์ ‘City of Rock’
 

ในปี พ.ศ. 2561 ‘หม่าเสวี่ยอวิ๋น’ นับว่าเป็นบทบาทแรกในวงการโทรทัศน์ของจ้าวลู่ซือ ในเรื่อง ‘องค์หญิงสวมรอย’ (凤囚凰) ซึ่งเรื่องนี้เธอต้องแสดงบทตัวร้าย ก่อนที่บท ‘ลั่วเฟยเฟย’ ในละครเรื่อง ‘ฮ่องเต้ที่รัก’ (哦!我的皇帝陛下) ที่เธอแสดงร่วมกับ ‘กู่เจียเฉิง’ และ ‘เซียวจ้าน’ จะทำให้เธอเป็นที่รู้จัก และได้รับรางวัล ‘นักแสดงออนไลน์ที่มีศักยภาพ’ ในงาน ‘GuDuo’

หลังจากนั้นจ้าวลู่ซือก็มีผลงานการแสดงออกมามากมาย อาทิ บุปผาวสันต์ จันทราสารทฤดู (2562), ข้านี่เเหละองค์หญิงสาม (2563), ฝากรักไว้ที่ท้ายครัว (2563), สตรีหาญ ฉางเกอ (2564), สะดุดรักมิสเตอร์หลิง (2564), เทียบท้าปฐพี (2565), ดาราจักรรักลำนำใจ (2565), แด่ฝันของคลื่นลูกใหม่ (2566), แอบรักให้เธอรู้ (2566)

จ้าวลู่ซือนั้นนับว่าเป็นนักแสดงที่ภาพลักษณ์ความสดใส บริสุทธิ์ ตลก และสร้างรอยยิ้มให้กับผู้ชม นอกจากนั้นยังจะเห็นความจริงจังในการทำงานของเธอ อาทิ เมื่อเธอมาเมืองไทยในฐานะพรีเซนเตอร์น้ำมะพร้าวยี่ห้อหนึ่ง สิ่งที่จ้าวลู่ซือได้ใจแฟน ๆ ก็คือ การพยายามพูดภาษาไทยโดยไม่อ่านสคริปต์ แม้จะไม่ชัดเจนในหลายคำ แต่เธอได้พูดประโยคยาว ๆ เป็นภาษาไทยออกมาอย่างไม่ติดขัด แสดงให้เห็นความจริงใจและตั้งใจที่จะสื่อสารกับแฟน ๆ ของเธอด้วยภาษาไทย 

เมื่อมีข่าวอาการป่วยของจ้าวลู่ซือเผยแพร่ออกมา จึงยิ่งสร้างความกังวลต่อแฟน ๆ ของเธอเป็นอย่างมาก และพอสิ่งที่ถูกเปิดเผยว่าที่มาจากอาการป่วยนั้นมาจากการที่เธอถูกทำร้ายทั้งทางร่างกายและจิตใจ จนกลายเป็นโรคซึมเศร้า ก็ยิ่งทำให้เกิดกระแสเป็นวงกว้างกว่าเดิม โดยเฉพาะ ในเนื้อหาที่เธอกล่าวถึงต้นสังกัดของเธอว่า 

“เมื่อผลงานของฉันเริ่มได้รับการยอมรับ ฉันรู้สึกขอบคุณทุกคนที่มอบความมั่นใจให้ฉัน ฉันจึงกล้าที่จะขอยกเลิกสัญญาได้ในที่สุด แต่ท้ายที่สุดกลับเรียกร้องค่าชดเชยเป็นจำนวนมหาศาล เพื่อที่จะยอมเลิกทำเรื่องวุ่นวาย เช่น การใส่ร้าย การสร้างเรื่อง และการข่มขู่

ทั้งในวงการและนอกวงการ ยังมีการปล่อยข่าวลือและใส่ร้ายฉันอยู่ตลอด มีคนมากมายที่พูดถึงฉันในเชิงซุบซิบนินทา จริง ๆ แล้ว ทุกครั้งคือการเพิ่มความเจ็บปวดให้ลึกยิ่งขึ้น ดังนั้นเรื่องราวเหล่านี้จึงไม่เคยหยุดที่จะทำร้ายฉันเลย”

ปัญหาของบริษัทเอเจนซีที่ดูแลนักแสดงในจีนนั้น เคยมีข่าวคาวในลักษณะนี้เกิดขึ้นเสมอ ๆ นักแสดงหลายคนที่พอมีชื่อเสียงจึงมักจะเปิดบริษัทเป็นของตนเองเพื่อรับงานแสดงได้อย่างอิสระ และหลุดพ้นกรอบความต้องการของเอเจนซี

สำหรับจ้าวลู่ซือเอง ในตอนแรกเข้าวงการนั้นเธอมีรูปลักษณ์เป็นสาวน่ารักแก้มป่อง ก่อนที่จะค่อย ๆ ผอมลงตามวัย แต่มีครั้งหนึ่งเธอเคยโพสต์ภาพการชั่งน้ำหนักของเธอที่หนักเพียงแค่ 36.9 กิโลกรัม ซึ่งถ้าเทียบกับสูงส่วน 161 เซนติเมตร ก็นับว่าผอมมากเกินกว่ามาตรฐาน จนสร้างความกังวลต่อแฟน ๆ  บวกกับงานแสดงและโชว์ตัวที่ดูเหมือนว่าเธอจะไม่ได้พักผ่อน จนเกิดอาการป่วยอย่างรุนแรงจนต้องเข้าโรงพยาบาลเพื่อพักฟื้นระยะยาว 

แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับการล้มป่วยของจ้าวลู่ซือในครั้งนี้ก็คือ สภาวะยิ่งสูงยิ่งหนาว ความโดดเดี่ยวเดียวดาย แม้จะมีคนที่รักเธออย่างท่วมท้น แต่อาการป่วยโรคซึมเศร้าที่เธอเป็นอยู่นั้นคล้ายเหมือนกับกำแพงกีดกั้นความสุขไม่ให้ซึมซับเข้าไปเพื่อเยียวยาการเจ็บป่วยของเธอ โดยในโพสต์ล่าสุด เธอยังเขียนให้ผู้คนตระหนักถึงอาการโรคซึมเศร้าอย่างน่าสนใจว่า 

“ภาวะซึมเศร้าเป็นเรื่องของอารมณ์ แต่โรคซึมเศร้าเป็นโรคทางการแพทย์ มันไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยการ ‘คิดบวก’ หรือ ‘พูดออกมา’  ฉันหวังว่าคนที่รู้สึกเช่นเดียวกับฉัน จะเข้าใจว่า การได้รับการ ‘เข้าใจ’ จริง ๆ อาจไม่สำคัญเท่าไหร่ในสถานการณ์เช่นนี้ เพราะคุณอาจยังคงวนเวียนอยู่ในวังวนของคำวิจารณ์โดยที่ช่วยตัวเองไม่ได้

“สิ่งสำคัญคือ ความเข้าใจโรคทางจิตใจ จงให้ความสำคัญกับการรักษาทางการแพทย์และจิตวิทยา”

 

เรื่อง: เพจเก้ากระบี่เดียวดาย
ภาพ: Getty Images