26 พ.ย. 2561 | 17:56 น.
สำหรับใครติดตามซีรีส์บังลังก์เหล็ก Game of Thrones คงจะคุ้นหน้าคุ้นตา และหุ่นหมีๆ ของ เจสัน โมโมอา ผู้รับบท คาล โดรโก ผู้นำเผ่าโดธรากีเป็นอย่างดี ด้วยหน้าตาหล่อเหลา ร่างกายบึกบึนกำยำ และฉาก “อย่างว่า” อันดุเด็ดเผ็ดมัน ทำให้เขาได้รับการพูดถึงอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าตัวละครจะเสียชีวิตไปตั้งแต่ซีซันหนึ่งแล้วก็ตา “เรื่องราวของโดรโกมันเจ๋งมาก ผมเริ่มอ่านหนังสือและใช้เวลากว่า 4 วัน พอโดรโกเสียชีวิต ผมรู้สึกเหมือนสติแตก จึงวางหนังสือแล้วรีบไปร้านหนังสือเพื่อซื้อเล่มที่สอง และผมก็เปิดข้ามๆ ด้วยความหวังว่าโดรโกจะกลับมา แต่ผมก็ต้องผิดหวัง ผมรู้สึกผิดหวังจริงๆ” ย้อนกลับไปโมโมอาเริ่มต้นอาชีพนักแสดงจากการแสดงซีรีส์เป็นหลัก ตั้งแต่ Baywatch Hawaii, Tempted, North Shore, Stargate: Atlantis หรือ The Game ก่อนจะเป็นที่รู้จักจากภาพยนตร์รีบูท Conan the Barbarian (2011), ซีรีส์ Game of Thrones และซีรีส์ Frontier ทาง Netflix ที่เขายังคงห่อหุ้มด้วยชุดขนสัตว์ และร่างกายอาบไปด้วยเลือดเหมือนเดิม "ตามแบบฉบับหนังไซ-ไฟและแฟนตาซี ผมรักหนังประเภทนี้นะ เพราะมันมีอะไรหลายอย่างที่คุณสามารถทำได้ เช่น กระชากลิ้นจากคอคนอื่นออกมา หรือจะข่มขืนสาวสวยๆ ก็ได้" นี่คือคำพูดติดตลกของโมโมอาถึงฉากทารุณกรรมทางเพศต่อผู้หญิงในงานซานดีเอโก คอมิค-คอน ปี 2011 เช่นเดียวกับสัมภาษณ์ใน New York Post ที่บอกว่า “ใช่ ผมข่มขืนเอมิเลีย คลาร์ก ผมรักเธอนะ แต่ผมทำร้ายเธอและเธอก็ร้องไห้ เราสามารถทำให้ฉากนั้นนานกว่านี้ได้ แต่คุณเข้าใจไอเดียมันแล้ว ผมไม่ใช่นักขมขื่น แต่ผมชอบให้ผู้หญิงมีความสุขเวลามีเซ็กซ์กันมากกว่า” จากคำพูดดังกล่าวทำให้เขาถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักจนต้องออกมาขอโทษต่อสังคมผ่าน Instagram ว่า “ผมรู้ตัวที่ออสเตรเลีย ถึงกระแสที่ผู้คนมีต่อมุกตลกอันน่ารังเกียจของผมที่พูดในงานเมื่อหลายปีก่อน ซึ่งผมขอโทษ ผมยังคงรู้สึกผิดหวังในตัวเองต่อความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ในความคิดเห็นที่แสดงออกไปในวันนั้น ผมรู้ว่าคำขอโทษจากใจในตอนนี้ไม่อาจลบล้างคำพูดอันเลวร้ายได้ การข่มขืนและการล่วงละเมิดทางเพศสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน และผมเองก็เคยเห็นความเจ็บปวดในครอบครัวและเพื่อนๆ รอบตัง ผมแสดงความคิดเห็นที่ไร้รสนิยมออกไป มันไม่น่าให้อภัยและผมก็อยากขอโทษจากใจจริงต่อคำพูดทั้งหมด” คำขอโทษแมนๆ ทำให้ผู้คนต่างเห็นอกเห็นใจและให้อภัยอย่างรวดเร็ว เขาเองยังเป็นที่รักของทีมงาน Game of Thornes และยังติดต่อกับนักแสดงอยู่เสมอ “ผมรักซีรีส์นี้แม้จะได้แสดงแค่ซีซันเดียวก็ตาม ผู้สร้าง เดวิด เบนิออฟ และ ดีบี ไวส์ ยังเป็นเพื่อนที่ดีสำหรับผม และเอมิเลีย คลาร์ก เองก็เป็นเพื่อนอีกคนที่ผมสนิทด้วย ผมยังติดต่อพวกเขาทุกคน มันเป็นช่วงเวลาที่ดีช่วงหนึ่งของชีวิต” ล่าสุด เจสัน โมโมอา กำลังจะมีภาพยนตร์เดี่ยวเป็นของตัวเองในบทซูเปอร์ฮีโร่แห่งท้องทะเล อควาแมน (Aquaman) หลังเปิดตัวครั้งแรกใน Batman v Superman: Dawn of Justice (2016) และร่วมทีมปกป้องโลกใน Justice League (2017) เมื่อปีที่แล้ว “ข่าวที่ผมรับบท อควาแมน กว่าจะหลุดออกมาก็ปี 2016 แซ็ก ชไนเดอร์ (ผู้กำกับ Dawn of Justice) ปล่อยระเบิดด้วยการโพสต์รูปผม ซึ่งผมรู้สึกดีใจเพราะไม่ต้องเก็บเป็นความลับอีกต่อไป การที่คุยรู้ว่าตัวเองจะแสดงเป็นอะไร แต่ไม่สามารถพูดอะไรได้มันเป็นความรู้สึกที่แปลกประหลาด การได้บท อควาแมน เหมือนผมถูกหวยแต่ไม่สามารถใช้เงินนั้นได้” นั่นคือความรู้สึกของเขาตอนได้รับบทราชาแห่งท้องทะเล แม้จะมีกระแสว่ารูปลักษณ์ของเขาไม่เหมือนฉบับการ์ตูนสักเท่าไหร่ (ในคอมมิกเป็นหนุ่มหล่อ ผิวขาว ผมบลอนด์ ดูดี ต่างจากโมโมอาที่เต็มไปด้วยหนวดเคราะ รอยสัก และหน้าตาดิบเถื่อน) กระนั้นผู้กำกับ แซ็ก ชไนเดอร์ กลับบอกว่า เขาติดใจภาพลักษณ์นี้ในฐานะแฟนคลับ Game of Thrones คนหนึ่ง “ขั้นตอนการออดิชันมันบ้ามาก แซกเป็นแฟนคลับตัวยงของ Game of Thrones ผมอาจไม่ได้บทนี้ถ้าแซกไม่ชวนผมเข้าออดิชันในฐานะแฟนคลับ แซกต้องการคนมาแสดงอควาแมนแต่ไม่รู้ว่าจะเลือกใคร เขาจึงเรียกผมมา ผมเข้าออดิชั่นในบทแบทแมน แน่นอนมันเป็นบทของ เบน แอฟเฟล็ก ผมก็คิดว่า ‘กำลังจะเล่นเป็นตัวร้ายแน่เลย ผมกำลังจะสู้กับแบทแมนและซูเปอร์แมน ผมกำลังแสดงเป็นวายร้าย’ เขาแบบ ‘เดี๋ยวก่อน ไม่! คุณเป็นอควาแมน’ ผมก็แบบ ‘ผมบลอนด์เหรอ? โกนหนวดเหรอ?’ อย่างไรก็ได้ ผมต้องขอบคุณ Game of Thrones ที่ทำให้ได้บทนี้” “ผมเป็นนักแสดงที่ไม่เคยเลือกบทบาทที่อยากแสดง ผมเป็นเสาหลักครอบครัวจึงเป็นหน้าที่ของผมที่ต้องหาเลี้ยงคนในบ้าน” เขากล่าวในฐานะคุณพ่อลูกสอง (โลลา โลลานิ และ นาโกอา-วลูฟ์ มานากัวโป นามาเกฮา) ที่เพิ่งแต่งงานกับภรรยานักแสดง ลิซา โบเน็ต หญิงสาวที่เขาหลงรักเธอตั้งแต่ 8 ขวบจากการชมซีรี่ส์โทรทัศน์ “นี่เป็นช่วงเวลาที่ดีสุดตลอดอาชีพของผมเลย การรับบทซูเปอร์ฮีโร่ทำให้ผมสามารถเลือกรับบทอื่นๆ ที่ผมต้องการได้” แล้วบทอะไรที่ เจสัน โมโมอา ปรารถนาแสดงต่อหลังจากนี้? “ผมอยากจะลองแสดงหนังคอเมดีดูสักครั้ง ผมแทบทนรอไม่ไหวที่จะได้สวมชุดแทร็คนั่งในออฟฟิศ แทนที่จะเปลือยอก อาบตัวด้วยเลือดเหมือนที่ผ่านมาแล้ว” หวังว่าสักวันเราจะได้เห็นพี่หมีถอดเสื้อขนสัตว์ แล้วมาเล่นตลกหน้าจอภาพยนตร์บ้าง ที่มา