09 ธ.ค. 2567 | 11:05 น.
KEY
POINTS
ภาพเด็กประถมล้อมวงอ่านนิยาย แล้วพูดพร้อมกันว่า “This is a real page turner!” หรือ “หนังสือเล่มนี้สนุกจนวางไม่ลง” คงไม่ใช่ภาพที่คุ้นตานักในยุคที่คอนเทนต์ออนไลน์ช่วงชิงแสงสีจากสื่ออื่นไปสิ้น ยิ่งเป็นนิยายสยองขวัญซึ่งถูกหมางเมินและมองว่าไม่ได้มีสาระซับซ้อนเฉกเช่นวรรณกรรมรางวัลด้วยแล้ว รังแต่จะถูกมองข้ามหรือถูกมองว่าไม่น่าสนใจ
แต่รู้หรือไม่ว่าในทศวรรษที่ 1990 นักเขียนผู้หนึ่งกลับสามารถร่ายมนต์สะกดนักอ่านรุ่นเยาว์ให้สนุกสนานไปกับความกลัว เปลี่ยนนิยายสยองขวัญสำหรับเด็กให้ขายดีเป็นเทน้ำเทท่าด้วยจำนวนตีพิมพ์ทั่วโลกกว่า 400 ล้านเล่ม ภายใต้หนังสือกว่าสามร้อยปก และยังคงเพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อย ๆ จนถึงปัจจุบัน
บทความนี้จะพาไปรู้จักกับ ‘อาร์. แอล. สไตน์’ (R.L.Stine) นักเขียนผู้หลงใหลในการสร้างความหวาดกลัวแก่นักอ่าน เริ่มต้นอาชีพบนเส้นทางน้ำหมึกในฐานะเด็กคนหนึ่งที่มีจินตนาการล้นหัว นำมาสู่การออกแบบภูตผีและอสูรกายหลุดโลกในนวนิยายชุด ‘Goosebumps’ ชมรมขนหัวลุก
ย้อนกลับไปใน ค.ศ. 1949 ‘โรเบิร์ต ลอว์เรนซ์ สไตน์’ (Robert Lawrence Stine) หรือ ‘บ๊อบ’ คือเด็กชายวัยเก้าขวบจากรัฐโอไฮโอ สหรัฐอเมริกา ผู้มีชีวิตแสนธรรมดา พ่อทำงานเป็นพนักงานในคลังสินค้า ในขณะที่แม่เป็นแม่บ้าน คอยอยู่ดูแลเขากับน้องอีกสองคน ในเวลานั้น ครอบครัวสไตน์มีฐานะค่อนข้างยากจน ปัจจัยหนึ่งที่ทำให้บ๊อบไม่ชอบออกไปวิ่งเล่นข้างนอกคือความอับอายจากการต้องสวมเสื้อผ้าเก่า ๆ ที่รับต่อมาจากลูกพี่ลูกน้องเพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย
แต่ราวกับโชคชะตาได้กำหนดเส้นทางการเติบใหญ่ของเด็กชายผู้นี้เอาไว้แล้ว...วันหนึ่ง บ๊อบได้พบเครื่องพิมพ์ดีดเก่าเก็บในห้องใต้หลังคาโดยบังเอิญ ความอยากรู้อยากลองทำให้เขานำมันลงมาที่ห้องนั่งเล่น ก่อนจะเริ่มพิมพ์เรื่องราวและมุกตลกที่นึกออก รู้ตัวอีกที ถ้อยคำคะยั้นคะยอให้ออกไปวิ่งเล่นนอกบ้านของแม่ก็ไม่อาจเรียกเขาให้ละจากหน้ากระดาษได้อีกต่อไป บ๊อบพบว่าตนเองหลงรักการเขียนจนหัวปักหัวปำ และใฝ่ฝันจะเป็นนักเขียนการ์ตูนตั้งแต่ตอนนั้น
ทว่าเส้นทางการเป็นนักเขียนการ์ตูนกลับไม่สวยหรูอย่างที่คาด แม้บ๊อบจะอุทิศเวลาทั้งหมดไปกับการฝึกปรือฝีมือจนผลการเรียนเริ่มตกต่ำ แต่สุดท้าย เขาก็จำต้องยอมรับว่า ทักษะการวาดรูปที่มีไม่เอื้ออำนวยต่อการประกอบอาชีพในฝันสักเท่าไหร่ บ๊อบจึงเลือกเบนเข็มมาเป็นนักเขียนอย่างเต็มตัว ใฝ่ฝันถึงการได้ถ่ายทอดเรื่องราวออกมาเป็นตัวอักษร
เส้นทางในฐานะนักเขียนอาชีพของบ๊อบเป็นเหมือนนักเขียนอีกหลาย ๆ คน นั่นคือตั้งต้นจากแนวทางหนึ่ง ก่อนจะพลิกไปเขียนอีกแนวหนึ่งตามพลวัตของตลาดสื่อสิ่งพิมพ์ ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงเหล่านั้น นักเขียนหลายคนอาจพบกับปัญหาติดขัดทางความคิดสร้างสรรค์ บ้างสามารถปรับตัวจนพบลู่ทางใหม่ ๆ บ้างอาจต้องเลือนหายไปจากวงการ ทว่าสำหรับบ๊อบ มันไม่ใช่แค่การปรับตัวจนประสบความสำเร็จ หากแต่เป็นการถือกำเนิดขึ้นของนักเล่าเรื่องหน้าใหม่ผู้พลิกโฉมวงการนวนิยายสยองขวัญไปตลอดกาล
หลังจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยในเมืองเกิด บ๊อบก็มุ่งหน้าสู่นิวยอร์กพร้อมหอบหิ้วความฝันเข้าทำงานกับสำนักพิมพ์ ‘Scholastic’ ในตำแหน่งกองบรรณาธิการและนักเขียนหนังสือรวมเรื่องตลกสำหรับเด็ก ใช้นามปากกาว่า ‘Jovial Bob Stine’ งานเขียนของเขาได้รับความนิยมในระดับหนึ่งจนสามารถใช้นามปากกาดังกล่าวขยับขยายไปสร้างงานใหม่ ๆ อย่างนิตยสารรวมมุกตลกหลายต่อหลายเล่ม
จุดเปลี่ยนในชีวิตของบ๊อบเริ่มต้นจากการได้รับคำชวนจากบรรณาธิการคนหนึ่งให้ลองเขียน ‘Teen Horror’ หรือเรื่องสยองขวัญสำหรับเด็กก่อนวัยรุ่น ในเวลานั้น นักเขียนวัยสี่สิบปีผู้ไม่เคยรู้แม้กระทั่งว่างานประเภทดังกล่าวคืออะไร จึงรีบตรงไปยังร้านหนังสือเพื่อศึกษา และหลังกลับออกมา นวนิยายเรื่อง ‘Blind Date’ ที่นำประเด็นความสัมพันธ์และการออกเดทของวัยรุ่นยุค 80 - 90s มาดัดแปลงเป็นเรื่องสยองขวัญก็ถือกำเนิดขึ้นพร้อมนามปากกาใหม่ที่ย่อมาจากชื่อจริงของบ๊อบ
และนั่นคือครั้งแรกที่โลกได้รู้จักเจ้าพ่อ Teen Horror นามว่า ‘อาร์. แอล. สไตน์’
หลังจากที่ Blind Date ประสบความสำเร็จจนติดป้าย Best Seller อาร์. แอล. สไตน์ก็ผันตัวมาจับงานเขียนแนวดังกล่าวเต็มรูปแบบ สิ่งที่เขาบอกกับตัวเองคือ “ลืมเรื่องตลกไปซะ เด็ก ๆ เขาสนุกกับความกลัว” นำมาสู่นวนิยายชุด ‘Fear Street’ ว่าด้วยกลุ่มวัยรุ่นที่ต้องเผชิญเหตุการณ์ระทึกขวัญท่ามกลางฉากหลังย่านชานเมือง ซึ่งแน่นอนว่าขายดิบขายดีจนติดป้าย Best Seller ตามผลงานเรื่องแรกไปติด ๆ
หากพูดชื่อ อาร์. แอล. สไตน์ เชื่อว่านักอ่านแทบทุกคนต้องรู้จักเขาในฐานะผู้เขียน ‘Goosebumps’ นวนิยายชุดซึ่งตีพิมพ์ออกมาแล้วหลักร้อยปก ถูกนำไปดัดแปลงเป็นภาพยนตร์และทีวีซีรีส์จำนวนมาก รวมถึงยังเคยถูกนำไปแปลเป็นภาษาต่าง ๆ กว่า 35 ภาษา โดยในประเทศไทย สำนักพิม์นานมีบุ๊คส์ได้ซื้อลิขสิทธิ์มาแปลในชื่อ ‘ชมรมขนหัวลุก’ แปลโดยนักแปลหนังสือคุณภาพอย่างรุ่งอรุณ สัมปัชชลิต, ปิยะภา ริ้วพิทักษ์ และกานต์สิริ โรจนสุวรรณ แปลออกมาทั้งสิ้น 14 เล่ม
Goosebumps คือชุดนวนิยายแบบจบในเล่ม ตัวละครหลักมักเป็นเด็กอายุ 11 - 13 ปี ที่ต้องเข้าไปพัวพันกับเรื่องสยองขวัญสั่นประสาทหลากหลายรูปแบบ ทั้งนี้ คำว่า ‘หลากหลาย’ หากนำมานิยามจินตนาการของ อาร์. แอล. สไตน์ ก็อาจสามารถใช้แทนด้วยคำว่า ‘ล้ำยุค’ ‘หลุดโลก’ จนหลายต่อหลายเล่มต้องอุทานหลังอ่านจบว่า ‘คิดได้ยังไง!’ ตั้งแต่ก้อนเมือกที่กลายเป็นปีศาจไล่เขมือบคนทั้งเมือง, สวนสนุกที่ผู้เล่นจะถูกจู่โจมโดยตั๊กแตนยักษ์, นักวิทยาศาสตร์ผู้ทำการทดลองเปลี่ยนตัวเองเป็นต้นไม้, ฟองน้ำปีศาจที่ซุกซ่อนอยู่ใต้อ้างล้างจาน และพล็อตอีกนับร้อยซึ่งอ่านเพียงคำโปรยบนปกหลังก็เพียงพอแล้วที่จะรีบซื้อมาอ่าน
อาร์. แอล. สไตน์กล่าวว่า เทคนิคในการสร้างงานให้สนุกและแปลกใหม่คือการทุ่มเวลาไปกับการคิดชื่อเรื่อง เมื่อได้ชื่อเรื่องที่เหมาะสม พล็อตและเรื่องราวก็จะค่อย ๆ ถูกถักทอขึ้นเพื่อร้อยเรียงให้เข้ากับชื่อนั้นอย่างพอดิบพอดี อาศัยการเล่าเรื่องที่ง่าย และพาผู้อ่านเข้าไปสัมผัสกับความกลัวอันเป็นสิ่งพื้นฐานในจิตใจมนุษย์ เพียงนำองค์ประกอบทั้งหมดมารวมกัน ก็สามารถออกมาเป็นนิยายเล่มกะทัดรัดที่ระทึกจับใจ และอ่านเพลินจนลืมเวลา
ในปี 2024 สิ่งที่ยังคงเป็นแรงผลักดันให้นักเขียนวัย 81 ผลิตงานเขียนออกมาอย่างต่อเนื่อง คือความรักในการทำให้ผู้อ่าน ‘กลัว’
สไตน์กล่าวว่า การทำให้คนกลัวคือสิ่งที่เขารัก และนั่นคือสาเหตุที่ทำให้ Goosebumps รวมถึงนวนิยายแนวสยองขวัญอีกหลายเล่มภายใต้นามปากกา อาร์. แอล. สไตน์ ยังคงครองใจผู้อ่านแม้ในวันที่สื่อสิ่งพิมพ์ไม่ใช่ความบันเทิงอันดับหนึ่งอีกต่อไป
หากย้อนกลับไปมองจุดเริ่มต้น เด็กชายตัวน้อยผู้ค้นเจอพิมพ์ดีดเก่าคร่ำคร่าโดยบังเอิญคงไม่สามารถก้าวมายืนในตำแหน่งนักเขียนเบอร์ท็อปของโลกหากปราศจากความรักในการเล่าเรื่อง และที่สำคัญกว่านั้น คือการเดินหน้าทำตามฝัน เรื่อยไปจนถึงการตระหนักชัดในแนวทางของตน
ในวันนี้ เด็กชายตัวน้อยนามว่าบ๊อบได้พิสูจน์ตัวเองว่า โชคชะตาเลือกไม่ผิดที่ส่งพิมพ์ดีดเครื่องนั้นมาให้เขา
และถึงบ๊อบจะไม่ได้เป็นนักเขียนการ์ตูน แต่เขาก็ได้ใช้พิมพ์ดีดเครื่องนั้นวาดประสบการณ์และความฝันแก่นักเขียนนักอ่านหน้าใหม่ทั่วโลกมานับไม่ถ้วนแล้ว
เรื่อง: พงศภัค พวงจันทร์ (The People Junior)
ภาพ: อินสตาแกรม R. L. Stine
อ้างอิง:
ABC NEWS, (2022), 'Goosebumps' author R.L. Stine talks his career, upbringing and successes, ค้นเมื่อ 3 ธันวาคม 2567 จาก : https://abcnews.go.com/US/goosebumps-author-rl-stine-talks-career-upbringing-successes/story?id=92288331
Kaleigh Rogers, (2015), ‘I Loved the 90s’: R.L. Stine Reflects on ‘Goosebumps’ Past and Present, ค้นเมื่อ 3 ธันวาคม 2567 จาก : https://www.vice.com/en/article/i-loved-the-90s-rl-stine-reflects-on-goosebumps-past-and-present/
Point Horror, (-), Blind Date, ค้นเมื่อ 3 ธันวาคม 2567 จาก : https://app.thestorygraph.com/books/ed00c605-ac3e-45f5-82c1-862f9f6835b4
R.L.Stine, (-), How to Scare Your Readers, ค้นเมื่อ 3 ธันวาคม 2567 จาก : https://www.masterclass.com/classes/rl-stine-teaches-writing-for-young-audiences/chapters/how-to-scare-your-readers
SuperSummary, (-), Fear Street, ค้นเมื่อ 3 ธันวาคม 2567 จาก : https://www.supersummary.com/fear-street/summary/
The World of R.L.Stine, (2024), About R.L.Stine, ค้นเมื่อ 3 ธันวาคม 2567 จาก : https://rlstine.com/about-rl-stine