รำลึก ‘เบิร์ต บาคารัก’ ผู้แต่งเพลงอมตะ Raindrops Keep Fallin’ on My Head จากไปในวัย 94

• ‘เบิร์ต บาคารัก’ นักดนตรีและนักแต่งเพลงที่อยู่เบื้องหลังบทเพลงอมตะของโลกหลายชิ้นเสียชีวิตลงในวัย 94 ปี 
• เบิร์ต บาคารัก เติบโตในสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยบรรยากาศของคนดนตรี กระทั่งเขาเองก็เข้าสู่เส้นทางสายนี้ตามไปด้วย

‘เบิร์ต บาคารัก’ (Burt Bacharach) นักดนตรีผู้อยู่เบื้องหลังเพลงฮิตยุค 1950 จนถึง 1980 และเป็นผู้เขียนเพลงดังอย่าง ‘Raindrops Keep Fallin’ on My Head’ และ ‘(They Long to Be) Close to You’ จากไปแล้วในวัย 94 รายงานข่าวเผยสาเหตุการเสียชีวิตว่าเป็นไปตามวัยตามธรรมชาติ 

‘เบิร์ต บาคารัก’ เป็นนักประพันธ์เพลง นักทำเพลง และยังเป็นนักเปียโนชาวอเมริกัน ที่เขียนเพลงมาแล้วร่วม 100 เพลง เขาเกิดเมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 1928 ที่เมือง Kansas ใน Missouri แต่ถูกเลี้ยงดูในนิวยอร์กโดยแม่ ‘ไอร์มา ฟรีแมน’ (Irma M. Freeman) ผู้เป็นศิลปินนักแต่งเพลง กับพ่อของเธอที่เป็นคอลัมนิสต์ชื่อ ‘เบอร์แทรม บาคารัก’ (Bertram M. Bacharach) ซึ่งเป็นถึงหนึ่งในนักแต่งเพลงที่ประสบความสำเร็จตลอดกาลคนหนึ่ง

เบิร์ต ในวัยเด็กได้รับแรงบันดาลใจจากแม่เรื่องดนตรี และเขาได้เข้าเรียนดนตรีในหลากหลายสถาบัน ได้แก่ Mannes School of Music, McGill University, The New School for Social Research และ Music Academy of the West

ช่วงหลังจากเข้าประจำการในกองทัพสหรัฐฯ เป็นช่วงที่เขาเล่นเปียโนและทำเพลงให้กับวงดนตรีสำหรับงานเต้นรำ และเริ่มก้าวแรกของอาชีพนักแต่งเพลงในปลายทศวรรษ 1950

เขามาทำงานที่ Brill Building ออฟฟิศในนิวยอร์กอันโด่งดังซึ่งมีนักแต่งเพลงหลายคนที่เขียนเพลงฮิตออกมามากมาย เบิร์ต เขียนเนื้อเพลงร่วมกันกับ ‘ฮาล เดวิด’ (Hal David) ซึ่งกลายมาเป็นพาร์ทเนอร์ร่วมงานกับเขาอย่างจริงจังในไม่กี่ปีต่อมา

เบิร์ต ทำงานเป็นนักดนตรีให้กับ ‘Marlene Dietrich’ และออกทัวร์ไปกับเธอ ช่วงปี 1958-1964 และเขาก็เริ่มทำงานร่วมกับฮาล จนกลายเป็นเรื่องประจำไปแล้วเมื่อช่วงต้นยุค 1960 และหลังจากที่เบิร์ตได้ชม ‘ดิออน วอร์วิค’ (Dionne Warwick) ร้องประสานให้กับกลุ่มนักดนตรี ‘The Drifters’ เขาก็ประทับใจเป็นอย่างมาก ดิออน เองก็เริ่มสนใจและลองตีความเพลงที่เบิร์ตและฮาลแต่งอยู่ 2-3 เพลงด้วย

หลังจากนั้นไม่นาน ช่วงปี 1962 - 1968 ดิออน ก็ทำให้เพลงของเบิร์ตและฮาลทั้งสิ้น 15 เพลงกระโจนขึ้นไปอยู่บน 40 อันดับแรกของชาร์ตเพลงได้ พวกเขาทั้งสามคนยังร่วมงานกันในเพลงอื่น ๆ อีกด้วย เช่น ‘Don’t Make Me Over’, ‘Anyone Who Had a Heart’, ‘Reach Out for Me’, ‘I Say a Little Prayer’, ‘Message to Michael’, ‘Do You Know the Way to San Jose’, ‘ You’ll Never Get to Heaven’, ‘Walk on By’ ‘Trains and Boats and Planes’ และเพลง ‘I’ll Never Fall in Love Again’ 

หลังจากเดินเข้ามาสู่เส้นทางอาชีพที่เขาใฝ่ฝันอย่างเต็มตัว เบิร์ต ก็สร้างผลงานที่เปี่ยมไปด้วยความสามารถและได้รับรางวัลอีกมากมาย

เบิร์ตและฮาลก้าวเข้ามาเขียนเพลงสำหรับเป็นธีมประกอบด้วยเช่นเดียวกัน พวกเขาเขียนเพลงธีมในภาพยนตร์ชื่อเดียวกันกับชื่อเพลงคือ ‘What’s New Pussycat?’ (1965) และเพลง ‘Alfie’ สองผลงานนี้ทำให้เขาได้รับการเสนอชื่อเข้าชิง Oscar

ทั้งเบิร์ตและฮาลทำให้ Oscar อ้าแขนรับผลงานของเขาเป็นครั้งที่ 3 กับบทเพลง ‘The Look of Love’ ที่เขียนประกอบให้กับภาพยนต์เรื่อง Casino Royale (1967) 

ในปี 1968 เบิร์ตก็ได้รับรางวัล Grammy กับผลงานการเรียบเรียงดนตรีของเขาใน ‘Alfie’ เช่นกัน และรางวัล Grammy และ Oscar อีกครั้งด้วยผลงานเพลงในภาพยนตร์ ‘Butch Cassidy and the Sundance Kid’ (1969)

จากการร่วมงานกับฮาล เบิร์ตมีผลงานที่คู่ควรกับรางวัล Oscar อีกครั้งในปี 1970 กับเพลงในแบบที่ฟังสบาย ๆ นั่นคือเพลง ‘Raindrop Keep Fallin’ on My Head,’

ส่วนชีวิตรักและครอบครัวของเบิร์ต เขาผ่านการหย่ามา 3 ครั้ง 

เบิร์ตแต่งงานครั้งแรกกับ ‘พอลล่า สจ๊วต’ (Paula Stewart) ตั้งแต่ปี 1953 จนถึงปี 1958 

ต่อมาเมื่อปี 1965 เขาก็แต่งงานอีกครั้งกับนักแสดงหญิงที่ชื่อ ‘แองจี้ ดิกคินสัน’ (Angie Dickinson) และมีลูกด้วยกันชื่อ ‘นิคกี้ บาคารัก’ (Nikki Bacharach) ก่อนที่เธอจะเสียชีวิตจากการฆ่าตัวตายในปี 2007 หลังจากที่ต้องสู้กับอาการป่วยจาก ‘Asperger’s Symdrome’ (ความบกพร่องด้านการพัฒนาการทางระบบประสาท โดยจัดอยู่ในกลุ่มอาการเดียวกับออทิสติก) ในวัย 40 ปี

การแต่งงานครั้งต่อมาเป็นนักประพันธ์เพลงชื่อ ‘แคโรล เบเยอร์ เซเกอร์’ (Carole Bayer Sager) โดยรักษาความสัมพันธ์ตั้งแต่ 1982 ถึง 1991 พวกเขาได้รับเลี้ยงลูกชายด้วยกันหนึ่งคน แคโรลเป็นคนเขียนเนื้อเพลงให้กับเพลงของเขาเมื่อปี 1981 ชื่อเพลง ‘Arthur’s Theme (Best That You Can Do)’ ที่ขึ้นเป็นอับดับหนึ่งบนชาร์ตและชนะรางวัล Oscar

ภรรยาคนปัจจุบันของเขาที่เริ่มความสัมพันธ์ปี 1993 เป็นนักกีฬาชื่อ ‘เจน แฮนเซ่น’ (Jane Hansen) เธอเด็กกว่าเขาราว 32 ปี และมีลูกด้วยกัน 2 คน ลูกชายชื่อ ‘โอลิเวอร์’ (Oliver) และลูกสาวชื่อ ‘ราลี’ (Raleigh) 

 

เรื่อง: ปิยวรรณ พลพุทธ (The People Junior)

ภาพ: Getty Images

อ้างอิง:

CNN

Smooth Radio

biography.com

The Independent