09 พ.ย. 2567 | 16:17 น.
KEY
POINTS
ลองจินตนาการว่า คุณกำลังฟังเพลงรักที่หวานซึ้ง ท่วงทำนองนุ่มนวล เนื้อร้องพูดถึงคู่รักที่กำลังใช้เวลาช่วงสุดท้ายด้วยกัน
แต่เมื่อคุณรู้ที่มาของเพลง คุณอาจจะอดหัวเราะไม่ได้ เพราะนี่คือจินตนาการตลกร้าย ของ ‘แมทท์ มอลทีส’ (Matt Maltese) ที่วาดภาพความรัก ระหว่างอดีตนายกรัฐมนตรีอังกฤษ ‘เทเรซา เมย์’ และ ‘โดนัลด์ ทรัมป์’ ที่กำลังหวนคืนสู่ตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐอีกครั้ง ในค่ำคืนก่อนที่พวกเขาจะกดปุ่มนิวเคลียร์ทำลายล้างโลก
‘As the World Caves In’ เพลงที่เขาแต่งขึ้นในปี 2016 ไม่เพียงแสดงให้เห็นถึงอารมณ์ขันอันแหลมคมของศิลปินวัย 19 ปี ณ ขณะนั้น แต่ยังสะท้อนความสามารถในการมองโลกผ่านมุมที่ไม่มีใครคาดคิด จากเพลงที่เกิดขึ้นด้วยแรงบันดาลใจทางการเมือง กลับกลายเป็นเพลงรักที่ผู้คนทั่วโลกนำไปตีความใหม่ ผ่าน TikTok ในช่วงการระบาดของโควิด-19 จนมียอดสตรีมมิ่งทะลุ 500 ล้านครั้ง
นี่คือเอกลักษณ์เฉพาะตัว ของ แมทท์ มอลทีส ศิลปินที่ถ่ายทอดเรื่องราวซับซ้อนให้กลายเป็นบทเพลงที่ทั้งตลกร้าย เศร้า และงดงามในเวลาเดียวกัน
แฟนเพลงชาวไทย กำลังมีโอกาสได้สัมผัสกับเสน่ห์ของ แมทท์ มอลทีส อีกครั้ง ในคอนเสิร์ต Touring Just To Tour 2024 ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 10 พฤศจิกายน 2567 ณ MCC Hall เดอะมอลล์ บางกะปิ
เกิดเมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 1997 ในเมืองเรดดิ้ง ประเทศอังกฤษ แมทท์ เติบโตมาในครอบครัวที่มีรากเหง้าจากแคนาดา ความรักในดนตรีเริ่มต้นจากการฟังเพลง ‘เลียวนาร์ด โคเฮน’ (Leonard Cohen) ที่พ่อเปิดให้ฟังตอนเป็นเด็ก
“ตอนแรกที่ผมฟังเพลงของโคเฮน ผมคิดว่า พระเจ้า ผมอยากแต่งเพลงที่ตลกและลึกซึ้งแบบนี้บ้าง” แมทท์ เล่าถึงแรงบันดาลใจเริ่มแรกในวัยเยาว์
พออายุ 14 ปี แมทท์ หัดแต่งเพลงของตัวเอง โดยใช้ห้องนอนเป็นสตูดิโอส่วนตัว ในขณะที่เพื่อน ๆ วัยเดียวกันกำลังสนุกกับการเล่นเกมและดูหนัง แมทท์ ใช้เวลาว่างไปกับการซื้อขายแผ่นเสียงและการฝึกฝนดนตรี จนในที่สุด เงินที่เก็บได้จากการค้าแผ่นเสียงช่วยให้เขาย้ายไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ในลอนดอน
ปี 2015 แมทท์ ปล่อยซิงเกิลแรก ‘Even If It's a Lie’ บน SoundCloud ซึ่งเป็นบันไดขั้นแรกสู่การเซ็นสัญญากับ ‘Café Bleu Recordings’ ค่ายเพลงอินดี้ ภายใต้เครือใหญ่ อย่าง ‘Atlantic Records’ การได้ทำงานกับค่ายเพลงใหญ่เปิดโอกาสให้เขาได้ร่วมงานกับโปรดิวเซอร์ชั้นนำ แต่ในเวลาเดียวกัน ก็นำมาซึ่งความกดดันและความคาดหวังที่สูงขึ้น
จุดเปลี่ยนสำคัญมาถึงในปี 2017 เมื่อเขาปล่อยเพลง As the World Caves In ซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจากกรณีที่ เทเรซา เมย์ ประกาศต่ออายุโครงการขีปนาวุธนิวเคลียร์ ‘Trident’ ของสหราชอาณาจักร
“ผมอยากจะเอาเรื่องธรรมดา ๆ เช่น การดูทีวีกับคนรัก มาขยายให้เกินจริง” แมทท์ อธิบายถึงที่มาของเพลง “มันเป็นเพลงรักที่เล่าเรื่องคืนสุดท้ายของ เทเรซา เมย์ และ โดนัลด์ ทรัมป์ ก่อนที่พวกเขาจะจุดชนวนสงครามนิวเคลียร์ ผมหวังว่ามันจะออกมาทั้ง โรแมนติก เซ็กซี่ แต่ก็น่ากลัวและโง่เขลาไปพร้อม ๆ กัน”
เส้นทางดนตรีของ แมทท์ สะท้อนผ่านอัลบั้มทั้ง 4 ชุดของเขา เริ่มจาก ‘Bad Contestant’ (2018) อัลบั้มแรกภายใต้ค่าย ‘Atlantic Records’ ที่แสดงให้เห็นความสามารถในการผสมผสานดนตรีป๊อปเข้ากับเนื้อหาที่เสียดสีสังคม ตามมาติด ๆ ด้วย ‘Krystal’ (2019) ซึ่ง แมทท์ ผลิตอัลบั้มนี้ด้วยตัวเองในห้องนอน สะท้อนความเป็นตัวของตัวเองมากขึ้น หลังจากแยกทางกับค่ายเพลงใหญ่
‘Good Morning It's Now Tomorrow’ (2021) อัลบั้มที่สาม สร้างสรรค์ขึ้นในช่วงการระบาดของโควิด-19 นำเสนอมุมมองที่มีความหวังท่ามกลางความมืดมน ต่อด้วย ‘Driving Just to Drive’ (2023) อัลบั้มล่าสุดที่หวนกลับไปสำรวจรากเหง้าและความทรงจำวัยเยาว์ของตัวเอง
“สิ่งที่ผมชื่นชอบที่สุดตอนนี้คือความจริงใจ” แมทท์ บอก “มันคือสิ่งที่เจ๋งที่สุด”
เส้นทางในฐานะนักแต่งเพลงของเขา เต็มไปด้วยการค้นหาวิธีถ่ายทอดความรู้สึกที่แท้จริง แม้ในช่วงแรก ๆ เขาจะพยายามซ่อนความรู้สึกไว้หลังท่าทีของการเสียดสี แต่ประสบการณ์สอนให้รู้ว่า บางครั้งการเปิดเผยความเปราะบาง ก็สร้างผลงานที่ทรงพลังได้ไม่แพ้กัน
“ความจริงที่โหดร้ายที่สุดมักจะตลกที่สุด... คุณไม่จำเป็นต้องแต่งเติมอะไรมากมายให้กับเรื่องราวในชีวิตประจำวัน เพราะมันประหลาดและน่าสนใจพออยู่แล้ว”
นี่คือเหตุผลที่เขาไม่นิยมใช้คำเปรียบเปรย หรือสัญลักษณ์ในการเขียนเพลง แต่เลือกที่จะเล่าเรื่องตรง ๆ ผ่านมุมมองที่แหลมคม
การทำงานในห้องนอนเล็ก ๆ สำหรับอัลบั้ม ‘Krystal’ เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ
“มันเป็นช่วงเวลา 3 - 4 เดือนที่ผมอยู่กับตัวเอง กลับไปทำเพลงแบบที่เคยทำตอนเป็นวัยรุ่น มันทำให้ผมทลายกำแพงระหว่างตัวเองกับดนตรี ไม่ต้องกังวลว่า อะไรควรจะเป็นอย่างไร แค่ปล่อยให้มันเป็นตัวของมันเอง”
แมทท์มองการทำเพลงเป็นเหมือนงานช่างฝีมือ “บางครั้งมันก็เหมือนการสลักหินก้อนใหญ่” เขาเปรียบเปรย “มันช้า และบางทีก็น่าเบื่อ เพลงบางเพลงก็เหมือนปริศนาที่ต้องใช้เวลาไขให้ออก คุณแค่รู้ว่ามันถูกหรือผิด หรืออย่างน้อยคุณก็คิดว่าคุณรู้”
แต่เขาก็ไม่ได้รอแรงบันดาลใจอย่างเดียว “ผมพยายามทำให้มันเป็นเหมือนงานประจำ ทำงานเต็มวันทุกวัน” เขาอธิบายแนวคิดที่สอดคล้องกับคำแนะนำหนึ่งของ ‘ออสติน เคลียน’ ผู้เขียนหนังสือ ‘Steal Like An Artist’ “การทำแบบนี้ช่วยให้ผมพร้อมรับกับโอกาสที่จะเกิดขึ้น บางทีคุณอาจมีไอเดียดี ๆ ตอนเดินอยู่บนถนน แล้วจดลงโทรศัพท์ แต่ถ้าคุณนั่งอยู่ที่เปียโนตอนที่ไอเดียมา คุณสามารถทำให้มันเป็นจริงได้ทันที”
ในปี 2021 As the World Caves In กลับมาได้รับความนิยมอีกครั้งหลังจาก ‘ซาราห์ โคแธรน’ (Sarah Cothran) นำไปคัฟเวอร์บน TikTok ด้วยการตีความใหม่ทำให้เพลงที่แต่งขึ้นเพื่อล้อเลียนการเมือง กลายเป็นเพลงที่สะท้อนความรู้สึกของผู้คนในช่วงการระบาดใหญ่
“ตอนนี้ เวลาร้องเพลงนี้ มันรู้สึกเหมือนเป็นเรื่องจริงมากขึ้น ไม่ใช่ในทางที่ดีนัก” แมทท์ สะท้อนความรู้สึก “แต่ผมดีใจที่ผู้คนพบความสบายใจในเพลงนี้ บางครั้งความรักก็เป็นสิ่งเดียวที่เราเหลืออยู่”
ด้วยอายุเพียง 26 ปี แมทท์ มอลทีส ได้พิสูจน์ให้เห็นว่าเขาเป็นศิลปินที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ความสามารถในการผสมผสานอารมณ์ขันเข้ากับความเศร้า และการมองโลกผ่านมุมที่ไม่เหมือนใคร ทำให้ดนตรีของเขามีความพิเศษ
“สิ่งที่ผมอยากมอบให้กับผู้ฟังเสมอ คือความรู้สึกสบายใจ ไม่ว่าพวกเขาจะกำลังเผชิญกับอะไรอยู่” แมทท์ ย้ำจุดยืนของความเป็นนักร้อง - นักแต่งเพลง
“เราอยู่ในโลกที่น่ากลัวและโศกเศร้ามากในหลาย ๆ ครั้ง ... ช่วงเวลาที่เราสามารถหัวเราะหรือยิ้มท่ามกลางความมืดมน นั่นคือช่วงเวลาที่ดีที่สุด”
ในโลกที่บางครั้งดูวุ่นวายและไร้ความหมาย เพลงของ แมทท์ มอลทีส เป็นเหมือนเสียงกระซิบที่เตือนใจเราว่า เราหัวเราะและร้องไห้ไปพร้อม ๆ กันได้ และบางทีนั่นอาจเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการเผชิญหน้ากับความไม่แน่นอนของชีวิต
เรื่อง: อนันต์ ลือประดิษฐ์
ภาพ: เพจเฟซบุ๊ก Matt Maltese
ที่มา:
Matt Maltese Writes Love Songs For The End Of The World
In Conversation: Matt Maltese
Matt Maltese: The Dullness Of Misery