คาริม เบนเซม่า: ศูนย์หน้า ‘เวิลด์คลาส’ ผู้อาภัพ และการพิสูจน์ตัวเองจนพ้นจากบท ‘พระรอง’

คาริม เบนเซม่า: ศูนย์หน้า ‘เวิลด์คลาส’ ผู้อาภัพ และการพิสูจน์ตัวเองจนพ้นจากบท ‘พระรอง’

คาริม เบนเซม่า ดาวยิงทีมชาติฝรั่งเศสโด่งดังกับทีมเรอัล มาดริด ในหลายยุค แต่หลายปีที่ผ่านมา ผลงานและฟอร์มของเขาอยู่ใต้ร่มเงาของดาวเตะคนอื่น มีช่วงเวลาที่ยากลำบากและหลุดจากทีมชาติ เขายังคงยืนหยัดต่อจนได้รางวัลบัลลงดอร์ 2022

หากเปรียบฟุตบอลเป็นละครโรงใหญ่ หรือภาพยนตร์สักเรื่อง ศูนย์หน้าที่มีความครบเครื่องและจัดเป็นนักเตะฝีเท้าฉกาจระดับ ‘เวิลด์คลาส’ อย่าง คาริม เบนเซม่า คงเป็นได้แค่เพื่อนพระเอก เพราะตลอดอาชีพค้าแข้งที่ผ่านมา เขารับบทพระรองคอยสนับสนุนผองเพื่อนและเหล่านักเตะซูเปอร์สตาร์มาตลอด
 
เบนเซม่าเป็นที่รู้จักในวงการลูกหนังในฐานะกองหน้าของทีม ‘ราชันชุดขาว’ เรอัล มาดริด แห่งศึกลาลีกาสเปน เขาคว้าแชมป์กับชุดขาวมาแล้วมากมาย แต่ความสำเร็จเหล่านั้นมักอยู่หลังสปอตไลต์ที่ฉายไปยังเพื่อนร่วมทีมคนอื่นไม่ว่าจะเป็นคริสเตียโน่ โรนัลโด้, กาก้า หรือแกเร็ธ เบลล์
 
ความโชคร้ายของเบนเซม่า ยังเกิดขึ้นในนามทีมชาติเช่นกัน โดยแทนที่จะได้คว้าแชมป์โลกกับฝรั่งเศสในปี 2018 แต่เขากลับโดนกล่าวหาพัวพันคดีขู่แฉ ‘เทปลับ’ เพื่อนร่วมทีม ทำให้ถูกแบนจากทีมชาติชุดนั้น และไม่มีชื่อติดทีม ‘ตราไก่’ เป็นเวลานานเกือบ 6 ปี
 
อย่างไรก็ดี ในศึกยูโร 2020 ที่เลื่อนมาแข่งในปี 2021 นี้ เบนเซม่า ในวัย 33 ปี ได้โอกาสหวนกลับคืนทีมชาติอีกครั้งแบบเหนือความคาดหมาย โดยเจ้าตัวยอมรับว่าดีใจกับโอกาสที่ได้ แม้จะยังเป็นได้แค่พระรอง คอยสนับสนุนเพื่อนอยู่ข้างหลังก็ตาม
ปัญหาเซ็กส์เทป
 
“เราพบกัน ได้คุยกันยาว จากนั้นจึงมาคิดไตร่ตรองอย่างหนัก จนกระทั่งมีการตัดสินใจในครั้งนี้” ดิดิเยร์ เดส์ชองส์ ผู้จัดการทีมชาติฝรั่งเศส กล่าวถึงการพูดคุยทำความเข้าใจกับเบนเซม่า ก่อนตัดสินใจประกาศรายชื่อผู้เล่นชุดลุยศึกยูโร 2020 ออกมา
 
เดส์ชองส์ เป็นอดีตกัปตันทีมชาติฝรั่งเศสชุดแชมป์โลกปี 1998 และเข้ามารับงานคุมทีมชาติฝรั่งเศสตั้งแต่ปี 2012 เขามีส่วนสำคัญในการตัดชื่อของเบนเซม่าออกจากทีมตราไก่ชุดรองแชมป์ยูโร 2016 และแชมป์โลกปี 2018 หลังจากศูนย์หน้าราชันชุดขาวถูกกล่าวหาพัวพันขบวนการข่มขู่เรียกเงินค่าปิดปากจาก มาติเยอ วัลบูเอน่า เพื่อนร่วมทีมชาติฝรั่งเศส เพื่อแลกกับการหยุดเปิดโปง ‘เซ็กส์เทป’ ซึ่งเป็นคลิปหลุดของวัลบูเอน่า กับแฟนสาว
 
เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้เบนเซม่า และวัลบูเอน่า มีเรื่องฟ้องร้องกันในช่วงปลายปี 2015 และกลายเป็นข่าวใหญ่โตจนเดส์ชองส์ต้องตัดชื่อทั้งสองคนออกจากทีมชาตินับแต่นั้นเป็นต้นมา
 
คดีนี้โด่งดังถึงขั้นที่ว่า มานูเอล วาลส์ นายกรัฐมนตรีฝรั่งเศสในขณะนั้นยังต้องออกมาพูดถึงเรื่องราวอื้อฉาวที่เกิดขึ้น
“นักกีฬาชื่อดังควรทำตัวเป็นแบบอย่างที่ดี หากไม่เช่นนั้นแล้ว เขาไม่ควรมีชื่อติดทีมชาติฝรั่งเศส มีเด็กและเยาวชนมากมายในย่านชานเมืองที่เฝ้าติดตามนักกีฬาดัง พวกเขาสวมเสื้อน้ำเงิน สีของฝรั่งเศสซึ่งมีความสำคัญมาก ณ ช่วงเวลาเหล่านี้”
 
อดีตเด็กสลัม
 
อย่างไรก็ตาม เบนเซม่ายืนกรานว่าเขาไม่มีส่วนพัวพันกับการ ‘แบล็คเมล์’ วัลบูเอน่าที่เกิดขึ้น เพียงแค่ช่วยเสนอความเห็นในการยุติปัญหา และบังเอิญรู้จักกับผู้ก่อเหตุเรียกค่าปิดปาก เพราะเคยเป็นเพื่อนในวัยเด็กจากย่านแหล่งเสื่อมโทรมที่เขาเติบโตขึ้นมา โดยคดีนี้จะมีกำหนดอ่านคำพิพากษาในเดือนตุลาคม 2021
 
คาริม เบนเซม่า เกิดเมื่อวันที่ 19 ธันวาคมปี 1987 ที่เมืองลียง ประเทศฝรั่งเศส ครอบครัวของเขาเป็นผู้อพยพชาวแอลจีเรีย เขามีพี่น้องทั้งหมด 9 คน และเติบโตมาในย่านบรอน ชานเมืองลียง ซึ่งเป็นแหล่งชุมชนแออัดของผู้ลี้ภัยสงครามจากการสู้รบเพื่อประกาศอิสรภาพในแอลจีเรีย
 
แม้จะโตมาในสลัม แต่ด้วยความรักในกีฬาฟุตบอล โดยมี ‘โล้นทองคำ’ โรนัลโด้ ศูนย์หน้าชาวบราซิลเป็นแรงบันดาลใจในวัยเด็ก ทำให้เขาพัฒนาฝีเท้าได้อย่างรวดเร็ว
 
“ผมตกหลุมรักฟุตบอลก็เพราะเขา เขามีคุณสมบัติทุกข้อที่นักเตะคนหนึ่งฝันอยากมี เขาเป็นแรงบันดาลใจให้ผมท้าทายตนเอง” เบนเซม่ากล่าวถึงอดีตศูนย์หน้าเรอัล มาดริด และทีมชาติบราซิล
 
เส้นทางลูกหนังของเบนเซม่า เริ่มจากการลงเล่นให้กับบรอน เอสซี (Bron SC) ทีมเยาวชนในบ้านเกิด ก่อนที่ฝีเท้าของเขาจะไปเข้าตาแมวมองจากทีมโอลิมปิก ลียง ในลีกสูงสุดของฝรั่งเศส เมื่อหนูน้อยเบนเซม่าสามารถทำคนเดียว 2 ประตู ในนัดดวลกับทีมเยาวชนอายุไม่เกิน 10 ปีจากอะคาเดมีของลียง
 
เบนเซม่าเริ่มย้ายออกจากย่านเสื่อมโทรมที่เขาเติบโตมา และไปพักอยู่กับโรงเรียนลูกหนังของทีมลียงตั้งแต่อายุ 14 ปี ก่อนได้ลงสนามให้กับทีมชุดใหญ่ครั้งแรกตอนอายุ 18 ปี เขาพาลียงครองแชมป์ลีกเอิง 4 สมัย และทำไป 66 ประตูจาก 148 นัดที่ลงเล่น จากนั้นจึงย้ายไปเล่นให้กับเรอัล มาดริด
 
ทีมรวมดาราชุดขาว
 
ศูนย์หน้าจากลียงผู้นี้นับเป็นหนึ่งในนักเตะซูเปอร์สตาร์ หรือที่เรียกกันว่า ‘กาลาคติกอส’ (Galacticos) ชุดที่ 2 ซึ่งฟลอเรนติโน เปเรซ ประธานสโมสรเรอัล มาดริด ซื้อมาร่วมทีมในปี 2009 โดยนักเตะชุดนี้นอกจากเบนเซม่าแล้ว ยังมีกาก้า จากทีมชาติบราซิล และคริสเตียโน่ โรนัลโด้ จากโปรตุเกสรวมอยู่ในนั้นด้วย
 
เบนเซม่า ในวัย 21 ปีที่มาดริดซื้อมาด้วยราคา 40 ล้านเหรียญสหรัฐฯ แม้ค่าตัวและชื่อเสียงจะเป็นรองทั้งกาก้า และโรนัลโด้ แต่ว่ากันว่าเขาเป็นหนึ่งในนักเตะลูกรักของประธานเปเรซ ขณะเดียวกันยังได้ ซีนาดีน ซีดาน ตำนานนักเตะชาวฝรั่งเศสเชื้อสายแอลจีเรียเช่นกัน คอยหนุนหลังและให้คำปรึกษา
 
อย่างไรก็ตาม เบนเซม่าต้องใช้เวลาปรับตัวในเมืองหลวงของสเปนอยู่พักใหญ่ โดยช่วงย้ายมาใหม่ เขาไม่ค่อยมีความสุขกับชีวิตที่นี่มากนัก เนื่องจากคิดถึงบ้าน และไม่ชอบอาหารท้องถิ่นที่เขาบอกว่ามันเกินไป นอกจากนี้ เขายังเป็นคนขี้อาย และมักโดนเพื่อนร่วมทีมหยอกล้อเป็นประจำ
 
การมาของโชเซ่ มูรินโญ่ ผู้จัดการทีมชาวโปรตุเกส ยังสร้างปัญหาให้กับเบนเซม่า เนื่องจากเขาไม่ค่อยได้รับโอกาสให้ลงสนาม โดยมูรินโญ่มองว่า นักเตะชาวฝรั่งเศสผู้นี้ไร้ความทะเยอทะยาน และไม่มีความมุ่งมั่นมากพอ
 
“หากไม่สามารถไปออกล่าด้วยสุนัข คุณก็ต้องออกไปล่าด้วยแมวที่มี”
 
นี่คือคำพูดของมูรินโญ่ที่ตอบสื่อหลัง กอนซาโล่ อิกัวอิน ศูนย์หน้าชาวอาร์เจนไตน์ได้รับบาดเจ็บ ไม่สามารถใช้งานได้ ทำให้มาดริดต้องส่งเบนเซม่าลงเล่นแทน
 
การเปรียบเปรยดังกล่าวสร้างความไม่พอใจให้กับอดีตศูนย์หน้าจากลียง ถึงขั้นที่ต่อมาเขาต้องบุกห้องพักของมูรินโญ่ เพื่อขอเคลียร์ใจจนสุดท้าย มูรินโญ่จึงยอมรับความตั้งใจในตัวลูกทีมผู้นี้ และส่งลงสนามบ่อยขึ้น
 
สามประสาน BBC
 
แต่กระนั้นผู้จัดการทีมที่เชื่อมั่นในตัวเบนเซม่ามากที่สุดเป็นคนแรก และใช้งานเขาอย่างเต็มที่ต้องยกเครดิตให้กับคาร์โล อันเชลอตติ โดยหลังจาก ‘อันเช่’ เข้ามาคุมทีมต่อจากมูรินโญ่ เขาคือกุนซือผู้ให้กำเนิดตำนานกองหน้าสามประสาน BBC (เบลล์, เบนเซม่า, คริสเตียโน่) ที่พาทีมคว้าถ้วยยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก และโกปาเดลเรย์ในฤดูกาล 2013/14 รวมทั้งถ้วยยูฟ่าซูเปอร์คัพ และฟีฟ่าคลับเวิลด์คัพในปี 2014
 
“เบลล์คือลูกกระสุน คริสเตียโน่ทำประตูได้มากมาย ส่วนผมเป็นผู้ช่วยประสานพวกเราเข้าด้วยกัน” เบนเซม่าบรรยายถึงบทบาทของแต่ละคน พร้อมกล่าวว่า เขารู้สึกพอใจกับบทบาท ‘ปิดทองหลังพระ’ แม้จะไม่ค่อยมีใครพูดถึงตนเองมากนัก
 
หลังจากหมดยุค BBC เนื่องจากโรนัลโด้ ย้ายไปอยู่กับยูเวนตุส และเบลล์ถูกปล่อยยืมตัวกลับไปท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ เบนเซม่ายังคงเป็นตัวหลักในแดนหน้าของมาดริดต่อไป และพร้อมรับบทพระรอง คอยสนับสนุนตัวรุกหน้าใหม่ที่เข้ามา ไม่ว่าจะเป็นฮาเมส โรดริเกซ หรือเอแด็ง อาซาร์ และหากกองหน้าขาดแคลน เขาก็พร้อมขึ้นมาเป็นผู้ทำประตูเพื่อกอบกู้สถานการณ์ของทีมได้ทุกเมื่อ
 
แม้เบนเซม่าจะไม่ใช่กองหน้าที่ยิงประตูได้เป็นกอบเป็นกำ แต่ประตูที่เขาทำได้มักมีความสำคัญ และเหตุผลที่ทำให้กลายเป็นนักเตะ ‘เวิลด์คลาส’ ก็เพราะความครบเครื่อง เขาสามารถทำประตูได้ทั้งจากเท้าและหัว มีการจ่ายบอลให้เพื่อนทำประตูได้ดี มีความเร็วในการเล่นสวนกลับ และในยามไม่มีบอล เขายังช่วยวิ่งดึงตัวประกบเพื่อเปิดทางให้เพื่อนทำประตู และลงไปช่วยตั้งรับเมื่อทีมตรงข้ามบุกเข้าใส่
 
ผลงานที่ประจักษ์
 
ด้วยความครบเครื่องดังกล่าวจึงเป็นเหตุผลให้ไม่ว่า ‘กาลาคติกอส’ คนไหนจะย้ายทีมเข้ามาและถูกขายออกไป เบนเซม่าคนนี้ยังคงอยู่ตรงนี้ไม่ไปไหน เขาอยู่กับเรอัล มาดริด มานานกว่า 10 ปี ยาวนานกว่าแข้งซูเปอร์สตาร์แดนหน้าทุกคนในยุคเดียวกัน และพาราชันชุดขาวคว้าโทรฟีมาครองมากถึง 13 ใบ ในจำนวนนี้รวมถึงแชมป์ลาลีกา 3 สมัย และยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก 4 สมัย
 
นอกจากนี้ เบนซาม่ายังทำประตูให้มาดริดได้มากที่สุดตลอดกาลเป็นอันดับที่ 5 โดยทำไปแล้ว 273 ประตู โดยเฉพาะซีซั่นล่าสุด 2020/21 เขาทำคนเดียว 24 ประตูในทุกรายการ และเป็นเหตุผลที่ทำให้ทีมชาติฝรั่งเศส ไม่สามารถปฏิเสธความร้อนแรงของศูนย์หน้าผู้นี้ได้ จึงเรียกกลับมาร่วมทัพลุยศึกยูโร 2020 ในที่สุด
 
นักวิเคราะห์เชื่อว่า การกลับมาติดทีมชาติอีกครั้งของเบนเซม่า น่าจะเป็นความพยายามของเดส์ชองส์ ในการเพิ่มความแปลกใหม่ให้กับเกมรุกของทีมแชมป์โลกทีมล่าสุด โดยเบนเซม่า น่าจะเข้ามาเพื่อเป็นอะไหล่ให้กับโอลิวิเยร์ ชิรูด์ ซึ่งมีสไตล์การเล่นคล้ายกัน แต่ระยะหลังไม่ค่อยได้โอกาสลงสนามกับเชลซี
 
ขณะเดียวกัน ทั้งประสบการณ์และความสามารถอันครบเครื่องของเบนเซม่า ยังน่าจะเข้ามาช่วยเพิ่มพลังเกมรุกให้กับฝรั่งเศส โดยเฉพาะความสามารถในการเป็นตัวชน ตัวหลอกล่อ เพื่อเปิดทางให้ดาวยิงรุ่นน้องอย่างคีเลียน เอ็มปัปเป้ และอองตวน กรีซมันน์ ทำผลงานยิงประตูได้สะดวกมากขึ้น
 
เพราะไม่ว่าใครจะเป็นพระเอกทำประตูได้ หรือมีชื่อเสียงโด่งดังมากกว่าแค่ไหน นักเตะเวิลด์คลาสที่หลายคนมองข้ามผู้นี้ที่ชื่อ คาริม เบนเซม่า ก็พร้อมรับใช้ และยินดีให้การสนับสนุนเพื่อความสำเร็จของทีมตลอดมา
 
และในยูโร 2020 รอบนี้ เขาอาจจะหลุดพ้นสถานะจาก ‘พระรอง’ ก็เป็นได้
 
อัปเดต: ทีมชาติฝรั่งเศสตกรอบ 16 ทีมสุดท้ายในยูโร 2020 (เลื่อนมาแข่งปี 2021) แต่เบนเซม่า ยังจบรายการด้วยตำแหน่งรองดาวซัลโว ยิง 4 ประตู (ถ้านับตามรางวัล Top Scorer เบนเซม่า ทำผลงานจบอันดับ 3 ตามการจัดสกอร์ผลงาน)
 
ขณะที่ผลงานในสโมสรที่ยอดเยี่ยมทำให้เขาคว้ารางวัลบัลลงดอร์เป็นครั้งแรกในชีวิต เบนเซม่า ในวัย 34 ปี ยิง 27 ประตูในลาลีกา สเปน เป็นสถิติสูงสุดในอาชีพค้าแข้งของเขาเอง และเป็นดาวซัลโวรายการยูฟ่า แชมเปีนส์ ลีก จากผลงานยิง 15 ประตู รวมถึงฟอร์มร้อนแรงที่ซัดแฮตทริกใส่ทีมระดับแนวหน้าของโลกอย่างปารีส แซงต์แชร์กแมง และเชลซี
 
คาริม เบนเซม่า: ศูนย์หน้า ‘เวิลด์คลาส’ ผู้อาภัพ และการพิสูจน์ตัวเองจนพ้นจากบท ‘พระรอง’
 
อ้างอิง:
 
 
ภาพ: Aurelien Meunier - UEFA/UEFA via Getty Images