27 ก.ย. 2566 | 17:30 น.
เทรนด์สุขภาพในโลกยุค 5.0 ไม่ใช่การเฝ้าระวัง หรือรักษาเมื่อมีอาการของโรคอีกต่อไป แต่เป็นการผสมผสานการดูแลสุขภาพเข้ากับวิถีชีวิตนับตั้งแต่ลืมตาตื่น อาหารที่กิน เครื่องนุ่งห่ม ที่อยู่อาศัย ล้วนออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์การดูแลสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีด้วย ทำให้สหประชาชาติได้ผลักดันให้ การมีสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี (Good Health and Well-being) กำหนดให้เป็น 1 ใน 17 เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals: SDGs) ด้วย
หนึ่งในปัจจัยที่มองข้ามไปไม่ได้นั่นคือการกินอาหารที่ต้องตอบสนองทั้งในแง่ของปริมาณ คุณค่าทางอาหารที่หลากหลาย เสริมสร้างการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน และระบบการทำงานของร่างกาย
ไปดูเทรนด์ด้านการกิน อยู่ อาหารเปลี่ยนโลก และเทคโนโลยีที่น่าสนใจที่จะกลายเป็นหนึ่งในอาหารที่ช่วยกันป่วย ดูแลสุขภาพเชิงรุก สำหรับทุกคน
กินดี ลดป่วยโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง
ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพมากเป็นอันดับหนึ่งของคนไทยคือโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) เช่น โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคมะเร็ง โรคเบาหวาน เป็นต้น ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา (พ.ศ. 2560 - 2655 (2565)) จำนวนผู้ป่วยโรคไม่ติดต่อเรื้อรังเพิ่มขึ้นกว่า 18.6% และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทุกปี ในปี 2565 มีจำนวนผู้ป่วยโรคไม่ติดต่อเรื้อรังกว่า 11 ล้านคน
นอกจากการออกกำลังกาย การหมั่นตรวจสุขภาพประจำปีแล้ว อีกปัจจัยที่ช่วยป้องกันโรคประเภทดังกล่าวได้คือการกินอาหารที่มีสารอาหารหลากหลาย มีวิตามิน แร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกาย
อย่างการได้รับโอเมก้า 3 อย่างเพียงพอ จะช่วยให้ร่างกายทำงานได้อย่างปกติเกี่ยว ทั้งด้านระบบการทำงานของสมอง หัวใจและหลอดเลือด ทั้งยังช่วยลดคอเลสเตอรอลและลดการอักเสบอันเป็นสาเหตุของโรคไม่ติดต่อเรื้อรังต่าง ๆ ข้างต้นด้วย
การกินอาหารที่มีโอเมก้า 3 ซึ่งเป็นกรดไขมันชนิดไม่อิ่มตัวเชิงซ้อนที่เป็นไขมันที่ดีต่อสุขภาพ มีความสำคัญต่อการทำงานของสมอง สายตา ระบบหัวใจและหลอดเลือด
ทั้งนี้โอเมก้า 3 มีหลายชนิด ประกอบด้วย
- กรดไขมัน Eicosatetraenoic Acid หรือ EPA ช่วยในการลดระดับไตรกลีเซอไรด์ในเลือด ป้องกันไขมันอุดตันในเส้นเลือด ลดการเกิดหัวใจเต้นผิดจังหวะ ลดความดันโลหิต
- กรดไขมัน Docosahexaenoic Acid หรือ DHA ที่ช่วยการพัฒนาสมองโดยเฉพาะในส่วนของความจำ การเรียนรู้ และการมองเห็น
- กรดไขมัน Alpha-Linolenic Acid หรือ ALA ซึ่งเป็นกรดไขมันจำเป็น คือร่างกายสร้างเองไม่ได้ จึงจำเป็นต้องได้รับจากอาหาร ช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดลงได้
หมู - ไก่ ก็มีโอเมก้า 3 ได้
จากข้อมูลเรื่องคุณค่าของโอเมก้า 3 ข้างต้น ทำให้สนใจกินอาหารที่มีกรดไขมันดีดังกล่าวมากขึ้น แต่หลายคนอาจยังมีความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนว่า โอเมก้า 3 นั้นพบได้ในปลาทะเลน้ำลึกเท่านั้น แต่ด้วยนวัตกรรมในปัจจุบันทำให้เนื้อหมูและเนื้อไก่ก็พบโอเมก้า 3 ได้แล้ว
จากบทความของ ภาควิชาโภชนวิทยา คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล เปิดเผยว่าการปรับสูตรอาหารให้หมูและไก่กินอาหารที่มีคุณค่าทางอาหารสูง หรือมีโอเมก้า 3 สูง นั่นคือ เมล็ดแฟล็กซ์ สาหร่ายทะเล น้ำมันปลา ประกอบกับการเลี้ยงดูที่เหมาะสม ส่งผลให้สัตว์สามารถสะสมโอเมก้า 3 ได้ตามธรรมชาติ ทำให้เนื้อหมูและเนื้อไก่ก็มีกรดไขมันโอเมก้า 3 ได้
นับเป็นอีกนวัตกรรมทางอาหารที่ช่วยเพิ่มคุณค่าลงไปในเนื้อสัตว์มากขึ้น เนื่องจากทั้งซึ่งเนื้อหมูและเนื้อไก่ต่างเป็นเนื้อสัตว์ที่หาซื้อได้ง่าย ราคาถูกเมื่อเทียบกับอาหารทะเล และยังนำไปประกอบอาหารได้หลากหลายเมนูอีกด้วย
อร่อยได้ ดีต่อสุขภาพด้วย กินดี - กันป่วย
การกินดีส่งผลต่อสุขภาพในทุกช่วงวัย ตั้งแต่วัยแรกเกิดจนถึงวัยสูงอายุ และยิ่งเมื่อผู้คนมีอายุยืนยาวมากขึ้น แต่ยังคงมีความต้องการพลังงานและสารอาหารที่มีคุณภาพสูงเพื่อการดำรงชีวิตอย่างมีคุณภาพ จึงต้องมีนวัตกรรมอาหารที่สะดวกต่อการใช้ชีวิตของทุกวัย
ในด้านโภชนาการ ต้องคำนึงถึงอาหารที่อาหารที่เข้าถึงได้ง่าย อร่อย และดีต่อสุขภาพด้วย อย่างการกินเนื้อหมูและเนื้อไก่ที่มีโอเมก้า 3 ซึ่งเป็นแหล่งโปรตีนเพื่อเสริมสร้างและซ่อมแซมร่างกาย สามารถประยุกต์เป็นอาหารได้หลากหลายเมนู ไม่ว่าจะเป็นการตุ๋น ต้ม หรือการนึ่ง พร้อม ๆ กับการกินอาหารอื่น ๆ ที่หลากหลาย ในปริมาณที่พอเหมาะและเป็นเวลา
โภชนาการเฉพาะบุคคล
เมื่อผู้คนมีวิถีชีวิตที่หลากหลาย การดูแลสุขภาพและอาหารการกินจึงควร Customize ให้เหมาะสมกับโจทย์ความต้องการที่แตกต่าง จึงเกิดการออกแบบโภชนาการเฉพาะบุคคล พิจารณาจากองค์ประกอบการใช้ชีวิต สารอาหาร และสุขภาพ มีการใช้ข้อมูลระดับพันธุกรรม เพื่อจัดอาหารเป็นรายบุคคล รวมถึงการปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิตด้วย
เพราะอาหารเป็นรากฐานของชีวิต การเลือกกินอาหารที่ตอบสนองต่อสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี จึงนับเป็นวิธีพื้นฐานที่ดีในการดูแลสุขภาพ กินดี เพื่อชีวิตดี ลดการเจ็บป่วยลงได้ อย่างการที่ร่างกายได้รับคุณค่าทางอาหารสำคัญนั่นคือ โอเมก้า 3 ที่ช่วยลดการเจ็บป่วยด้วยโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง
ซึ่งจากความก้าวหน้าของการผลิตอาหารทำให้เนื้อหมูและเนื้อไก่ ก็เป็นเนื้อสัตว์ที่มีกรดไขมันดีคือโอเมก้า 3 ได้ และยังหากินได้ง่าย และทุกคนคุ้นเคยกันดี เมื่อกินอาหารที่มีสารอาหารครบถ้วน ออกกำลังกาย พักผ่อนเพียงพอ ก็เป็นประตูไปสู่การดูแลสุขภาพเชิงรุก มีสุขภาวะทางกายและใจที่ดี เพื่ออายุที่ยืนยาว
Source :
https://www.ph.mahidol.ac.th/news/18092023/
https://www.si.mahidol.ac.th/Th/healthdetail.asp?aid=1265
https://op.mahidol.ac.th/ga/posttoday-22-2/
กระทรวงสาธารณสุข https://spd.moph.go.th/wp-content/uploads/2022/08/mega-trend.pdf
Creative Economy Agency, ศูนย์วิจัยเทรนด์และคอนเซปต์แห่งอนาคต หรือ Baramizi Lab
https://www.ph.mahidol.ac.th/phnu/download/The%2016th%20Academic%20Conference/5.%20Innovative%20Foods%20for%20Elderly.pdf