‘เชฟไอซ์ ศุภักษร จงศิริ’ ความรักจากครัวคุณย่าสู่ ‘ศรณ์’ ร้านอาหารไทย 3 ดาวมิชลิน

‘เชฟไอซ์ ศุภักษร จงศิริ’ ความรักจากครัวคุณย่าสู่ ‘ศรณ์’ ร้านอาหารไทย 3 ดาวมิชลิน

‘เชฟไอซ์ ศุภักษร จงศิริ’ ผู้สืบสานความรักในการทำอาหารจากคุณย่า พิสูจน์ให้โลกได้เห็นว่า อาหารไทยสามารถก้าวไปถึงจุดสูงสุดของวงการอาหารโลกได้ด้วยฝีมือคนไทย โดยไม่จำเป็นต้องปรับเปลี่ยนตามกระแสหรือทำตามแบบฉบับของต่างชาติ

KEY

POINTS

  • จุดเริ่มต้นจากร้านบ้านไอซ์ของคุณย่า สู่การเป็นเชฟระดับโลก ผ่านการเรียนรู้และสั่งสมประสบการณ์ทั้งในและต่างประเทศ 
  • การย้อนกลับสู่รากเหง้าอาหารใต้ โดยลงพื้นที่เรียนรู้จากแหล่งวัตถุดิบและภูมิปัญญาท้องถิ่น นำมาพัฒนาเป็นอาหารไทยระดับพรีเมียมที่ยังคงรักษาเอกลักษณ์ดั้งเดิม 
  • ความสำเร็จของร้านศรณ์ ที่ได้รับ 3 ดาวมิชลิน ไม่เพียงเป็นความภาคภูมิใจของร้านเดียว แต่เป็นการจุดประกายให้วงการอาหารไทยกล้าที่จะก้าวไกลโดยไม่ทิ้งรากเหง้า
     

ในห้องครัวเล็ก ๆ ของตึกแถวย่านประชานิเวศน์ 1 เมื่อ 30 กว่าปีก่อน เด็กชายตัวน้อยนั่งมองคุณย่าปรุงอาหารบนเตาด้วยสายตาเป็นประกาย เฝ้าดูท่วงท่าการครัวที่เต็มไปด้วยความรักและความพิถีพิถัน ณ ‘บ้านไอซ์’ ร้านอาหารใต้เล็ก ๆ ที่กลายเป็นเบ้าหลอมความฝันที่จะพาเขาไปสู่การเป็นเชฟระดับโลกในอีกสามทศวรรษต่อมา

หลังเกษียณจากอาชีพครู คุณย่าย้ายจากนครศรีธรรมราชมาที่กรุงเทพฯ เพื่อเปิดร้านอาหารเล็ก ๆ และตั้งชื่อว่า ‘บ้านไอซ์’ ตามชื่อของหลานชายที่เธอรักและเลี้ยงดูมาตั้งแต่เล็ก เป็นการแสดงความรักและความผูกพันที่มีต่อกัน ร้านเล็ก ๆ แห่งนี้ ไม่เพียงเป็นที่หาเลี้ยงชีพ แต่ยังเป็นพื้นที่แห่งความทรงจำที่คุณย่าและหลานชายได้ใช้เวลาร่วมกัน เรียนรู้และเติบโตไปพร้อมกัน

‘เชฟไอซ์ ศุภักษร จงศิริ’ ความรักจากครัวคุณย่าสู่ ‘ศรณ์’ ร้านอาหารไทย 3 ดาวมิชลิน

“ผมโตมากับคุณย่าครับ” เชฟไอซ์ - ศุภักษร จงศิริ ทายาทนักเขียนและผู้กำกับภาพยนตร์ชื่อดัง เล่าย้อนถึงจุดเริ่มต้นของความรักในการทำอาหาร ที่เริ่มต้นอย่างจริงจังหลังย้ายมาอยู่ในความดูแลของคุณย่าตอนอายุประมาณ 6 – 7 ขวบ โดยเริ่มจากการทำต้มจืด ก่อนจะประยุกต์ไปสู่อาหารที่มีความซับซ้อนมากขึ้น 

แต่ถึงจะหัดทำอาหารตั้งแต่ยังเด็ก เด็กชายก็ไม่เคยคิดฝันจะเติบโตขึ้นมาเป็นพ่อครัวหรือเชฟ เพราะคุณย่าพยายามผลักดันให้เรียนภาษาอังกฤษเก่ง ๆ ด้วยอยากให้หลานชายออกไปเห็นโลกกว้าง กระทั่งหลานชายคนโปรดมีโอกาสไปศึกษาต่อด้านสถาปัตยกรรมที่ Northeastern University สหรัฐอเมริกา ซึ่งทำให้เขามีโอกาสทำงานพาร์ทไทม์ในร้านอาหาร เป็นการจุดประกายความฝันที่ซ่อนอยู่ในใจมาตลอด

เมื่อมั่นใจแล้ว เชฟไอซ์จึงได้เปิด ‘ร้านศรณ์’ (Sorn) ร้านอาหารใต้สไตล์ไฟน์ไดนิ่งในซอยสุขุมวิท 26 ที่นำเสนออาหารใต้ในรูปแบบที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อน ชื่อร้านมีความหมายลึกซึ้งที่สะท้อนตัวตนของเชฟไอซ์ได้อย่างชัดเจน เพราะนอกจากจะตั้งตามชื่อของลูกชายแล้ว ยังมีที่มาจากคำว่า ‘สรณะ’ ซึ่งหมายถึงการเติบโตและพึ่งพาซึ่งกันและกัน

ในครัวของร้านศรณ์ทุกวันนี้ ความร้อนไม่ได้มาจากเตาเพียงอย่างเดียว แต่ยังมาจากไฟแห่งความมุ่งมั่นของทุกชีวิตที่เกี่ยวข้อง ตั้งแต่ชาวนาที่ตื่นแต่เช้ามืดเพื่อหว่านข้าว ชาวประมงที่ออกเรือฝ่าคลื่นลม ชาวสวนที่เฝ้าดูแลผักสวนครัว คนเลี้ยงวัวที่เฝ้าทะนุถนอมวัวเพื่อให้ได้เนื้อคุณภาพ ไปจนถึงทีมงานในครัวที่พิถีพิถันกับทุกขั้นตอน เหมือนกับที่คุณย่าเคยสอนไว้ว่า “อาหารที่ดีต้องปรุงด้วยใจและความรัก”

และเช่นเดียวกับที่คุณย่าตั้งชื่อร้าน ‘บ้านไอซ์’ ด้วยความรักที่มีต่อหลานชาย การที่เชฟไอซ์ตั้งชื่อร้านศรณ์ตามชื่อลูกชาย จึงเป็นการสืบทอดความรักและความผูกพันจากรุ่นสู่รุ่น พร้อมกับส่งต่อมรดกทางวัฒนธรรมการทำอาหารให้คงอยู่ตลอดไป

‘เชฟไอซ์ ศุภักษร จงศิริ’ ความรักจากครัวคุณย่าสู่ ‘ศรณ์’ ร้านอาหารไทย 3 ดาวมิชลิน

จากความมุ่งมั่นและความรักในการทำอาหารที่ได้รับการปลูกฝังมาตั้งแต่เด็ก ประกอบกับการไขว่คว้าหาความรู้ด้วยตนเอง ทำให้คู่มือมิชลิน ไกด์ ฉบับประเทศไทย ประจำปี 2568 (The MICHELIN Guide Thailand 2025) ได้บรรจุชื่อของร้านศรณ์เป็นร้านอาหารที่ได้รางวัล 3 ดาวมิชลิน หลังจากร้านศรณ์ได้รับรางวัล 1 ดาวมิชลินครั้งแรกในปี 2562 จากนั้นในปีต่อมาจึงได้เลื่อนระดับเป็นร้าน 2 ดาวมิชลิน และครองสถานะได้ต่อเนื่องตลอด 5 ปี จนก้าวสู่ร้านระดับ 3 ดาวมิชลิน กลายเป็นร้านอาหารไทยร้านแรกของโลกที่ทำได้

ความสำเร็จของศรณ์ได้สร้างแรงบันดาลใจให้กับวงการอาหารไทยในวงกว้าง แสดงให้เห็นว่าการยึดมั่นในรากเหง้าและความเป็นตัวของตัวเอง สามารถนำไปสู่ความสำเร็จระดับโลกได้ โดยไม่จำเป็นต้องปรับเปลี่ยนตามกระแสหรือทำตามแบบฉบับของต่างชาติ

เสียงฉ่าของน้ำมันในกระทะ กลิ่นหอมของพริกแกงคั่ว และความร้อนจากเตา ที่เคยเป็นเพียงส่วนหนึ่งในห้องครัวเล็ก ๆ ของคุณย่า วันนี้ได้แปรเปลี่ยนเป็นดาว 3 ดวงที่ส่องสว่างบนหน้าประวัติศาสตร์วงการอาหารไทย การได้รับ 3 ดาวมิชลินของศรณ์ไม่เพียงเป็นความสำเร็จของร้านอาหารเพียงร้านเดียว ทว่าเป็นการจุดประกายไฟแห่งแรงบันดาลใจให้กับร้านอาหารไทยทั่วประเทศ ให้กล้าที่จะฝัน และกล้าที่จะทำในสิ่งที่แตกต่าง โดยไม่ทิ้งรากเหง้าความเป็นไทย พิสูจน์ให้โลกได้เห็นว่า อาหารไทยสามารถก้าวไปถึงจุดสูงสุดของวงการอาหารโลกได้ด้วยฝีมือคนไทย