28 มี.ค. 2568 | 15:00 น.
10 มีนาคม 2025 — ในวันที่อบอวลด้วยกลิ่นไวน์และบทสนทนา กิจกรรม ‘Spanish Expert Premium Wine Class’ คลาสไวน์ที่จัดโดยร้าน ‘Bodegas Wine Restaurant’ ได้พาผู้เข้าร่วมงาน เดินทางไกล ด้วยบทเรียนจากแคว้น Rioja Alavesa (ริโอฮา อลาเวซา) โดยเผยให้เห็นว่า terroir (แตร์ฮัวร์) ไม่ใช่แค่เรื่องของดินและภูมิอากาศ แต่คือรากของวัฒนธรรมและความงามที่บ่มเพาะอย่างมีเป้าหมาย
ก่อนที่ไวน์จะเป็นที่รู้จัก Rioja เคยเป็นสมรภูมิของการปะทะกันระหว่างอารยธรรม ตั้งแต่ชาวฟินิเชียน กรีก โรมัน มุสลิม จนถึงการรวมชาติของสเปนช่วงยุค Isabella & Ferdinand ดินแดนนี้ จึงไม่เคยเป็นเพียงภูมิศาสตร์ แต่คือบันทึกแห่งอัตลักษณ์ที่ไม่แปรเปลี่ยน
‘อาจารย์ธีระ วีรวรรณ’ เริ่มต้นด้วยภาพใหญ่ของสเปน แบ่งเป็น 17 เขตปกครองตนเอง (Autonomous Communities) ที่ต่างก็มีวัฒนธรรมและภาษาของตัวเอง ‘Rioja Alavesa’ อยู่ในเขตบาสก์ (Basque) ซึ่งเป็นหนึ่งในดินแดนที่ชัดเจนในอัตลักษณ์ของตนมากที่สุด
ชื่อ ‘Alavesa’ มาจากจังหวัด Álava และแม้ทางกฎหมายจะขึ้นกับแคว้น Basque แต่ในเชิงการตลาดโลก กลับมีการต่อสู้เพื่อใช้ชื่อ Rioja อย่างต่อเนื่อง (เช่นกรณี Viñedos de Álava ที่เคยก่อให้เกิดข้อถกเถียง)
ในแง่ภูมิประเทศ Alavesa คือแนวเชิงเขาด้านเหนือของแม่น้ำ Ebro ที่อยู่สูงถึง 1,200 เมตรจากระดับน้ำทะเล ถือว่าสูงที่สุดใน Rioja ทั้งหมด ความสูงนี้เองที่ทำให้เกิด ‘Diurnal Temperature Variation’ (ต่างอุณหภูมิกลางวัน-กลางคืน) อย่างชัดเจน ส่งผลต่อความสด (freshness) และความเป็นกรด (acidity) ซึ่งกลายเป็นลายเซ็นของไวน์จากพื้นที่นี้
‘อาร์โนด์ ลีซัวร์’ (Arnaud Lisoir) ผู้แทนจาก Viñedos y Bodegas Sierra Cantabria ได้เดินทางมาเปิดมุมมองให้แก่ผู้ร่วมคลาส ด้วยการขยายความถึงมิติทางภูมิศาสตร์ วิถีการทำไร่ และปรัชญาเบื้องหลังแต่ละขวด บรรยายร่วมกับ อ.ธีระ วีรวรรณ โดยมี ‘เชฟจูเนียร์ อภิญญา หวังดี’ ทำหน้าที่รังสรรค์ Tapas เพื่อสร้างบทสนทนาระหว่างอาหารและไวน์ นับเป็นหนึ่งในความงดงามของคลาสนี้
1. Altos R Crianza 2020
100% Tempranillo จากไร่ที่มีอายุกว่า 40 ปี กลิ่นแรกที่พุ่งออกมาคือกลิ่นผลไม้สีแดงสด อย่าง แบล็คเบอร์รี่ และ เชอร์รี่ ตามมาด้วยกลิ่นสมุนไพรแห้ง ยูคาลิปตัส และกลิ่นไหม้อ่อน ๆ จากถัง French & American Oak ที่บ่มไว้นาน 12 เดือน ไวน์ตัวนี้มีโครงสร้างดี ให้เนื้อสัมผัสแบบ medium + body พร้อม acidity สดชัด แทนนินละเอียดแต่ทรงพลัง จบด้วย aftertaste ที่สะอาด มีความ spicy ละเมียดละไม
2. Baigorri Reserva 2014
ไวน์จากโรงบ่มที่ไม่ใช้เครื่องจักรเลยในการผลิต (gravity-based winemaking) กลิ่น liquorice, หนังเก่า, black pepper และลูกเกดดำ ให้ภาพของ Rioja แบบดั้งเดิมแต่มีความร่วมสมัย ไวน์ตัวนี้มีโทนที่เข้มข้น สีแดงทับทิมเข้มชัด โครงสร้างแน่นหนา มีทั้ง fruit core และ earthy notes ชัดเจน เป็น Rioja ที่พร้อม aging ต่อไปอีกหลายปีได้แบบไม่ต้องสงสัย
3. Montebuena Clos Reserva 2015
กลิ่นของ cocoa, dark cherries, smoke และ balsamic หอมกรุ่นแบบไวน์ที่ซับซ้อน Nose เริ่มจากผลไม้ ไปถึงแร่ธาตุ แล้วแผ่วลงด้วยกลิ่น liquor เนื้อสัมผัสนุ่มนวล จับลิ้นด้วย texture แบบ ‘jammy’ ปนความแห้งแบบลูกพรุนหมัก เหมาะกับคนที่ชอบ Rioja สไตล์ modern-concentrated ซึ่งมีทั้งโครงสร้างและความอ่อนโยนในขณะเดียวกัน
4. Sierra Cantabria Cuvee 2019
หนึ่งในไวน์ที่ได้รับความสนใจมากในคลาส ด้วยโทน violet, red plum, กลิ่น spice และลิ้นที่ซับซ้อน แสดงความงดงามของการใช้ถังใหม่ผสมกับความตั้งใจทางเทคนิค Cuvee นี้ถือเป็นภาพแทนของ terroir แบบ Rioja Alavesa อย่างครบถ้วน ทั้งความสด ความละเอียด และโครงสร้างที่พร้อมดื่มแต่ก็สามารถพัฒนาได้อีกนาน
5. Colección Privada Reserva 2021
รุ่นพิเศษจาก Sierra Cantabria ที่คัดองุ่นเฉพาะไร่ ใช้การบ่ม oak และ bottle aging อย่างประณีตที่สุด กลิ่นเข้มข้นจนแทบจะกลายเป็นไวน์แนว “perfumed red” มีความหอมของดอกไม้แห้ง ช็อกโกแลตเข้ม cassis และกลิ่นของแร่ธาตุ มีแทนนินที่แน่นแต่นุ่ม และ acidity ที่สดชัด คงอยู่ยาว
6. San Vicente (Sierra Cantabria)
San Vicente คือไวน์เรือธงของ Bodega Señorío de San Vicente ซึ่งอยู่ในเครือของ Sierra Cantabria กลายเป็นไวน์ที่นักสะสม Rioja หลายคนให้การยอมรับในฐานะ ‘modern Rioja with classic soul’ผลิตจากองุ่นพันธุ์ Tempranillo Peludo (สายพันธุ์ที่มีใบขนคล้ายขนนุ่ม) ซึ่งมีความแตกต่างจาก Tempranillo ทั่วไปด้วยโครงสร้างที่ละเมียดกว่า ให้ผลผลิตต่ำ และมี concentration สูง ไวน์ตัวนี้ผ่านการบ่มในถัง oak (French และ American) นานกว่า 20 เดือน กลิ่นเปิดด้วยผลไม้สุก เช่น ลูกพรุน แบล็กเคอแรนท์ ซ้อนด้วยโทนเครื่องเทศเข้ม เนื้อไม้ แร่ธาตุ และความ smoky ที่บางแต่คม
ลิ้นสัมผัสได้ถึงความแน่น ความหนาแน่นแบบคลาสสิก มีแทนนินที่เคลือบเพดานปากแบบ silky อ่อนโยนแต่ทรงพลัง ให้ aftertaste ยาวเกินคาด เหมาะกับการเก็บต่ออีก 5–10 ปีขึ้นไปอย่างไม่กังวล
San Vicente จัดเป็นไวน์ชั้นเลิศสำหรับดื่มในโอกาสพิเศษ และเป็นตัวแทนของแนวคิดที่ว่า Rioja ไม่จำเป็นต้อง ‘ย้อนยุค’ เสมอไป หากแต่สามารถแสดงออกถึงความคิดสร้างสรรค์และมาตรฐานการผลิตที่สูงได้อย่างไม่ลดทอนจิตวิญญาณดั้งเดิมของภูมิภาคนี้
สิ่งที่ได้เรียนรู้จากคลาสนี้ ไม่ใช่แค่ความต่างของ oak aging, varietal หรือ appellation system ของสเปน แต่คือความเข้าใจว่า ไวน์ดีไม่ใช่แค่เรื่อง ‘กลิ่น’ หรือ ‘รส’ แต่คือสิ่งที่ตกผลึกมาจากเจตนารมย์ เวลา และวัฒนธรรม ที่ไม่มี shortcut
ไวน์จาก Rioja Alavesa คือบทบันทึกของดินแดนที่ยังมีลมหายใจ ซึ่งยังสะท้อนอยู่ในแต่ละหยดของไวน์อย่างอ่อนโยนแต่ชัดเจน
หมายเหตุส่งท้าย ที่ร้าน Bodegas จะยังมีบทเรียนที่น่าสนใจให้ค้นหาอีกมาก
สำหรับผู้ที่สนใจไวน์สเปน หรืออยากสัมผัสประสบการณ์การจับคู่ไวน์กับอาหารอย่างลึกซึ้ง ร้าน Bodegas Wine Restaurant ยังมีกิจกรรมด้านไวน์ให้ติดตามอย่างสม่ำเสมอ ทั้ง Wine Class, Wine Dinner, Tapas Pairing หรือแม้แต่กิจกรรมพิเศษกับผู้ผลิตไวน์จากต่างประเทศ
Bodegas Wine Restaurant
โทร: 061-407-8222
IG / FB: @bodegaswine
เพราะไวน์ดีไม่ใช่สิ่งที่ดื่มเพียงลำพัง - แต่คือความทรงจำที่ถูกแบ่งปัน