28 มี.ค. 2567 | 15:39 น.
KEY
POINTS
ถ้าคุณเจอใครบางคนที่ดูสุภาพ ใจดี พยายามทำให้คนโน้นคนนี้พอใจไปเสียทุกอย่าง แต่บางครั้งก็ทำให้คุณรู้สึกอึดอัด หรือตะขิดตะขวงใจกับปัญหาที่ไม่ถูกแก้อย่างตรงจุด
บางทีคนคนนั้นอาจมีอาการที่เรียกว่า ‘อาการเด็กดี’ (Good Child Syndrome) ก็เป็นได้นะ
ในหนังสือ ‘ความรู้สึกของเราสำคัญที่สุด’ ให้คำจำกัดความ ‘อาการเด็กดี’ ไว้ว่า คนที่อ่อนแอต่อการปฏิเสธและคำวิจารณ์ทางลบจากผู้อื่น ต้องการให้ภาพลักษณ์ของตนดูสุภาพใจดีเสมอ พร้อมทั้งคาดหวังคำชมกับการยอมรับจากคนอื่น จึงมุ่งมั่นไม่ทำให้พ่อแม่หรือคนอื่นขุ่นใจ ทั้งยังอยากได้ฟีดแบ็กเชิงบวกเท่านั้น ซ้ำร้ายยังรู้สึกผิดหรือวิตกกังวลหากต้องปฏิเสธคำขอร้องหรือการขอความช่วยเหลือของผู้อื่น
มาถึงตรงนี้ หากยังไม่เห็นภาพของคนที่มีอาการเด็กดี ให้ลองสังเกตจากพฤติกรรมดังต่อไปนี้
โดยสรุปคือ ผู้มีอาการเด็กดีมักจะอ่อนไหวต่อความต้องการหรือความคาดหวังของคนอื่น และใช้ชีวิตไปโดยไม่รู้ความต้องการที่แท้จริงของตนเอง เอาแต่ยืนยันคุณค่าการมีชีวิตอยู่ของตนผ่านคำชมกับการยอมรับของผู้อื่น
ฟังดูแล้วเป็นชีวิตที่น่าสงสาร ยิ่งถ้าคุณได้รู้ว่าวัยเด็กของพวกเขาต้องเจออะไรบ้าง จะยิ่งสงสารเข้าไปอีก
ปัญหาอาการเด็กดี ส่วนใหญ่เริ่มต้นมาจากพ่อแม่ที่เข้าใจผิดว่า การที่ลูกจะเติบโตเป็นคนดีได้นั้น ต้อง ‘ห้าม’ ไม่ให้มีความรู้สึกนึกคิดและการกระทำที่ ‘ไม่ดี’ อย่างเด็ดขาด เช่น ดื้อ สกปรก โกหก โดดเรียน เสียงดังน่ารำคาญ หยาบคาย ฯลฯ
จริง ๆ ครอบครัวทั่วไปก็ทำแบบนี้แหละ แต่พ่อแม่ที่บ่มเพาะลูกให้มีอาการเด็กดี ยกระดับการ ‘ห้าม’ เกินกว่านั้น ด้วยการเข้ารหัสลูก ๆ ด้วยประโยคทำนองว่า “คนอื่นจะคิดยังไง” ซึ่งส่งผลให้เด็กที่ถูกกรอกหูด้วยถ้อยคำเช่นนี้ กลายเป็นคนที่เอาแต่แคร์สายตาคนอื่น จนอ่อนแอไปตลอดชีวิต
เด็ก ๆ ที่ตกอยู่ในภาวะนี้อาจดูเหมือนมีความสุขในช่วงแรก เพราะพวกเขาจะเก็บความรู้สึกและความต้องการที่แท้จริงเอาไว้ แล้วทุ่มไปกับการพยายามทำตามความหวังของพ่อแม่ พยายามทำตัวเป็นเด็กดีเพื่อแลกกับความรักจากพ่อแม่ ซึ่งอาจทำให้พวกเขาไม่มีโอกาสได้ใช้ชีวิตวัยเด็ก หรือวัยรุ่น ของตัวเอง
อันตรายของคนที่มีอาการเด็กดีหรือที่บางคนเรียกว่า ‘อาการเด็กสมบูรณ์แบบ’ (Perfect Child Syndrome) ก็คือ เด็กเหล่านี้จะปกปิดตัวตนที่แท้จริง ระงับอารมณ์ และเก็บงำความลับไม่ให้พ่อแม่รู้ พวกเขามักจะถูกข่มเหงมากกว่าเด็กส่วนใหญ่ และไม่สามารถยืนหยัดเพื่อตัวเอง ทำได้เพียงเก็บกักความโกรธมหาศาลไว้กับตัวเอง
ที่น่าเศร้าคือนิสัยชอบทำตามความคาดหวังของคนอื่นสามารถติดตัวมาจนถึงวัยผู้ใหญ่ จนทำให้พวกเขากลายเป็น ‘ผู้ใหญ่ดี’ (Good Adult) ไปตลอดชีวิต
ในสังคมการทำงาน การเป็นเด็กดีหรือผู้ใหญ่ดีก็มีปัญหาเช่นกัน แม้ว่าในวัยเด็ก พวกเขาจะปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ ไม่เคยสร้างปัญหาและไม่รบกวนใคร แต่การปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ไปเสียทุกเรื่องจะไม่ทำให้พวกเขาก้าวไปได้ไกลในหน้าที่การงาน หลายครั้งหลายคราวที่เราจะเห็นว่าเด็กดีอาจเป็นที่ชื่นชอบของเพื่อนร่วมงาน แต่พวกเขากลับเป็นคนที่ดูธรรมดามากในสาขาอาชีพ ไม่อาจคาดหวังความสร้างสรรค์ได้จากคนเหล่านี้
ที่เลวร้ายสุดคืออาจทำให้คนอื่นหมดพลังงานไปโดยใช่เหตุ ด้วยพฤติกรรมดังต่อไปนี้
แล้วถ้าในชีวิตเราต้องเจอกับคนที่มีอาการเด็กดี เราจะรับมือกับพวกเขาอย่างไร?
หากเป็นเด็ก ผู้ปกครองอาจต้องสื่อสารกับเด็กด้วยวิธีที่นุ่มนวล ไม่เสียงดัง ไม่ดุ ไม่ตะคอก เพื่อให้เด็กสงบ และพยายามทำให้เด็กเข้าใจว่าการทำผิดพลาดเป็นเรื่องปกติ แต่หากผู้ปกครองยังคงเล่นใหญ่เกินเบอร์ ผลที่ตามมาอาจสร้างบาดแผลทางจิตใจที่ยากเกินเยียวยาให้กับเด็ก
แต่หากเป็นผู้ใหญ่ที่มีอาการเด็กดี คนทั่วไปอาจต้องระมัดระวังเรื่องการ ‘ล้ำเส้น’ กับคนเหล่านี้
ข้อสำคัญคือไม่ต้องพยายามบอกว่าพวกเขาเป็นอย่างไร ไม่ต้องพยายามหาวิธีเพื่อให้พวกเขาเข้าใจตัวเอง เพียงแต่สื่อสารความรู้สึกนึกคิดกันในแต่ละสถานการณ์เท่านั้น และพยายามไม่ให้พวกเขาลอยตัวจากความผิดหรือความรับผิดชอบจากคำพูดและการกระทำ
แต่หากพวกเขามีการปรับปรุงหรือเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดี ให้รีบชมเชยอย่างจริงใจ
สุดท้ายคงต้องใช้ความ ‘เข้าใจ’ เป็นอย่างยิ่งว่า คนที่ถูกเลี้ยงมาให้เป็น ‘เด็กดี’ ไม่ได้เรียนรู้จากประสบการณ์ แต่เรียนรู้ที่จะทำตามความคาดหวังของคนอื่น แม้ลึก ๆ แล้วพวกเขาจะเชื่ออย่างบริสุทธิ์ใจว่าตัวเองเป็น ‘คนดี’
แต่คนแบบนี้ไม่ใช่คนที่คุณสามารถวางใจมอบหมายให้ดูแลเรื่องสำคัญได้
เรื่อง : พาฝัน ศรีเริงหล้า
ภาพ : Pexel
อ้างอิง :
อีดงกวี, อีซองจิก และอันฮายัน, ความรู้สึกของเราสำคัญที่สุด, แปลโดย ตรองสิริ ทองคำใส (กรุงเทพมหานคร: สำนักพิมพ์ springbooks, 2566), หน้า 137-138
What you need to know about 'Good Child Syndrome'