Argon Audio - Quiet Storm : หูฟังไร้สายที่นุ่มนวล เงียบสงบ แต่เปี่ยมไปด้วยพลัง

คุณเคยพักผ่อนอยู่ในห้องในวันที่ฝนตก ลมแรง หรือไม่ครับ… แม้ว่าที่ภายนอก สภาพอากาศจะดูสับสนวุ่นวายและเป็นอุปสรรคต่อการเดินทาง หรือแม้แต่ยืนอยู่เฉย ๆ เป็นอย่างมาก แต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าในขณะเดียวกัน หากคุณกำลังอยู่ในห้อง ในบ้าน การมองลอดออกไปข้างนอกในวันที่ฝนตก ฟ้าร้อง หรือลมแรง ๆ กลับให้ความรู้สึกที่อบอุ่นสบายอย่างบอกไม่ถูก

ผู้เขียนมองว่าบางทีหูฟังก็สามารถสร้างบรรยากาศในแบบเดียวกันได้ หากหูฟังที่ว่านั้นสามารถตัดเสียงจากโลกภายนอกออกไป แล้วดึงเข้าสู่โลกของเสียงดนตรีที่แม้จะเต็มไปด้วยเสียงแต่กลับให้ความรู้สึกที่สะดวกสบายอย่างบอกไม่ถูก มันคือสิ่งที่กระชากคุณจากโลกแห่งความเป็นจริง แล้วดึงให้คุณจมไปสู่มิติที่เต็มไปด้วยเสียงที่จะโอบกอดคุณอย่างสุขสบาย 

แน่นอนว่าหูฟังที่สามารถทำอะไรแบบนั้นได้ย่อมมีอยู่มากโข ขึ้นอยู่กับราคา ความสามารถ และความถนัดของแต่ละแบรนด์และรุ่นที่จะแตกต่างกันออกไป แต่ในบทความนี้ The People ได้มีโอกาสลองกับหูฟังตัวหนึ่ง ที่อยู่ในขอบเขตของราคาที่ไม่มากจนเกินไป แต่กลับให้ความรู้สึกในแบบที่เราได้เอ่ยถึงไปก่อนหน้าได้อย่างน่าสนใจ

ด้วยเหตุนี้ หลังจากที่เราได้ทดลองใช้หูฟังที่ว่าแล้ว The People จึงอยากลองหยิบยกมาเล่าสู่กันฟัง ว่าเรารู้สึกอย่างไรบ้างกับหูฟังที่ว่านี้

และเรากำลังพูดถึง ‘Quiet Storm’ จาก Argon Audio

 

ของดีจาก Denmark

เมื่อกล่าวถึง Argon Audio ผู้เขียนเชื่อว่าคงไม่คุ้นหูใครหลายคนมากนัก เมื่อเทียบกับแบรนด์อื่น ๆ ในท้องตลาด โดยเฉพาะถ้าเป็นประเทศไทย โดย Argon Audio เป็นแบรนด์เครื่องเสียงจากประเทศเดนมาร์ก ที่ไม่ได้ขายเพียงแค่หูฟัง (Headphones) แต่ยังรวมไปถึง เครื่องสตรีมมิง (Streamer) เทิร์นเทเบิลส์ (Turntables) ลำโพง (Subwoofers) และอื่น ๆ อีกมากมาย ซึ่งทุก ๆ สินค้าจะถูกออกแบบและผลิตขึ้นในสไตล์แบบสแกนดิเนเวีย ซึ่งก็คือสไตล์ ‘มินิมอล’ (Minimalistic) ที่เน้นน้อย ๆ แต่ให้กลับคืนไปมาก ๆ

Quiet Storm ก็เป็นหนึ่งในสินค้า 3 รุ่นในหมวดหูฟังของพวกเขานั่นเอง ซึ่งในอีก 2 รุ่นก็จะประกอบไปด้วย ‘IE20’ ที่เป็นหูฟังแบบอินเอียร์ไร้สาย (Wireless In-ear) และ ‘SOUL3’ ที่จะเป็นหูฟังฟูลไซซ์ไร้สายเฉกเช่นเดียวกับ Quiet Storm 

แต่ในบรรดาสินค้าทั้งสามรุ่นในหมวดหูฟัง ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ารุ่นที่โดดเด่นที่สุดคือ Quiet Storm ที่เป็นหูฟังฟูลไซซ์ไร้สาย ที่มาพร้อมกับฟังก์ชัน Active Noise Cancellation (ANC) ที่จะช่วยตัดเสียงรบกวนจากภายนอกออก เพื่อให้ผู้ฟังสามารถดื่มด่ำกับเสียงดนตรีที่พวกเขาเลือกสรรมาบรรเลงในหูฟังของเขาอย่างถึงรสที่สุด

ทั้งยังมีความถึกทนของแบตเตอรี่ที่สามารถฟังต่อเนื่องได้ยาวนานสูงสุดกว่า 30 ชั่วโมง และยังมาพร้อมกับไดรเวอร์ไดนามิก 40 มม. ที่ช่วยยกระดับคุณภาพของเสียงขึ้นมาอีกขั้น และอีกมากมาย ทั้งหมดที่ว่ามานี้ จึงทำให้ The People เลือกที่จะหยิบ Quiet Storm มาลองใช้และเล่าสู่กันฟังว่าเรามีความรู้สึกอย่างไรบ้าง 

รูปทรงและการออกแบบ

มีอยู่หลายครั้งที่ผู้เขียนเลือกที่จะไม่ใช้หูฟังแบบฟูลไซซ์ที่เป็นการครอบทั้งหูและเลือกที่จะใช้แบบอินเอียร์แทน ไม่ใช่เพราะหลงใหลคุณภาพเสียงแบบอินเอียร์มากกว่า แต่เป็นเพราะความสะดวกสบายในการสวมใส่ หลายครั้งหูฟังแบบฟูลไซซ์ แม้จะมีแพดฟองน้ำรองรับหูและบริเวณรอบหูทั้งสองข้าง แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าแรงบีบเหล่านั้นทำให้การสวมใส่ไม่สะดวกสบายเอาเสียเลย โดยเฉพาะเมื่อต้องสวมใส่เป็นระยะเวลานาน ๆ 

แต่เมื่อได้ลอง Quiet Storm ต้องบอกตามตรงว่าแม้จะเป็นหูฟังฟูลไซซ์ แต่ด้วยคุณภาพและขนาดของแพดฟองน้ำ รวมถึงหนังที่หุ้มอยู่ชั้นนอกทำให้การสวมใส่รู้สึกนุ่มสบาย ไม่รู้สึกถูกบีบจนเกิดความเจ็บปวดเลยแม้แต่น้อย จึงทำให้การสวมใส่หูฟังแบบฟูลไซซ์ในครั้งนี้ ไม่เพียงแค่ไม่รู้สึกปวด แต่รู้สึกได้ดื่มด่ำกับเสียงดนตรีอย่างเต็มที่ จากการที่เนื้อฟองน้ำได้แนบชิดติดบริเวณรอบ ๆ หูอย่างดีเยี่ยม

นอกจากนั้นแล้วตรงบริเวณขาของหูฟังก็สามารถปรับขนาดความยาวเป็นขั้น ๆ ได้ตามความเหมาะสม ทั้งยังสามารถพับเก็บใส่กระเป๋าเก็บแบบพกพาได้อย่างคล่องตัว

มาถึงในเรื่องของการออกแบบและการใช้งานต่าง ๆ ในบริเวณด้านขวาของตัวหูฟังก็จะมีปุ่มอยู่จำนวน 4 ปุ่มให้เราเลือกปรับ ในปุ่มแรกก็จะเป็นการปรับไปมาระหว่างโหมด ANC หรือโหมด Ambient ที่จะเป็นการรับเสียงจากภายนอก, สองปุ่มต่อมาก็จะเป็นปุ่มเพิ่ม-ลดเสียง ที่ถ้าหากกดค้างก็จะสามารถเป็นการข้ามไปเพลงถัดไปหรือย้อนไปเพลงก่อนหน้าได้อีกด้วย และในส่วนสุดท้ายก็จะเป็นปุ่มเปิด-ปิดนั่นเองครับ 

และก็ยังมีซ็อคเก็ตเพื่อเชื่อมต่อสาย AUX (ที่มีมาให้) โดยตรงในฝั่งขวาอีกด้วย และในส่วนของฝั่งซ้ายก็จะเป็นช่องเสียงสาย Type-C เพื่อใช้ชาร์จ นอกจากนั้นแล้วก็ยังมีไมโครโฟนที่ติดมาให้กับตัวหูฟังอีกด้วย แต่คุณภาพของเสียงอาจจะไม่ได้ดีมากนัก แต่ก็สามารถสื่อสารได้รู้เรื่อง เหมาะสำหรับใช้ในการคุยโทรศัพท์ระหว่างสวมใส่หูฟังอยู่นั่นเอง

 

คุณภาพของเสียงและการใช้งาน

ความน่าสนใจแรกของ Quiet Storm ก็คงต้องยกให้กับโหมด Active Noise Cancellation หรือ ANC ที่ทำออกมาได้น่าสนใจในราคานี้ เพราะมันช่วยตัดเสียงรอบข้างออกไป - แม้จะไม่ได้สมบูรณ์ - ในระดับที่ใช้ได้เลยทีเดียว ในขณะเดียวกันก็จะมีโหมด Ambient ที่จะเป็นการดูดเสียงภายนอกเข้ามาภายในหูฟังด้วย แต่ฟังก์ชันการทำงานของโหมดนี้ก็ไม่ได้โดดเด่นจนน่าสนใจขนาดนั้น แต่ก็ตอบโจทย์ในจุดประสงค์ของมันเองได้อย่างไม่มีปัญหาขัดข้องใด ๆ 

ในเชิงคุณภาพของเสียง ก็เป็นความนุ่มนวลแต่ทรงพลัง โดยเฉพาะกับลักษณะความเด่นของเสียงเบส ที่ไม่ได้เน้นหนักด้านความทุ้ม แต่ยังให้ความสำคัญกับรูปทรงโน้ตเบสที่ทำให้เสียงดนตรี ไม่เพียงแค่มีฐานที่แน่นขึ้น แต่ยังเพิ่มมิติที่น่าค้นหาให้กับเพลงต่าง ๆ ได้อย่างน่าสนใจ 

ในด้านของขนาดเวทีเสียงก็มีความกว้างอย่างน่าสนใจ ไม่ทำให้การฟังนั้นอึดอัด ทั้งยังสามารถถ่ายทอดรายละเอียดของดนตรีได้อย่างดี โดยเฉพาะกับเครื่องดนตรีต่าง ๆ ที่นำมาผสานรวมกัน แต่ก็ไม่ได้ถูกกลืนหายไป แต่อาจจะไม่เหมาะมากนักสำหรับคนที่ชอบในดนตรีหนัก ๆ แต่เหมาะกับคนที่ชอบฟังดนตรีด้วยเสียงและอารมณ์ที่นุ่มนวลและละเอียดอ่อนมากกว่า

พลังของแบตเตอรี่ก็เป็นอีกจุดหนึ่งที่น่าสนใจไม่แพ้กันสำหรับ Quiet Storm เพราะหากชาร์จเต็ม ๆ ก็สามารถใช้งานได้ยาวเฉลี่ยกว่า 25 ชั่วโมงเลยทีเดียว (แม้จะมี Maximum ที่ 30 ชั่วโมงก็ตาม) ซึ่งถือว่าเป็นหูฟังที่มีความจุแบตอยู่ในระดับที่ทนทาน ทั้งยังมีคุณสมบัติการชาร์จที่ค่อนข้างเร็ว เพียงแค่ชาร์จไปไม่เกิน 10 นาที ก็จะสามารถใช้งานได้ต่อในช่วงระยะเวลาที่นานพอสมควร

แม้ Quiet Storm อาจจะไม่ได้เป็นหูฟังที่คุณภาพดีเลิศ พิเศษเหนือหูฟังคุณภาพอื่น ๆ ในท้องตลาด แต่ด้วยราคาไม่เกิน 7,000 บาท เทียบกับฟังก์ชันและคุณภาพที่ได้รับ Quiet Storm ก็ถือว่าเป็นหูฟังที่น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นลักษณะที่นุ่มนวล เงียบสงบ แต่เปี่ยมไปด้วยพลัง กับฟังก์ชันต่าง ๆ ที่ใช้ง่าย และสามารถสวมใส่ได้อย่างสบายหู Quiet Storm ก็ถือเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับใครสักคนที่อยากจะหาหูฟังคุณภาพมาลองใช้ ภายในงบที่ไม่เกินหมื่นนั่นเองครับ