24 ส.ค. 2566 | 13:10 น.
ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ผู้เขียนเชื่อว่าหลายคนคงได้ยินข่าวการเคลื่อนกำลังพลของกลุ่มทหารรับจ้าง (Private Military Company - PMC) ‘วากเนอร์’ มาพร้อมอาวุธครบมือ กำลังออกป่วนภาคใต้ของรัสเซีย แต่ความวุ่นวายที่เกิดขึ้นกลับสงบลงภายในเวลาไม่ถึง 24 ชั่วโมง
แถมผู้นำการก่อกบฎอย่าง ‘เยฟเกนี ปรีโกซิน’ (Yevgeny Prigozhin) ได้ประกาศเนรเทศตัวเองไปอยู่เบลารุสโดยไม่ต้องรับโทษใด ๆ จากการระดมกำลังทหารออกมาก่อกบฎ จนทำให้ผู้ที่ติดตามข่าวสารจากแดนไกล ถึงกลับปรับตัวไม่ทัน ว่าสรุปแล้วรัสเซียกำลังเผชิญหน้ากับอะไรกันแน่
ถึงจะเป็นข่าวดีที่ไม่เกิดเหตุนองเลือดในแดนหมีขาว แต่การที่ปรีโกซินไม่ต้องรับโทษประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 279 ว่าด้วยการก่อกบฏนั้น ก็ได้เป็นข้อพิสูจน์ชั้นเลิศแล้วว่า ความสัมพันธ์ระหว่างเขา และประธานาธิบดีรัสเซีย ‘วลาดิมีร์ ปูติน’ (Vladimir Putin) ยังคง ‘รักกัน’ อย่างเหนียวแน่น แม้การประกาศเลือกเข้าข้างกองทัพหลัก (กลาโหมรัสเซีย) ของปูตินจะทำให้คนสนิทอย่างเขา ช้ำใจไม่น้อยก็ตาม
แต่กว่า เยฟเกนี ปรีโกซิน จะก้าวขึ้นมามีอำนาจคุมวากเนอร์ กลุ่มทหารที่ขึ้นชื่อว่าไม่ดุร้ายไม่ต่างกับสัตว์ป่า และพร้อมทำทุกวิถีทางเพื่อปลิดชีพเป้าหมาย ราวกับหลุดมาจากยุคไวกิ้ง ปรีโกซินเคยเป็นนักเขียนหนังสือนิทานเด็กมาก่อน แม้ว่าในความจริงแล้ว เขาฝันอยากจะเป็นนักกีฬาสกีก็ตาม
และนี่คือเรื่องราวของเขา ชายผู้กรีฑาทัพเข้าสู่เมืองหลวงของรัสเซีย ก่อนจะเนรเทศตัวเองไปพักใจ ณ เบลารุส
ก่อนจะเป็นวายร้าย
เยฟเกนี ปรีโกซิน เกิดวันที่ 1 มิถุนายน 1961 เป็นชาวเมืองเลนินกราด (Leningrad) ปัจจุบันคือเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก (Saint Petersburg) พ่อเสียชีวิตตั้งแต่ยังเด็ก ผู้เป็นแม่เลยต้องทำงานควบกะในโรงพยาบาล เพื่อหาเลี้ยงเขา ก่อนที่เธอจะแต่งงานใหม่กับ ซามูอิล ซาคอย (Samuil Zharkoy) โค้ชสอนสกี
ความฝันวัยเด็กของเขาจึงหนีไม่พ้นอยากเป็นนักสกีเหมือนกับพ่อเลี้ยง ปรีโกซินมุ่งมั่นเดินตามเส้นทางนี้มาโดยตลอด เขาเข้าเรียนที่โรงเรียนกีฬาหมายเลข 62 ซึ่งเป็นโรงเรียนประจำที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของโซเวียต แต่ดูเหมือนว่าเส้นทางฝันจะดูห่างจากความจริงมากนัก เขาล้มเลิกความฝันที่จะเป็นนักกีฬาสกี ก่อนจะหันไปก่ออาชญากรรม เริ่มลักเล็กขโมยน้อย กระทั่งถูกจับในปี 1979 ได้รับโทษจำคุกสองปีข้อหาลักทรัพย์
นอกจากความชอบในกีฬาแล้ว เขายังเป็นหนอนหนังสือตัวยง เพื่อนร่วมหอพักของเขามักจะเห็นปรีโกซินอ่านหนังสืออยู่เสมอ ตอนที่เขาติดคุกเพื่อนร่วมห้องขังก็มักจะเห็นปรีโกซินอ่านหนังสือแทบทั้งวัน โดยเฉพาะหนังสือแนววิทยาศาสตร์
แม้ว่าปรีโกซินจะไม่สร้างปัญหาให้เพื่อนร่วมห้องขังและผู้คุม แต่ดูเหมือนว่าการติดคุกครั้งแรกได้หล่อหลอมให้ชายคนนี้ กลายเป็นอาชญากรชั้นยอด หลังพ้นโทษเขาก็ออกมาก่อเหตุครั้งแล้วครั้งเล่า ทั้งดักปล้นชิงทรัพย์ผู้หญิง ลงมือร่วมกับเพื่อนอีก 3 คน ไปจนถึงทำร้ายร่างกายเหยื่อจนได้รับบาดเจ็บสาหัส
ปรีโกซินถูกตัดสินจำคุกเป็นเวลา 12 ปี แต่ประพฤติตัวดีเลยได้รับการปล่อยตัวก่อนเวลากำหนด พ้นโทษในปี 1990 เมื่อได้รับอิสรภาพเขาไม่ได้ออกมาก่อเหตุซ้ำเหมือนครั้งแรก เพราะครั้งนี้เขาเลือกที่จะเรียนต่อที่สถาบันที่มีชื่อเสียงด้านเภสัชศาสตร์ของเลนินกราดแทน แต่ก็เรียนไม่จบ เลยหันมาเป็นคนขายฮอตดอกแทน
เชฟของปูติน
จากคนขายฮอตดอก ปรีโกซินเริ่มมองเห็นลู่ทางในการทำเงิน เขาเริ่มศึกษาการทำธุรกิจอย่างจริงจัง ชักชวนพ่อเลี้ยงให้มาร่วมลงทุนเปิดร้านอาหาร ขณะเดียวกันโชคก็เข้าข้างชายคนนี้มากขึ้นเรื่อย ๆ เขาได้รับข้อเสนอทางธุรกิจจากอดีตเพื่อนสมัยเรียนให้มาดูแลเฟรนไชส์ซูเปอร์มาเก็ต และได้ถือหุ้นอีกราว 15% ของบริษัท
ในปี 1995 ปรีโกซิน เปิดร้านไวน์บาร์ และอีกหนึ่งปีต่อมาเขาก็เปิดร้านอาหาร Old Customs House จนได้รับการยกย่องว่าเป็นร้านอาหารชั้นยอดแห่งแรกของเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก จากนั้นก็เปิดร้านอาหารอีก 3 แห่ง Русский китч, Сеть сорок และ Блин!дональт’s
ก่อนชื่อเสียงของเขาจะเป็นที่ยอมรับระดับประเทศในปี 2001 หลังจากประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน ขึ้นมารับตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยแรก โดยมีแขกคนสำคัญอีกหนึ่งคนที่มาร่วมทานอาหารที่ร้านของปรีโกซิน นั่นคือ ฌาคส์ ชีรัก (Jacques Chirac) ประมุขแห่งฝรั่งเศส และอีกหนึ่งปีต่อมาปูตินก็ได้มาเยือนร้านนี้อีกครั้ง และเลือกให้เป็นที่รับรองประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุช แห่งสหรัฐฯ
จากเจ้าของร้านอาหาร เขาเริ่มมีความใกล้ชิดสนิทสนมกับประธานาธิบดีรัสเซียมากขึ้นเรื่อย ๆ จนได้รับโอกาสมากมายนับไม่ถ้วน ตั้งแต่ได้รับสัญญาจัดหาอาหารให้โรงเรียน ณ เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก และกรุงมอสโก รวมไปถึงดูแลอาหารการกินของทหารรัสเซีย
แม้จะมีข่าวลือหนาหูว่าอาหารที่ปรีโกซินเตรียมมานั้น มีคุณภาพต่ำเตี่ยเรี้ยดิน แถมยังไม่คุ้มค่ากับราคาที่รัฐบาลต้องจ่าย แต่เขาก็หลุดพ้นข้อกล่าวหาทุกครั้ง อาจเป็นเพราะความใกล้ชิดกับผู้นำแห่งรัฐ ทำให้เขากลายเป็นบุคคลสำคัญที่ใครต่างก็เลี่ยงที่จะมีปัญหาด้วย
ปรีโกซินกลายเป็นมหาเศรษฐีพันล้าน ร่ำรวยจากสัมปทานภาครัฐ พ่วงด้วยตำแหน่งคนสนิทของปูติน เส้นทางชีวิตที่เหมือนฝันเสียจนคงไม่มีอะไรที่ชายคนนี้ทำไม่ได้อีกแล้ว แต่กลับเป็นหนึ่งในผู้มีอิทธิพลที่รัฐบาลสหรัฐฯ หมายหัว เพราะมีหลักฐานว่าปรีโกซินแทรกแซงการเลือกตั้งสหรัฐฯ ในปี 2016 ซึ่งขณะนั้น โดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump) เป็นผู้ชนะการเลือกตั้ง
ปรีโกซินถูกสหรัฐฯ คว่ำบาตรในปี 2018 ตามมาด้วยอังกฤษ และประเทศยุโรปอื่น ๆ ตั้งแต่ปี 2020 เป็นต้นมา
สายสัมพันธ์อันแนบแน่น ทำให้ชายคนนี้เริ่มมองหาลู่ทางในการประกอบธุรกิจใหม่ จนได้มารู้จักกับ ‘ดมิทรี อุตคิน’ (Dmitry Utkin) อดีตทหารพลร่มแห่งกองทัพรัสเซีย ผู้ก่อตั้ง ‘วากเนอร์’ และนั่นคือจุดเริ่มต้นของกลุ่มทหารคลั่งแห่งรัสเซีย ที่เขาตั้งกฎขึ้นมาอย่างเคร่งครัดว่า “อย่าดื่มเหล้ามากเกินไป อย่าใช้ยา อย่าข่มขืนผู้หญิง และอย่าสูบบุหรี่”
ส่วนวากเนอร์ได้รับเงินทุนจากไหนนั้น ปรีโกซินได้ตอบคำถามนี้กับนักข่าวไว้ว่า “วากเนอร์ได้รับทุนจากหยาดน้ำตาและความทุกข์ทรมานของระบอบประชาธิปไตยตะวันตก”
นักเขียนนิทาน
แม้จะขึ้นชื่อว่าเป็น ‘นายทุนใหญ่’ แห่งวากเนอร์ แต่ก่อนหน้านั้นในปี 2003 ปรีโกซินเคยเป็นนักวาดและเขียนนิทานเด็กมาก่อน เขาเขียนเรื่อง Indraguzik นิทานผจญภัยในโลกเวทมนต์ที่มีความยาวเกือบ 90 หน้า
The Moscow Times ระบุว่านิทานของปรีโกซินตีพิมพ์เพียงไม่กี่พันเล่มและมีแนวโน้มว่าจะไม่วางขาย ขณะที่บางแหล่งระบุว่าหนังสือของเขาไม่ได้รับการตีพิมพ์ โชคดีที่ The Moscow Times สามารถหาซื้อมาได้ พร้อมกับเขียนระบุไว้ในเนื้อข่าวอีกด้วยว่า งานเขียนของปรีโกซินค่อนข้างน่าเบื่อ
ขณะที่ ‘คอนสแตนติน คาลาโชฟ’ (Konstantin Kalachev) ผู้เชี่ยวชาญด้านการเมืองของรัสเซีย มองว่างานเขียนของเขาสนุกไม่น้อย และจากการอ่านนิทานของปรีโกซินทำให้เขาเห็นอะไรบางอย่างที่ซ่อนอยู่ในตัวชายคนนี้
“เขาเหมือนกระจกสะท้อนเรื่องราวในอดีต
“ปรีโกซินเป็นคนที่มีความสามารถ มุ่งมั่นที่ทำเปลี่ยนสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ให้เป็นไปได้ หากเป็นเมื่อก่อนเขาคงเป็นคนดีคนหนึ่ง แต่เมื่อยุคสมัยเปลี่ยนผ่าน นิยามของ ‘คนดี’ ก็เปลี่ยนไป และนั่นทำให้เขากลายเป็น ‘คนชั่ว’ แห่งยุค”
ภาพ: Getty Images
อ้างอิง
https://secretmag.ru/enciklopediya/evgenii-prigozhin.htm
https://lenta.ru/tags/persons/prigozhin-evgeniy/
https://www.nytimes.com/2023/06/27/us/politics/russian-general-prigozhin-rebellion.html