***คำว่า “เพนกิ้น” เป็นการเขียนจากชื่อเฉพาะที่ไข่มุกชอบใช้ในโพสต์ส่วนตัว ในสารคดี Girls Don’t Cry ไข่มุก BNK48 วรัทยา ดีสมเลิศ เป็นคนหนึ่งที่มีความน่าสนใจ ไข่มุกเล่าว่าในช่วงแรกของวง ตัวเองไม่ได้เป็นกลุ่มคนที่ถูกเลือก หรือที่เรียกว่าเป็นเซมบัตสึ แต่ก็พยายามผลักดันเพื่อที่จะขยับขึ้นมาเป็นหนึ่งในกลุ่มคนเหล่านั้นได้ตั้งแต่ซิงเกิ้ลแรก "Aitakatta อยากจะได้พบเธอ" สิ่งที่ทำให้เธอโดดเด่นกว่าคนอื่นคือสไตล์สาวหวานสไตล์ญี่ปุ่น ซึ่งจริตบางอย่างนั้นมีทั้งคนที่อาจจะชอบและไม่ชอบ ความทุ่มเทของไข่มุก เราเห็นได้ตั้งแต่การเลือกตัดสินใจลาออกจากคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี เพื่อมุ่งมั่นในการเป็นไอดอล เพราะคณะสถาปัตย์ฯ นั้นเป็นหนึ่งในคณะที่มีการเรียนและงานคณะที่ค่อนข้างจะหนักหน่วง ไข่มุกเคยเล่าในรายการทอล์กโชว์ครั้งหนึ่งว่า ครอบครัวของเธอที่เป็นคนจีนได้ไปดูดวง และมองว่าลูกสาวคนนี้จะเติบโตเป็นคนที่มีชื่อเสียงและประสบความสำเร็จ เลยได้รับการผลักดันจากครอบครัวเจ้าของธุรกิจเจ้าใหญ่ในเยาวราชอย่างเต็มที่ ไข่มุกเล่าว่าจริง ๆ คุณแม่เองที่อยากเป็นดารา แต่ต้องทำธุรกิจเลยไม่สามารถเป็นได้ เลยฝากความหวังไว้ที่ลูกสาวเหมือนพล็อตหนังญี่ปุ่น แต่เธอเองตอนนั้นก็ยอมรับว่าเกเร ไม่ยอมตั้งใจเรียนร้องเพลงและเต้น ทำให้เสียดายโอกาส เมื่อก้าวเข้าสู่ BNK48 จึงเหมือนว่าเธอเริ่มต้นนับจากศูนย์ บุคลิกของความเป็น “คุณไข่” ของแฟน ๆ นั้นมีที่มาจากการเริ่มทำรายการของตัวเองผ่าน Official Facebook ตั้งแต่ที่ BNK48 ยังไม่โด่งดังมีรายการของตัวเองมากมายขนาดนี้ โดยเป็นรายการทำอาหารสไตล์วาไรตี้ เรียกได้ว่าดิ้นรนด้วยตัวเองในการสร้างความประทับใจให้กับแฟน อีกทั้งยังเป็น “ขวัญใจตู้ปลา” หรือดิจิทัลไลฟ์สตูดิโอ ที่ได้สื่อสารกับแฟน ๆ อย่างใกล้ชิด แต่เธอก็ยอมรับว่าบุคลิกสาวหวานของเธอเป็นอุปสรรคเช่นกัน โดยเฉพาะถ้าต้องเป็นเพลงที่เต้นหนัก ๆ ก็อาจจะไม่ได้รับเลือก (อาจจะหมายถึงเพลง RIVER ที่เธอไม่ติดเซมบัตสึ) และด้วยบุคลิกแบบนั้นเองทำให้หลายครั้งเป็นเป้าโจมตีของคนที่ไม่ชอบหรือไม่เข้าใจ ตั้งแต่กรณีรายการ “ดาวินชี เกมส์ถอดรหัส” กับคำตอบเรื่อง “อ๊บไสไม้” ที่กลายเป็นประเด็นในโลกโซเชียลว่าเธอตอบเป็นมุก เป็นคาแรกเตอร์หรือไม่รู้จริง ๆ ในกรณีนั้นกำลังใจจากแฟนคลับทำให้เธอผ่านพ้นมาได้ ก่อนที่จะมาถูกโจมตีในกรณี “เพนกิ้นบด ก็คือคนไม่รักดี” ที่ลักษณะวิธีการพูดแบบใส ๆ ของเธอ มีคนไม่ถูกจริต แต่เธอก็เลือกที่จะไม่ตอบโต้แต่อย่างใด ความห่วงใยที่เธอมีให้กับแฟนก็เช่น การที่พยายามบอกแฟน ๆ ที่สนับสนุนเธอในการเลือกตั้งว่าสนับสนุนเท่าที่ไหวนะ ไม่อยากให้ต้องลำบากเพราะเธอ และเธอก็พอใจกับตำแหน่งที่แฟน ๆ ได้ตั้งใจมอบให้ ภายนอกที่ดูอ่อนหวาน แต่ข้างในไข่มุกนั้นดูแข็งแกร่ง เธอเคยให้สัมภาษณ์กับเดลินิวส์ว่า ที่เธออยู่กับ BNK48 ก็เพราะว่าอยากจะยกระดับวงให้ไปสู่ระดับแมสให้ได้ ซึ่งเธอก็สามารถทำได้แล้ว และเป้าหมายของเธอในวงก็คือการก้าวขึ้นเป็นเซนเตอร์สักเพลงหนึ่งที่มีลักษณะเหมาะกับบุคลิกของเธอ หรือในงานจับมือ ปัญหาของไข่มุกก็คือเธอยอมรับว่าเธอเป็นคนพูดไม่ค่อยเก่งแต่เธอก็ต้องทำเต็มที่ และแคร์ความรู้สึกแฟน ๆ มาก ก่อนหน้านี้เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาเคยมีกรณีพิพาทเมื่อแฟนเพลงของเธอกลุ่มเล็ก ๆ กลุ่มหนึ่ง ตะโกนแซวเธอว่าจะไม่สนับสนุนเธอแล้ว หรือเดินเข้ามาบอกเธอว่าจะไปสนับสนุนคนอื่น ทำให้เธอรู้สึกเสียใจในคำพูดดังกล่าว เรื่องนี้ค่อนข้างสอดคล้องกับสิ่งที่อดีตเมมเบอร์ของ AKB48 อย่าง นิชิโนะ มิกิ อดีตสามทหารเสือรุ่นที่ 14 เคยเล่าว่า ปัญหาหนึ่งคือในหมู่เมมเบอร์ไอดอลด้วยกันหลายคนเองมีแนวโน้มที่มีปัญหาด้านอาการทางจิตใจ เนื่องจากต้องแบกรับความกดดัน คำวิจารณ์และการแข่งขัน ในส่วนนี้ควรจะต้องมีการจัดบริการด้านการให้คำปรึกษาทางจิตใจเพื่อสนับสนุนเมมเบอร์ จนมากระทั่งกรณีล่าสุดเมื่อเธอเขียนความในใจระบายสิ่งที่เธอมาตลอดว่าเผชิญกับสภาวะ Trauma จากการ cyber bullying โดยเธอยกตัวอย่างจากภาพยนตร์แอนิเมชั่น Ralph Breaks the Internet ที่ว่า กฎของโลกอินเทอร์เน็ตคือการอย่าไปอ่านไปรับรู้คอมเมนต์ที่ทำให้เรารู้สึกบั่นทอน การที่ไข่มุก ที่เงียบสงบกับกระแสการโจมตีทางโลกออนไลน์มานาน และลุกขึ้นมาพูดว่าพร้อมจะยืนเคียงข้างคนที่โดน cyber bullying แบบที่เธอเผชิญนั้นเป็นการกระทำและกล้าหาญและแข็งแกร่ง เธอกล่าวว่า "อยากฝากถึงคนที่ประสบพบเจอปัญหาเดียวกับคุณไข่ ถึงแม้จะมีคนมากมายมองหาจุดด้อย และข้อเสียในตัวเรา แต่ขอแค่อย่างน้อยตัวเราเท่านั้นที่ยังเห็นคุณค่า และความดีในตัวเอง อย่าให้คำพูดไม่ดีพวกนั้นมากดแสงสว่างในตัวเองอีกเลย ขอแค่ทุกคนยังมองเห็นแสงสว่างในตัวเองนะคะ" ไข่มุกในวันนี้ เธอได้กลายเป็น “เพนกิ้นที่แข็งแรง” ในแบบที่เธอได้ให้สัญญากับแฟน ๆ ไว้แล้วว่า “ต่อจากนี้คุณไข่จะขอต่อสู้เพื่อสิทธิความเป็นมนุษย์ของตัวเองบ้าง มันหลายครั้งแล้วและอดทนมานานมาก ๆ คุณไข่ไม่เคยทำร้ายใครก่อน” เรื่อง: RicchanSama ภาพ: PEE Photograph