ฮงซอกชอน : คัมเอาต์ว่าตัวเองเป็นเกย์ในปี 2000 จนหายไปจากหน้าจอ 3 ปี

ฮงซอกชอน : คัมเอาต์ว่าตัวเองเป็นเกย์ในปี 2000 จนหายไปจากหน้าจอ 3 ปี

ฮงซอกชอน เกย์เกาหลีใต้ที่เลือกประกาศคัมเอาต์กลางรายการวาไรตี้เมื่อปี 2000 เพราะเชื่อว่าการก้าวสู่ศตวรรษใหม่จะทำให้โลกยอมรับความเป็นตัวเอง แต่สุดท้ายสังคมเกาหลีใต้หันหลังให้ เขาหายจากหน้าจอไป 3 ปี ก่อนจะได้กลับมารันวงการอีกครั้ง

KEY

POINTS

  • ฮงซอกชอนค้นพบว่าตัวเองแตกต่างจากคนอื่นตั้งแต่เรียนชั้นประถม
  • เขาเข้าวงการปี 1995 และคัมเอาต์ว่าเป็นเกย์ในปี 2000 กลางรายการวาไรตี้ หายจากหน้าจอไป 3 ปี
  • ฮงซอกชอนยังเป็นไอคอนของย่านอิแทวอน จุดเปลี่ยนที่ทำให้เขากลับมาในวงการบันเทิงได้

ถึงเกาหลีใต้จะประสบความสำเร็จในเรื่องอุตสาหกรรมบันเทิงและเทคโนโลยี พุ่งทะยานตัวเองจากประเทศยากจนสู่ประเทศพัฒนาแล้วในระยะเวลา 50 ปี แต่ถ้าพูดถึงคุณภาพชีวิต ก็ยังมีกลุ่มคนที่ถูกทิ้งไว้ข้างหลัง

หนึ่งในนั้น คือ กลุ่ม LGBTQ 

ด้วยระบบแนวคิดและความเชื่อจากขงจื๊อ ชายหญิงเป็นของคู่กัน การมีเพศที่ 3 ขึ้นมาจึงเป็นสิ่งที่ยอมรับได้ยาก

แต่กลับมีหนึ่งคนที่ลุกขึ้นมาประกาศชัดเจนกลางรายการวาไรตี้ว่า ‘ฉันเป็นเกย์’ คนคนนั้น คือ ‘ฮงซอกชอน’ นายแบบ นักแสดง พิธีกร และเจ้าของธุรกิจ ในปี 2000 ปีแรกที่โลกกำลังเข้าศตวรรษที่ 21

จากคนที่สังคมหันหลัง กลายเป็นคนที่มีผู้คนโอบล้อมและมอบรอยยิ้มให้ และยึดมั่นในความเชื่อของตัวเองที่พยายามสื่อสารกับสังคมว่า “เราไม่ได้แตกต่างกันขนาดนั้น… เราไม่ใช่มนุษย์ต่างดาวจากจักรวาลอื่น”

ฮงซอกชอน : คัมเอาต์ว่าตัวเองเป็นเกย์ในปี 2000 จนหายไปจากหน้าจอ 3 ปี

ฮงซอกชอน ผู้กุมความลับไว้ในใจ 

จริง ๆ แล้ว ฮงซอกชอนรู้ว่าตัวเองแตกต่างจากเพื่อนวัยเดียวกัน ตั้งแต่ชั้นประถม แต่ด้วยสภาพแวดล้อมและสังคม ณ ตอนนั้น ทำให้เขาต้องกดความเป็นตัวเองเอาไว้

ในรายการ Talking Street ฮงซอกชอนพูดถึงอดีตของตัวเองว่า วัยเด็กเขามักเล่นกับเพื่อนผู้หญิง เริ่มตั้งคำถามกับตัวเองตั้งแต่ชั้นประถม ใจเต้นกับผู้ชายมากกว่าผู้หญิง

“ฉันเริ่มรู้ว่าตัวเองเป็นใคร ตอนเรียนชั้น ป.4 แต่มันต้องใช้เวลา ฉันเคยมีแฟนเป็นผู้หญิงตอนเข้ากรมทหาร แต่ฉันใจเต้นแรงกับผู้ชายมากกว่าผู้หญิง ฉันเลยตัดสินใจที่จะทำตามใจตัวเอง”

เรื่องความรู้สึกภายในก็ส่วนหนึ่ง แต่เขาก็ฝันและสนใจงานแสดง ฮงซอกชอนให้สัมภาษณ์กับ The Hanyang Journal เมื่อปี 2017 ปีก่อนว่า เขาสนใจงานแสดงมาตลอด ไม่รอโอกาส แต่พยายามคว้าฝัน และทำทุกอย่างด้วยตัวเอง

“สมัยนั้น คนที่รับบทนำเท่านั้นที่จะมีชื่อเสียง ฉันจึงไม่รอโอกาส แต่ค้นหาโอกาสด้วยตัวเอง นี่จึงเป็นเหตุผลที่ฉันไปออดิชันงานโฆษณาตอนเรียน และไม่เคยเสียใจกับสิ่งที่ทำลงไป เพราะประสบการณ์ในวันนั้นทำให้ฉันเรียนรู้และรับมือกับผู้คนที่หลากหลาย”

หลังจากช่วงแรกในชีวิตผ่านไป เขาก้าวเข้าสู่วงการบันเทิงในฐานะนายแบบมาก่อนที่จะเข้ามาเป็นผู้ประกาศข่าว ซึ่งถือว่าเป็นการปรากฏตัวในโทรทัศน์ครั้งแรก

แล้วเขาก็มาอยู่ในงานแสดงและพิธีกรอย่างเต็มตัว ทั้งนี้ด้วยบุคลิกที่เป็นธรรมชาติ ดูเป็นผู้นำ ทำให้ชื่อ ‘ฮงซอกชอน’ ถูกแสตมป์ไว้ในใจของผู้ชมได้อย่างง่ายดาย

ชีวิตที่กำลังอยู่ในช่วงขาขึ้นต้องหยุดชะงัก เมื่อเขาตัดสินใจประกาศกลางรายการทีวีและแมกกาซีนว่า ‘เขาเป็นเกย์’ ในปี 2000

ฮงซอกชอน : คัมเอาต์ว่าตัวเองเป็นเกย์ในปี 2000 จนหายไปจากหน้าจอ 3 ปี

คัมเอาต์ ประกาศให้โลกรู้ในศตวรรษที่ 21

26 กันยายน 2000 คือวันที่ฮงซอกชอนประกาศว่าตัวเองเป็นเกย์

แต่อย่างที่ทุกคนรู้ การเป็นเพศที่ 3 ในเกาหลีใต้ราว 20 กว่าปีก่อนไม่ใช่เรื่องง่าย ฮงซอกชอนเล่าถึงช่วงเวลาที่เขาเลือกคัมเอาต์ไว้ในรายการ ‘Showterview with Jessi’ ว่า ปี 1999 ระหว่างที่เขาเป็นพิธีกรรายการ ‘popopo’ รายการโทรทัศน์สำหรับเด็ก สิ่งที่หลายคนถามคือ ‘คุณมีแฟนหรือยัง?’ ‘คุณจะแต่งงานเมื่อไหร่?’ ‘การทำกิจกรรมร่วมกับเด็ก ๆ เป็นเรื่องที่น่ารัก’

และนี่คือสิ่งที่ฮงซอกชอนคิด ณ วันนั้น

“เมื่อฉันคิดตามสิ่งที่คนอื่นพูด ก็ดูเป็นเรื่องที่ดีนะ แต่เมื่อฉันจินตนาการภาพตัวเองในอนาคต ฉันไม่ได้มีแผนที่จะแต่งงาน ชอบผู้ชาย และมีลูกไม่ได้ มันมีความกังวลหลาย ๆ เรื่อง”

นอกจากนี้ เขาก็ยังเคยต้องยุติความรักครั้งในวัย 20 ปี ด้วยเหตุผลที่เขายังไม่คัมเอาต์ การเลิกราครั้งนั้น คำถามในใจของฮงซอกชอนจึงมากขึ้น 

“ฉันกลับมาคิดว่า ‘อะไรสำคัญสำหรับฉัน เงินหรือความนิยม แล้วฉันเป็นใคร แล้วถ้าปิดบังตัวตนไว้แล้ว เมื่อไหร่ฉันจะมีความสุข’ ผมคิดว่า ‘ถ้าปิดบังไว้แล้วเมื่อไหร่ผมจะมีความสุข’” 

ด้วยเหตุผลทั้งหมดเหล่านี้ ทำให้เขาเลือกจะประกาศคัมเอาต์ ประกาศให้โลกรู้ว่า เขาคือเกย์ในปีที่โลกกำลังก้าวสู่ศตวรรษใหม่ ในวันที่เขาอายุ 30 ปี

ฮงซอกชอน : คัมเอาต์ว่าตัวเองเป็นเกย์ในปี 2000 จนหายไปจากหน้าจอ 3 ปี ในรายการวาไรตี้รายการหนึ่ง แขกรับเชิญถามฮงซอกชอนว่า เขาชอบผู้ชายหรือผู้หญิง เขาก็พูดตรง ๆ ว่า เขาเป็นเกย์ การถ่ายทำยุติลง และช่วงเวลาที่เขาพูดความในใจก็ถูกตัดออกไป 

อีกหนึ่งเรื่องที่ทำให้ฮงซอกชอนกล้าทำในสิ่งที่คนอื่นไม่เคยทำมาก่อน คือ เขาคิดว่าโลกอาจมีการเปลี่ยนแปลง โลกจะยอมรับสิ่งที่เขาเป็น แต่สุดท้ายโลกเกาหลีใต้กลับหันหลังให้เขา

“ศตวรรษที่ 21 เป็นการเริ่มต้นสหัสวรรษใหม่ ฉันคิดว่า ปี 2000 ผู้คนคงจะยอมรับสิ่งที่ฉันเป็น แต่หลังจากคัมเอาต์ โลกก็เหมือนเดิม”

การเป็นตัวเองที่มาพร้อมราคาที่ต้องจ่าย

หลังจากการประกาศว่าตัวเองเป็นเกย์ ฮงซอกชอนถูกถอดออกจากรายการ แต่นั่นก็เป็นสิ่งที่เขาเตรียมตัวมาอยู่แล้ว

หนึ่ง, เขารู้อยู่แล้วว่างานของเขาจะต้องหายไป

“ฉันรู้ดีว่าเส้นทางอาชีพของฉันจะต้องจบลง เหมือนอยู่ดี ๆ ก็มีคนมาทิ้งระเบิดใส่สิ่งที่ฉันทำงานหนักมา วันหนึ่งมันเคยอยู่ตรงนั้น แล้วต่อมาสิ่งนั้นก็หายไป”

สอง, พอนักข่าวติดต่อมาหาฮงซอกชอน เขาก็บอกครอบครัวไว้เลยว่า เขาเป็นเกย์ และกำลังจะมีข่าวของลูกชายคนนี้ออกมา

“ฉันบอกแม่ว่า ฉันเป็นเกย์ แล้วก็จะมีบทความที่ฉันคัมเอาต์ออกมา แม่ฉันถามว่าเกย์แล้วการคัมเอาต์คืออะไร พอบอกแม่ว่า ฉันชอบผู้ชาย เธอบอกว่ามันคือมิตรภาพ” 

ฮงซอกชอน : คัมเอาต์ว่าตัวเองเป็นเกย์ในปี 2000 จนหายไปจากหน้าจอ 3 ปี ส่วนพ่อก็รีบเดินทางจากบ้านเกิดมาโซลเพื่อให้นักข่าวหยุดแพร่ข่าวลูกชาย ถึงปัจจุบันพ่อจะยังไม่ได้เข้าใจในตัวฮงซอกชอน 100% แต่เขาก็หวังว่าลูกชายจะมีความสุขและใช้ชีวิตในฐานะคนธรรมดาคนหนึ่ง

ครั้งหนึ่งพ่อของฮงซอกชอนเคยพูดถึงลูกชายผ่านคลิปวิดีโอว่า “ซอกชอนเป็นลูกชายที่ดี เคารพพ่อแม่ เขามอบความสนุกสนานให้พวกเรา ตอนที่เขาประกาศคัมเอาต์ เหมือนฟ้าถล่มมาที่พวกเรา มันเจ็บปวดและเศร้าที่ลูกชายของเราไม่สามารถแต่งงานได้

“แต่ผมก็หวังว่า ลูกชายของเราจะกลับมาเป็นคนธรรมดา”

และเรื่องสุดท้าย คือ เขาต้องรู้สึกโดดเดี่ยว เหงา และสูญเสียเพื่อน เมื่อเขาประกาศคัมเอาต์

“ฉันคิดว่า ฉันเสียเพื่อนไปมากกว่า 10 คน เมื่อฉันประกาศว่าเป็นเกย์ เพราะสำหรับพวกเขา เรื่องเพศถือว่าเป็นปัญหาใหญ่ มันทำให้ฉันเสียใจที่พูดแบบนั้นออกไป เหมือนพระเจ้าเองก็ทอดทิ้งฉัน”

ยังไม่นับรวมกับการสู้กับภาวะจิตใจและคำพูดจากคนอื่นที่ตัดสินตัวเขา ฮงซอกชอนให้สัมภาษณ์กับ The Seattle Times ว่า เขาต้องเจอคำขู่มากมาย เก็บตัวอยู่ที่บ้าน และคิดอยากฆ่าตัวตาย จากที่ไม่เคยสูบบุหรี่ ก็มาสูบบุหรี่วันละ 3 ซอง

จากที่ไม่มีอะไรเป็นใจเลย เขากลับค้นพบพื้นที่ที่ทำให้เขาได้เป็นตัวเอง และเป็นเพียงคนคนหนึ่งที่ชื่อ ‘ฮงซอกชอน’

ไอคอนแห่งอิแทวอน 

ย่านอิแทวอนเป็นศูนย์รวมความหลากหลาย ทั้งผู้คน ศิลปะ และวัฒนธรรม

ย้อนกลับไปปี 1995 ฮงซอกชอนเพิ่งเรียนจบมหาวิทยาลัย และต้องมาอยู่คนเดียวที่โซล เขาเลือกอิแทวอนด้วยเหตุผลว่า “อิแทวอนมองฉันเป็นแค่คนที่ชื่อว่า ฮงซอกชอน”

พอเขาประกาศคัมเอาต์ไม่ต่างจากมรสุมชีวิตที่เขาต้องผ่านไปให้ได้ ทางเลือกของเขาคือการกลับมาใช้ชีวิตที่อิแทวอน

แล้วช่วงเวลานั้น เขาก็เริ่มเปิดร้าน ‘Our Place’ ที่อิแทวอน ร้านของเขาขาดทุนตลอด 12 เดือนแรกเพราะไม่มีลูกค้า และยังมีลูกค้าบางส่วนมาเพื่อตะโกนสาปแช่ง

ฮงซอกชอน : คัมเอาต์ว่าตัวเองเป็นเกย์ในปี 2000 จนหายไปจากหน้าจอ 3 ปี แต่ปัจจุบันเขาเปิดร้านอาหารเพิ่มอีก 8 ร้านในเวลา 8 ปี จนขึ้นทำเนียบเศรษฐี ถึงอย่างนั้น ร้านอาหารของเขาก็ถึงจุดพลิกผัน เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ร้านอาหารของเขาบนเส้นถนนหลักของอิแทวอนปิดตัวลง สำนักข่าวรายงานข่าวนี้เป็นเวลา 2 สัปดาห์

ฮงซอกชอนจึงคิดได้ว่า “ยังมีผู้คนสนใจถึงชีวิตของฉันอยู่สินะ”

หากมองกลับไป ณ ปี 2000 ต้น ๆ ร้านอาหารของเขาได้รับความนิยม จนแสงสปอตไลต์ก็กลับมาสาดส่องชีวิตของฮงซอกชอน ทำให้เขากลับมาโลดแล่นในวงการอีกครั้ง

วันที่ดีจะมาถึง จงใช้ชีวิตอย่างมีความสุข

อย่างที่รู้ ฮงซอกชอนเลือกใช้ชีวิตเงียบ ๆ ในฐานะคนธรรมดาอยู่ 3 ปี 6 เดือน เขากลับมาปรากฏตัวอีกครั้งในละครโทรทัศน์เรื่อง ‘Perfect Love’ ออกอากาศทางช่อง SBS ว่าด้วยการตามหานิยามของรักที่แท้จริง

เรื่องนี้ ฮงซอกชอนรับบทฮงซึงโจที่เป็นเกย์ ประโยคของตัวละคร “ฉันเกิดมาเป็นแบบนี้ ถ้ามันมีทางที่จะเปลี่ยนฉัน ฉันจะเปลี่ยนมันด้วยการขายวิญญาณของฉันให้กับปีศาจ”

ฮงซอกชอนบอกผ่านรายการ ‘Showterview with Jessi’ ว่า ละครเรื่องนี้ ทำให้คนเปิดใจและกลับมาทบทวนชีวิตของฮงซอกชอน

ทั้งยังสร้างแรงกระเพื่อมครั้งใหญ่ให้สังคม เมื่อนิตยสารไทม์เอเชีย เลือกฮงซอกชอนเป็น Asian Hero ในปี 2004 และเขาเองก็ตัดสินใจเข้าร่วมเป็นสมาชิกพรรค Democratic Labor Party ในปีเดียวกัน 

ผ่านไปเกือบ 24 ปี ที่ยืนของ LGBTQ ในเกาหลีใต้ก็ดูมีที่ทางมากขึ้น แม้จะยังไม่ได้เปิดรับถึงขั้นมีกฎหมาย แต่สังคมก็เริ่มยอมรับว่า พวกเขาคือมนุษย์คนหนึ่ง

ฮงซอกชอน : คัมเอาต์ว่าตัวเองเป็นเกย์ในปี 2000 จนหายไปจากหน้าจอ 3 ปี ไม่เพียงเท่านั้น เขายังคงใช้ชีวิตในวงการบันเทิง เป็นแมวมองที่คอยดูความสำเร็จของนายแบบหน้าใหม่ที่กลายเป็นนักแสดงอยู่ด้านหลัง ยกตัวอย่างเช่น ฮวังอินยอบ และบยอนอูซอก คนที่เขาบอกว่า จะเป็นนักแสดงที่เฉิดฉาย

กระทั่งวันนี้ เขาสามารถเปิดช่องยูทูบ ทำรายการ ‘Jewelry Box’ ชวนนักแสดงหนุ่มมาพูดคุย ฟีลหยอกล้อ และยังเป็นวิทยากรให้กับมหาวิทยาลัยหลายแห่ง

และเราก็เชื่อว่า ช่วงเวลาที่ยากลำบากทั้งหมด ฮงซอกชอนผ่านมาได้ เพราะเขาเชื่อมั่นในตัวเอง ความรักจากตัวเองและคนอื่นที่โอบล้อมเขาไว้

เหมือนที่เขาเขียนไว้ในอินสตาแกรมในวาระครบรอบ 23 ปีของวันที่เขารวบรวมความกล้าของตัวเอง คัมเอาต์และประกาศตัวตนของเขาสู่สาธารณะว่า เขาอาจจะถูกดูถูก มีช่วงเวลาที่ยาก แต่เมื่อมองกลับไป นั่นคือความทรงจำหนึ่งที่ผ่านเข้ามาในชีวิต

“ฉันถูกดูถูก โดนขู่ฆ่า ถูกไล่ออกจากงานที่ทำ กลัวจนไม่ออกจากบ้านเป็นเดือน ครอบครัวร้องไห้ทุกวัน เคยคิดว่า ถ้าฉันหายไปจากโลกนี้ ทุกอย่างจะเปลี่ยนไปไหม แต่พอมองกลับไป ช่วงเวลาเหล่านั้นกลายเป็นความทรงจำที่ฉันสามารถหัวเราะและพูดถึงมันได้

“แม้ว่าตอนนี้คุณกำลังเผชิญกับช่วงเวลาที่ยากลำบาก แม้จะเหนื่อยจนอยากวิ่งหนี แต่ถ้าคุณอดทนด้วยพลังบวก วันที่ดีกว่าก็จะมาถึง ตลอด 33 ปีที่ผ่านมา มีการเปลี่ยนแปลงมากมาย ถ้าฉันเป็นประกายไฟเล็กๆ ให้ทุกคน ฉันก็พอใจแล้ว”

พร้อมทิ้งท้ายว่า “ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขนะ ทุกคน” 

 

เรื่อง : ณัฐธนีย์ ลิ้มวัฒนาพันธ์

ภาพ : อินสตาแกรม tonyhong1004

 

อ้างอิง

Hong Seok Cheon: Being banned for coming out because of his s.exuality and going beyond "hell" / VGT

Hong Suk-cheon: A Look into a Dazzling Life / Hanyang Journal

TIME Magazine Selects Korean Actor Hong Suk-chun as Asian Hero / The Chosun Daily

Hong Seok-cheon "After coming out, the broadcast was cut off... I started the restaurant business to make a living" ('Table for 4') / spotvnews

Hong Seok Cheon Shares Devastating Story of How His Parents Reacted to Him Being Gay / koreaboo

TV Personality Hong Seok Cheon Recalls What It Was Like Coming Out As Gay In Korea 23 Years Ago / koreaboo

Showterview with Jessi / Mobidic

Hong Suk Chun And His Parents Talk About When He First Came Out 18 Years Ago / soompi

Hong Suk Chun Opens Up About Coming Out And Being Sexually Assaulted As A Child / soompi

Times catch up a bit for gay TV actor in South Korea / The Seattle Times

หนังสือมหัศจรรย์เกาหลี: จากเถ้าถ่านสู่มหาอำนาจ