‘บ้านเครื่องบิน’ วิมานที่เกิดจากเศษเหล็กปลดระวาง ปรับปรุงจนกลายเป็นสวรรค์บนดิน

‘บ้านเครื่องบิน’ วิมานที่เกิดจากเศษเหล็กปลดระวาง ปรับปรุงจนกลายเป็นสวรรค์บนดิน

การมีบ้านสักหลังเป็นของตัวเอง อาจถือเป็นความสำเร็จสูงสุดตามค่านิยมในสังคมหลายแห่ง แต่สำหรับบางคนบ้านอาจไม่ได้ก่อสร้างจากเศษอิฐเศษปูน หากแต่มาจากเศษเหล็กปลดระวางอย่าง ‘ซากเครื่องบินเก่า’ ที่นอนรอวันถูกแยกชิ้นส่วนเอาไปขาย

  • ‘โจ แอนน์ อัสเซรี่’ (Jo Ann Ussery) หญิงชาวอเมริกันคนแรก ๆ ที่อาศัยอยู่ในบ้านเครื่องบิน ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1995 – 1999
  • อัสเซรี่เป็นแรงบันดาลใจสำคัญที่ผลักดันให้ ‘บรูซ แคมป์เบล’ (Bruce Campbell) ชาวอเมริกันวัย 70 ออกเดินทางตามหาความฝันวัยเด็ก นั่นคือการมีบ้านเครื่องบินสักลำเป็นของตัวเอง
  • หลังจากสั่งซื้อเครื่องบินจากกรีซ และทุ่มเงินไปราว 7.2 ล้านบาท ความฝันที่จะมีบ้านเครื่องบินของเขาก็กลายเป็นจริง

ซากเครื่องบินเก่าปลดระวางอาจกลายเป็นเศษเหล็กกองโต ที่นอนรอวันถูกแยกชิ้นส่วนเอาไปขาย เพราะจะให้ฝืนบินต่อไปก็ไม่ได้ หรือจะทิ้งไว้เฉย ๆ ก็ดูจะสูญเปล่า แถมยังกินพื้นที่สาธารณะไปโดยไม่ก่อให้เกิดประโยชน์อะไร

แต่ไม่ใช่กับชาวอเมริกันที่สูญเสียทั้งงาน เงิน และบ้าน ไปพร้อมกับเหตุไฟไหม้อย่าง ‘โจ แอนน์ อัสเซรี่’ (Jo Ann Ussery) ที่ได้อาศัยซากเครื่องบินเก่าปลดระวางโบอิ้ง 727 เป็น ‘บ้าน’ ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1995 - 1999 หลังจากชีวิตของเธอถูกกองเพลิงพรากไปในชั่วพริบตา

บ้านเครื่องบินของเธอ มีขนาด 1,500 ตารางฟุต ประกอบด้วยห้องนอน 3 ห้อง และห้องน้ำ 2 ห้อง เพื่อให้เครื่องบินลำเก่าขยับเข้าใกล้ความเป็นบ้านมากขึ้น เธอจึงเลือกติดตั้งอ่างอาบน้ำ ตั้งอยู่ในตำแหน่งห้องนักบิน โดยใช้เงินลงทุนไปกับบ้านหลังนี้ทั้งหมดประมาณสองล้านบาท

เรื่องราวของอัสเซรี่กลายเป็นแรงบันดาลใจสำคัญ ผลักดันให้ ‘บรูซ แคมป์เบล’ (Bruce Campbell) ชาวอเมริกันวัย 70 หวนรำลึกถึงความฝันวัยเด็กของเขาอีกครั้ง ความฝันที่จะปลูกบ้านงาม ๆ สักหลัง แต่บ้านหลังนั้นจะต้องเป็น ‘เครื่องบิน’ เท่านั้น

ย้อนกลับไปขณะที่แคมป์เบลในวัย 15 ได้แต่เฝ้าฝันถึงความฝันที่ดูห่างไกล และค่อนข้างดูเป็นเรื่องเพ้อเจ้อในสายตาของผู้ใหญ่ เขาได้แต่รอคอยวันที่โตพอจะมีบ้านเครื่องบินเป็นของตัวเอง หลังจากเรียนจบมหาวิทยาลัย เขาก็ใช้เงินซื้อที่ดิน 25 ไร่ที่รัฐออริกอน เพื่อเก็บไว้จอดบ้านอย่างลับ ๆ

จากนั้นเมื่อช่วงประมาณปี ค.ศ. 1999 เขาก็เริ่มมองหาบ้านสักลำเป็นของตัวเอง เฝ้าตระเวณหาทั่วแผ่นดินสหรัฐฯ แต่ก็ไม่เจอลำที่ถูกใจ แคมป์เบลไม่ล้มเลิกเพียงเท่านั้น เพราะด้วยหน้าที่การงานของเขาอย่างการเป็นวิศวกรไฟฟ้า ก็ทำให้ความฝันของเขาขยับเข้าใกล้ความจริงได้ไม่ยาก

แคมป์เบลในวัย 60 กว่า ๆ ติดต่อไปขอความช่วยเหลือจากบริษัทกำจัดซากเครื่องบินเก่า ให้พวกเขาช่วยหาเศษเหล็กชิ้นโตนี้ให้หน่อย และแล้ววันเวลาที่เขารอคอยก็มาถึง บริษัทเจอเครื่องบินโบอิ้ง 727 จากกรีซ ขนาด 200 ที่นั่ง มีพื้นที่ภายในราว 100 ตารางเมตร ซึ่งเขาได้มาในราคา 3.4 ล้านบาท แต่เมื่อรวมกับค่าขนส่งกับค่ารื้อถอนอุปกรณ์ที่ต้องกำจัดทุกอย่างที่อาจทำให้เครื่องบินลำนี้บินได้อีกครั้ง เขาก็หมดเงินไปทั้งหมดราว 7.2 ล้านบาท

บ้านหลังเบิ้ม บินลัดฟ้ามาพร้อมกับความฝันกองโต เขาแทบรอไม่ไหวที่จะสร้างบ้านลำนี้ให้เข้าใกล้กับความรู้สึกของคำว่าบ้านมากที่สุด แม้ในช่วงแรกเขาจะยังไม่รู้ว่าจะจัดการวางข้าวของไว้ในบ้านหลังนี้ยังไง จะเริ่มต่อเติมบ้านตรงไหน แต่จนแล้วจนรอดเขาก็ตัดสินใจว่า เขาต้องเริ่มทีละน้อย จากส่วนปีก ไปห้องนักบิน จากนั้นก็ค่อย ๆ ขยับไปทำส่วนอื่น ๆ เพิ่มเติม เวลาผ่านไป 2 ปี เขาหมดเงินไปกับบ้านเครื่องบินไปอีก 5 แสนบาท เงินอีกจำนวนเล็กน้อยสำหรับชายวัยเกษียณ ทำให้เขาค้นพบกับความสุขที่ยิ่งใหญ่

ความสุขที่ได้สัมผัสและเรียกสถานที่แห่งนี้ว่า ‘บ้าน’ ได้อย่างเต็มปากเต็มคำ

 

อ้างอิง

https://edition.cnn.com/travel/article/people-living-in-planes/index.html

https://www.cnbc.com/2022/12/26/73-year-old-pays-370-bucks-a-month-to-live-in-a-1066-square-foot-plane.html?fbclid=IwAR39DbB1jrfitTIB_00RYedys7O1vKtpTP4QG7mXKlteUKjtbQrynHHlX4Y