04 พ.ย. 2567 | 17:17 น.
KEY
POINTS
กระรอกตัวน้อยสีน้ำตาลดำ ขี้เล่นเก่งเป็นที่สุด มีหางขนฟูส่ายดุ๊กติ๊กเวลาวิ่งเล่น คือ ลักษณะท่าทางของเจ้ากระรอกเซเลบที่ชื่อว่า ‘พีนัท’ (Peanut P’Nut หรือ PNUT) ที่มียอดผู้ติดตามในอินสตาแกรมมากกว่า 600,000 ราย
มากกว่านั้น พีนัทคือเพื่อนสนิทและครอบครัวคนสำคัญของ ‘มาร์ค ลองโก้’ ชายหนุ่มชาวอเมริกันที่เก็บมาเลี้ยงเมื่อ 7 ปีก่อน
“แม่ของมันถูกรถชน แล้วมันก็กำลังเดินอยู่บนถนนในย่านดาวน์ทาวน์เมืองแมนฮัตตัน แล้วมันก็คลานขึ้นมาอยู่ที่ขาของผม” ลองโก้เคยให้สัมภาษณ์ถึงวินาทีแรกที่เขาเจอพีนัท
หลังจากดูแลประคบประหงมกันมา 8 เดือน ลองโก้เลือกที่จะปล่อยให้เจ้ากระรอกตัวนี้คืนสู่ธรรมชาติ แต่ดูเหมือนพีนัทจะไม่ได้คิดแบบนั้น
กระรอกตัวนี้อยากใช้ชีวิตกับ ‘มาร์ค ลองโก้’ มนุษย์ที่เลี้ยงดูเขามา
“ผมปล่อยมันไว้ที่สวนหลังบ้าน วันต่อมา ผมเห็นมันอยู่บนระเบียงบ้าน หางขาดไปครึ่งหนึ่ง ผมร้องไห้หนักมาก เหมือนผมล้มเหลวกับการเป็นมนุษย์ แต่พอผมเปิดประตูมันก็วิ่งเข้าบ้าน ผมคิดว่านั่นคือครั้งสุดท้ายที่มันได้ใช้ชีวิตในฐานะสัตว์ป่า”
ความผูกพันระหว่างกระรอกและมนุษย์ค่อย ๆ ก่อตัวขึ้น สำหรับพีนัทมันคงดีใจที่มีพื้นที่ให้วิ่งเล่นอยู่ในถ้วยข้าวโอ๊ต ส่วนลองโก้พีนัททำให้เขาเป็นคนที่ดีขึ้น
“เขาทำให้ผมเป็นคนดีขึ้นหลายด้าน ใจดีและอดทนมากขึ้น ผมโชคดีมากที่มีผู้ติดตามเขามากมายขนาดนี้ ผมแค่อยากใช้ประโยชน์นี้ทำทุกอย่างให้ดีที่สุด และการที่เราส่งต่อความรักและความสุขให้กับทุกคนคือส่วนที่สำคัญที่สุด”
“เขาทำให้ผมเป็นคนดีขึ้นหลายด้าน ใจดีและอดทนมากขึ้น ผมโชคดีมากที่มีผู้ติดตามเขามากมายขนาดนี้ ผมแค่อยากใช้ประโยชน์นี้ทำทุกอย่างให้ดีที่สุด และการที่เราส่งต่อความรักและความสุขให้กับทุกคนคือส่วนที่สำคัญที่สุด”
ก่อนหน้านี้ ลองโก้ทำงานเป็นวิศวกรเครื่องกลอยู่ที่เมืองนอร์วอล์ค รัฐคอนเนตทิคัต แต่พีนัทสร้างแรงบันดาลใจให้เขาตัดสินใจก่อตั้งสถานสงเคราะห์สัตว์ P’Nuts Freedom Farm ในเดือนเมษายน 2023
ปัจจุบันมีสัตว์อยู่ประมาณ 300 ตัว มีทั้งม้า แพะ และอัลปากา มีจุดมุ่งหมายให้สัตว์ทุกตัวได้รับโอกาสครั้งที่ 2 เหมือนกับพีนัท
ในเว็บไซต์ส่วนที่อธิบายถึงที่มาและความเป็นไป ลองโก้เขียนถึงแรงบันดาลใจการเปิดสถานสงเคราห์สัตว์แห่งนี้ไว้ว่า “ด้วยความรักและการสนับสนุนอย่างล้นหลามจากผู้ติดตามที่ของเรา เราจึงก่อตั้งสถานสงเคราะห์แห่งนี้ขึ้นเพื่อเป็นที่พักพิงที่สัตว์ที่ถูกทอดทิ้งและไร้บ้านได้รับโอกาสครั้งที่สองในชีวิต”
แต่ความทรงจำแสนสวยงามก็ถูกทำลายด้วยฝันร้าย เมื่อเจ้าหน้าที่กรมอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอย่างน้อย 6 คนมาเคาะประตูบ้านเขา และพรากพีนัทพร้อมกับเฟรด แร็คคูน สัตว์เลี้ยงอีกตัวไปจากบ้านของเขา อีกทั้งยังกล่าวหาว่าลองโก้ครอบครองสัตว์ป่าผิดกฎหมาย
“มันเหมือนฝันร้ายสำหรับผมเลย” ลองโก้ให้สัมภาษณ์
หลังจากนั้น กรมสิ่งแวดล้อมแห่งรัฐนิวยอร์กและกรมอนามัยเคาน์ตี้เชมังก็ออกแถลงการณ์ว่า "เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม กรมฯ ได้ยึดแรคคูนและกระรอกที่อาศัยอยู่ในบ้านเดียวกับมนุษย์ ส่งผลให้มนุษย์อาจติดเชื้อโรคพิษสุนัขบ้าได้ นอกจากนี้ บุคคลที่เกี่ยวข้องกับการสืบสวนยังถูกกระรอกกัดอีกด้วย เพื่อทำการทดสอบโรคพิษสุนัขบ้า สัตว์ทั้งสองตัวจึงถูกทำการุณยฆาต"
เมื่อมีข่าวยืนยันข่าวการจากไปของพีนัท ลองโก้ออกมาโพสต์คลิปพร้อมถือรูปพีนัททั้งน้ำตาว่า “ขอให้เพื่อนรักของฉันไปสู่สุคติ ขอบคุณสำหรับช่วงเวลา 7 ปีที่ดีที่สุดในชีวิต ขอบคุณที่มอบความสุขให้กับเราและโลกใบนี้ ฉันขอโทษนะที่ทำให้นายผิดหวัง ขอบคุณสำหรับทุกอย่าง”
ถึงแม้พีนัทจะไม่อยู่แล้ว แต่กระบวนการต่อสู้ทางกฎหมายยังเดินหน้าต่อ ตอนนี้มีการสร้างแคมเปญลงชื่อเพื่อให้พีนัทกลับสู้อ้อมอกของลองโก้อีกครั้งใน change.org มากกว่า 50,000 คน และมียอดบริจาคเมื่อวันศุกร์ที่ 1 พฤศจิกายน 2024 ผ่าน GoFundMe สูงถึง 7,875 ดอลลาร์
“ผมอยากจะสู้ต่อไป เพื่อให้ชื่อของพีนัทยังคงอยู่”
วันนี้พีนัทอาจไม่อยู่แล้ว แต่บทเรียนของกระรอกตัวน้อยนี้ที่เพิ่งจากไปคือการต่อสู้ ความรัก ความหวัง และมิตรภาพของคนกับสัตว์ที่จะยังคงอยู่ตลอดไป
อ้างอิง
Call For Justice for Peanut the Squirrel and NYSDEC Reform / change.org
Why was Peanut the squirrel euthanized? The controversy explained / yahoo
After 7 Years, P’Nut the Squirrel Is Taken Away and Then Put Down / The New York Post
Peanut the squirrel, Instagram star, euthanized by New York state authorities / CBS News
https://www.pnutsfreedomfarm.com/
Social media star Peanut the Squirrel has been euthanized after being seized from NY home / USATODAY
Orphaned squirrel lives in New York home with a cat and the man who raised him / USATODAY