‘เหลียง ซือ’ เศรษฐีจีนวัย 56 ปี เพียรสอบเข้ามหาวิทยาลัย 27 ครั้ง เพราะฝันอยากเป็นนักศึกษา

‘เหลียง ซือ’ เศรษฐีจีนวัย 56 ปี เพียรสอบเข้ามหาวิทยาลัย 27 ครั้ง เพราะฝันอยากเป็นนักศึกษา

‘เหลียง ซือ’ ลุงชาวจีนที่รวยอยู่แล้ว แต่ยังไม่ทิ้งความฝันที่อยากเป็นนักศึกษา เพียรสอบเข้ามหาวิทยาลัยถึง 27 ครั้ง

  • เพื่อแข่งขันกับนักเรียนมัธยมปลายเกือบ 13 ล้านคนที่เข้าสอบในปีนี้ ลุงเหลียงบอกว่า ในช่วงไม่กี่เดือนก่อนสอบ เขาต้องบำเพ็ญเพียรไม่ต่างอะไรจากพระ! 
  • ในปี 1986 พ่อแม่พยายามโน้มน้าวให้เขาไปเรียนโรงเรียนเทคนิค เขายอมไปเรียนได้ปีเดียวก็ลาออก ให้เหตุผลเฟี้ยว ๆ ว่า ไม่อยากทำงานกับเครื่องจักรที่ส่งเสียงดังหนวกหู 
    “ความพยายามอยู่ที่ไหน ความพยายามอยู่ที่นั่น”

“ความพยายามอยู่ที่ไหน ความพยายามอยู่ที่นั่น”

คุณอ่านไม่ผิดหรอก ไม่ต้องอ่านทวนซ้ำไปมา เพราะบรรทัดต่อจากนี้เป็นเรื่องราวของชายอายุเกือบ 60 ปี ที่เพียรพยายามสอบเข้ามหาวิทยาลัยเกือบ 30 ครั้ง ด้วยความหวังว่าจะได้เข้าไปนั่งเรียนกับนักศึกษารุ่นหลาน จบออกมาเป็น ‘ปัญญาชน’

เมื่อวันพุธที่ 7 มิถุนายนที่ผ่านมา ที่ประเทศจีนมีการจัดการสอบเข้ามหาวิทยาลัยแห่งชาติ หรือ ‘เกาเข่า’ (gaokao) ท่ามกลางนักเรียนมัธยมปลายนับล้านคนที่เข้าร่วมการสอบ ‘เหลียง ซือ’ กลายเป็นคนที่โดดเด่นกว่าผู้เข้าสอบคนใด ด้วยผมที่มีสีขาวแซมครึ่งหัว และอายุที่ปาไปถึง 56 ปี จนผู้เข้าสอบคนอื่นสามารถเรียกว่า ‘ลุง’ ได้อย่างสนิทใจ 

อีกสิ่งที่ทำให้ลุงเหลียงแตกต่างจากผู้เข้าสอบทั่วไปคือ ‘ความมุ่งมั่น’ ด้วยจำนวนการเข้าสอบที่มากถึง 27 ครั้ง!

การที่เขาผ่านการสอบเกือบ 30 ครั้ง แต่ยังไม่เข้าเรียนมหาวิทยาลัย ไม่ใช่เพราะเขาเป็นคนโง่เขลาหรือเกียจคร้าน ตรงกันข้าม เขาเป็นผู้ที่ไต่เต้าจากงานต่ำต้อยในโรงงาน ไปสู่การเป็นเจ้าของธุรกิจวัสดุก่อสร้างที่ประสบความสำเร็จ ด้วยสองมือของตัวเอง 

เพียงแต่เขามีอีกความฝันที่ยังไปไม่ถึง นั่นคือการสอบเกาเข่าให้ได้คะแนนมากพอที่จะนำไปยื่นเข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยชั้นนำของประเทศอย่าง ‘มหาวิทยาลัยเสฉวน’

เพื่อแข่งขันกับนักเรียนมัธยมปลายเกือบ 13 ล้านคนที่เข้าสอบในปีนี้ ลุงเหลียงบอกว่า ในช่วงไม่กี่เดือนก่อนสอบ เขาต้องบำเพ็ญเพียรไม่ต่างอะไรจากพระ! เพราะต้องแหกขี้ตาตื่นตั้งแต่ก่อนไก่โห่เพื่อมาท่องตำราเรียน ซึ่งใช้เวลาประมาณ 12 ชั่วโมงต่อวัน มีแอบงีบหลับบ้างในตอนกลางวันตามประสาคนสูงอายุ

“มันน่าอึดอัดที่เข้าไปเรียนในมหาวิทยาลัยไม่ได้สักที ผมอยากจะเข้าไปเรียนจริง ๆ นะ ผมอยากเป็นปัญญาชน” ลุงเหลียงระบายความในใจ

ในช่วง 40 ปีที่ผ่านมา ลุงชาวเสฉวนคนนี้เข้าสอบเกาเข่ามาแล้ว 26 ครั้ง แต่ก็ไม่มีสักครั้งที่ได้คะแนนมากพอที่จะส่งเขาเข้ามหาวิทยาลัยในฝัน 

สำหรับนักเรียนจีน คะแนนสอบเกาเข่ามีผลต่อเส้นทางชีวิตของพวกเขามาก เพราะหากสามารถเข้าไปเรียนในมหาวิทยาลัยชั้นนำได้ พวกเขาก็จะมีโอกาสในหน้าที่การงานมากขึ้น 

ลุงเหลียงเริ่มสอบเกาเข่าครั้งแรกเมื่อปี 1983 ตอนที่เขาอายุ 16 ปี และพยายามสอบอีก 2 ครั้ง แต่ก็ไม่สำเร็จ

ในปี 1986 พ่อแม่พยายามโน้มน้าวให้เขาไปเรียนโรงเรียนเทคนิค เขายอมไปเรียนได้ปีเดียวก็ลาออก ให้เหตุผลเฟี้ยว ๆ ว่า ไม่อยากทำงานกับเครื่องจักรที่ส่งเสียงดังหนวกหู แล้วก็หันไปทำงานจิปาถะต่าง ๆ พร้อมกับเตรียมตัวสอบเกาเข่าไปด้วย

ปี 1991 เหลียงไปทำงานในโรงงานไม้และแต่งงาน แต่ถึงจะอยู่ในวัยสร้างตัวและมีครอบครัวแล้ว เขาก็ไม่เคยทิ้งความฝันเรื่องการสอบเกาเข่า 

แต่โชคร้ายที่ในปี 1992 ดันมีการออกกฎว่าผู้เข้าสอบเกาเข่าแบบปกติจะต้องเป็นคนโสดที่อายุต่ำกว่า 25 ปีเท่านั้น เหลียงจึงต้องหันไปสอบเกาเข่าแบบผู้ใหญ่แทน แล้วปรากฏว่าปีนั้นเขาได้คะแนนมากพอจะเข้าไปเรียนที่มหาวิทยาลัยป่าไม้หนานจิง แต่เขาก็ยังไม่พอใจ แล้วก็ไม่ยอมไปเรียนอีกต่างหาก

ปีเดียวกันนั้นเอง เขาถูกเลย์ออฟออกจากงาน จึงต้องหันไปทำงานเป็นพนักงานขายเพื่อหาเงินเลี้ยงครอบครัว ขายมาแล้วทั้งเสื้อผ้า ตู้เย็น ทีวี และฮาร์ดแวร์ จนมีเงินมากพอมาตั้งต้นธุรกิจวัสดุก่อสร้าง ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างดี สามารถโกยเงินได้มากถึง 1 ล้านหยวน ภายในเวลาไม่ถึง 1 ปี 

กระทั่งปี 2001 กระทรวงศึกษาธิการยกเลิกกฎจำกัดอายุเข้าสอบเกาเข่า ไฟที่อยากจะเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยอันทรงเกียรติก็ลุกโชนขึ้นภายในใจของเหลียงอีกครั้ง เขากลับมาปัดฝุ่นหนังสือและเริ่มอ่านอย่างตั้งใจ

แต่เนื่องจากต้องวุ่นอยู่กับการดูแลธุรกิจ เขาจึงหาเวลาไปสอบได้แค่บางปี ซึ่งรวมถึงช่วงปี 2020 - 2022 ซึ่งเป็นช่วงที่โควิด-19 ระบาด ที่ทำให้การสอบเกาเข่ามีความท้าทายมากกว่าปกติ 

ปีที่เขาทำคะแนนได้สูงสุดคือปี 2018 ซึ่งเขาได้คะแนน 469 คะแนน จากคะแนนเต็ม 750 คะแนน ส่วนในปี 2019 เขาได้คะแนน 462 คะแนน แต่ที่ผ่านมาเขาก็ยังไม่ยอมนำคะแนนไปยื่นเข้ามหาวิทยาลัยใด เพราะเป้าหมายของเขาอยู่ที่มหาวิทยาลัยเสฉวนเท่านั้น โดยมหาวิทยาลัยแห่งนี้ต้องการผู้ที่มีคะแนนไม่ต่ำกว่า 521 คะแนน

สำหรับมหาวิทยาลัยเสฉวนที่เหลียงใฝ่ฝันอยากจะเข้าไปเรียน จัดว่าเป็นมหาวิทยาลัยระดับ Double First Class (ย่อมาจาก First Class Universities and First Class Disciplines of the World) หมายถึง มหาวิทยาลัยชั้นนำของโลก และมหาวิทยาลัยที่มีสาขาวิชาระดับโลก ซึ่งเป็นการศึกษาเชิงกลยุทธ์ ที่กำหนดโดยรัฐบาลจีน

ความพยายามครั้งแล้วครั้งเล่าทำให้เขากลายเป็นที่รู้จักในสนามสอบเกาเข่า และต้องเผชิญกับคำวิจารณ์ที่มีทั้งในด้านดีและไม่ดี ชาวเน็ตบางคนถึงกับแสดงความสงสัยว่า การแสดงความมุ่งมั่นของเขานั้นเป็นแผนการเรียกความสนใจจากสาธารณชนหรือไม่?

“ผมจะทำอย่างนั้นไปทำไม? คนจิตปกติที่ไหนจะเสียเวลาเป็นสิบ ๆ ปี ไปสอบเกาเข่าเพื่อเรียกร้องความสนใจ” เหลียงตอบคำถาม

ชาวเน็ตบางคนถึงกับบอกว่า เหลียงกำลังเสียเวลาและเสียพลังงานไปเปล่า ๆ แต่เหลียงก็หาแคร์ไม่ เขาบอกเพียงว่า “แต่ละคนมีสิ่งมุ่งหวังที่แตกต่างกัน เราไม่ควรมาตัดสินว่าใครผิดใครถูก กรณีของผมถือว่าทำตามที่กฎหมายอนุญาต มันก็สมเหตุสมผลแล้ว” 

แม้แต่ลูกชายของเขา ซึ่งเข้าสอบเกาเข่ากับเขาในปี 2011 และเรียนจบปริญญาโทแล้ว ก็ไม่ได้เห็นดีเห็นงามกับการที่พ่อต้องไปนั่งสอบร่วมกับเด็ก ๆ เพราะไม่อยากให้พ่อตกเป็นเป้าสนใจ 

“ตอนแรกเขาก็ไม่ยอมหรอก แต่ตอนนี้เขาก็เปลี่ยนไปแล้ว” เหลียงกล่าวถึงลูกชาย 

ขณะที่ภรรยาของเขาไม่พูดอะไรเลย เขาจึงตีความเข้าข้างตัวเองว่า ความเงียบของเธอคือการส่งกำลังใจอย่างหนึ่ง 

ช่วงเตรียมตัวสอบ เขาถึงกับเลิกดื่มแอลกอฮอล์และเลิกเล่นไพ่นกกระจอก เพื่อเอาเวลาไปทุ่มกับการอ่านหนังสือ ซึ่งปีนี้เขายอมลดขนาดความฝันของตัวเองลง ไม่จำกัดว่าต้องเข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยเสฉวนเท่านั้น แต่เป็นมหาวิทยาลัยหลักที่ไหนก็ได้ แล้วแต่คะแนนจะพาไป 

เมื่อถูกถามว่า หลังสอบเสร็จเขาวางแผนจะฉลองอย่างไรบ้าง? เหลียงตอบว่า “ผมจะกลับไปเล่นไพ่นกกระจอกกับเพื่อน ๆ สัก 3 วัน 3 คืน” 

เราคงได้แต่หวังว่าความพยายามของเขาจะสำเร็จในปีนี้ เพื่อคงความศักดิ์สิทธิ์ของสำนวนที่ว่า “ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น” 

 

ภาพ: Getty Images 

อ้างอิง: 

scmp

asianews

jinbu-scholarship

shine.cn