‘สิงคโปร์’ มีดีอะไร? ทำไม ‘เทย์เลอร์ สวิฟต์’ และ ‘Coldplay’ เลือกจัดคอนเสิร์ตที่นี่

‘สิงคโปร์’ มีดีอะไร? ทำไม ‘เทย์เลอร์ สวิฟต์’ และ ‘Coldplay’ เลือกจัดคอนเสิร์ตที่นี่

เหตุผลที่ ‘สิงคโปร์’ กลายเป็นแม่เหล็กดูดคอนเสิร์ตจากศิลปินระดับโลก ทั้ง ‘เทย์เลอร์ สวิฟต์’ และ ‘Coldplay’

  • ทั้งเจ้าแม่เพลงป็อปอย่าง ‘เทย์เลอร์ สวิฟต์’ และวงร็อกระดับตำนานอย่าง ‘Coldplay’ เลือกจัดแสดงคอนเสิร์ตที่สิงคโปร์ถึง 6 รอบ
  • รัฐบาลสิงคโปร์ได้หมายมั่นปั้นมือเพื่อทำให้ประเทศของตัวเองเป็น ‘เมืองหลวงแห่งกิจกรรมและความบันเทิงแห่งเอเชีย’ มาตั้งแต่ทศวรรษ 2000

‘สิงคโปร์’ ไม่ได้เป็นเพียง ‘ศูนย์กลางทางการเงิน’ เท่านั้น แต่ตอนนี้ยังเป็น ‘ศูนย์กลางความบันเทิง’ ที่สำคัญในเอเชียอีกด้วย 

เห็นได้ชัดเมื่อตอนที่ ‘เทย์เลอร์ สวิฟต์’ ประกาศตารางทัวร์คอนเสิร์ต ‘The Eras Tour’ ที่ทำเอาแฟนหลายประเทศในเอเชียผิดหวังไปตาม ๆ กัน เพราะนอกจาก ‘ญี่ปุ่น’ แล้ว ‘สิงคโปร์’ เป็นเพียงประเทศเดียวในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ปรากฏชื่อในตารางทัวร์คอนเสิร์ตของเทย์เลอร์ ด้วยราคาบัตรเริ่มต้นที่ 108 ดอลลาร์สหรัฐ 

งานนี้ทำเอา ‘สวิฟตี้’ ในประเทศอื่น ๆ ทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พากันตัดพ้อผ่านโซเชียลมีเดีย บ้างก็โอดครวญถึงความไม่เป็นธรรม บ้างก็กล่าวโทษการเมืองในประเทศตัวเองที่ยังสับสนอลหม่านอยู่ ขณะที่สิงคโปร์เตรียมอ้าแขนต้อนรับสวิฟตี้กว่า 200,000 คน ที่ลงทุนควักเงินซื้อทั้งบัตรคอนเสิร์ตและตั๋วเครื่องบิน เพื่อไปชมคอนเสิร์ตแม่เทย์ถึงสิงคโปร์ 

ไม่ใช่แค่เจ้าแม่เพลงป็อปอย่างเทย์เลอร์ ที่เลือกจัดทัวร์คอนเสิร์ตที่สิงคโปร์และเพิ่มการแสดงเป็น 6 รอบ เพราะก่อนหน้านั้น วงร็อกระดับตำนานจากเกาะอังกฤษอย่าง ‘Coldplay’ ก็ประกาศเพิ่มรอบทัวร์คอนเสิร์ต ‘Music of the Spheres’ ที่สิงคโปร์ ในช่วงเดือนมกราคม 2567 เป็น 6 รอบเช่นกัน เรียกได้ว่าเป็นจำนวนรอบที่เกินหน้าเกินตาประเทศอื่น ๆ ทั่วโลกเลยทีเดียว

ความเนื้อหอมของสิงคโปร์ยังไม่หมดเพียงเท่านั้น คอนเสิร์ต ‘Jacky Cheung 60+’ ของ ‘แจ็คกี้ จาง’ ที่ ‘สนามกีฬาในร่มสิงคโปร์’ (Singapore Indoor Stadium) ซึ่งจะจัดในเดือนกรกฎาคมนี้ รวมถึงคอนเสิร์ตของ ‘God of Songs’ ที่จัดแสดงมากถึง 9 รอบ ณ สถานที่เดียวกัน ก็ขายบัตรหมดเกลี้ยงแล้ว 

แม้แต่เกิร์ลกรุ๊ปดังอย่าง ‘BLACKPINK’ และนักร้องชาวอังกฤษอย่าง ‘แฮร์รี สไตล์’ ก็เพิ่งจะไปจัดคอนเสิร์ตที่สิงคโปร์ เมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา 

ความพยายามที่ผลิดอกออกผลของรัฐบาลสิงคโปร์

แต่จะว่าไปแล้วการที่ประเทศขนาดเล็ก มีประชากรไม่ถึง 6 ล้านคน กลายเป็นสถานที่จัดคอนเสิร์ตสุดโปรดของศิลปินเบอร์ต้น ๆ ของโลก ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร เพราะรัฐบาลสิงคโปร์ได้หมายมั่นปั้นมือเพื่อทำให้ประเทศของตัวเองเป็น ‘เมืองหลวงแห่งกิจกรรมและความบันเทิงแห่งเอเชีย’ มาตั้งแต่ทศวรรษ 2000

‘แคน เซ็ง อู’ ศาสตราจารย์ด้านการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมและมรดก มหาวิทยาลัยแทสเมเนีย ประเทศออสเตรเลีย ซึ่งวิจัยเกี่ยวกับกลยุทธ์การท่องเที่ยวของสิงคโปร์ ให้สัมภาษณ์กับ Time ว่า สิงคโปร์ได้รับความนิยมในฐานะสถานที่จัดการแสดงระดับโลกมานานหลายทศวรรษแล้ว ซึ่งเป็นผลมาจากความกระตือรือร้นของรัฐบาล ที่พยายามเชื้อเชิญให้ศิลปินต่างชาติมาจัดแสดงในประเทศ เพื่อดึงดูดฐานแฟนคลับของศิลปินเหล่านี้ให้เดินทางมายังสิงคโปร์

“สิงคโปร์เป็นจุดหมายปลายทางของการจัดคอนเสิร์ต ขณะเดียวกันงานอีเวนต์ในสิงคโปร์เองก็ดึงดูดให้คนเข้ามาในประเทศเช่นกัน ผู้คนมาที่นี่ด้วยเหตุผลเหล่านั้น พวกเขาจะได้ใช้เวลาอย่างเพลิดเพลินและใช้เงินก้อนโตในสิงคโปร์” 

สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน-รัฐบาลมีเสถียรภาพ

‘ไอเอ็มซี กรุ๊ป เอเชีย’ (IMC Group Asia) บริษัทบันเทิงที่ดูแลคอนเสิร์ตในสิงคโปร์ เผยว่า สิงคโปร์ยังได้รับการพิสูจน์แล้วว่า เป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับการแสดงของศิลปิน ส่วนหนึ่งเป็นเพราะ ‘สิ่งอำนวยความสะดวกที่ดีเลิศ’ เช่น โรงแรม อาหาร และการขนส่ง รวมถึงความสะดวกในการขอใบอนุญาตทำงานและวีซ่าสำหรับสมาชิกทัวร์

รัฐบาลสิงคโปร์ยังได้อำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยวต่างชาติด้วยแหล่งท่องเที่ยวอื่น ๆ เพื่อให้พวกเขาได้ใช้จ่ายในสถานที่ท่องเที่ยวอันน่าทึ่งไม่เฉพาะไปดูคอนเสิร์ต ไม่ว่าจะเป็นห้างสรรพสินค้า สวนสนุก ซึ่งสามารถเดินทางไปได้โดยง่ายด้วยระบบขนส่งสาธารณะ

ล่าสุด การท่องเที่ยวสิงคโปร์ทำคลิปโปรโมตสถานที่ท่องเที่ยว โดยให้นักร้องหนุ่ม ‘ชาร์ลี พุท’ (Charlie Puth) เป็นคนเดินเรื่อง

ไม่เพียงเท่านั้น สิงคโปร์ยังมีรัฐบาลที่มีเสถียรภาพ ตามความเห็นของ ‘บาร์กาธันนิชา อาบู บาการ์’ ผู้ร่วมก่อตั้ง ‘World Women Tourism’ ซึ่งอธิบายว่า รัฐบาลที่มีเสถียรภาพ ความมั่นคง และความปลอดภัย ซึ่งรวมถึงการควบคุมฝูงชนและแนวทางต่อต้านการก่อการร้าย ล้วนเป็นปัจจัยที่ทำให้สิงคโปร์เป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับคนดัง 

ระบบขายบัตรที่เข้มงวด

อีกเหตุผลที่ทำให้สิงคโปร์กลายเป็นสถานที่ยอดนิยมในการจัดคอนเสิร์ต คือกฎระเบียบการขายบัตรที่เข้มงวด ซึ่งช่วยสร้างความมั่นใจในการเข้าชมคอนเสิร์ตที่สิงคโปร์ โดยเฉพาะการขายบัตรผ่าน ‘Ticketmaster’ เว็บไซต์ชั้นนำในการซื้อบัตรคอนเสิร์ตในสิงคโปร์ ที่ห้ามการขายบัตรอย่างผิดกฎหมาย และมีอำนาจในการห้ามผู้ถือบัตรผิดกฎหมายเข้าชมคอนเสิร์ต  

คอนเสิร์ตกับผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจ

แพลตฟอร์มการเดินทางดิจิทัลอย่าง ‘อโกด้า’ (Agoda) ตั้งข้อสังเกตว่า มีการค้นหาที่พักในสิงคโปร์เพิ่มขึ้น 8.7 เท่าในระหว่างการจัดแสดงคอนเสิร์ตของ Coldplay ในเดือนมกราคม 2024 นอกจากแฟน ๆ จากอินโดนีเซียและมาเลเซียที่อยู่ใกล้เคียงแล้ว สิงคโปร์ยังคาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวจากฮ่องกง ไทย สหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย เวียดนาม อินเดีย ฟิลิปปินส์ และตลาดอื่น ๆ อีกหลายแห่งเพิ่มขึ้นด้วย 

‘เอ็นริค คาซาลส์’ รองประธานประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของอโกด้า กล่าวว่า “แฟนเพลงทุ่มสุดตัว พวกเขายอมเดินทางไกลเพื่อไปชมการแสดงที่ตัวเองชื่นชอบแบบสด ๆ การจองที่พักที่พุ่งสูงขึ้นเป็นข้อพิสูจน์ได้ดี” 

กล่าวโดยสรุปก็คือ ตำแหน่งเชิงยุทธศาสตร์ของสิงคโปร์ในฐานะประตูสู่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้และปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง ไม่ว่าจะเป็นโครงสร้างพื้นฐานที่ยอดเยี่ยม การเชื่อมต่อระหว่างภูมิภาค วัฒนธรรมทางธุรกิจที่เอื้อต่อการจัดกิจกรรม และประสบการณ์การจัดงานที่มีคุณภาพ ทำให้สิงคโปร์กลายเป็นจุดหมายปลายทางในอุดมคติสำหรับการจัดงาน

เหรียญสองด้าน

เมื่อบัตรคอนเสิร์ตของ Coldplay ในสิงคโปร์ จำนวนกว่า 20,000 ใบ ถูกขายหมดเกลี้ยงในช่วงพรีเซลส์ ทำลายสถิติประเทศที่ขายบัตรคอนเสิร์ต Coldplay ได้มากที่สุดภายในวันเดียว แม้จะดูเหมือนเป็นข่าวดี แต่ในบรรดาผู้ที่สามารถซื้อบัตรบนเว็บไซต์ได้ มีจำนวนมากที่เป็นแฟน ๆ จากประเทศอื่นในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่ยอมควักเงินทั้งซื้อบัตรทั้งจ่ายค่าเครื่องบินเดินทางมาชมคอนเสิร์ตที่สิงคโปร์ 

แม้ว่าจะเป็นสิ่งที่รัฐบาลสิงคโปร์ต้องการ แต่ก็เป็นสิ่งที่ทำให้แฟน ๆ ในประเทศไม่พอใจ ถึงขั้นเรียกร้องให้มีมาตรการจำกัดจำนวนชาวต่างชาติที่ซื้อบัตร บางคนถึงกับเสนอให้ใช้ ‘Singpass’ ซึ่งเป็นแอประบุสัญชาติเพื่อจำกัดการขายบัตรให้กับชาวสิงคโปร์เท่านั้น

กระแสในประเทศเพื่อนบ้าน 

ที่มาเลเซีย ซึ่งมีการจัดแสดงคอนเสิร์ต Coldplay เพียง 1 รอบ ทั้งที่มีประชากรมากกว่าสิงคโปร์ถึง 5 เท่า แฟนเพลงบางคนในมาเลเซียบ่นว่ารัฐบาลตัวเองทำตัว ‘ต่อต้าน’ มากกว่าจะ ‘ดึงดูด’ การจัดคอนเสิร์ต ขณะที่กลุ่มศาสนาและกลุ่มอนุรักษนิยมในมาเลเซียมองอีกแบบหนึ่ง พร้อมกับตั้งคำถามเรื่องการแสดงคอนเสิร์ต Coldplay ในประเทศ หลังจากที่ปรากฏภาพนักร้องนำของวงอย่างคริส โบกธง LGBT Pride

ด้านสมาคมศิลปะ เทศกาลดนตรีสด และอีเวนต์ ที่ไม่แสวงหาผลกำไรของมาเลเซีย ยกย่องสิงคโปร์ในแถลงการณ์เกี่ยวกับการแสดงคอนเสิร์ต 6 รอบของ Coldplay ว่า “นี่เป็นข้อพิสูจน์และตัวอย่างที่แท้จริงเมื่อหน่วยงานรัฐและเอกชนทำงานร่วมกันเพื่อประโยชน์ทางเศรษฐกิจ การสร้างงาน และการท่องเที่ยว” ส่วนบางกลุ่มออกมาคร่ำครวญว่า “เรื่องเหล่านี้ควรเกิดขึ้นในมาเลเซีย เพราะจะนำไปสู่รายได้จากนักท่องเที่ยวหลายล้านคน และผลประโยชน์ต่อธุรกิจโรงแรม การขนส่ง อาหารและเครื่องดื่ม การค้าปลีก และอื่น ๆ” 

‘ไซเอ็ด ซาดิก’ ส.ส. ชาวมาเลเซีย โพสต์คลิปบนโซเชียลมีเดียโดยกล่าวว่า “ในขณะที่บ้านเรากำลังโต้เถียงกันเอง มาเลเซียกำลังสูญเสียโอกาสทางเศรษฐกิจในประเทศ” 

การจัดคอนเสิร์ตของเทย์เลอร์ในสิงคโปร์ยังจุดชนวนความรู้สึกไม่พอใจจากแฟน ๆ ในฟิลิปปินส์เช่นกัน เนื่องจากฟิลิปปินส์เป็นฐานสวิฟตี้กลุ่มใหญ่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สวิฟตี้ในฟิลิปปินส์บางคนแสดงความเห็นว่า นี่เป็นความล้มเหลวของการวางผังเมืองและโครงสร้างพื้นฐาน ส่วนบางคนตำหนิเรื่องการทุจริตของรัฐบาล 

สำหรับประเทศไทย เสียงตัดพ้อหรือแสดงความไม่พอใจก็มีให้เห็นไม่น้อยหน้าทั้งสองประเทศ

แต่ท้ายที่สุดเราไม่ต้องการให้มีการโทษกันไปโทษกันมา เพียงแต่อยากให้เห็นภาพว่า ‘เหตุใด’ สิงคโปร์จึงสามารถเป็นอะไรก็ได้อย่างที่ใจต้องการ 

 

ภาพ: Getty Images

อ้างอิง: 

time

straitstimes

seasia