‘โรแลนด์’ โฮสต์แห่งยุค ฉายา ‘ราชาแห่งโฮสต์’ เคยทำรายได้มากถึง 10 ล้านเยน ใน 3 ชั่วโมง

• โรแลนด์ โฮสต์ที่โด่งดังจากญี่ปุ่น ฉายา ราชาแห่งโฮสต์ ที่อ้างว่าทำเงินรายได้จากลูกค้าได้มหาศาล เคยทำได้ถึง 10 ล้านเยน ภายใน 3 ชั่วโมง
• โรแลนด์ โดดเด่นเรื่องวาทศิลป์อย่างมาก แถมมีความมั่นใจในตัวเองขั้นสูง ทำให้เขาได้รับความนิยมในโลกออนไลน์และธุรกิจโฮสต์ในท้องถิ่น

ราชาแห่งโฮสต์จากญี่ปุ่น ชายที่มั่นใจในตัวเองแบบทะลุเพดาน พุ่งเสียดฟ้า จนเขานิยามตัวเองว่า “บนโลกนี้มีผู้ชายอยู่ 2 ประเภท คือฉัน และคนอื่นนอกจากฉัน” ชายคนนี้ใช้ชีวิตแบบไหน

นั่นคือประโยคที่ชายนามว่า มัตสึโอะ ฟูกะ (Matsuo Fuuga) หรือที่รู้จักกันทั่วไปในชื่อ ‘โรแลนด์’ (ROLAND) กล่าวว่าเป็นประโยคที่ตัวเขาชอบที่สุด

อะไรทำให้ชายคนหนึ่งมีความมั่นใจถึงขั้นพูดอะไรแบบนี้ออกมา? และเขาคนนี้เป็นใครมาจากไหน ในบทความนี้ The People จะพาผู้อ่านทุกท่านไปรู้จักกับ ‘ราชาแห่งโฮสต์’ ผู้นี้

ก่อนจะไปรู้จักกับ โรแลนด์ ก็ต้องมาทำความรู้จักกับอาชีพโฮสต์ก่อน ถ้าจะให้อธิบายให้เห็นภาพในบริบทสังคมไทยมากที่สุด โฮสต์ก็คือคำว่า ‘เด็กดริงก์’ เพียงแต่โฮสต์นั้น ไม่ได้เป็นสายงานที่ให้บริการกิจกรรมทางเพศ แต่จะออกไปในแนวของ ‘เพื่อนนั่งคุย’ ที่ทำให้ผู้ใช้บริการสาวรู้สึกว่าตัวเองเป็นคนสำคัญ ลูกค้าบาร์โฮสต์จะได้รับการดูแลเอาใจใส่จากหนุ่มหล่อที่จะคอยรับฟังปัญหาต่าง ๆ รวมถึงพูดจาเอาอกเอาใจต่าง ๆ นานา ดังนั้น โฮสต์จึงต้องมีทักษะการเป็นผู้ฟังและผู้ให้คำปรึกษาที่ดี รวมถึงยังต้องมีคารมและวาทศิลป์ในการสร้างความพึงพอใจแก่ลูกค้าอีกด้วย

ธุรกิจประเภทให้ความบันเทิงของญี่ปุ่นถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งแวดวงที่เต็มไปด้วยเม็ดเงินสะพัด ในทุก ๆ วัน ผู้ประกอบอาชีพเหล่านี้ไม่ว่าจะเป็น โฮสต์, คาบาคุระ (โฮสต์เตส หรือก็คือโฮสต์หญิง), แฟนเช่า, JK (นักเรียนสาวมัธยมปลายที่ให้บริการเป็นเพื่อนคุยเพื่อนเที่ยว) ต่างก็ต้องแข่งขันกันทำยอดขายตัวเองเพื่อที่จะเป็นอันดับหนึ่งในสังกัด ซึ่งจะนำไปสู่ชื่อเสียงในแวดวงและผู้ใช้บริการที่เพิ่มขึ้นจนสามารถทำเงินไปใช้ชีวิตหรูได้ดังใจนึก

ชายที่ชื่อโรแลนด์ ไม่เพียงแค่เป็นเบอร์หนึ่งของร้าน CLUB Platina ที่เขาเคยสังกัดตอนเข้าวงการใหม่ ๆ เท่านั้น เขายังไต่เต้าขึ้นไปเป็นเบอร์หนึ่งของวงการโฮสต์เมื่อครั้งอายุเพียง 20 ปี จนได้รับฉายา ‘ราชาแห่งโฮสต์’ ผู้เคยอ้างว่าสร้างสถิติทำเงินได้จากลูกค้าถึง 10 ล้านภายในเวลาเพียง 3 ชั่วโมงเท่านั้น

ไม่เพียงแค่ในวงการธุรกิจบันเทิงกลางคืนเท่านั้น คนทั่วไปที่ไม่เคยเที่ยวกลางคืนในญี่ปุ่นก็ย่อมต้องเคยเห็นหน้าเขาพร้อมกับได้ยินวลีเด็ดที่ไม่คิดว่าบนโลกนี้จะมีคนกล้าพูดสักครั้งทางรายการโทรทัศน์ หรือแม้แต่หนอนหนังสือก็ยังต้องพบกับหน้าของเขาตามมุมหนังสือแนะนำในร้าน เนื่องจากตัวของโรแลนด์เองก็มีผลงานเขียนหนังสือด้วย 

ในปีนี้ก็เห็นข่าวว่าไปเปิดคอร์สเรียนออนไลน์สอนเกี่ยวกับการสร้างความมั่นใจในตัวเองที่ไปโปรโมตถึงไต้หวัน, อีกทั้งยังมีธุรกิจด้านแฟชั่นอีกมากมาย เรียกได้ว่าเขาไม่ได้เป็นเพียงแค่โฮสต์ แต่เขาคือ ‘เซเลบ’ ตัวจริง

แน่นอนว่าการที่เป็นคนหาเงินได้มากที่สุดในธุรกิจ การใช้ชีวิตของโรแลนด์เองก็หรูหราฟูฟ่าสมฐานะ อย่างที่อยู่อาศัยปัจจุบันของเขาก็เป็นห้องหรูในโรงแรมแห่งหนึ่ง ทั้งที่การเงินของเขาสามารถบันดาลบ้านหลังไหนที่เขาต้องการก็ได้ แต่เหตุผลของโรแลนด์ ที่เลือกอยู่โรงแรมนั้นเรียบง่ายมาก เพราะมันเข้ากับไลฟ์สไตล์ของเขานั่นเอง

โรแลนด์ ยังเคยเปิดเผยว่า เขาเคยใช้เงินไปกับการทำศัลยกรรมกว่า 10 ล้านเยน และยังต้องมีค่าใช้จ่ายที่ตามมากว่า 2 แสนเยนต่อเดือน แต่นั่นก็ดูจะเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า เมื่อหลังจากทำศัลยกรรมแล้ว รายรับของเขาก็เพิ่มตามขึ้นเป็นเท่าตัวไปด้วย

ทั้งหมดที่กล่าวไปข้างต้นนั้น เป็นเพียงข้อมูลเล็กน้อยจากบทความต่าง ๆ ที่เคยเขียนถึงโรแลนด์ ซึ่งผู้อ่านก็อาจจะเคยผ่านตาเนื้อหาบางส่วนมาจากแหล่งอื่น ๆ แล้ว The People จึงอยากให้ทุกท่านได้รู้จักกับโรแลนด์ มากขึ้นผ่านการพูดคุยที่จะทำให้เรารู้จักและเข้าใจในทัศนคติของเขามากขึ้นจนอาจจะเปลี่ยนมุมมองที่มีต่อหนุ่มหล่อวัย 30 ปีคนนี้ไปตลอดกาล

ในแพลตฟอร์มสตรีมมิ่ง Netflix มีรายการหนึ่งที่ชื่อว่า Risqué Business: Japan หรือ ‘ธุรกิจติดเรท: ญี่ปุ่น’ รายการของประเทศเกาหลีใต้ที่จะพาผู้ชมไปสำรวจแวดวงธุรกิจทางเพศของประเทศญี่ปุ่น ดำเนินรายการโดยพิธีกรตลกชื่อดัง ชินดงยอบ ผู้ลือชาในด้านมุกสัปดน และนักร้องหนุ่มเสียงนุ่ม ซองชีคยอง ที่คนไทยอาจจะเคยคุ้นเคยเขาจาก X-Man รายการวาไรตี้ชื่อดังในอดีต รวมถึงผลงานเพลงบัลลาดประกอบละครมากมาย

ในรายการจะมีอยู่ตอนหนึ่งที่พาผู้ชมไปเปิดโลกทัศน์ในธุรกิจบาร์โฮสต์ โดยร้านที่พวกเขาเลือกไปถ่ายทำคือ The Club ที่มีตัวของโรแลนด์เองเป็นเจ้าของ ซึ่งโรแลนด์ ก็มาให้สัมภาษณ์ถึงแง่มุมต่าง ๆ ที่เราอาจจะไม่เคยรู้จักเกี่ยวกับเขามาก่อนด้วย

***เนื้อหาหลังจากนี้มีเปิดเผยข้อมูลส่วนหนึ่งจากรายการ Risqué Business: Japan****

สิ่งแรกที่ผู้เขียนได้รับทราบคือ เขาจะไม่ให้เบอร์โทรศัพท์กับใครง่าย ๆ ในนามบัตรที่เขามอบให้พิธีกรของรายการมีเพียงชื่อของเขาเท่านั้น ไม่มีรายละเอียดอื่น ๆ ในนั้น เขาให้เหตุผลว่าจะให้เบอร์โทรเฉพาะกับคนที่เขาอยากสนิทด้วยจริง ๆ เท่านั้น ดูเผิน ๆ อาจจะเหมือนหยิ่งผยอง แต่เมื่อการพูดคุยเริ่มต้นขึ้น โรแลนด์ อธิบายถึงเหตุผลที่เขาต้องวางตัวแบบนี้ เนื่องจากเขาต้องรักษามูลค่าในตัวเอง เพื่อให้ลูกค้าที่ยอมเสียเงินแพง ๆ เรียกใช้บริการเขารู้สึกว่า พวกเธอได้รับสิ่งที่ดีและพิเศษที่สุด และสิ่งนี้ก็ไม่ใช่ว่ามีเงินก็สามารถครอบครองได้ เพราะโรแลนด์ จะคัดสรรลูกค้าของเขาเช่นกัน เขาบอกว่า บางครั้งก็ยินดีที่จะรับลูกค้าที่เหน็ดเหนื่อยจากการทำงานพาร์ทไทม์มาเพื่อที่จะได้พบกับเขามากกว่าลูกค้าเงินหนาบางรายเสียอีก

ช่วงแรกของการสนทนา โรแลนด์ ยังเล่าถึงที่มาในการเข้าสู่วงการโฮสต์ของเขา แต่เดิมที เขาเป็นเด็กที่ชอบเล่นฟุตบอลมาก และเคยเป็นตัวแทนเยาวชนได้ไปแข่งขันที่ประเทศบราซิลด้วย (เขาบอกว่ารุ่นเดียวกับเนย์มาร์) แต่เมื่อเวลาผ่านไป เขาเห็นเพื่อนร่วมรุ่นคนอื่น ๆ ต่างก้าวหน้าในฐานะนักฟุตบอล ในขณะที่เขาประเมินตัวเองแล้วว่าไม่สามารถทำแบบนั้นได้ จึงตัดสินใจที่จะแสดงให้คนอื่น ๆ เห็นความสำเร็จของตัวเองในเส้นทางที่ต่างออกไป

โดยเหตุผลที่ต้องเลือกงานโฮสต์นั้น โรแลนด์ อธิบายว่า โฮสต์เป็นหนึ่งในอาชีพที่สามารถพลิกชีวิตคนที่ไม่มีต้นทุนมากมายได้อย่างมหาศาลหากว่าคุณทำได้ดี คาบูกิโจ ย่านเริงรมย์อันมีชื่อเสียงในโตเกียวจึงเป็นปลายทางใหม่ของเขาในวัย 18 ปี 

นอกจากทัศนคติในความมุ่งมั่นที่จะประสบความสำเร็จแล้ว ผู้เขียนยังสังเกตเห็นว่า โรแลนด์ เป็นคนที่มีมุมมองกว้างขวาง เขาสามารถอธิบายสังคมญี่ปุ่นในมุมของของชาวต่างชาติได้อย่างเห็นภาพ ทำให้พิธีกรและผู้ชมสามารถเข้าใจสิ่งที่เขาพยายามสื่อได้อย่างชัดเจน และรู้สึกเพลินเพลินในวิธีการสื่อสารของเขา (ฟังแล้วเคลิ้มนั่นเอง)

ดังนั้น จึงไม่น่าแปลกใจที่หากว่าตัดเรื่องวลีเด็ดแฝงอารมณ์ขันแนวหลงตัวเองของเขาออกไปแล้ว ก็ยังมีทักษะการพูดคุยรวมถึงทัศนคติของเขาที่สามารถมัดใจผู้เรียกใช้บริการได้อย่างมากมายจนกลายมาเป็นราชาแห่งโฮสต์ได้อย่างทุกวันนี้

เนื่องจากงานของโรแลนด์คือการพูดคุยกับคนมากมาย เขาจึงเป็นโฮสต์ที่ไม่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ แม้ว่าโฮสต์โดยทั่วไปจะต้องทำหน้าเชียร์ลูกค้าให้ซื้อเหล้ามานั่งดื่มกับตัวเองเพื่อกระตุ้นยอดขาย แต่โรแลนด์ มีเหตุผลว่าเขาจำเป็นต้องรักษาการบริการให้เต็มที่อย่างต่อเนื่อง ดังนั้น ถ้าเขาดื่มกับลูกค้ารายแรกของวันไปแล้ว สติและสภาพร่างกายของเขาอาจจะไม่เต็มร้อยกับลูกค้าคนถัด ๆ ไป เว้นแต่บางกรณีที่ลูกค้าสั่งขวดที่แพงที่สุดในร้านก็พอที่จะดื่มด้วยได้ ในอีกนัยคือ มันเป็นการการันตีมูลค่าในตัวเขาเองที่เป็นคนเลือกบริโภคแต่ของที่ดีที่สุดเท่านั้น

จะว่าไปแล้ว ผู้อ่านหลาย ๆ ท่าน รวมถึงตัวผู้เขียนเอง ก่อนหน้านี้ก็เคยสงสัยว่าเรามักจะเห็นโรแลนด์ใส่แว่นดำอยู่ตลอด แล้วเขาจะถอดมันตอนไหนบ้าง? จนมาได้คำตอบในการสัมภาษณ์ครั้งนี้ว่าเขาจะถอดแว่นต่อหน้าลูกค้าที่เขาให้บริการในฐานะโฮสต์เท่านั้น

เหตุผลก็คือ เขามองว่ามันไม่สุภาพ หากเขาจะปฏิบัติกับคนที่ยอมเสียเงินมากมายเพื่อมาพบเขาเท่าเทียมกับคนที่เห็นเขาในทีวีที่บ้าน

นอกจากการยอมถอดแว่นที่เปรียบดังคาแรกเตอร์ของตัวเองแล้ว เขายังเผยว่าตัวเองดูแลสุขภาพคอของตัวเองไม่ต่างจากศิลปินนักร้อง เพื่อจะให้ลูกค้าได้ฟังเสียงโทนต่ำอันทรงเสน่ห์ของเขาได้อย่างชัดเจนที่สุด นอกจากนี้ ยังมีเรื่องยิบย่อยอีกมากมาย เขาบอกว่าคนที่ใส่ใจในรายละเอียดเล็ก ๆ เท่านั้น ถึงจะสามารถเป็นเบอร์หนึ่งที่แท้จริงได้

นั่นแสดงให้เห็นว่าชายคนที่เราอาจจะมองว่าเขาหลงตัวเอง แท้จริงแล้วเขาเอาใจใส่ผู้อื่นขนาดไหน

ในช่วงท้ายของการพูดคุย พิธีกรถามโรแลนด์ว่า เขามีความคิดจะเลิกเป็นโฮสต์เมื่อไหร่ โรแลนด์ กล่าวว่า เขาไม่อยากจะออกจากวงการเพียงเพื่อหลีกทางให้กับรุ่นน้อง เขาอยากโดนรุ่นน้องผลักดันให้ออก เพราะถ้าหากมีคนที่สามารถขึ้นมาอยู่เหนือเขาในขณะที่เขายังทำเต็มที่อยู่ได้ นั่นหมายความว่าถึงเวลาที่เขาต้องลงจากบัลลังก์แล้ว 

แต่ก็แอบทิ้งท้ายว่า “อีก 300 ปีก็ไม่น่าจะมีวันนั้นหรอกนะ...”

รายละเอียดอื่น ๆ ของการสนทนา รวมถึงคำนิยามที่มีต่อโฮสต์จากราชาแห่งโฮสต์ สามารถติดตามเพิ่มเติมได้จาก Risqué Business: Japan ทาง Netflix นะครับ

แนะนำให้สวมแว่นกันแดดตอนรับชม เพราะออร่าของโรแลนด์ อาจเข้าตาคุณแล้วติดกับดักเสน่ห์ของเขาไปโดยไม่รู้ตัวก็ได้

 

เรื่อง: ภูริวัฒน์ เกิดภิบาล

ภาพ: roland_0fficial/Instagram

อ้างอิง:

Netflix’s Risqué Business: Japan

Taiwan News

Oddity Central