แม่แอ๊ด - โฉมฉาย ฉัตรวิไล: อาลัยครั้งสุดท้าย แด่ 'แม่' ผู้สร้างเสียงหัวเราะ เพชรเม็ดงามวงการบันเทิงไทย จากไปอย่างสงบในวัย 73 ปี

แม่แอ๊ด - โฉมฉาย ฉัตรวิไล: อาลัยครั้งสุดท้าย แด่ 'แม่' ผู้สร้างเสียงหัวเราะ เพชรเม็ดงามวงการบันเทิงไทย จากไปอย่างสงบในวัย 73 ปี

วันที่ 21 มิถุนายน 2567 วงการบันเทิงไทยสูญเสียเพชรเม็ดงามไปอย่างไม่มีวันหวนกลับ หลังจากเฟซบุ๊กWipavee Charoenpura ของ ‘กุ้ง - วิภาวี เจริญปุระ’ โพสต์ภาพ ‘แม่แอ๊ด’ พร้อมแคปชันอาลัยที่ทำให้เหล่าแฟนละครถึงกับหลั่งน้ำตา

KEY

POINTS

  • แม่แอ๊ด - โฉมฉาย ฉัตรวิไล นักแสดงอาวุโสผู้อยู่คู่วงการบันเทิงไทยมาไม่ต่ำกว่า 60 ปี ฝากผลงานขึ้นชื่อหลายต่อหลายเรื่อง หนึ่งในนั้นคือ 'บ้านนี้มีรัก' ที่เธอร่วมแสดงมาไม่ต่ำกว่า 11 ปี
  • ชีวิตวัยเด็กของโฉมฉายไม่ง่ายนัก เธอต้องทำงานหาเงินดูแลครอบครัวตั้งแต่อายุ 6 ขวบ เริ่มเข้าสู่วงการบันเทิงโดยการประกวดร้องเพลง
  • 21 มิถุนายน 2567 โฉมฉายจากไปอย่างสงบ ทิ้งไว้ผลงานคุณภาพเอาไว้ให้คนรุ่นหลังชื่นชม

วันที่ 21 มิถุนายน 2567 วงการบันเทิงไทยสูญเสียเพชรเม็ดงามไปอย่างไม่มีวันหวนกลับ หลังจากเฟซบุ๊กWipavee Charoenpura ของ ‘กุ้ง - วิภาวี เจริญปุระ’ โพสต์ภาพ ‘แม่แอ๊ด’ พร้อมแคปชันอาลัยที่ทำให้เหล่าแฟนละครถึงกับหลั่งน้ำตา

"ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวอย่างที่สุด ของ แม่แอ๊ด - โฉมฉาย ฉัตรวิไล"

ข่าวการจากไปของแม่แอ๊ดสั่นสะเทือนวงการบันเทิงไม่น้อย เพราะเธอเป็นดั่งเพชรที่ส่องประกายอยู่ในวงการบันเทิงไทยมาไม่ต่ำกว่า 60 ปี คอยมอบเสียงหัวเราะ ความเป็นห่วงเป็นใย และรอยยิ้มที่ไม่ว่าจะหันกลับมามองอีกกี่ครั้ง ก็สัมผัสได้ถึงความอบอุ่นอยู่เสมอ

แม่แอ๊ด - โฉมฉาย ฉัตรวิไล: อาลัยครั้งสุดท้าย แด่ \'แม่\' ผู้สร้างเสียงหัวเราะ เพชรเม็ดงามวงการบันเทิงไทย จากไปอย่างสงบในวัย 73 ปี

แต่กว่าเธอจะเป็น ‘แม่’ ที่ทุกคนรักถึงเพียงนี้ ชีวิตวัยเด็กของเธอไม่ง่าย โฉมฉายเกิดและโตที่กรุงเทพฯ เริ่มเข้าสู่วงการบันเทิงตอนอายุ 6 ขวบ เนื่องจากฐานะทางบ้านไม่ค่อยดีนัก พ่อผู้เป็นเสาหลักของบ้านทำงานอยู่ที่สถานีวิทยุ ส่วนแม่คอยทำหน้าที่ดูแลเธอไม่ห่างกาย ไม่ว่าเด็กหญิงโฉมฉายจะเดินทางไปทำงานที่ไหน แม่ก็จะมายืนรับ-ส่ง และนั่งรถเมล์ไปทำงานพร้อมเธอเสมอ

แม้ชีวิตจะไม่สุขสบาย แต่โชคดีที่เธอเกิดและโตมาครอบครัวที่รักและพร้อมสนับสนุนทุกความฝัน ก้าวแรกของการทำงานในวงการบันเทิง เริ่มจากจุดเล็ก ๆ หลังจากเด็กหญิงโฉมฉายในฐานะนักเรียนจากโรงเรียนเทเวศร์วิทยาลัย ถูกส่งตัวไปประกวดร้องเพลงและเอาชนะคู่แข่งได้อยู่บ่อยครั้ง ชื่อเสียงของเธอเริ่มเป็นที่ถูกพูดถึงมากขึ้นเรื่อย ๆ กระทั่งโชคชะตาดลใจให้โรงเรียนส่งเธอไปประกวดในรายการบางขุนพรหม ทางช่อง 4 และนั่นทำให้เธอสัมผัสเงินที่หามาได้ด้วยตัวเองเป็นครั้งแรก

แม่แอ๊ด - โฉมฉาย ฉัตรวิไล: อาลัยครั้งสุดท้าย แด่ \'แม่\' ผู้สร้างเสียงหัวเราะ เพชรเม็ดงามวงการบันเทิงไทย จากไปอย่างสงบในวัย 73 ปี

ด้วยน้ำเสียงที่เพราะราวกับสวรรค์สร้าง เธอจึงเป็นที่ถูกอกถูกใจคณะกรรมการมาโดยตลอด แน่นอนว่ามีคนคอยเข้ามาผลัดเปลี่ยนแข่งชิงถ้วยรางวัลไปจากมือเธอนับครั้งไม่ถ้วน แต่สุดท้ายเด็กหญิงโฉมฉายก็คว้าแชมป์มาครองอยู่ร่ำไป

“แม่ครองแชมป์อยู่เรื่อย ๆ กินเงินเดือนเดือนละ 500 บาท จนเขาต้องให้เกียรติบัตรแม่ เชิญให้ออก (หัวเราะ) ไม่อย่างนั้นคนอื่นเขาไม่มีใครมาสับเปลี่ยน” เธอให้สัมภาษณ์ในรายการ Inside Hall of Fame 2018 EP10 โฉมฉาย ฉัตรวิไล

หลังจากนั้นเธอก็ได้รับโอกาสเข้ามาเรื่อย ๆ หนึ่งในนั้นคือ ละครวิทยุ (คณะแก้วฟ้า) เปลี่ยนจากเด็กหญิงโฉมฉาย ฉัตรวิไล เป็น ‘อัญชุลี ฉัตรวิไล’ และใช้ชื่อนี้มาโดยตลอด ต่อมาได้รับการทาบทามให้แสดงภาพยนตร์อีกหลายต่อหลายเรื่อง เรียกได้ว่าเป็นจุดเปลี่ยนของชีวิตเด็กหญิงโฉมฉายเลยก็ว่าได้

ด้วยความเป็นเด็กกตัญญูเธอจึงไม่เคยเกี่ยงงานเลยสักครั้ง โฉมฉายอยากเห็นครอบครัวมีชีวิตที่ดี เธอจึงรับงานทุกอย่าง ตั้งแต่เดินแบบ เล่นละครทีวี ไปจนถึงแสดงภาพยนตร์ เรียกได้ว่างานในวงการบันเทิงมีเท่าไหร่ เด็กหญิงโฉมฉายทำหมดแทบทุกอย่าง

แม่แอ๊ด - โฉมฉาย ฉัตรวิไล: อาลัยครั้งสุดท้าย แด่ \'แม่\' ผู้สร้างเสียงหัวเราะ เพชรเม็ดงามวงการบันเทิงไทย จากไปอย่างสงบในวัย 73 ปี “คุณพ่อคุณแม่ไม่ใช่คนมีเงิน เราเริ่มร้องเพลงได้จากการฟังที่วิทยุ และสามารถที่จะไปอยู่กับวงดนตรีดุริยางค์ ตอนนั้นก็ไปสมัครร้องเพลงก่อน ชื่อวงดนตรีชุมนุมศิลปิน ที่มีครูจำรัส วิภาตะวัธ เป็นหัวหน้าวงดนตรี ก็ไปเป็นนักร้องอยู่ในวง”

ความยากของการทำงานในวงการสมัยก่อน คงหนีไม่พ้นเรื่องการท่องบทละคร โชคดีที่เธอมีความจำเป็นเลิศ ไม่ว่าจะได้รับบทบาทไหน ความยาวกี่หน้ากระดาษ เธอก็ท่องจำได้ทุกอย่างโดยไม่มีขาดตกบกพร่อง

แม่แอ๊ด - โฉมฉาย ฉัตรวิไล: อาลัยครั้งสุดท้าย แด่ \'แม่\' ผู้สร้างเสียงหัวเราะ เพชรเม็ดงามวงการบันเทิงไทย จากไปอย่างสงบในวัย 73 ปี และเพราะความจำดีเช่นนี้เอง ทำให้เมื่อเวลาล่วงเลยไป อายุของเธอขยับเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ จากจำได้ทุกอย่าง ความทรงจำค่อย ๆ ถดถอย และนั่นทำให้เธอในวัย 66 ปี ออกมาเผยกับสื่อมวลชนในปี 2559 เป็นครั้งแรกว่าต่อจากนี้ชีวิตในฐานะนักแสดงอาจจบลง เพราะไม่อยากเป็นภาระให้ใครอีก

“เรื่องสุขภาพร่างกาย ถ้าถามว่าอ่อนแอถึงขนาดทำอะไรไม่ได้ไหม มันไม่ใช่ เพียงแต่รู้สึกว่า เมื่อก่อนการที่ได้เล่นละครทำงานอยู่ในวงการนี้ มีความสุขมาก มีความกระตือรือร้นในการทำงาน ขนาดตอนที่เป็นเมโนพอส (โรควัยทอง) ยังรู้สึกกระตือรือร้นมากกว่านี้

“แต่ตอนนี้กลับรู้สึกว่า เหมือนกำลังเป็นโรควัยทอง รู้สึกว่าไม่ได้มีความรู้สึกในการทำงานเหมือนเดิม แต่ไม่ได้หมายความว่าจะไม่ได้รับละครนะ เพียงแต่ว่าอย่าส่งบทละครที่ ยาว 3-4 หน้า มาให้เล่น แค่รู้สึกว่าอยากเล่นสบายๆ บ้าง

“เมื่อก่อนนี้เวลาที่อ่านบทละคร อ่านแป๊บเดียวจำได้หมดเลย ทุกอย่างอยู่ในหัวหมด แต่เดี๋ยวนี้ถ้าจะต้องมีถ่ายละครในตอนเช้าอีกวัน ขอโทษนะ จะต้องนอนท่องบททั้งคืน (หน้าเศร้า) ซึ่งไม่เคยเป็นแบบนี้ เลยมีความรู้สึกเหมือนเสียความมั่นใจ
“ตลอดเวลาที่อยู่ในวงการรู้สึกว่าไม่เคยเป็นภาระใคร ถ้าไปถ่ายละครแล้วถูกสั่งให้เทกอยู่ตลอดเวลาไม่เคยเป็นเลย ทุกอย่างจะต้องเป๊ะ แต่เดี๋ยวนี้ต้องมานั่งท่องจำบท กลัวว่าถ้าต้องเล่นแล้วเทกบ่อยๆ ในกองเป็นการถ่วงเวลาของคนอื่น ซึ่งนักแสดงแต่ละคนก็จะบอกว่า แม่ไม่เป็นไรเลย คนอื่นไม่เป็นไร แต่เรารู้สึกว่าเป็นมาก แค่โดนเทกครั้งเดียว ก็รู้สึกว่าเสียกำลังใจไปหมดแล้ว เพราะเมื่อก่อนไม่เคยเป็น”

แม่แอ๊ด - โฉมฉาย ฉัตรวิไล: อาลัยครั้งสุดท้าย แด่ \'แม่\' ผู้สร้างเสียงหัวเราะ เพชรเม็ดงามวงการบันเทิงไทย จากไปอย่างสงบในวัย 73 ปี

กว่า 67 ปีที่เธอฝากผลงานไว้ในวงการบันเทิงไทย ทำให้เธอกลายเป็นที่เคารพรักของเหล่านักแสดงทั้งรุ่นเก่า รุ่นใหม่ แถมยังตกแฟนละครรุ่นใหม่ให้หลงรักเธออยู่ทุกคืนวัน โดยเฉพาะบท ‘แม่น้อย’ ในซิตคอม บ้านนี้มีรัก ซึ่งเธอร่วมแสดงมาไม่ต่ำกว่า 11 ปี แต่สุดท้ายเธอก็ตัดสินใจวางมือ ทิ้งช่วงการเล่นละครไปไม่ต่ำกว่า 3 ปี เพราะอายุที่เพิ่มมากขึ้น ความทรงจำที่พร่าเลือน เธอไม่สูญเสียความมั่นใจในการแสดงมากไปกว่านี้อีก

วันเวลาล่วงเลย แม่แอ๊ดกลับมาเล่นซิตคอม ‘รักล้น ๆ คนเต็มบ้าน’ ในปี 2561 หลังจากห่างจอไปนาน “ไม่อยากจะเป็นภาระให้ใคร อย่าส่งบทมาให้ฉันต้องพูดที 3-4 หน้า อะไรต่ออะไร อย่าให้แม่เล่นเยอะนัก ถ้าเกิดบทไหนเป็นใบ้ เอามาเลย (หัวเราะ) ให้แม่เล่นน้อย ๆ ก็แล้วกันนะ” เธอให้สัมภาษณ์ผ่านทางช่องวัน31

“ตอนนี้แม่แก่แล้วความจำไม่ค่อยดี เขาบอกไม่ค่อยพูดหรอกแม่ แม่มีน้อย ตั้งแต่ตอนหนึ่ง เกือบจะ 20 ตอนแล้ว ยังไม่ได้หุบปากเลยลูกเอ้ย เขาให้แม่พูดนิดเดียว คือหมายถึงที่ง่าย ๆ น่ะ นี่แม่ไม่ได้นินทานะลูกนะ นี่แม่จริงใจแม่ถึงได้พูด”

แม้จะทนทุกข์ทรมานจากความแก่ชรา แต่เธอยังไม่ทิ้งอารมณ์ขันที่พร้อมจะมอบให้กับทุกคนอยู่เสมอ ส่วนผลงานเรื่องสุดท้ายของแม่แอ๊ด คือ ‘เว้าวอนรัก’ ออกอากาศไปเมื่อต้นปี 2567 ซึ่งเป็นเรื่องที่ ‘อาร์ต พนิตนาฏ’ ลูกสาวที่เธอภาคภูมิใจเป็นผู้จัด

The People ขอแสดงความเสียใจต่อการจากไปของ แม่แอ๊ด - โฉมฉาย ฉัตรวิไล แม้เพชรเม็ดงามจะหม่นแสงลง แต่เพชรเม็ดนี้จะยังคงส่องประกายไปอีกนานเท่านาน ผ่านผลงานการแสดงคุณภาพ ที่เธอได้ฝากฝังเอาไว้ในวงการบันเทิงไทยตลอดระยะเวลาเกือบ 70 ปี

 

เรื่อง: วันวิสาข์ โปทอง

ภาพ: chomchaichatvilai /Instagram

 

อ้างอิง: