28 พ.ย. 2561 | 18:17 น.
อเล็กซ์ อัลบอน นักแข่งรถลูกครึ่งอังกฤษ-ไทย วัย 24 ปี กลายเป็นนักขับคนที่สองในประวัติศาสตร์ของไทยในรอบ 65 ปี ที่ได้มีโอกาสเข้าแข่งขันรถสูตรหนึ่งชิงแชมป์โลก หรือ "เอฟวัน" ต่อจาก พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าพีรพงศ์ภาณุเดช หลังโตโร รอสโซ่ ฮอนด้า ทีมในศึกเอฟวันดึงเขาไปร่วมทีมในฤดูกาลปี 2019 ก่อนที่ในเวลาต่อมาเขาจะทำผลงานเข้าตา เรดบูลล์ เรซซิง ทีมใหญ่อันดับสามของเอฟวัน จนถูกดันขึ้นมาขับคู่กับแม็กซ์ เวอร์สแตพเพน แทนที่ปิแอร์ แกสลี นักขับชาวฝรั่งเศส นักแข่งเลือดสยามรายนี้มีชื่อจริงว่า อเล็กซานเดอร์ อัลบอน อังศุสิงห์ เขาเป็นลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของคุณแม่กัญญ์กมล อังศุสิงห์ และคุณพ่อไนเจล อัลบอน อดีตนักแข่งรถทัวริ่งคาร์ของอังกฤษ และเศรษฐีซูเปอร์คาร์
อเล็กซานเดอร์ชื่นชอบการแข่งรถมาตั้งอายุยังน้อย จุดเริ่มต้นบนถนนสายความเร็วของอเล็กซ์ มาจากความชื่นชอบในตัวไอดอลของเขา ไมเคิล ชูมัคเกอร์ “ต้นแบบของผมคือไมเคิล ชูมัคเกอร์ ผมพูดคำว่าเฟอร์รารี่ได้ก่อนคำว่ามามี้-แดดดี้ เสียอีก ตอนเด็ก ๆ เมื่อผมเห็นชูมัคเกอร์แพ้ผมจะหงุดหงิดมาก ๆ และตอนที่ผมไม่ชอบกินผักคุณแม่ก็จะหลอกล่อผมว่า เนี่ย ถ้ากินผักลูกก็จะเก่งเหมือนชูมัคเกอร์” จากความหลงใหลในกีฬาแข่งรถของอเล็กซ์ คุณพ่อของเขาลงทุนเปลี่ยนสนามหลังบ้านให้เป็นสนามแข่งรถเล็ก โดยเริ่มจากการนำอิฐมาวางเรียงเป็นลู่วิ่งถนน ตอนนั้นอเล็กซ์ไม่รอช้ารีบปีนขึ้นรถโก-คาร์ท ที่พ่อของเขาพาไปซื้อ และขับไปรอบ ๆ สนาม จินตนาการว่าตัวเองเป็นแชมเปี้ยนโลกเจ็ดสมัยเหมือนชูมัคเกอร์ ตอนนั้นเขารู้ได้ทันทีว่าตัวเองเกิดมาเพื่อสิ่งนี้ อเล็กซ์ได้สัมผัสความเร็วจริง ๆ จัง ๆ ครั้งแรกเมื่ออายุได้ 6 ขวบ จากการฝึกหัดขับรถโก-คาร์ท โดยมีคุณพ่อที่เป็นอดีตนักแข่งคอยให้คำแนะนำ หลังได้ไลเซนส์ลงแข่งรถในสนามโก-คาร์ทเป็นครั้งแรกในชีวิต เขาเริ่มสร้างชื่อด้วยการตระเวนคว้าแชมป์หลายรายการ ทั้งในอังกฤษและทั่วโลก ไม่นานก็สามารถก้าวขึ้นไปคว้าแชมป์ CIK-FIA World Cup หรือแชมป์โลกโก-คาร์ท (คลาส KF3) ได้สำเร็จ และเหตุการณ์ครั้งนั้นทำให้ทุกสายตาในโลกจับจ้องไปที่อเล็กซ์ “คุณพ่อของผมคือแรงบันดาลใจที่ทำให้ผมโลดแล่นอยู่ในวงการมอเตอร์สปอร์ต อาจเพราะคุณพ่อผมเองก็เคยผ่านการเป็นนักแข่งรถมาด้วย บวกกับแรงสนับสนุนของครอบครัว ที่ลงทุนดัดแปลงพื้นที่สวนหลังบ้านให้กลายเป็นสนามแข่งเล็ก ๆ นั่นก็กลายเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ผมหลงใหลในความเร็ว”
การเป็นดาวรุ่งพุ่งแรงแถมเป็นคนไทยอีกด้วย เรดบูลล์ไม่รอช้าจับอเล็กซ์เข้าโปรแกรมนักขับเยาวชนของทีมเมื่อปี 2012 ก่อนจะประเดิมสนามในรายการ “ฟอร์มูล่า เรโนลต์ 2.0” ซึ่งนี่ถือเป็นครั้งแรกที่อเล็กซ์ได้สัมผัสการแข่งขันในแบบความเร็วสูงแบบหนึ่งที่นั่ง แต่ด้วยแรงกดดันที่ถาโถมเข้าใส่ บวกกับการที่ต้องปรับตัว ทำให้อเล็กซ์ไม่สามารถโชว์ฟอร์มเก่งออกมาได้ จนสุดท้ายถูกดร็อปจากเรดบูลล์ “ผมเริ่มจากการแข่งโก-คาร์ท และผมก็เป็นแชมป์ มันคือจุดสูงสุดของผมในตอนนั้น แต่หลังจากที่ผมย้ายมาแข่งในรถแบบหนึ่งที่นั่ง ช่วงสองปีแรกของผมมันค่อนข้างยาก ผมไม่มีคนคอยให้คำแนะนำหรือสอนอะไรโดยเฉพาะในปีแรก แต่อีกสองปีมันก็ค่อย ๆ ดีขึ้น” หลังโชว์ฟอร์มดีกับทีมเคทีอาร์ อเล็กซ์ได้มีโอกาสขึ้นไปเล่นในการแข่งขันเอฟทรี กับทีมซิคเนเจอร์ ก่อนจะถูกทีมเออาร์ที กรังด์ปรีซ์ จับไปเล่นในรายการ GP3 ซึ่งทำให้เขามีโอกาสได้แข่งอย่างออกรสชาติกับนักขับดาวรุ่งเด็กปั้นของเฟอร์รารี่อย่าง ชาร์ลส เลอแคลร์ จนฟอร์มถูกตาต้องใจให้ เออาร์ทีดันเขาขึ้นไปเล่นในเอฟทู ซึ่งเป็นเหมือนสะพานสู่ฝันของเขาไปสู่เอฟวัน “วันไหนที่คุณคิดว่าตัวเองเก่งแล้ว ตัวเองไม่ต้องซ้อมแล้ว หรือไม่ต้องเคร่งครัดกับระเบียบวินัยที่เทรนเนอร์วางไว้ วันนั้นคือจุดจบของคุณ เพราะมีผู้คนมากมายที่ต่างทุ่มเทและพัฒนาตัวเองมากขึ้นเรื่อย ๆ การแข่งขันในระดับฟอร์มูล่าทู ถือเป็นอีกจุดที่พลิกชีวิตผมเลยก็ว่าได้” บทสัมภาษณ์จาก TrueID แม้การซิ่งกับเออาร์ทีจะไม่ราบรื่นอย่างที่คิด แต่ในฤดูกาลที่สองกับแดมส์ เขาก็สามารถแจ้งเกิดกับเอฟทูได้อย่างเต็มตัว ขึ้นไปยืนบนโพเดียมในอันดับที่หนึ่งถึงสี่สนาม เริ่มจาก บากู ประเทศอาเซอร์ไบจาน, ซิลเวอร์สโตน ประเทศอังกฤษ, ฮังกาโรริ่ง ประเทศฮังการี และ โซชิ ออโตโดรม ประเทศรัสเซีย ทำให้อเล็กซ์จบฤดูกาลด้วยอันดับสามในตารางคะแนนสะสมประเภทบุคคล แม้จะมีฟอร์มที่ดีและมีความสามารถ แต่เขาก็ไม่ได้ถูกทาบทามจากทีมใดในเอฟวันเสียที จนสุดท้ายเขาหมดหวังจึงหันไปเซ็นสัญญาร่วมทีมนิสสัน ในศึกฟอร์มูล่าอี แทน แต่หลังจากที่ โตโร รอสโซ่ เลือกที่จะไม่ต่อสัญญากับเบรนดอน ฮาร์ทลีย์ แถมดึง ดานีล คีฟยาต มาแทนปิแอร์ แกสลีย์ ที่ถูกดันขึ้นไปขับกับเรดบูลล์ นั่นทำให้ทีมมีที่นั่งว่างอยู่พอดิบพอดี ทีมงานและ ดร. เฮลมุท มาร์โก ที่ปรึกษาของเรดบูลล์ จึงมองหานักขับฝีมือดีมาขับรถของพวกเขาในฤดูกาลหน้า ท่ามกลางข่าวลือว่าพวกเขากลับมาสนใจเด็กเก่าในสังกัดอย่างอเล็กซ์ หลังจากวันสุดท้ายของฤดูกาล 2018 สิ้นสุดลงเพียงไม่กี่วันต่อมา โตโร รอสโซ่ ก็ออกมาประกาศว่า อเล็กซ์ อัลบอน จะกลายเป็นนักขับของพวกเขาในฤดูกาลหน้า ซึ่งอเล็กซ์ก็ได้ออกมาเปิดใจในวันที่ความฝันเป็นจริงแล้วว่า “ตลอดอาชีพนักแข่งรถ ผมมีช่วงที่ขึ้น ๆ ลง ๆ เสมอ ผมเคยถูกดร็อปจากเรดบูลล์ในปี 2012 หลังจากนั้น ผมคำนึงถึงตลอดมาว่าเส้นทางสู่ฟอร์มูล่าวันของผมมันจะยากขึ้นมาก "ผมทำงานหนักมาก ทุกครั้งที่ผมอยู่ในรถ ผมจะพยายามทำให้มีฟอร์มที่น่าประทับใจ และผมอยากจะขอบคุณเรดบูลล์และ ดร. เฮลมุท มาร์โก มาก ๆ ที่เชื่อมั่นในตัวผมและให้โอกาสครั้งที่สองกับผม "ผมคลั่งไคล้กีฬามอเตอร์สปอร์ตมาตั้งแต่ผมอยู่ในรถครั้งแรก มันเป็นความฝันของผมที่จะได้ขับในเอฟวัน การได้รับโอกาสครั้งนี้มันน่าเหลือเชื่อมาก ๆ” อเล็กซ์พูดเสมอว่า เขาคิดว่าตัวเองยังคงต้องพัฒนาไปเรื่อย ๆ และเชื่อว่าหากมุ่งมั่นตั้งใจทำอะไรสักอย่างและมีเป้าหมายที่ชัดเจน สักวันหนึ่งสิ่งที่ฝันจะกลายเป็นจริงขึ้นมาเอง สำหรับอเล็กซ์ ความฝันของเขาคือการคว้า “แชมป์โลก” รถสูตรหนึ่งให้ได้ ซึ่งความฝันนี้ของอเล็กซ์ก็เข้ามาใกล้ตัวเขามากขึ้น หลังผ่านไปสิบสองสนามกับโตโร รอสโซ่ ฮอนด้า ฝีมือของอเล็กซ์ก็เข้าตาทีมใหญ่อย่างเรดบูลล์ ที่กำลังผิดหวังกับปิแอร์ แกสลี หลังนักขับชาวฝรั่งเศสรายนี้โชว์ฟอร์มได้ต่ำกว่ามาตราฐาน จนสุดท้ายก่อนจะเริ่มแข่งที่สนามเดอสปา-ฟรองโกชองส์ เพียงไม่กี่สัปดาห์ อเล็กซ์ก็ถูกดันขึ้นมาขับคู่กับแม็กซ์ เวอร์สแตพเพน และทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม จนยึดตำแหน่งเก้าอี้นี้ถาวรในฤดูกาล 2020
และล่าสุดเมื่อวันที่ 13 กันยายน 2020 ที่สนามมูเจลโล ในประเทศอิตาลี อเล็กซ์ ก็ได้สร้างประวัติศาสตร์ให้กับประเทศไทยด้วยการคว้าตำแหน่งโพเดียมครั้งแรกในศึกเอฟวันได้สำเร็จ หลังวิ่งผ่านธงตราหมากรุกในอันดับที่สามตามหลังแชมป์อย่างลูอิส แฮมิลตัน ของทีมเมอร์เซเดส และอันดับที่ 2 วัลท์เทอรี บอททาส
“ผมต้องใช้เวลาสักพักเลย ก่อนที่จะได้ขึ้นโพเดียมแรก แต่ตอนนี้มันก็ถึงเวลาแล้ว ผมต้องทำงานหนักเพื่อสิ่งนี้ และตอนนี้ผมก็หายใจได้โล่งขึ้นแล้วแหละ ผมดีใจนะที่ได้มายืนที่นี่!"
ต้องรอดูว่าอเล็กซ์จะพาเพลงชาติไทยของเราไปเปิดให้ก้องโลกบนโพเดียมในฐานะแชมป์ของสนามได้หรือไม่ คงต้องติดตามและเอาใจช่วยหนุ่มคนนี้ในสนามที่เหลือ ที่มา https://www.foxsportsasia.com/formula1/955787/thai-british-alexander-albon-formula-one-future/ http://www.formulascout.com/why-alex-albon-deserves-more-respect-and-a-red-bull-recall/44324 http://sport.trueid.net/detail/100435 https://www.thairath.co.th/content/146819 http://www.thaibevthaitalent.com/2018/05/03/alex-albon/