‘เอฟ นครนายก’ อีกหนึ่งนักสอยคิวไทยฝีมือระดับโลก แต่ต้องขวนขวายหาค่าใช้จ่ายเพื่อไปแข่ง

• เทพไชยา อุ่นหนู ทำผลงานไต่ระดับขึ้นมาสู่ระดับสากลได้อย่างต่อเนื่อง แม้บางช่วงจะไม่ได้สัมผัสแชมป์มากนัก 
• ปี 2023 เอฟ นครนายก ทำผลงานยอดเยี่ยมอีกหนด้วยการเข้ารอบชิงชนะเลิศรายการ 6 แดงชิงแชมป์โลก

ต๋อง ศิษย์ฉ๋อย หรือเจมส์ วัฒนา คือนักสนุกเกอร์ไทยคนแรกที่สามารถคว้าแชมป์การแข่งขันสนุกเกอร์อาชีพสะสมคะแนนโลกได้ในช่วงปี 1992-1995 จากนั้นแฟนกีฬาชาวไทยก็ต้องรอเวลากว่า 24 ปีจึงจะมีนักสนุกเกอร์ไทยคนที่สองที่สามารถคว้าแชมป์การแข่งขันระดับอาชีพสะสมคะแนนโลกได้สำเร็จ

ซึ่งเขาคนนั้นก็คือ เทพไชยา อุ่นหนู หรือ ‘เอฟ นครนายก’ ที่สามารถคว้าแชมป์รายการสนุกเกอร์ ชูตเอาท์ (Snooker Shoot Out) ในปี 2019 มาครองได้สำเร็จ และล่าสุด เจ้าตัวก็สามารถคว้าตำแหน่งรองชนะเลิศการแข่งขันรายการซิกส์-เรด เวิลด์ แชมเปียนชิพ (Six-Red World Championship) ประจำปี 2023 หรือสนุกเกอร์หกแดงชิงแชมป์โลกมาครองได้สำเร็จด้วยฟอร์มการเล่นที่ยอดเยี่ยม

โดยเฉพาะการแข่งขันในรอบรองชนะเลิศกับฮอสเซน วาเฟอี ยอดนักสนุกเกอร์จากประเทศอิหร่านที่ เอฟ นครนายก นั้นต้องตามหลังอยู่ 2-5 เฟรมจากนั้นนักสอยคิวจากอิหร่านก็ขึ้นแท่นไปรอที่ 4-6 เฟรม ขาดอีกเฟรมเดียวก็จะสามารถผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศได้แล้ว แต่เอฟ นครนายก ก็สามารถสร้างปาฏิหารย์เอาชนะรวดในอีก 3 เฟรมพลิกแซงกลับมาชนะได้ 7-6 เฟรม ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศได้สำเร็จ

โดยการเข้ารอบชิงชนะเลิศของ เอฟนคร นายก ในครั้งนี้ นับเป็นการปลุกกระแสวงการสนุกเกอร์ไทยให้กลับมาอยู่ในความสนใจของแฟนกีฬาชาวไทยอีกครั้ง แม้ว่าในท้ายที่สุดแล้ว เจ้าตัวจะไม่สามารถไปถึงตำแหน่งแชมป์ได้อย่างที่ตั้งใจไว้ แต่เพียงเท่านี้ก็สร้างความสุขและความภาคภูมิใจให้แก่คนไทยได้เป็นอย่างมาก และแม้ว่าการแข่งขันรายการดังกล่าวจะไม่มีการสะสมคะแนนโลก แต่ก็นับเป็นรายการแข่งขันที่ได้รับการรับรองและอยู่ในปฏิทินการแข่งขันประจำปีของเวิลด์ สนุกเกอร์ ทัวร์ (World Snooker Tour) อย่างเป็นทางการมาโดยตลอด

บทความนี้เราจึงขอนำเสนอเรื่องราวของ เทพไชยา อุ่นหนู หรือ ‘เอฟ นครนายก’ ผู้สร้างความสำเร็จในการแข่งขันระดับนานาชาติมาแล้วมากมายหลายรายการ เพื่อที่เราจะได้รู้จักเจ้าตัวกันให้มากขึ้นครับ

 

จุดเริ่มต้นจากการรับใช้ทีมชาติไทย

เทพไชยา อุ่นหนู หรือเอฟ นครนายก สร้างผลงานการแข่งขันระดับนานาชาติครั้งแรกก็คงต้องย้อนกลับไปในปี 2007 ที่เจ้าตัวเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ครั้งที่ 24 ที่จังหวัดนครราชสีมาเป็นเจ้าภาพในฐานะนักสนุกเกอร์ทีมชาติไทยในประเภทหกแดง โดยเจ้าตัวก็สามารถคว้าเหรียญเงินมาครองได้สำเร็จหลังจากที่ในรอบชิงชนะเลิศเอฟ นครนายก ต้องพ่ายแพ้ให้กับนักกีฬาเพื่อนร่วมชาติอย่าง ไพฑูรย์ ผลบุญ หรือ ‘ตัวเล็ก สำโรง’ ไปแบบสนุก

ในปีถัดมา เอฟ นครนายก ก็สามารถคว้าแชมป์การแข่งขันสนุกเกอร์สมัครเล่นชิงแชมป์โลก หรือรายการไอบีเอสเอฟ เวิลด์ แชมเปียนชิพ 2008 (IBSF World Championship 2008) ที่ประเทศออสเตรีย โดยรอบชิงชนะเลิศในครั้งนั้นเอฟ นครนายก สามารถเอาชนะคอมล์ กิลครีทส์ จากไอร์แลนด์ไปได้ด้วยสกอร์ 11-7 เฟรม ซึ่งการคว้าแชมป์ในการแข่งขันรายการนี้ก็ส่งผลให้เจ้าตัวได้รับสิทธิ์เข้าร่วมการแข่งขันสนุกเกอร์ระดับอาชีพในฤดูกาลถัดไป

เอฟ นครนายก แม้จะไปทำการแข่งขันในระดับอาชีพแล้วแต่เจ้าตัวก็ยังคงรับใช้ทีมชาติไทยมาอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะในการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 16 ประจำปี 2010 ณ เมืองกว่างโจว ประเทศจีน เอฟ นครนายก คือกำลังสำคัญในการพาทีมชาติไทยคว้าเหรียญทองแดงมาครองได้จากประเภทสนุกเกอร์ ทีมชาย โดยผลงานเด่นของเจ้าตัวคือพาทีมชาติไทยเอาชนะทีมชาติอิหร่านไปได้แบบฉียดฉิว 3-2 ในรอบควอเตอร์ไฟนอล

ซึ่งชัยชนะดังกล่าวคือการการันตีเหรียญทองแดงในทันที โดยในคู่ตัดสินนั้นก็เป็นเอฟ นครนายก ที่สามารถเอาชนะโซฮีล วาเฮดี ได้อย่างสวยงาม จากนั้นในรอบรองชนะเลิศกับทีมชาติจีนเกมการแข่งขันก็ดำเนินมาถึงคู่ตัดสินอีกครั้งโดยในครั้งนี้เอฟ นครนายก ต้องโคจรมาพบกับดิง จุน ฮุย ยอดนักสนุกเกอร์ขวัญใจเจ้าถิ่น ซึ่งก็แน่นอนครับว่าด้วยประสบการณ์ของ เอฟ นครนายก ในวันนั้นมิอาจสู้ความเก๋าของดิง จุน ฮุย จนต้องพบกับความพ่ายแพ้ไปแบบน่าเสียดาย

ในปี 2011 เอฟ นครนายก กลับมารับใช้ทีมชาติไทยอีกครั้ง ในการแข่งขันซีเกมส์ ครั้งที่ 26 ณ กรุงจาการ์ตาและเมืองปาเลมบัง ประเทศอินโดนีเซีย และในครั้งนี้เจ้าตัวก็สามารถคว้าเหรียญทองให้ทีมชาติไทยได้สำเร็จด้วยการเอาชนะอัง บุน ชิน นักสนุกเกอร์จากสิงคโปร์ไปได้ในรอบชิงชนะเลิศ และนี่นับเป็นเหรียญทองแรกและเหรียญทองเดียวของเอฟ นครนายก ในมหกรรมกีฬาซีเกมส์

 

เส้นทางสายอาชีพ แชมป์สนุกเกอร์สะสมคะแนนโลกคนที่สองของไทย

เทพไชยา อุ่นหนู หรือเอฟ นครนายก มีโอกาสได้ไปเข้าร่วมการแข่งขันสนุกเกอร์ระดับอาชีพในฤดูกาล 2009-2010 ซึ่งในช่วง 2-3 ปีแรกนั้น เจ้าตัวยังไม่สามารถต้านทางความแข็งแกร่งของนักสนุกเกอร์ในทัวร์ได้และมักจะต้องหยุดเส้นทางของตัวเองเอาไว้ที่รอบคัดเลือกเพียงเท่านั้น จนในฤดูกาล 2013-2014 เอฟ นครนายก จึงเริ่มมีโอกาสได้แข่งขันในรอบเมนดรอว์ (Main Draw) ซึ่งผลงานที่ดีที่สุดคือการผ่านเข้าสู่รอบที่ 3 หรือรอบ 16 คนในรายการเวิลด์ โอเพ่น (World Open) ประจำปี 2014 โดยในรายการดังกล่าวรอบแรกเอฟ นครนายก สามารถเอาชนะสตีเฟน แม็กไกวร์ อดีตมือวางอันดับที่ 2 ของโลกจากสก็อตแลนด์ได้ 5-4 เฟรม

เส้นทางของเอฟ นครนายก ยังคงวนเวียนอยู่แต่ในรอบคัดเลือกหรือหากผ่านเข้าไปสู่รอบเมนดรอว์ได้ ก็มักจะไปหยุดอยู่ที่รอบแรกหรือรอบที่สองของการแข่งขันเท่านั้นจนการแข่งขันรายการอินเดียน โอเพ่น (Indian Open) ปี 2015 เจ้าตัวก็สามารถสร้างผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมเมื่อสามารถผ่านเข้าสู่การแข่งขันในรอบรองชนะเลิศไทยก่อนที่จะไปพ่ายแพ้ให้กับริคกี วอลเดน จากประเทศอังกฤษไปแบบฉิวเฉียด 3-4 เฟรม โดยในรายการนี้เอฟ นครนายก ก็สามารถล้ม ดิง จุน ฮุย จากประเทศจีนในรอบแรกของการแข่งขันได้แล้ว

ในฤดูกาล 2015-2016 เป็นฤดูกาลที่เอฟ นครนายก เริ่มทำผลงานในระดับอาชีพได้บ้าง โดยในการแข่งขันรายการอาชีพสะสมคะแนนโลกนั้น เจ้าตัวสามารถผ่านเข้าถึงรอบรองชนะเลิศในรายการอินเตอร์เนชั่นนอล แชมเปียนชิพ 2015 ได้สำเร็จโดยผลงานเด่นคือการเอาชนะมาร์ค เจมส์ วิลเลียมส์ จากประเทศเวลส์และมาร์ค อัลเลน จากประเทศไอร์แลนด์เหนือได้ ในรอบ 32 คนและรอบ 8 คนตามลำดับ

จากนั้นเจ้าตัวก็สามารถผ่านเข้าไปถึงรอบควอเตอร์ไฟนอลหรือ 8 คนสุดท้ายในรายการสนุกเกอร์ เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ (Snooker World Grand Prix) 2016 ได้สำเร็จโดยการเอาชนะมาร์โก ฟู เกาจุน ยอดนักสนุกเกอร์จากฮ่องกงได้ในรอบแรก ก่อนจะเอาชนะมาร์ค อัลเลนไปอีกครั้งในรอบถัดมา แต่ในท้ายที่สุดก็ต้องไปพ่ายให้กับดิง จุน ฮุยในรอบควอเตอร์ไฟนอลแบบเฉียดฉิว 3-4 เฟรม

นอกจากนั้น ในฤดูกาลดังกล่าว เอฟ นครนายก ก็สามารถคว้าแชมป์รายการซิกส์-เรด เวิลด์ แชมเปียนชิพ 2015 ไปครองได้สำเร็จ เป็นการคว้าแชมป์รายการอาชีพแบบไม่มีคะแนนสะสมหรือ Non-Ranking Tournaments ได้เป็นครั้งแรกอีกด้วย โดยในครั้งนั้นเจ้าตัวสามารถเอาชนะเหลียง เหว่ยโบไปได้ในรอบชิงชนะเลิศ 8-2 เฟรม สร้างความภาคภูมิใจให้กับแฟนกีฬาชาวไทยเป็นอย่างมาก อีกทั้งในรายการดังกล่าว เอฟ นครนายก ก็สามารถเอาชนะจัดด์ ทรัมป์ อดีตมือวางอันดับ 1 ของโลกในรอบ 16 คนมาได้อย่างงดงามอีกด้วย

ฤดูกาล 2016-2017 เป็นฤดูกาลที่ เอฟ นครนายก เริ่มลงแข่งขันรายการระดับอาชีพมากขึ้นซึ่งผลงานเด่นก็คือผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศในรายการพอล ฮันเตอร์ คลาสสิก (Paul Hunter Classic) และเวิลด์ โอเพ่น (World Open) ประจำปี 2016 โดยในรายการแรก เอฟ นครนายก สามารถทำแม็กซิมั่มเบรก 147 คะแนนได้เป็นครั้งแรกในรายการอาชีพระดับโลกในรอบ 32 คนที่พบกับเคิร์ท มาฟลิน

จากนั้นในรายการหลังนั้น เจ้าตัวสามารถเอาชนะได้ทั้งมาร์ค เซลบี มือวางอันดับที่ 1 ของโลกจากอังกฤษและอลัน แมคมานัส อดีตมือท๊อปของโลกจากสกอตแลนด์ได้ จากนั้นในฤดูกาลถัดมา แม้ว่าเอฟ นครนายก จะไม่สามารถทำผลงานได้ดีในรายการเก็บคะแนนสะสมโลก แต่ยังมีตำแหน่งรองชนะเลิศรายการซิกส์-เรด เวิลด์ แชมเปียนชิพ 2017 มาปลอบใจ โดยรอบชิงชนะเลิศเจ้าตัวต้องพ่ายให้กับมาร์ค เจมส์ วิลเลียมส์ ไปแบบขาดลอย

ฤดูกาล 2018-2019 เป็นฤดูกาลที่วงการสนุกเกอร์ไทยต้องจารึกไว้เมื่อเป็นการสิ้นสุดการรอคอยมากว่า 24 ปี ที่นักสนุกเกอร์ไทยสามารถค้าแชมป์รายการอาชีพแบบสะสมคะแนนโลกหรือ Ranking Tournaments มาครองได้ โดยครั้งสุดท้ายที่นักกีฬาจากประเทศไทยฝากผลงานระดับโลกไว้นั้นก็มาจากฝีมือของต๋อง ศิษย์ฉ๋อย หรือเจมส์ วัฒนา ที่สามารถคว้าแชมป์รายการไทยแลนด์ โอเพ่น (Thailand Open) ประจำปี 1995

ในครั้งนี้ เอฟ นครนายก คือนักสนุกเกอร์ที่สามารถทำผลงานดังกล่าวได้เมื่อเจ้าตัวสามารถคว้าแชมป์รายการสนุกเกอร์ ชูตเอาท์ (Snooker Shoot Out) ประจำปี 2019 มาครองได้สำเร็จเป็นประวัติศาสตร์ที่วงการกีฬาไทยต้องจารึกไว้

นอกจากนี้ ในฤดูกาลดังกล่าว เอฟ นครนายก ก็สามารถทำแม็กซิมั่มเบรก 147 คะแนนได้เป็นครั้งที่ 2 ในการเล่นอาชีพระดับโลก โดยเหตุกาณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงต้นฤดูกาลแข่งขันกับศึกอิง ลิช โอเพ่น (English Open) ประจำปี 2018 ในรอบแรกหรือ 128 คน กับโซฮีล วาเฮดี

ฤดูกาลถัดมา เอฟ นครนายก ยังคงทำผลงานได้ดีอย่างต่อเนื่องเมื่อสามารถผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศรายการสะสมคะแนนโลกได้เป็นครั้งที่ 2 ในรายการเวิลด์ โอเพ่น 2019 แต่เจ้าตัวก็ไม่สามารถคว้าแชมป์ที่ 2 ได้เมื่อในรอบชิงชนะเลิศ เอฟ นครนายก ต้องพ่ายแพ้ให้กับยอดนักสนุกเกอร์ระดับโลกอย่างจัดด์ ทรัมป์ 5-10 เฟรม เป็นความเสียดายของทั้งเจ้าตัวและแฟนกีฬาชาวไทย แต่ก็ต้องยอมรับครับว่าในวันนั้น จัดด์ ทรัมป์ ทำผลงานได้ดีกว่านักสนุกเกอร์ไทยของเราจริง ๆ

อย่างไรก็ดี ในฤดูกาลดังกล่าว เอฟ นครนายก ก็สามารถคว้าแชมป์รายการอาชีพแบบไม่มีคะแนนสะสมหรือ Non-Ranking Tournaments มาครองได้หนึ่งรายการเป็นรางวัลปลอบใจ ซึ่งนั่นก็คือรายการไฮหนิง โอเพ่น (Haining Open) ประจำปี 2019

การกลับมาอีกครั้งในรายการ 6 แดงชิงแชมป์โลก

หลังจากปี 2019 เป็นต้นมาผลงานของเทพไชยา อุ่นหนู หรือเอฟ นครนายก ก็ยังไม่มีความสำเร็จใดมาเพิ่มเติม จะมีก็เพียงแต่การที่เจ้าตัวสามารถทำแม็กซิมั่มเบรก 147 คะแนนได้เป็นครั้งที่ 3 ในการแข่งขันรายการเยอรมัน มาสเตอร์ (German Master) ประจำปี 2021 เท่านั้น

ส่วนเรื่องของผลการแข่งขันที่ดีสุดที่สุดของเจ้าตัวคือการผ่านเข้ารอบควอเตอร์ไฟนอลหรือรอบ 8 คนในรายการสกอตติช โอเพ่น (Scottish Open) 2019, แชมเปียน ออฟ แชมเปียน (Champion of Champions) 2019 และยูโรเปียน มาสเตอร์ (European Master) 2020 เท่านั้น ส่วนรายการอื่นก็ตกรอบไปก่อนหน้านี้แทบทั้งสิ้น

จนล่าสุดในการแข่งขันรายการซิกส์-เรด เวิลด์ แชมเปียนชิพ (Six-Red World Championship) ประจำปี 2023 ที่ประเทศไทยเราเป็นเจ้าภาพ เอฟ นครนายก สามารถทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมเมื่อผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศได้เป็นรายการแรกในรอบ 4 ปี

ในรอบรองชนะเลิศนั้น เจ้าตัวพลิกสถานการณ์จากการถูกกับฮอสเซน วาเฟอี ยอดนักสนุกเกอร์จากประเทศอิหร่านขึ้นนำไปโดยตลอดและไปขึ้นแท่นอยู่ที่ 4-6 เฟรม ซึ่งหาก เอฟ นครนายก พ่ายแพ้อีกเพียงแค่เฟรมเดียวก็จะทำให้เส้นทางของเจ้าตัวต้องหยุดเอาไว้แค่เพียงรอบรองชนะเลิศนี้เจ้านั้น แต่เอฟ นครนายก ก็สวมหัวใจสิงห์ไล่สอยเก็บชัยชนะได้ 3 เฟรมรวดจนพลิกแซงเอาชนะกับฮอสเซน วาเฟอี ไปได้ 7-6 เฟรม สร้างความชื่นชมยินดีให้กับแฟนสนุกเกอร์ชาวไทย

รอบชิงชนะเลิศ เอฟ นครนายก ต้องโคจรมาพบกับดิง จุน ฮุย นักสนุกเกอร์จากจีนอีกครั้ง และในครั้งนี้เกมการแข่งขันก็เป็นไปอย่างตื่นเต้นท่ามกลางความหวังของแฟนสนุกเกอร์ที่อยากเห็นนักกีฬาไทยสามารถชูถ้วยใบนี้ในบ้านของตัวเองแต่ก็ต้องยอมรับว่าเกมการแข่งขันนั้นเป็น ดิง จุน ฮุย ที่สามารถทำได้ดีกว่าและเอาชนะเอฟ นครนายกไปได้ ทำให้นักสอยคิวไทยได้เพียงตำแหน่งรองชนะเลิศเท่านั้น แต่ก็นับว่าเป็นผลงานที่ยอดเยี่ยมของเจ้าตัว และก็ไม่แน่นะครับว่าความสำเร็จในรายการนี้ของ เอฟ นครนายก แม้มันจะไม่ได้ไปอยู่บนจุดสูงสุด แต่ก็อาจกลายเป็นแรงผลักดันชั้นดีของเจ้าตัวให้สร้างผลงานต่อไปในอนาคต

 

สนุกเกอร์ กีฬาที่รอการผลักดันและสนับสนุน

เมื่อทุกท่านอ่านมาถึงตรงนี้ก็น่าจะได้รับรู้ถึงผลงานและเส้นทางการแข่งขันสนุกเกอร์อาชีพของเทพไชยา อุ่นหนู หรือเอฟ นครนายก ได้ในระดับหนึ่ง แต่เบื้องหลังผลงานไม่ว่าจะประสบความสำเร็จหรือไม่นั้น ตัวนักกีฬาเองก็ต้องต่อสู้กับสิ่งที่อยู่นอกสนามมากมาย ทั้งเรื่องค่าใช้จ่ายในช่วงที่ออกเดินทางไปแข่งขันโดยเฉพาะที่ทวีปยุโรป หรือค่าอุปกรณ์การฝึกซ้อมต่าง ๆ สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นสิ่งที่นักกีฬาอาชีพทุกคนไม่ใช่แต่เอฟ นครนายก เท่านั้น ที่ต้องการการสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง เพราะเพียงแค่งบประมาณจากสมาคมสนุกเกอร์นั้นคงไม่เพียงพอที่จะทำให้งานใหญ่สำเร็จได้

หลายครั้งที่นักกีฬาได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าพวกเขามีดีพอที่จะไปสร้างผลงานอย่างนักสนุกเกอร์รุ่นพี่ เพียงแต่ถ้านักกีฬาเหล่านี้สามารถมุ่งสมาธิไปที่การแข่งขันอย่างเต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ ได้เมื่อไหร่ ผลงานที่เป็นรูปธรรมก็จะเห็นได้ชัดเจนมากขึ้นเท่านั้น

“ทุกวันนี้ผมก็เอาเงินรางวัลที่ได้มาเป็นค่าใช้จ่ายในการส่งตัวเองเข้าร่วมการแข่งขัน บางครั้งไม่มี ผมก็ให้แฟนผมทำงานอย่างอื่นเพื่อมาเป็นค่าใช้จ่าย”

นี่คือคำพูดของเทพไชยา อุ่นหนู หรือเอฟ นครนายก ที่พูดถึงความยากลำบากของนักกีฬาสนุกเกอร์อาชีพที่ต้องเผชิญกับภาระค่าใช้จ่ายทั้งค่าสมัครการแข่งขัน ค่าเดินทาง ค่าเช่าบ้าน และค่าฝึกซ้อม ซึ่งเจ้าตัวให้ความคิดเห็นว่าหากยังไม่สนับสนุนนักกีฬาสนุกเกอร์อาชีพอย่างจริงจัง วันหนึ่งเมื่อนักกีฬาไม่สามารถสู้ไหวก็คงจะไม่เหลือใครในทัวร์ระดับอาชีพ ซึ่งนั่นอาจทำให้วงการสนุกเกอร์ไทยซบเซาอย่างแท้จริง

“ภาครัฐควรจะให้ความสำคัญกับนักกีฬาอาชีพ ให้การสนับสนุนมากกว่านี้เพราะมีการแข่งขันตลอดทั้งปี ทุกวันนี้ภาครัฐไม่เคยสนับสนุนนักกีฬาอาชีพเลยแม้แต่ค่าเดินทาง แต่พอเวลาทำผลงานได้ดีก็มารับที่สนามบินพร้อมพวงมาลัย เอาตรง ๆ ผมไม่ชอบนะ เพราะตอนส่งยังไม่ได้มาส่งเลย”

เอฟ นครนายกที่อยากให้ภาครัฐหันมาให้การสนับสนุนนักสนุกเกอร์ไทยที่ทำการแข่งขันในระดับโปรหรือระดับอาชีพมากยิ่งขึ้น เพื่อให้นักสนุกเกอร์ทั้งหมดของไทยสามารถต่อกรกับนักกีฬาอาชีพของประเทศอื่นได้

ซึ่งเราคงได้แต่หวังว่าสักวันหนึ่งเราจะมีนักสนุกเกอร์ที่ทำให้คนทั้งโลกต้องจับตามองอีกครั้งเหมือนอย่างเช่นยุคของชายที่ชื่อต๋อง ศิษย์ฉ่อย และมันจะเป็นเช่นนั้นก็คงจะต้องได้รับความร่วมมือและช่วยเหลือจากทุกภาคส่วน

 

เรื่อง: ธิษณา ธนคลัง (เต้นคุง)

ภาพ: แฟ้มภาพ NATION PHOTO