‘ฟรานเชสโก คามาร์ดา’ เด็กหนุ่มที่มีโอกาสเป็น ‘ตำนานดาวยิง’ คนต่อไปของวงการฟุตบอลอิตาลี

‘ฟรานเชสโก คามาร์ดา’ เด็กหนุ่มที่มีโอกาสเป็น ‘ตำนานดาวยิง’ คนต่อไปของวงการฟุตบอลอิตาลี

หนุ่มน้อย ‘ฟรานเชสโก คามาร์ดา’ วัย 15 ปี เจ้าของสถิตินักฟุตบอลอายุน้อยที่สุดที่ได้ลงสนามในฟุตบอลลีกสูงสุดของประเทศอิตาลี

  • ‘ฟรานเชสโก คามาร์ดา’ นักฟุตบอลจากทีมเยาวชนเอซี มิลาน ลงสนามด้วยวัยเพียง 15 ปี 260 วัน กลายเป็นนักฟุตบอลอายุน้อยที่สุดที่ได้ลงสนามในฟุตบอลลีกสูงสุดของประเทศอิตาลี
  • ฟรานเชสโก คามาร์ดา สามารถทำได้ถึง 483 ประตู จากการลงสนามไปทั้งสิ้น 87 เกมให้กับทีมเยาวชนของสโมสรเอซี มิลาน ในทุกรูปแบบการแข่งขัน ซึ่งเท่ากับว่าคามาร์ดานั้นสามารถทำประตูได้เฉลี่ย 5.5 ประตูต่อหนึ่งเกมเลยทีเดียว
  • สิ่งที่ทำให้เจ้าตัวได้รับความสนใจจากสื่อมวลชนและทีมต่าง ๆ ในยุโรปก็คือการที่คามาร์ดาสามารถสร้างสถิติเป็นนักฟุตบอลอายุน้อยที่สุดที่ทำประตูได้ในรายการยูฟ่า ยูธ ลีก ด้วยวัย 15 ปี 193 วัน

เกมการแข่งขันฟุตบอลลีกของประเทศอิตาลี หรือศึกกัลโช่ เซเรีย อา เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน 2023 ที่ผ่านมา ในเกมการแข่งขันระหว่าง ‘ปีศาจแดงดำ’ เอซี มิลาน กับ ‘ม่วงมหากาฬ’ ฟิออเรนติน่า ได้เกิดเรื่องราวน่าสนใจในโลกของฟุตบอลขึ้น 

เมื่อทีมมิลานตัดสินใจส่งหนุ่มน้อย ‘ฟรานเชสโก คามาร์ดา’ นักฟุตบอลจากทีมเยาวชนลงสนามด้วยวัยเพียง 15 ปี 260 วัน จนเป็นสถิตินักฟุตบอลอายุน้อยที่สุดที่ได้ลงสนามในฟุตบอลลีกสูงสุดของประเทศอิตาลี ทำลายสถิติเดิมของ ‘วิสดอม เอมีย์’ ที่เคยลงสนามให้กับสโมสรโบโลญญ่าด้วยวัย 15 ปี 274 วัน ในช่วงฤดูกาล 2020 - 2021

สำหรับชื่อของ ‘ฟรานเชสโก คามาร์ดา’ ได้รับความสนใจตั้งแต่เจ้าตัวนั้นมีอายุได้เพียง 13 - 14 ปีเท่านั้น หลังจากที่มีเรื่องราวและสถิติการทำประตูของเจ้าตัวปรากฏเป็นไวรัลบนโลกอินเทอร์เน็ตมากมาย โดยเนื้อหาส่วนใหญ่มุ่งเน้นไปที่การเป็นกองหน้าจอมถล่มประตูของหนุ่มน้อยรายนี้ 

จากการเปิดเผยของ ‘สเคียร์ โมราต้า มอร์บิด้า’ นักข่าวอิตาลีที่ทำการบันทึกสถิติของเจ้าหนูรายนี้ ระบุเอาไว้ว่าฟรานเชสโก คามาร์ดา สามารถทำได้ถึง 483 ประตู จากการลงสนามไปทั้งสิ้น 87 เกมให้กับทีมเยาวชนของสโมสรเอซี มิลาน ในทุกรูปแบบการแข่งขัน ซึ่งเท่ากับว่าคามาร์ดานั้นสามารถทำประตูได้เฉลี่ย 5.5 ประตูต่อหนึ่งเกมเลยทีเดียว นับเป็นสถิติที่มีความน่าสนใจอยู่ไม่น้อยในช่วงเวลานั้น 

เส้นทางสายฟุตบอลของฟรานเชสโก คามาร์ดา เป็นอย่างไร ก่อนที่ชื่อของเจ้าตัวจะกลายเป็นผู้เล่นอายุน้อยที่ลงสนามในศึกกัลโช่ เซเรีย อา เรามาติดตามเรื่องราวของเจ้าตัวกันครับ

เด็กปั้นก้นกุฏิของปีศาจแดงดำแห่งอิตาลี

ฟรานเชสโก คามาร์ดา เกิดในเมืองมิลาน แรกเริ่มนั้นเจ้าตัวได้มีโอกาสไปฝึกฟุตบอลกับโรงเรียนอัฟฟอเรเซ่ (Afforese) ก่อนจะได้มีโอกาสเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของเอซี มิลาน อะคาเดมี่ ในปี 2015 ด้วยวัยเพียง 7 ปีเท่านั้น 

ในช่วงแรกคามาร์ดาถูกจับไปเล่นในตำแหน่งกองหลังเพราะเจ้าตัวมีรูปร่างที่สูงใหญ่กว่าเพื่อนรุ่นเดียวกัน แต่หลังจากที่คามาร์ดาโชว์ทักษะการครองบอล เลี้ยงบอลผ่านคู่แข่งเข้าไปทำประตูได้เป็นว่าเล่น สตาฟทีมงานของอะคาเดมี่จึงตัดสินใจเปลี่ยนให้เจ้าตัวมาเล่นในตำแหน่งกองหน้าอย่างเต็มตัวมาจนถึงปัจจุบัน

คามาร์ดาตอบรับความไว้วางใจของทีมสตาฟด้วยการทำประตูอย่างมากมายในการแข่งขันฟุตบอลรุ่นอายุไม่เกิน 9 ปี ครั้งหนึ่งในการแข่งขันฟุตบอลทัวร์นาเมนต์ที่กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย ทีมเยาวชนเอซี มิลาน ต้องลงสนามพบกับทีมเยาวชนบาเยิร์น มิวนิค ยอดทีมจากประเทศเยอรมนี ในการแข่งขันนัดดังกล่าวคามาร์ดาต้องนั่งอยู่ในซุ้มม้านั่งสำรองเพราะสภาพร่างกายไม่สมบูรณ์นัก ประกอบกับทางทีมสตาฟต้องการให้โอกาสผู้เล่นคนอื่นได้ลงสนามบ้าง

แต่เหมือนโชคชะตาจะนำพาชื่อเสียงมาให้กับคามาร์ดา เพราะในขณะที่ทีมของเขาต้องเป็นรองบาเยิร์น มิวนิคอยู่ถึง 0 - 2 ทางโค้ชก็ตัดสินใจเปลี่ยนเอาคามาร์ดาลงสนาม และเด็กหนุ่มรายนี้ก็จัดการทำ 2 ประตูกับอีก 1 แอสซิสต์ ช่วยให้เอซี มิลาน สามารถพลิกกลับมาชนะไปได้ 3 - 2 อย่างไม่น่าเชื่อ และนั่นก็เป็นการพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าคามาร์ดานั้นเป็นนักฟุตบอลที่สามารถพลิกเกมในการแข่งขันระดับเดียวกันได้อย่างสมบูรณ์แบบ

คามาร์ดายังคงทำผลงานได้ดีอย่างต่อเนื่องกับทีมเยาวชนของเอซี มิลาน เจ้าตัวมีสถิติการทำประตูที่น่าสนใจอย่างสม่ำเสมอ จนถูกสโมสรผลักดันขึ้นไปซ้อมกับทีมชุดอายุไม่เกิน 19 ปี ด้วยวัยเพียงแค่ 14 ปีเท่านั้น นับเป็นการเลื่อนชั้นขึ้นมาได้อย่างรวดเร็ว

แบกอายุสร้างผลงานบนผืนหญ้าในระดับเยาวชน

ในฤดูกาล 2023 - 2024 ฟรานเชสโก คามาร์ดา คือผู้เล่นชุดเยาวชนอายุไม่เกิน 19 ปีของสโมสรเอซี มิลาน หลัก ๆ แล้วเจ้าตัวจะลงสนามในรายการพรีมาเวรา 1 (Primavera 1) หรือฟุตบอลลีกเยาวชนของประเทศอิตาลี รวมทั้งการแข่งขันรายการโคปปา อิตาเลีย พรีมาเวรา (Coppa Italia Primavera) และยูฟ่า ยูธ ลีก (UEFA Youth League) อีกด้วย 

โดยในส่วนของฟุตบอลพรีมาเวรา 1 นั้น หากนับถึงก่อนเกมที่คามาร์ดาจะสร้างสถิติลงสนามในกัลโช่ เซเรีย อา เจ้าตัวมีโอกาสลงสนามในฟุตบอลลีกเยาวชนของอิตาลีไปทั้งหมด 9 นัด ระยะเวลาเฉลี่ยรวมนัดละ 40 นาทีโดยประมาณ โดยคามาร์ดาสามารถทำไปได้ 1 ประตูในเกมที่ทีมเยาวชน 19 ปีของเอซี มิลาน สามารถบุกไปเอาชนะทีมเยาวชน 19 ปี ซัสซูโอโลได้ 2 - 0 ซึ่งประตูดังกล่าวนับเป็นประตูแรกในฟุตบอลลีกเยาวชนของเจ้าตัว

ขณะที่ในการแข่งขันฟุตบอลโคปปา อิตาเลีย พรีมาเวรานั้น คามาร์ดาใช้เวลาในสนามเพียง 60 นาทีก็สามารถทำแฮตทริกได้ในเกมที่ต้นสังกัดของเจ้าตัวเปิดบ้านเอาชนะทีมเยาวชน 19 ปี เอ็นเทลล่าไป 7 - 0 ในเกมการแข่งขันของรอบที่ 3 เมื่อช่วงเดือนกันยายน ปี 2023 ที่ผ่านมา

แต่สิ่งที่ทำให้เจ้าตัวได้รับความสนใจจากสื่อมวลชนและทีมต่าง ๆ ในยุโรปก็คือการที่คามาร์ดาสามารถสร้างสถิติเป็นนักฟุตบอลอายุน้อยที่สุดที่ทำประตูได้ในรายการยูฟ่า ยูธ ลีก ด้วยวัย 15 ปี 193 วัน ทำลายสถิติเดิมของ ‘ฟาบริซิโอ คาลิการ่า’ แข้งเพื่อนร่วมชาติ โดยเจ้าตัวทำประตูได้ถึง 2 ประตูกับทำอีก 1 แอสซิสต์ ในเกมที่เยาวชนเอซี มิลานเอาชนะเยาวชนนิวคาสเซิล ยูไนเต็ด จากประเทศอังกฤษไปได้แบบถล่มทลายถึง 4 - 0 โดยนัดดังกล่าวนั้นคามาร์ดาได้มีโอกาสลงไป 90 นาที 

จากนั้นเจ้าตัวก็มาแผลงฤทธิ์อีกครั้งในเกมพบกับเยาวชนปารีสแซ็ง-แฌร์แม็ง ที่คามาร์ดาทำ 1 ประตูช่วยให้เอซี มิลาน เอาชนะทีมจากฝรั่งเศสไปได้ 3 - 2 ซึ่งผลงานในฟุตบอลรายการยูฟ่า ยูธ ลีกนี้ ทำให้คามาร์ดาได้รับการจับตามองจากทีมงานของทีมชุดใหญ่

นอกจากฟรานเชสโก คามาร์ดา จะสามารถสร้างผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมกับทีมเยาวชนของสโมสรเอซี มิลานแล้ว เจ้าตัวยังสามารถทำผลงานกับทีมชาติอิตาลี ชุดอายุไม่เกิน 17 ปี ได้เป็นที่น่าพอใจ เมื่อเจ้าตัวสามารถทำประตูใส่ทีมชาติเดนมาร์กและทีมชาติเยอรมนี ชุดอายุไม่เกิน 17 ปีในเกมกระชับมิตรได้ ก่อนที่จะทำอีก 1 ประตูในเกมที่ทีมชาติอิตาลีสามารถเอาชนะทีมชาติซานมาริโนไปได้ 4 - 0 ในการแข่งขันฟุตบอลยูฟ่า ยูโรเปียน ยู-17 แชมเปียนชิพ รอบคัดเลือก (UEFA European U-17 Championship Qualification) 

กล่าวได้ว่า แม้ฟรานเชสโก คามาร์ดา จะต้องแบกอายุลงสนามแข่งขันทั้งในนามสโมสรกับทีมเยาวชนอายุไม่เกิน 19 ปีของเอซี มิลาน และในนามทีมชาติอิตาลี ชุดอายุไม่เกิน 17 ปี เจ้าตัวยังคงสามารถทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม โดยเฉพาะทักษะที่โดดเด่นอย่างการหาพื้นที่และความเฉียบคมในการเข้าทำประตูที่หาตัวจับได้ยากในเด็กวัยเดียวกัน

ประวัติศาสตร์แห่งเซเรีย อา

จากสถานการณ์ปัจจุบันของสโมสรเอซี มิลาน ต้องประสบปัญหากับความพร้อมของผู้เล่นแนวรุกที่ต้องพักการลงสนามจากอาการบาดเจ็บและติดโทษแบนของกองหน้าตัวหลักอย่าง โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ ทีมชาติฝรั่งเศส, ราฟาเอล เลเอา ทีมชาติโปรตุเกส และโนอาห์ โอคาฟอร์ ทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์ ทำให้ฟรานเชสโก คามาร์ดา ได้ถูกดันขึ้นมาร่วมซ้อมกับทีมชุดใหญ่เพื่อเป็นกำลังเสริมให้กับทีม 

ข่าวดังกล่าวสร้างความตื่นเต้นให้กับสาวกของปีศาจแดงดำเป็นอย่างมาก รวมทั้งแฟนฟุตบอลทั่วโลกที่ติดตามผลงานของคามาร์ดาก็เฝ้ารอโอกาสที่จะเห็นเจ้าตัวลงสนามให้กับทีมชุดใหญ่ของเอซี มิลานเช่นกัน

เกมการแข่งขันศึกกัลโช่ เซเรีย อา ฤดูกาล 2023 - 2024 นัดที่ 13 เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน 2023 ณ สนามจูเซปเป้ เมอัซซ่า หรือที่คุ้นหูกันอีกชื่อคือซานซิโร่ สเตเดียม โดยทีมเอซี มิลาน เจ้าบ้านต้อนรับการมาเยือนของทีมฟิออเรนตินานั้น กลายเป็นการจารึกอีกหนึ่งประวัติศาสตร์ที่สำคัญเมื่อ ‘สเตฟาโน่ ปิโอลี่’ กุนซือใหญ่ของเอซี มิลาน ตัดสินใจส่งคามาร์ดาลงสนามไปแทน ‘ลูก้า ยอวิช’ ศูนย์หน้าทีมชาติเซอร์เบีย ในนาทีที่ 83 ของการแข่งขัน เพื่อไปเก็บเกี่ยวประสบการณ์ ซึ่งแม้ว่าตลอดกว่า 7 นาที (ไม่รวมทดเวลาบาดเจ็บ) ในสนามนั้น เจ้าตัวจะไม่สามารถทำประตูได้ แต่ก็นับว่าเป็นการเริ่มต้นที่ดีของเจ้าตัว

การได้สร้างสถิติเป็นผู้เล่นที่อายุน้อยที่สุดที่ได้ลงสนามในศึกกัลโช่ เซเรีย อาของประเทศอิตาลี อาจเป็นคำยกย่องหรือเป็นชื่อเสียงที่ฟรานเชสโก คามาร์ดา นักฟุตบอลหนุ่มวัย 15 ปีได้รับได้วันนี้ แต่เหนืออื่นใด นี่เป็นแค่เพียงจุดเริ่มต้นในการเป็นนักฟุตบอลอาชีพเท่านั้น ยังมีบทพิสูจน์อีกมากมายรอเจ้าตัวอยู่ การยืนระยะในทีมชุดใหญ่ให้ได้นั้นเป็นสิ่งสำคัญที่คามาร์ดาต้องให้ความสำคัญเป็นลำดับแรก เส้นทางต่อจากนี้จะเป็นอย่างไร จะมีประวัติอะไรเกิดขึ้นได้อีกหรือไม่จากเจ้าตัว พวกเราคงต้องรวมกันเป็นกำลังใจให้กับทุกการเติบโตของแข้งเยาวชนรายนี้กันครับ

 

เรื่อง : ธิษณา ธนคลัง - เต้นคุง (The Sportory)

ภาพ : Getty Images 
อ้างอิง :
Primavera : https://www.legaseriea.it/it/primavera
Serie A : https://www.legaseriea.it/en
UEFA Youth League : https://www.uefa.com/uefayouthleague/
Transfermarket : https://www.transfermarkt.com
เด็กนรกซัด 483 ประตูใน 3 ปี ‘ฟรานเชสโก้ คามาร์ด้า’ - ขอบสนาม