17 ธ.ค. 2561 | 16:15 น.
เมื่อคุณพูดถึง “นักกีฬาอาชีพ” ภาพในหัวของใครหลายคนอาจจะนึกถึงคนที่มีรูปร่างล่ำ ๆ บึ้ก ๆ เรียกได้ว่ายิ่งดูแข็งแรง ยิ่งดูเก่ง อย่างในกีฬาฟุตบอลก็จะมีคริสเตียโน โรนัลโด้ หรือ โรเมลู ลูกากู ที่ดูเป็นลักษณะอย่างนั้น แต่รู้หรือไม่การที่มีกล้ามเนื้อมากเกินไปก็ใช่ว่าจะเป็นผลดีต่อการแข่งขันเสมอไปโดยเฉพาะกีฬาที่ต้องใช้ความคล่องแคล่วอย่าง “ฟุตบอล” และสิ่งที่เกิดขึ้นกับ โรเมลู ลูกากู นักฟุตบอลชาวเบลเยี่ยมของทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คือกรณีศึกษาล่าสุดของเรื่องนี้ ลูกากู โชว์ฟอร์มอันยอดเยี่ยมกับทีมชาติเบลเยี่ยมในศึกฟุตบอลโลกที่รัสเซีย หลังทำไป 4 ประตูจนกลายเป็นรองซัลโวของทัวร์นาเมนต์ แต่ดูเหมือนลูกากูจะทิ้งความเก่งของเขาเอาไว้ที่รัสเซียด้วย หลังฟอร์มการเล่นของเขากับยูไนเต็ดในฤดูกาลนี้ตกฮวบลงจนน่าใจหาย จนหลายคนตั้งคำถามว่าเกิดอะไรขึ้นกับลูกากู?
หลังจบฤดูกาล 2017-2-18 ลูกากู ได้เร่งหุ่นให้ล่ำขึ้นและเพิ่มน้ำหนักเพื่อไปสู่ศึกฟุตบอลโลก 2018 ซึ่งแม้ตำแหน่งของเขาที่เล่นให้กับเบลเยี่ยม และแมนฯยูฯ จะเป็นตำแหน่งเดียวกัน แต่ด้วยแผนและรูปแบบการเล่นของทั้งสองทีมที่ต่างกัน ทำให้ลูกากูไม่สามารถปรับตัวได้ทัน นี่จึงกลายเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้ฟอร์มการเล่นของเขาร่วงลงมา โดยลูกากูให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับเรื่องนี้ไว้ว่า “ผมเพิ่มน้ำหนักขึ้นใช่ กล้ามเนื้อผมก็เพิ่มขึ้นมานิดหน่อย มันเกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงฟุตบอลโลก ตอนนั้นผมรู้สึกเยี่ยมนะและคิดว่าผมเล่นทำได้ดีในแบบนั้นเช่นกัน แต่เมื่อผมกลับมาเล่นให้ทีมมันกลายเป็นการเล่นรูปแบบใหม่ของผมที่ผลลัพธ์มันออกมาไม่ค่อยดีเท่าไหร่” [caption id="attachment_1738" align="aligncenter" width="550"] ลูกากู ในช่วงฟุตบอลโลก 2018[/caption] ลูกากู เริ่มต้นฤดูกาลใหม่กับยูไนเต็ดไม่ค่อยดีนัก จากคนที่เคยเก็บบอลดีพักบอลดี เขาทั้งขาดความมั่นใจ และดูไม่พร้อมเหมือนเดิม อีกทั้งยังชอบจับบอลลั่น จับบอลกระฉอก และผิดพลาดเยอะจนถูกนำมาล้อเลียนเสียแล้ว ซึ่งในตอนนี้ลูกากูก็รู้ตัวดีว่าความแข็งแกร่งที่เขาเพิ่มเข้ามากลายเป็นปัญหาใหญ่ที่ต้องรีบแก้ไข เขาตัดสินใจลดน้ำหนักเพื่อหวังว่าฟอร์มจะกลับมาเหมือนเดิม แต่การไดเดตอาหาร ก็กลายเป็นสาเหตุของอาการบาดเจ็บที่เพิ่มขึ้น... “หลังฟุตบอลโลกผมมีอาการล้าและเหนื่อย (จากการเร่งหุ่น) แต่มันก็เหมือนกับช่วงหลังฟุตบอลโลก 2014 ที่ผมต้องกลับไปเล่นให้เอฟเวอร์ตันเหมือนกัน ผมและทีมแพทย์ได้ทำการทดสอบและหาสาเหตุว่าปัญหาคืออะไร (ฟอร์มตก) ผมมีอาการแฮมสตริง (บาดเจ็บกล้ามเนื้อด้านหลังต้นขา) ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นกับผมมาก่อนด้วย” ลูกากูพูดถึงอาการบาดเจ็บทีมีผลต่อการเพิ่มน้ำหนักของเขา ลูกากู ต้องหันมาดูแลเรื่องโภชนาการณ์มากขึ้น หลังถูกตำหนิเรื่องสไตล์การเล่นที่เปลี่ยนไป เขาจำเป็นต้องหยุดเข้ายิมและทานได้เฉพาะผักและปลาเท่านั้น “ในพรีเมียร์ลีก ผมไม่สามารถเล่นพร้อมกับกล้ามเนื้อแบบนี้ได้เหมือนที่ทำได้ในทีมชาติ มันเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นหลังผมกลับมา ผมรู้ว่าไม่สามารถเล่นในสไตล์แบบนี้ได้ ผมจำเป็นต้องลดกล้ามเนื้อให้มันเล็กลง ผมต้องออกห่างจากการเข้ายิม และหันมาดื่มน้ำเยอะ ๆ และกินผักกับปลาให้มาก ซึ่งมันก็ช่วยนะ” [caption id="attachment_1739" align="aligncenter" width="550"] ลูกากู ในปัจจุบัน[/caption] แต่ด้วยความห่วยที่เกินรับประทานของลูกากูในช่วงระยะหลังที่ผ่านมา ก็ไม่วายทำให้แฟนบอลของยูไนเต็ดหลายคนถึงขั้นออกมาตำหนิลูกากูทำนองว่า “ใครสักคนควรจะควบคุมการกินอาหารของลูกากู ด้วยน้ำหนักแบบนั้น เขาไม่สามารถทำประตู หรือแม้กระทั่งวิ่งได้อีกต่อไปแล้ว” แฟนบอลรายหนึ่งกล่าว ด้านสองนักเตะระดับตำนานของยูไนเต็ดทั้ง ไรอัน กิ๊กส์ และ แกรี่ เนวิลล์ ก็ออกมาให้สัมภาษณ์โจมตีการเล่นของลูกากูเช่นกัน “ก่อนหน้านี้เราเคยมี เอริค คันโตน่า ที่เปลี่ยนบอลแย่ ๆ ให้กลายเป็นดีได้ แต่ตอนนี้เรามีลูกากู ที่เปลี่ยนบอลดี ๆ ให้กลายเป็นแย่” ไรอัน กิ๊กส์ ให้สัมภาษณ์ตำหนิลูกากูหลังเกมกับลิเวอร์พูล “ผมก็ยังไม่เข้าใจหลักการเพิ่มน้ำหนักของนักกีฬาในยุคสมัยนี้อยู่ดี การที่คุณเพิ่มน้ำหนักขึ้นนั่นไม่ได้หมายความว่าคุณฟิตจะเสมอไป ผมคิดว่าลูกากูที่เล่นให้เบลเยี่ยมในฟุตบอลโลกจะช่วยให้ทีมดีขึ้น แต่ลูกากูที่เล่นให้แมนฯ ยูฯ ตอนนี้เขาทั้งขาดความมั่นใจและติด ๆ ขัด ๆ ไปเสียหมด” แกรี่ เนวิลล์ ตำหนิลูกากูถึงเรื่องการเพิ่มน้ำหนัก แม้ลูกากูจะออกมาโทษเรื่องน้ำหนักตัว แต่ก็มีหลายคนตั้งข้อสังเกตว่าทำไมคริสเตียโน โรนัลโด้ ที่ชอบเข้ายิมและสร้างกล้ามเนื้อตลอดเวลาเหมือนกับลูกากู ถึงรักษาฟอร์มการเล่นให้สุดยอดได้ตลอดเวลา นั่นกลายเป็นคำถามที่ลูกากู ก็น่าจะกระอักกระอ่วนที่จะตอบเช่นกัน ล่าสุดเขาให้สัมภาษณ์กับ The Guardian ว่า เขากำลังเร่งเพื่อให้ร่างกายกลับมาอยู่ในจุดเดิม และได้กลับมาซ้อมในยิมเพื่อเพิ่มจังหวะในการเล่นให้เร็วขึ้น “ผมกลับมาซ้อมในยิมเพราะมันปลอดภัยกว่าการออกไปซ้อมในรูปแบบอื่น ผมต้องเทรนเกี่ยวกับความเร็ว เพราะมันคือหัวใจหลักของทั้งหมด” ซึ่งคงต้องรอดูว่าถ้าลูกากูลดน้ำหนักลงได้ตามเป้าที่ตั้งไว้ เขาจะสามารถกลับมายิงประตูได้เป็นกอบเป็นกำเหมือนเดิมอีกหรือไม่ ? ที่มา : https://www.menshealth.com.sg/fitness/man-utd-romelu-lukaku-weight-gain-affect-play-football/ https://www.foxsportsasia.com/football/premier-league/985266/fans-cannot-believe-the-amount-of-weight-romelu-lukaku-has-gained-in-one-premier-league-season/ https://www.theguardian.com/football/2018/dec/09/romelu-lukaku-world-cup-belgium-manchester-united