05 ม.ค. 2568 | 16:29 น.
KEY
POINTS
“กุสตาฟส์สัน ยิงลูกนี้ติดเซฟ และก็ซ้ำอีกครั้ง 2-1 ครับ นาทีที่ 40 ทีมชาติไทยขึ้นนำเวียดนาม 2-1 ครับ”
“ประตูพลิกสถานการณ์ของทีมชาติไทยจาก พาตริก กุสตาฟส์สัน นี่คือประตูแรกของเขาในนามทีมชาติไทยชุดใหญ่ ในการลงสนามนัดแรกครับ”
เสียงผู้บรรยายกล่าวถึงประตูชัยของทีมชาติไทยในการแข่งขันฟุตบอลแมตช์กระชับมิตร FIFA International A Match ระหว่างทีมชาติเวียดนามกับทีมชาติไทย เมื่อวันที่ 10 กันยายน 2024 ณ สนามหมี่ ดินห์ สเตเดียม กรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม
นับตั้งแต่วันนั้นชื่อของ ‘พาตริก กุสตาฟส์สัน’ ก็ถูกพูดถึงในฐานะกองหน้าดาวรุ่งที่กำลังจะมาสานต่อตำนานยอดดาวยิงคนใหม่ของทีมชาติไทย และก็ดูเหมือนว่าความคาดหวังดังกล่าวจะเริ่มมองเห็นเค้าความเป็นจริงเมื่อ ‘มาซาทาดะ อิชิอิ’ หัวหน้าฝึกสอนทีมชาติไทย ได้ตัดสินใจใส่ชื่อของแข้งลูกครึ่งไทย-สวีดิช รายนี้ เป็นหนึ่งใน 26 ขุนพลชุดลุยศึกฟุตบอลรายการอาเซียน แชมเปียนชิพ (ASEAN Championship) หรือภายใต้ชื่อการแข่งขันตามผู้สนับสนุนว่าอาเซียน มิตซูบิชิ อิเล็คทริค คัพ 2024 (ASEAN Mitsubishi Electric Cup 2024)
โดยพาตริก กุสตาฟส์สัน ก็ไม่ทำให้กุนซือชาวญี่ปุ่นและแฟนฟุตบอลทีมชาติไทยต้องผิดหวัง เมื่อเจ้าตัวถูกส่งลงสนาม 3 แมตช์แรกก็สามารถทำประตูได้ทุกแมตช์ โดยเฉพาะประตูชัยเหนือทีมชาติมาเลเซีย 1-0 และประตูไล่ตีตื้นทีมชาติสิงค์โปร์ 2-1 ในช่วงทดเวลาครึ่งแรก ล้วนเป็นประตูสำคัญที่ทำให้ทีมฟุตบอลทีมชาติไทยได้รับชัยชนะเหนือคู่แข่งทั้งสิ้น
ชื่อของพาตริก กุสตาฟส์สัน กลายเป็นหนึ่งในนักฟุตบอลความหวังใหม่ของทีมชาติไทย เรื่องราวบนถนนสายลูกหนังของเขาจะเป็นอย่างไร เรามาเริ่มเดินทางไปด้วยกันครับ
พาตริก กุสตาฟส์สัน เกิดที่เมืองอ็อกเซโลซุนด์ ประเทศสวีเดน เมื่อวันที่ 19 เมษายน 2001 เจ้าตัวเป็นลูกครึ่งไทย-สวีดิช ที่มีคุณพ่อเป็นชาวสวีดิชและคุณแม่เป็นชาวไทย ในช่วงวัยเด็กนั้น พาตริก กุสตาฟส์สัน เริ่มต้นเล่นฟุตบอลก็เพราะความชื่นชอบของคุณพ่อ เจ้าตัวได้ซึมซับบรรยากาศและมนต์เสน่ห์ของโลกลูกหนังจากการได้ดูฟุตบอลและเล่นฟุตบอลร่วมกันเป็นกิจกรรมของครอบครัว
เมื่ออายุได้ 5 ขวบ เจ้าตัวก็เริ่มฝึกฟุตบอลอย่างจริงจังกับทีมท้องถิ่น จนสามารถพัฒนาฝีเท้าและก้าวเข้าสู่ทีมเยาวชนของสโมสรอัตวิดาเบิร์ก เอฟเอฟ (Åtvidabergs FF) สโมสรฟุตบอลในลีกของประเทศสวีเดนได้สำเร็จ
หลังจากที่ พาตริก กุสตาฟส์สัน เข้าเป็นนักฟุตบอลของทีมเยาวชนสโมสรอัตวิดาเบิร์ก เอฟเอฟ แล้ว เจ้าตัวก็สามารถพัฒนาศาสตร์ลูกหนังของตัวเองได้อย่างต่อเนื่อง จนในช่วงปี 2018-2020 พาตริก กุสตาฟส์สัน ก็ถูกผลักดันขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ของสโมสรลงเล่นในเอตตัน ซอดรา (Ettan Södra) ซึ่งเป็นลีกระดับเทียร์ 3 ของประเทศสวีเดน
ช่วงเวลาดังกล่าว พาตริก กุสตาฟส์สัน ต้องพิสูจน์ตัวเองอย่างหนัก เจ้าตัวเป็นเพียงตัวสำรองของทีมและมีโอกาสลงสนามทั้งสิ้น 21 แมตช์ ระยะเวลารวม 391 นาที เฉลี่ยแมตช์ละเพียง 18 นาทีเท่านั้น นั่นจึงทำให้ในปี 2021 นักเตะลูกครึ่งไทย-สวีดิช ตัดสินใจย้ายไปสู่สโมสรไอเอฟ ซิลเวีย (IF Sylvia) ลงเล่นในเอตตัน นอร์ร่า (Ettan Norra) ซึ่งเป็นลีกระดับเทียร์ 3 ของประเทศสวีเดนอีกเช่นกัน
พาตริก กุสตาฟส์สัน สามารถทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมกับสโมสรแห่งใหม่ เมื่อเจ้าตัวมีโอกาสลงสนามไปกว่า 29 แมตช์ จากการแข่งขันทั้งหมด 30 แมตช์ ระยะเวลาลงสนามรวม 2,167 นาที และทำประตูได้ 10 ประตู และด้วยฟอร์มร้อนแรงดังกล่าวก็ทำให้ประตูบานใหม่ในโลกลูกหนังของ พาตริก กุสตาฟส์สัน เปิดขึ้นอีกครั้ง
“ตอนเล่นที่ประเทศสวีเดน จริง ๆ ผมต้องทำงานควบคู่กันไปด้วยนะครับ ผมทำงานเป็นพนักงานคลังสินค้าและเล่นฟุตบอลควบคู่กันไปด้วย ผมมีความฝันที่จะเล่นในลีกสูงสุดของสวีเดนนะครับ สโมสรที่ผมชื่นชอบคือ เอไอเค ครับ แต่สุดท้ายแล้วผมก็ย้ายมาเล่นฟุตบอลที่ประเทศไทย”
พาตริก กุสตาฟส์สัน ให้สัมภาษณ์กับรายการฝรั่งไทยลีกของช่อง T Sports 7
จากการที่ พาตริก กุสตาฟส์สัน สามารถทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมกับสโมสรไอเอฟ ซิลเวีย ทำให้ไปเตะตาแมวมองของสโมสรบีจี ปทุม ยูไนเต็ด (BG Pathum United) ทีมยักษ์ใหญ่ในฟุตบอลไทยลีก และนับจากนั้นเส้นทางชีวิตสายลูกหนังของเจ้าตัวก็ต้องเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง
พาตริก กุสตาฟส์สัน ตัดสินใจย้ายมาค้าแข้งกับ เดอะ แรบบิท ในปี 2022 เพื่อต้องการที่จะโฟกัสในการเล่นฟุตบอลอย่างเต็มที่ เนื่องจากหากยังเล่นในระดับเทียร์ 3 ที่ประเทศสวีเดนนั้น เจ้าตัวจะต้องทำงานควบคู่ไปกับการเล่นฟุตบอล ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่ยากมาก หากต้องการพัฒนาฝีเท้าแบบก้าวกระโดด การย้ายมาสู่สโมสรอาชีพแบบเต็มตัว น่าจะเป็นโอกาสในการพัฒนาฝีเท้าที่ดีกว่า
ซึ่งหลังจากที่ พาตริก กุสตาฟส์สัน ตัดสินใจเซ็นสัญญากับสโมสรบีจี ปทุม ยูไนเต็ด เจ้าตัวก็ถูกส่งไปให้กับสโมสรเชียงใหม่ เอฟซี (Chiangmai FC) ทีมในไทยลีก 2 ยืมตัวไปใช้งาน และสามารถทำผลงานได้อย่างน่าพึงพอใจ จนทีมชาติไทย ชุดอายุไม่เกิน 23 ปี ตัดสินใจเรียกตัว พาตริก กุสตาฟส์สัน ติดทีมชาติชุดลุยศึกฟุตบอลกระชับมิตรรายการดูไบ คัพ 2022 (Dubai Cup) ที่ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
จากนั้น พาตริก กุสตาฟส์สัน ก็มีชื่อติดทีมชาติไทยชุดลุยศึกฟุตบอลในกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 31 ปี 2021 ณ กรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม ที่เลื่อนมาแข่งในปี 2022 ซึ่งเจ้าตัวสามารถทำผลงานได้ดียิงไป 3 ประตูในเกมกับทีมชาติมาเลเซียและทีมชาติกัมพูชา จนในท้ายที่สุดทีมชาติไทยชุดดังกล่าวก็สามารถคว้าเหรียญเงินมาครองได้
“ก่อนไปดูไบ สภาพร่างกายผมยังไม่ร้อยเปอร์เซ็นต์ครับ ผมมีอาการบาดเจ็บรบกวน และผมก็ยังอยู่ในช่วงปรับตัวทั้งเรื่องการเล่น และการสื่อสารกันภายในทีม แต่ก็เป็นประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้นมากครับ ส่วนตอนซีเกมส์ ผมคิดว่าผมทำผลงานได้ดีนะ แต่น่าเสียดายมากที่ไม่ได้เหรียญทอง”
หลังจากคว้าเหรียญเงินซีเกมส์มาครองแล้ว พาตริก กุสตาฟส์สัน ก็ยังคงติดทีมชาติไทย ชุดอายุไม่เกิน 23 ปี อย่างต่อเนื่อง เจ้าตัวมีชื่อไปแข่งขันรายการเอเอฟซี ยู-23 เอเชียน คัพ 2022 (AFC U-23 Asian Cup) ที่ประเทศอุซเบกิสถานอีกหนึ่งรายการ กล่าวได้ว่าเพียงแค่ปีแรกบนแผ่นดินไทย พาตริก กุสตาฟส์สัน ก็สามารถพิสูจน์ตัวเองจนชื่อของเจ้าตัวกลายเป็นที่น่าจับตามอง
และด้วยผลงานอันน่าประทับใจดังกล่าวก็ทำให้ประตูบานต่อไปของ พาตริก กุสตาฟส์สัน เปิดขึ้นอีกครั้ง และในครั้งนี้ก็นับได้ว่าเป็นก้าวย่างที่สำคัญจนเปลี่ยนอนาคตบนถนนสายลูกหนังของเจ้าตัวเลยก็ว่าได้
การที่ พาตริก กุสตาฟส์สัน สามารถสร้างผลงานกับทีมชาติไทย ชุดอายุไม่เกิน 23 ปี ได้อย่างน่าประทับใจ ประกอบกับการเปลี่ยนแปลงด้านการเป็นพาร์ทเนอร์กันของสโมสรบีจี ปทุม ยูไนเต็ด กับสโมสรเชียงใหม่ เอฟซี ก็ทำให้เจ้าตัวถูกดึงตัวกลับไปยังถิ่นบีจี สเตเดียม เพื่อลงสนามในฟุตบอลไทยลีก 1 ในช่วงครึ่งฤดูกาลหลังของปี 2022-2023
พาตริก กุสตาฟส์สัน ลงสนามให้กับสโมสรบีจี ปทุม ยูไนเต็ด จนถึงสิ้นปี 2023 เจ้าตัวก็ได้รับโอกาสครั้งสำคัญในการย้ายไปยังสโมสรนารา คลับ (Nara Club) ในศึกฟุตบอลเจลีก 3 ของประเทศญี่ปุ่น ด้วยสัญญายืมตัว 1 ฤดูกาล และแน่นอนว่านักฟุตบอลดาวรุ่งของทีมชาติไทยไม่อาจปฏิเสธโอกาสนี้ได้
ที่สโมสรนารา คลับนั้น พาตริก กุสตาฟส์สัน ได้รับการฝึกฝนและขัดเกลาศาสตร์ลูกหนังอย่างหนัก จนเจ้าตัวสามารถยกระดับฝีเท้าของตนเองขึ้นมาเป็นที่ไว้วางใจของสต๊าฟโค้ชและเพื่อนร่วมทีม โดยในศึกฟุตบอลเจลีก 3 ของประเทศญี่ปุ่นนั้น พาตริก กุสตาฟส์สัน ลงสนามไปกว่า 25 แมตช์ ระยะเวลารวมกว่า 699 นาที และทำผลงานได้ 2 ประตู กับอีก 2 แอสซิสต์
จากนั้นฟอร์มของ พาตริก กุสตาฟส์สัน ก็ไปสะดุดตา มาซาทาดะ อิชิอิ หัวหน้าฝึกสอนทีมชาติไทยที่กำลังมองหานักฟุตบอลดาวรุ่งเพื่อมาสร้างทีมชุดนิวเจเนอร์เรชัน และในที่สุด พาตริก กุสตาฟส์สัน ก็ถูกเรียกตัวเข้าแคมป์ทีมชาติไทยชุดใหญ่เพื่อลงทำการแข่งขันฟุตบอลแมตช์กระชับมิตร FIFA International A Match รายการแอลพี แบงค์ คัพ 2024 (LP Bank Cup 2024) กับทีมชาติเวียดนาม ในช่วงเดือนกันยายน ปี 2024
“ผมคิดว่าแคมป์นี้เป็นแคมป์ที่ดีมาก มีนักเตะทั้งใหม่และเก่าเข้ามา และตอนนี้เราก็ปรับตัวเข้าหากันได้ดี ซึ่งทุกคนก็พยายามเรียนรู้แท็กติกจากโค้ชและหวังว่าเราจะนำไปใช้ในสนามแข่งขัน และได้ผลงานที่ดีออกมา”
“ส่วนการติดทีมชาติไทยชุดใหญ่ครั้งแรก ก็ทำให้ตัวผมมีความสุขเป็นอย่างมาก ผมพยายามทำงานหนักตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมา พยายามเรียนรู้ในการค้าแข้งที่ประเทศญี่ปุ่น และแสดงให้ทุกคนได้เห็นในการมารับใช้ชาติครั้งนี้ ผมได้เรียนรู้หลายสิ่งหลายอย่างจากที่ญี่ปุ่น ทั้งเรื่องของวินัยทั้งในและนอกสนาม รวมถึงการทำงานหนักในการซ้อมที่ต้องเต็มร้อยทุกครั้ง และการดูแลตัวเอง ซึ่งผมก็ต้องพยายามทำให้ดี”
พาตริก กุสตาฟส์สัน ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนหลังฝึกซ้อมร่วมกับทีมชาติไทยชุดใหญเป็นครั้งแรก (อ้างอิงบทสัมภาษณ์จากสยามกีฬา - siamsport)
และแล้วในวันที่ 10 กันยายน 2024 ชื่อของ พาตริก กุสตาฟส์สัน ก็ถูกจารึกไว้ในทำเนียบนักฟุตบอลทีมชาติไทยอย่างเป็นทางการ เมื่อเจ้าตัวได้ลงสนามให้กับทีมชาติไทยชุดใหญ่เป็นแมตช์แรก และสามารถสร้างผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมตรึงใจแฟนฟุตบอลไทย
พาตริก กุสตาฟส์สัน มีส่วนสำคัญในการพลิกวิกฤตไปสู่ชัยชนะเมื่อเจ้าตัวสามารถทำ 1 แอสซิสต์จากการโหม่งบอลส่งต่อให้กับ ‘ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา’ ทำประตูตีเสมอ 1-1 ก่อนที่ต่อจากนั้น พาตริก กุสตาฟส์สัน เป็นผู้ยิงประตูชัยให้ทีมชาติไทยแซงเอาชนะทีมชาติเวียดนามไปได้ 2-1
หลังจาก พาตริก กุสตาฟส์สัน สร้างผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในการประเดิมสนามกับทีมชาติไทยชุดใหญ่ ล่าสุดในศึกการแข่งขันฟุตบอลรายการอาเซียน แชมเปียนชิพ (ASEAN Championship) หรือภายใต้ชื่อการแข่งขันตามผู้สนับสนุนว่าอาเซียน มิตซูบิชิ อิเล็คทริค คัพ (ASEAN Mitsubishi Electric Cup) ประจำปี 2024 เจ้าตัวก็มีชื่อเป็นหนึ่งในขุนพลช้างศึกอีกครั้ง
พาตริก กุสตาฟส์สัน ตอบแทนความไว้วางใจของกุนซือ มาซาทาดะ อิชิอิ และทีมชาติไทย ด้วยการยิงประตูใส่ทีมชาติติมอร์-เลสเต ก่อนขุนพลช้างศึกจะสามารถเอาชนะไปได้อย่างถล่มทลายถึง 10-0 เป็นสถิติชนะมากที่สุดของทีมชาติไทยเทียบเท่ากับสถิติเดิม อีกทั้งในแมตช์ต่อมากับทีมชาติมาเลเซียเจ้าตัวจะเป็นฮีโร่ซัดประตูโทนให้ขุนพลช้างศึกปราบเสือเหลืองไปได้ 1-0
“ผมดีใจมากครับและก็ตื่นเต้นมากครับเพราะเกมนี้ (พบทีมชาติมาเลเซีย) ถือว่าเป็นเกมแรกของผมในสนามราชมังคลากีฬาสถานเลยครับ เป็นเกมที่ยากมาก ๆ มาเลเซียเล่นเกมรับดีมาก และไม่มีพื้นที่ให้ได้เล่นเยอะ แต่ผมก็ดีใจที่ทำสำเร็จ”
พาตริก กุสตาฟส์สัน ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนหลังยิงประตูชัยให้ทีมชาติไทยเปิดบ้านเอาชนะทีมชาติมาเลเซีย 1-0 ในการแข่งขันฟุตบอลอาเซียน มิตซูบิชิ อิเล็คทริค คัพ 2024
ผลงานของ พาตริก กุสตาฟส์สัน ยังคงร้อนแรงแบบต่อเนื่องเมื่อในนัดต่อมา ที่ทีมชาติไทยบุกไปเยือนทีมชาติสิงคโปร์และต้องตกเป็นรองก่อน 0-2 แต่แล้วเจ้าตัวก็มายิงประตูสำคัญในช่วงทดเวลาครึ่งแรกให้ทีมชาติไทยไล่มาเป็น 1-2 ก่อนที่สุดท้ายแล้วขุนพลช้างศึกจะแซงเอาชนะไปได้ 4-2 พร้อมกับสถิติส่วนตัวอันยอดเยี่ยมของ พาตริก กุสตาฟส์สัน ที่ลงสนามให้ทีมชาติไทยแบบเป็นทางการ 4 นัด ทำประตูได้ 4 ประตูและเป็นการทำประตูได้ทุกแมตช์ที่ลงสนาม
กองหน้าดาวรุ่งทีมชาติไทยยังคงสามารถทำผลงานได้อย่างร้อนแรงต่อเนื่อง โดยในการแข่งขันรอบรองชนะเลิศ แมตช์ที่ 2 กับทีมชาติฟิลิปปินส์ พาตริก กุสตาฟส์สัน ก็ยิงประตูสุดสวยให้ทีมชาติไทยขึ้นนำ 2-0 ก่อนที่ในท้ายที่สุดขุนพลช้างศึกจะเอาชนะทีมชาติฟิลิปปินส์ไป 3-1 ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศได้สำเร็จ เรียกได้ว่า พาตริก กุสตาฟส์สัน นั้น คือกองหน้าที่มีส่วนสำคัญกับชัยชนะของทีมชาติไทยในรายการอาเซียน แชมเปียนชิพ 2024 เลยก็ว่าได้
ทั้งหมดนี้คือเรื่องราวเส้นทางสายลูกหนังของ พาตริก กุสตาฟส์สัน หนุ่มลูกครึ่งไทย-สวีดิช ผู้เลือกลงสนามให้กับทีมชาติไทย และผ่านประสบการณ์ค้าแข้งในฟุตบอลเจลีก 3 มาแล้ว หนทางข้างหน้าของเจ้าตัวจะเป็นอย่างไร สุดท้ายแล้ว พาตริก กุสตาฟส์สัน จะเป็นกำลังสำคัญของทีมชาติไทยในชุดนิวเจเนอร์เรชันได้ยาวนานหรือไม่ กาลเท่านั้นจะเป็นเครื่องพิสูจน์ เรามาร่วมเป็นกำลังใจให้กับเขากันครับ
เรื่อง: ธิษณา ธนคลัง (The Sportory)
อ้างอิง
เว็บไซต์ : https://www.transfermarkt.com/
รายการ Farang Thai League ฝรั่งไทยลีก ช่อง T Sports 7