รำลึก ‘จอห์น มอตสัน’ นักพาย์บอลในตำนาน เจ้าของเสียงในเกมฟีฟ่า และวลีอมตะ “What a goal!”

รำลึก ‘จอห์น มอตสัน’ นักพาย์บอลในตำนาน เจ้าของเสียงในเกมฟีฟ่า และวลีอมตะ “What a goal!”

เสียงตะโกน “What a goooal!!” หรือ “โอ้!! นี่มันลูกยิงอะไรกัน” ของ ‘จอห์น มอตสัน’ (John Motson) กลายเป็นซาวด์แทร็กประกอบภาพแห่งความทรงจำของแฟนบอล แม้เจ้าของเสียงจะจากไปอย่างไม่มีวันกลับ

  • จอห์น มอตสัน นักพากย์ฟุตบอลที่คอลูกหนังทั่วโลกคุ้นเคยกับเสียงตะโกนที่เป็นเอกลักษณ์ว่า “What a goooal!!” จากไปในวัย 77 ปี
  • จอห์น มอตสัน ถูกมองว่า ไม่ต่างจากเสียงซาวด์แทร็กของกีฬาลูกหนังในความทรงจำของแฟนบอลยุค 90s

ภาพของ ‘เดวิด เบ็กแฮม’ ทรงผมสกินเฮดในยุค Y2K ที่ต้องแบกความกดดันอยู่บนบ่าเมื่อทีมชาติอังกฤษตามหลังทีมชาติกรีซ 2-1 ประตู ในศึกฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกโซนยุโรป และได้ลูกฟรีคิกในระยะทำการของเบ็กแฮม ถ้าหากอังกฤษแพ้ในเกมนี้พวกเขาจะต้องเตะเพลย์ออฟเพื่อไป ‘ฟุตบอลโลกฉบับเอเชีย’ ปี 2002 ที่เกาหลีใต้และญี่ปุ่นเป็นเจ้าภาพ

ทันที่เบ็กแฮม วิ่งมาหวดด้วยเท้าขวาข้างถนัด ฝ่ากำแพงมนุษย์ของกรีซและลูกหนังกระทบตาข่าย เสียงกองเชียร์ชาวอังกฤษระเบิดออกมาอย่างเสียงดัง และเป็นอีกหนึ่งครั้งที่เสียงตะโกน “What a gooooooooal!!” หรือ “โอ้!! นี่มันลูกอะไรกัน” ของ จอห์น มอตสัน (John Motson) กลายเป็นซาวด์แทร็กประกอบภาพแห่งความทรงจำของแฟนบอลยุคมิลเลนเนียม วินาทีนั้นอังกฤษสามารถผ่านไปเล่นฟุตบอลโลก2002 โดยไม่ต้องไปเล่นรอบเพลย์ออฟ

จอห์น มอตสัน ถือว่าเป็นตำนานแห่งวงการลูกหนังโลก เขาไม่ใช่โค้ชยอดทีม เขาไม่ใช่นักฟุตบอลแชมป์โลก แต่เขาคือหนึ่งในบันทึกของโลกฟุตบอลผ่านบทบาทของผู้บรรยายกีฬา

โดยเฉพาะรายการ Match of The Day ที่ออกอากาศทาง BBC ซึ่งเด็กวัยรุ่นยุค 90s ของไทยจะรู้จักกันดี เพราะเป็นรายการรวมไฮไลต์ฟุตบอลพรีเมียร์ชิพที่ถูกซื้อลิขสิทธิ์ในนาม ‘เจาะสนาม’ ทางช่อง 7 โดยมีคัมภีร์ลูกหนังเมืองไทยอย่าง ย.โย่ง - เอกชัย นพจินดา เป็นผู้ดำเนินรายการ

คลิกอ่านเรื่อง ‘ย.โย่ง’ เอกชัย นพจินดา นักพากย์อมตะ พากย์บอลโลกถ่ายสดหนแรกในไทยปี 1986 นับจากรอบ 8 ทีม

มอตสัน เสมือนเป็นบันทึกประวัติศาสตร์ของฟุตบอล ตลอดระยะเวลาที่ทำงานกับ BBC มาตลอด 50 ปี ในยุคการเปลี่ยนผ่านเทคโนโลยีจากวิทยุ สู่โลกแห่งโทรทัศน์ มาจนถึงยุคโลกอินเทอร์เน็ตที่ทุกอย่างออนไลน์และเชื่อมต่อกันได้ เสียงของเขานำผ่านสื่อที่หลากหลายเพื่อเติมเต็มอรรถรสให้กับคนรักฟุตบอล

ในความเป็นปูชนียบุคคลของมอตสัน เขาผ่านการบรรยายเกมมากกว่า 2,500 เกม ผ่านศึกฟุตบอลโลกมาแล้ว 10 สมัย ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรปหรือ ยูโรอีก 10 สมัย รวมไปถึงรอบชิงชนะเลิศถ้วยฟุตบอลที่เก่าแก่ที่สุดในโลกอย่างเอฟเอคัพอีก 29 สมัย เรียกได้ว่าเป็นตำนานอย่างแท้จริง

สำหรับคอเกมลูกหนัง เสียงบรรยายของมอตสัน นั้นเป็นที่คุ้นเคยมาตั้งแต่ FIFA Soccer 96 ในเครื่องเพลย์สเตชั่น 1 และดูเหมือนกลายเป็นเอกลักษณ์สำคัญสำหรับเกมฟุตบอลนี้ ไม่ว่าจะเป็นเครื่อง XBox, Nintendo 64, Playstation 2 และเกมคอมพิวเตอร์ เขาก็มีส่วนร่วมในการเปลี่ยนผ่านเทคโนโลยีมาโดยตลอด

หากย้อนไปถึงวันแรกที่เด็กชายจากเมืองซัลฟอร์ด แคว้นแลงคาเชียร์ตกหลุมรักลูกหนัง คงเป็นวันที่เขาตามไปเชียร์ทีมบอสตัน ยูไนเต็ด เอาชนะทีม ‘แกะเขาเหล็ก’ ดาร์บี้ เคาน์ตี้ ในฟุตบอลเอฟเอคัพปี 1955 ก่อนที่จะซึมซับความหลงใหลในกีฬามากขึ้นในการเข้าเรียนมัธยมที่โรงเรียนคัลฟอร์ด และเริ่มทำงานเป็นสื่อมวลชนในปี 1963 ในการเป็นนักข่าวนักสือพิมพ์ท้องถิ่น ขยับมาจับทางเป็นนักข่าวกีฬาอย่างเต็มตัวกับเชฟฟิลด์มอร์นิงเทเลกราฟ หนังสือพิมพ์ท้องถิ่นประจำเมืองเชฟฟิลด์ในปี 1967

จุดเปลี่ยนสำคัญของมอตสันคือการเข้ามาร่วมงานกับ BBC ในปี 1968 และบรรยายกีฬาผ่านวิทยุ BBC Radio2 ซึ่งเกมคู่แรกที่เขาบรรยายคือการแข่งขันระหว่างดาร์บี้ เคาน์ตี้ และ ท็อฟฟี่สีน้ำเงิน เอฟเวอร์ตัน 

มอตตี้ เริ่มบรรยายเกมลูกหนังครั้งแรกในรายการ Match of The Day ครั้งแรกในปี 1971 เป็นการพบกันระหว่างลิเวอร์พูล และเชลซี

ภาพที่แฟนฟุตบอลจะเห็นอย่างชินตาคือ ผู้ชายท่าทางเอาจริงเอาจังในชุดเสื้อโค้ทขนแกะนั่งประจำอยู่ที่ซุ้มที่นั่งผู้บรรยาย ทำหน้าที่ให้ข้อมูลอย่างแม่นยำ ถูกต้อง และเขาทำหน้าที่มาอย่างยาวนาน จนเกษียณจากงานบรรยายเกมแบบถ่ายทอดสดในปี 2008 ในศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรปปี 2008 ที่ประเทศออสเตรียและสวิสเซอร์แลนด์เป็นเจ้าภาพ แต่ยังคงเป็นผู้ดำเนินรายการไฮไลต์ของ Match of The day จนกระทั่งปี 2018 ถึงเกษียณอายุ

การจากไปในวัย 77 ปี ของเขาเสมือนเป็นการสูญเสียที่สำคัญของโลกกีฬา สื่อกีฬาทั่วโลกลงคำแถลงไว้อาลัยให้กับ “เสียงแห่งโลกฟุตบอล” ด้วยความแซ่ซ้องสรรเสริญ

แกรี่ ลินิเกอร์ ดาวซัลโวฟุตบอลปี 1986 ของอังกฤษกล่าวถึงความสูญเสียครั้งนี้ว่า “มันเป็นเรื่องเศร้าอย่างสุดซึ้งเมื่อได้ยินข่าวการจากไปของมอตสัน เพราะเขาคือเสียงแห่งวงการฟุตบอลของประเทศของเราในยุคสมัย ขอให้พักผ่อนอย่างสงบ ม็อตตี้”

โดยปัจจุบันลินิเกอร์ เป็นผู้ดำเนินรายการ Match of The Day สืบทอดตำนานของมอตสัน

ซึ่งไม่ต่างจาก เจมี คาร์ราเกอร์ อดีตตำนานหงส์แดง ลิเวอร์พูลที่ปัจจุบันผันตัวไปเป็นผู้บรรยายกีฬาให้กับสกายสปอร์ตที่กล่าวว่า “ขอให้พักผ่อนอย่างสงบ จอห์น มอตสัน คุณคือตำนานอย่างแท้จริง พวกเราหลาย ๆ คนเติบโตมากับเสียงของเขาในการฟังบรรยายในหลากหลายประตู ในหลาย ๆ เกมของรายการ Match of the day ขอแสดงความเสียใจต่อการจากไป”

ความยิ่งใหญ่ในฐานะส่วนหนึ่งของ Pop Culture อังกฤษที่นำพาให้โลกรู้จักกับฟุตบอลอังกฤษทำให้มอตสัน ได้เครื่องราชอิสริยาภรณ์ขั้น OBE ซึ่งจากจุดเริ่มต้นในทศวรรษ 1960 ใครเลยจะรู้ว่า ฟุตบอลอังกฤษจะพัฒนามาไกลทั้งในแง่ความนิยม และโลกธุรกิจเทียบเท่าวันนี้

และเสียงของจอห์น มอตสัน คือเสียงแห่งโลกฟุตบอลอังกฤษที่บันทึกหน้าประวัติศาสตร์อย่างแท้จริง

 

ภาพ: Getty Images

อ้างอิง:

The Guardian

ESPN

Match of the Day/Facebook

Moby Games