ทาเคฟุสะ คุโบะ แข้งญี่ปุ่นที่ชีวิตเหมือนรถไฟเหาะ ถูกเรียกว่า ‘กัปตันซึบาสะ’ ในชีวิตจริง

ทาเคฟุสะ คุโบะ แข้งญี่ปุ่นที่ชีวิตเหมือนรถไฟเหาะ ถูกเรียกว่า ‘กัปตันซึบาสะ’ ในชีวิตจริง

‘ทาเคฟุสะ คุโบะ’ นักเตะญี่ปุ่นที่ชีวิตเหมือนรถไฟเหาะ บ้างก็ว่า เขาคือ ‘กัปตันซึบาสะ’ ในชีวิตจริง บ้างก็ว่า เขาคือ ‘เมสซี่’ แห่งแดนอาทิตย์อุทัย เคยเป็นนักฟุตบอลดาวรุ่งจอมพเนจร ก่อนพิสูจน์ตัวเองได้ นำมาสู่โอกาสกลับไปสร้างตำนานที่เรอัล มาดริด

  • ‘ทาเคฟุสะ คุโบะ’ นักฟุตบอลชาวญี่ปุ่นที่โด่งดังและไปค้าแข้งในทวีปยุโรป ฝีเท้าและเส้นทางของเขาทำให้ผู้คนเรียกกันว่า ‘กัปตันซึบาสะ’ ในชีวิตจริง
  • เส้นทางนักเตะของคุโบะ ค่อนข้างแปรผันเปลี่ยนแปลง จากขึ้นสุด และเคยดิ่งลง และกลับมาทำผลงานดีขั้นถูกจับตาได้อีกเช่นกัน

‘ทาเคฟุสะ คุโบะ’ (Takefusa Kubo) คือมิดฟิลด์ดาวรุ่งทีมชาติญี่ปุ่นของสโมสร ‘เรอัล โซเซียดาด’ ในศึกลาลีกาสเปน ผู้พังประตูเบิกร่องให้ทีม ‘น้ำเงิน-ขาว’ เอาชนะ ‘ราชันชุดขาว’ เรอัล มาดริด 2-0 ตัดโอกาสป้องกันแชมป์ลีกซีซั่น 2022 - 2023 ของทีมเก่าจนริบหรี่

ทันทีที่เกมนี้จบลง กระแสข่าว ‘ราชันชุดขาว’ อยากดึงคุโบะ กลับมาร่วมทัพก็ถูกโหมกระพือ เมื่อคาร์โล อันเชล็อตติ กุนซือของมาดริด ออกปากยอมรับเองว่า กำลังพิจารณาเรื่องนี้อยู่

หากข่าวที่ว่าเกิดขึ้นจริง และคุโบะ ยอมตกลงย้ายทีมกลับไป เส้นทางนี้นอกจากจะเป็นความท้าทายใหม่ของเจ้าตัว ยังเป็นโอกาสในการแก้ตัว เพื่อพิสูจน์ว่า เขาคู่ควรกับฉายาต่าง ๆ ที่กล่าวมา และเหมาะสมกับทีมระดับแชมป์ยุโรปหลายสมัยอย่าง ‘ราชันชุดขาว’ อย่างแท้จริง

ชีวิตเหมือนรถไฟเหาะตีลังกา

ก่อนจะเป็นข่าวหวนคืนถิ่นเก่ามาดริด ต้องบอกเลยว่า เส้นทางชีวิตของคุโบะเผชิญกับช่วงเวลาทั้งขาขึ้น - ขาลงมาอย่างโชกโชน แม้เพิ่งผ่านฤดูฝนมาได้เพียง 20 ปีต้น ๆ เท่านั้น

ทาเคฟุสะ คุโบะ นับเป็นนักเตะความหวังใหม่ของแดนซามูไร เขาเกิดวันที่ 4 มิถุนายน ค.ศ. 2001 ที่เมืองคาวาซากิ จ.คานางาวะ ของญี่ปุ่น บ้านเดียวกับนักเตะรุ่นพี่และเพื่อนร่วมทีมชาติอย่าง ‘คาโอรุ มิโตมะ’ ปีกจอมเลื้อยของสโมสร ‘ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน’ ในพรีเมียร์ลีกอังกฤษ

แม้จะมีจุดเริ่มต้นเดียวกัน แต่เส้นทางชีวิตของทั้งคู่กลับแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง

ขณะที่รุ่นพี่อย่างมิโตมะ เริ่มต้นอาชีพลูกหนังในบ้านเกิดกับ ‘คาวาซากิ ฟรอนตาเล่’ จนฝีเท้าแก่กล้า และมีอายุถึง 24 ปี จึงย้ายไปเล่นในยุโรป แต่คุโบะผู้น้องถูกสโมสรยักษ์ใหญ่ในยุโรปอย่าง ‘บาร์เซโลน่า’ เฝ้าจับตามาตั้งแต่อายุไม่ถึง 10 ปี

บาร์ซ่าค้นพบความสามารถของคุโบะ ครั้งแรกตอนอายุเพียง 8 ขวบ หลังไปตั้งแคมป์สอนบอลให้เยาวชนในญี่ปุ่น และคุโบะ โชว์ความสามารถโดดเด่นเหนือเด็กทุกคนในรุ่นเดียวกัน จนได้รับรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมประจำทัวร์นาเมนต์นั้น

จากนั้น 2 ปีต่อมา เมื่อคุโบะอายุครบ 10 ปีเต็ม บาร์ซ่าจึงจับเซ็นสัญญาและนำตัวมาฝึกซ้อมที่ ‘ลา มาเซีย’ โรงเรียนสอนบอลชื่อดังของตัวเองในสเปน ซึ่งเป็นอะคาเดมี่ที่ปั้นนักเตะระดับโลกมาแล้วมากมาย รวมถึง ‘ลิโอเนล เมสซี่’ กัปตันทีมชาติอาร์เจนติน่า แชมป์ฟุตบอลโลกปี 2022 ที่กาตาร์

ด้วยความสามารถที่โตเกินตัว และลีลาการเล่นที่คล่องแคล่วเกินวัย แถมยังถนัดเท้าซ้าย และเล่นในตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวรุก หรือเพลย์เมกเกอร์คล้ายเมสซี่ ทำให้ ‘วันเดอร์คิด’ (Wonder Kid) จากแดนอาทิตย์อุทัย ได้รับการยกย่องจากบรรดาโค้ชและเพื่อน ๆ ให้เป็น ‘เจแปนนีส เมสซี่’ หรือ ‘เมสซี่ญี่ปุ่น’ แม้เจ้าตัวบอกว่า ยังไม่กล้าเทียบตำนานรุ่นพี่แห่ง ‘ลา มาเซีย’ ก็ตาม

“ผมรู้สึกเป็นเกียรติและภูมิใจมากที่ถูกเรียกว่า ‘เมสซี่ญี่ปุ่น’ แต่ผมยังเทียบเขาไม่ได้หรอก ผมอยากเน้นที่ศักยภาพและจุดแข็งของตัวเองมากกว่า ยังมีนักเตะเหมือนผมอีกมาก แต่ผมก็คือผม ไม่ใช่นักเตะคนอื่นที่ไหน”

 

ฟีฟ่าดับฝันติดทีมชุดใหญ่บาร์ซ่า

การได้ไปฝึกซ้อมที่ ‘ลา มาเซีย’ ตามรอยเมสซี่ และมีโอกาสลงเล่นให้ทีมเยาวชนบาร์เซโลน่า นอกจากจะทำให้สื่อญี่ปุ่น และแฟนบอลจำนวนมากพากันคาดหวังในตัวคุโบะ โดยแฟนการ์ตูนบางคนถึงขั้นนำไปเปรียบเทียบกับ ‘กัปตันซึบาสะ’ นักเตะสุดคลาสสิกแห่งโลกมังงะที่ค้าแข้งกับบาร์ซ่า โดยชี้ว่า นี่แหละคือ กัปตันซึบาสะในโลกความเป็นจริง

แต่ความฝันนั้นต้องมาแตกสลาย เพราะสุดท้าย คุโบะไม่มีโอกาสได้เติบใหญ่ไปเล่นให้บาร์ซ่า เนื่องจากในปี 2015 สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) ประกาศลงโทษแบนบาร์เซโลน่า ไม่ให้ซื้อ-ขายนักเตะเป็นเวลา 2 ปี เพราะทำผิดกฎ ‘มาตรา 19’ ว่าด้วยการซื้อ-ขายนักเตะต่างชาติอายุต่ำกว่า 18 ปี 

คุโบะเป็นหนึ่งในนักเตะกว่าสิบคนที่ฟีฟ่าอ้างว่าอยู่ในข่ายละเมิดมาตรา 19 และเป็นนักเตะอายุน้อยที่สุดที่อยู่ในสำนวนคดีนั้น

บทลงโทษดังกล่าวทำให้บาร์ซ่าไม่สามารถเซ็นสัญญานักเตะเหล่านี้ได้จนกว่าจะมีอายุครบ 18 ปี ดังนั้น นักเตะเยาวชนกลุ่มนี้จึงมีทางเลือก 2 ทาง คือ อยู่ซ้อมกับอะคาเดมี่ต่อไปโดยไม่ได้เซ็นสัญญาลงแข่ง หรือเดินทางกลับบ้านเกิด เพื่อหาโอกาสลงสนามเก็บเกี่ยวประสบการณ์ต่อไป ซึ่งคุโบะ เลือกอย่างหลัง

“สำหรับเด็กอายุ 13 มันถือว่ารุนแรงจริง ๆ คุณอยากเล่นฟุตบอล และไม่เข้าใจว่าทำไมพวกเขาต้องขับคุณออกนอกประเทศ ความจริงผมยังไม่รู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้น

“ถ้าเด็กคนหนึ่งอยากเล่นฟุตบอลกับสโมสรดี ๆ สักแห่ง ผมไม่เห็นเหตุผลเลยว่า ทำไมพวกเขาจึงทำเช่นนั้นไม่ได้”

คุโบะ กล่าวถึงมาตรา 19 ของฟีฟ่า ซึ่งตั้งขึ้นมาเพื่อปกป้องสวัสดิภาพของนักบอลเยาวชน แต่ก็ทำให้ความฝันของเขาที่บาร์ซ่าต้องพังทลาย

 

ทุบสถิติเจลีก ก่อนย้ายซบทีมชุดขาว

แม้ความฝันจะได้ตามรอยเมสซี่ และกัปตันซึบาสะ ด้วยการลงเล่นให้บาร์ซ่าจะดับไปพร้อมคำสั่งของฟีฟ่า แต่การกลับมาเริ่มต้นใหม่ในบ้านเกิดก็ไม่เลวร้ายอย่างที่คิด ภายหลังเก็บกระเป๋าเดินออกจาก ‘ลา มาเซีย’ คุโบะเลือกไปหาประสบการณ์กับ 'เอฟซี โตเกียว’ ในเจลีก จนกระทั่งได้ขึ้นชุดใหญ่ และสร้างสถิติใหม่มากมาย

เขากลายเป็นนักเตะอายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ที่ได้ลงเล่นเจลีก ขณะมีอายุ 15 ปี 5 เดือน และพังประตูได้ในนัดดวลกับ ‘เซเรโซ โอซาก้า’ ทำให้มีชื่อติดทำเนียบแข้งอายุน้อยที่สุดที่ทำประตูได้ในลีกสูงสุดของญี่ปุ่น ด้วยวัยเพียง 15 ปี 10 เดือน

ฟอร์มอันโดดเด่นในเจลีก ทำให้พออายุครบ 18 ปีบริบูรณ์ เรอัล มาดริด ไม่รอช้า ปาดหน้าบาร์เซโลน่า ดึงคุโบะไปร่วมทัพแบบเหนือความคาดหมาย โดยมาดริดจ่ายค่าตัว 2 ล้านยูโรให้เอฟซี โตเกียว และมอบสัญญายาว 6 ปีกับคุโบะ พร้อมค่าเหนื่อยที่เชื่อว่าสูงถึงซีซั่นละ 1 ล้านยูโร แต่มีเงื่อนไขว่า ซีซั่นแรกต้องไปเล่นกับ ‘กาสติญ่า’ ทีมชุดบี และซีซั่นต่อมาจึงจะมีโอกาสได้ขึ้นชุดใหญ่

คุโบะ ยอมรับว่า ข้อเสนอของทีมชุดขาวถูกใจเขามาก จึงตัดสินใจเก็บกระเป๋าเดินทางกลับไปสเปนอีกครั้ง ข่าวคุโบะ อดีตเด็กฝึกบาร์ซ่า ตัดสินใจเซ็นสัญญาร่วมทีมคู่แข่งอย่างมาดริด ในปี 2019 กลายเป็นข่าวใหญ่ โดยเฉพาะในกรุงมาดริด ของสเปน ที่แฟนบอลส่วนใหญ่มองว่า นี่คือชัยชนะเหนือบาร์ซ่า ทีมคู่ปรับตลอดกาลของพวกเขา

อย่างไรก็ตาม ความฝันในการลงเล่นให้มาดริด ภายใต้การคุมทัพของซีเนดีน ซีดาน ในยุคนั้นกลับเลือนลาง เมื่อสุดท้าย มาดริดเลือกปล่อยคุโบะ ให้ทีมร่วมลีกยืมตัวไปใช้งานติดต่อกันนานถึง 3 ฤดูกาล เขาต้องพเนจรไปอยู่กับทั้ง ‘มายอร์ก้า’ ‘บียาร์เรอัล’ และ ‘เกตาเฟ่’ ก่อนที่ ‘ชุดขาว’ จะตัดสินใจขายขาดให้ 'เรอัล โซเซียดาด’ ในที่สุด

 

เฉิดฉายที่ลาเรอัล มาดริดตั้งเป้าดึงกลับรัง

แม้คุโบะ จะโชว์ฟอร์มได้ไม่ค่อยดีกับทีมที่ยืมตัวไป และไม่ได้โอกาสลงเล่นให้ทีมชุดใหญ่ของมาดริด แต่การมาอยู่ทีมใหม่อย่างเรอัล โซเซียดาด เขาตอบแทนความไว้ใจของอิมานอล อัลกัวซิล กุนซือทีม ‘ลา เรอัล’ ที่ให้โอกาสลงตัวจริงสม่ำเสมอ ด้วยการระเบิดฟอร์มเก่ง จนกลายเป็นหนึ่งในขุนพลหลักของทีมทันที

คุโบะ ในวัย 21 ปี ลงประเดิมสนามให้ ‘ลา เรอัล’ ในนัดเปิดสนามลาลีกา ซีซั่น 2022 - 2023 และสร้างความฮือฮาด้วยการยิงประตูโทนเป็นประตูชัยให้ต้นสังกัดเฉือนชนะกาดิซ 1-0 นอกจากนี้ ในการประเดิมสนามศึกยูโรป้าลีกฤดูกาลเดียวกัน เขายังพาทีมบุกไปชนะ ‘แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด’ ถึงถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ด 1-0 และเป็นชัยชนะเหนือทีม ‘ปีศาจแดง’ ครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของสโมสร

เดือนเมษายน 2023 คุโบะ กลายเป็นนักเตะญี่ปุ่นที่พังประตูในลาลีกาฤดูกาลเดียวได้มากที่สุดเป็นสถิติใหม่ เมื่อเขายิงประตูที่ 6 ให้ ‘ลา เรอัล’ ในนัดเปิดบ้านชนะเกตาเฟ่ 2-0 ทำลายสถิติเดิมของ ‘ทาคาชิ อินุอิ’ ก่อนจะมายิงเพิ่มในนัดเจอเรอัล มาดริด และดับความหวังของทีมเก่าในการทำแต้มไล่จี้จ่าฝูงลุ้นแชมป์ฤดูกาล 2022 - 2023

อันเชล็อตติ กุนซือเรอัล มาดริด เผยว่า เขากำลังจับตาคุโบะ และอาจพิจารณาซื้อตัวกลับมาร่วมทัพหลังจบซีซั่น 2022 - 2023 นี้ ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นจริง มาดริดจะได้ประโยชน์จากเงื่อนไขในสัญญาที่ทำไว้ระหว่างปล่อยตัวคุโบะไปโซเซียดาด

เรอัล โซเซียดาด ซื้อคุโบะมาร่วมทัพด้วยค่าตัว 6.5 ล้านยูโร พร้อมสัญญา 5 ปี โดยมีเงื่อนไขว่า หาก ‘ลา เรอัล’ ขายแข้งซามูไรผู้นี้ได้เกิน 4 ล้านยูโรขึ้นไป รายได้ส่วนเกินนั้น 50% ต้องแบ่งมาให้มาดริด ดังนั้น หากโซเซียดาดตั้งค่าตัวคุโบะไว้ 60 ล้านยูโรตามที่เป็นข่าว ถ้ามาดริดอยากซื้อกลับ เมื่อหักส่วนแบ่งแล้ว เท่ากับต้องจ่ายให้ 'ลา เรอัล’ เพียง 32 ล้านยูโร เท่านั้น

อย่างไรก็ตาม ประเด็นเรื่องเงินอาจไม่ใช่ปัญหา เพราะเงื่อนไขที่ใหญ่กว่าน่าจะเป็นโอกาสลงสนาม ซึ่งหากคุโบะ ตัดสินใจย้ายกลับไปพิสูจน์ตัวเองอีกครั้งในถิ่นซานติอาโก้ เบร์นาเบว ของทีมชุดขาว อันเชล็อตติอาจต้องการันตีตำแหน่งตัวจริงในทีมชุดใหญ่ให้เขา

มิเช่นนั้น คุโบะอาจต้องไปแย่งตำแหน่งตัวจริงเองกับแข้งสตาร์คนอื่น ๆ อย่างวินิซิอุส จูเนียร์, โรดริโก้ หรือแม้แต่มาร์โก อเซนซิโอ ซึ่งแต่ละคนล้วนเป็นนักเตะระดับเวิลด์คลาส และนั่นจะเป็นความท้าทายครั้งใหญ่ในอาชีพนักเตะของเขาเลยทีเดียว

...หากทำสำเร็จ นอกจากนักเตะพเนจรที่ชื่อ ‘ทาเคฟุสะ คุโบะ’ จะพิสูจน์ตัวเองได้ว่า เขาเหมาะสมกับฉายา ‘เมสซี่ญี่ปุ่น’ และ ‘กัปตันซึบาสะ’ ตัวจริงแล้ว ชื่อ ‘คุโบะ’ ของเขายังจะกลายเป็นตำนานที่เด็กรุ่นหลังต้องจดจำ และนำไปตั้งเป็นฉายา ไม่ต่างจาก ‘เมสซี่’ หรือ ‘กัปตันซึบาสะ’ เช่นกัน

 

เรื่อง: ภานุวัตร เอื้ออุดมชัยสกุล

ภาพ: แฟ้มภาพจาก Getty Images

อ้างอิง:

ESPN

Japan Times

The Guardian

The PFSA

Forbes

sport.es

The Sun

Bleacher Report