13 พ.ย. 2562 | 12:55 น.
ลิเวอร์พูล ทีมฟุตบอลแห่งเกาะอังกฤษมีฐานแฟนบอลในเมืองไทยอย่างเหนียวแน่น หนึ่งในนั้นคือ พริษฐ์ วัชรสินธุ นักการเมืองรุ่นใหม่ ที่เป็นคนรักฟุตบอลในระดับที่บอกใคร ๆ ได้เต็มปากว่า “ผมมาอยู่จุดนี้ได้เพราะฟุตบอล” ในโอกาสครบรอบ 1 ปีของ The People เราได้เชิญ พริษฐ์ มาทอล์กในหัวข้อเรื่อง "ความสำเร็จของลิเวอร์พูล สอนอะไรเกี่ยวกับการเมืองไทย" กับ 6 คุณสมบัติของลิเวอร์พูล ที่สะท้อนให้เห็นว่าพรรคการเมืองในฝันของเราควรจะเป็นแบบอย่างอย่างไร “วันนี้เรามางานของ The People ซึ่งเป็นหนึ่งในสื่อโซเชียลในประเทศไทย ผมก็ยอมรับว่าผมเป็นหนึ่งในคนที่เสพข่าวส่วนมากผ่านสื่อโซเชียล เขาบอกว่าสื่อโซเชียลเก็บข้อมูลเกี่ยวกับเรามหาศาล เรียกว่าสื่อโซเชียลจะรู้จักตัวเราดีกว่าแฟนเรา หรือว่าภรรยาเราด้วยซ้ำ และผมเชื่อว่าทาง The People เอง ก็น่าจะรู้จักผมดีกว่าภรรยาผม หลัก ๆ เพราะว่าผมยังไม่มีภรรยา (เสียงหัวเราะ) “แต่ว่าตอนที่ The People มาสัมภาษณ์ผมครั้งล่าสุด อาจจะเป็นเพราะว่าเขาเลื่อนดู news feed ของผม และแอบเห็นว่าเวลาเปิดเฟซบุ๊กผม มันจะมีแค่ 2 วิดีโอ หรือวิดีโอ 2 หมวดหมู่ที่ปรากฏขึ้นมาคือ วิดีโอการเมืองกับวิดีโอฟุตบอล ผมก็เลยถูกสัมภาษณ์เกี่ยวกับการเมืองและฟุตบอล และโจทย์ที่ผมได้รับคือ ถ้าต้องเลือกระหว่างลิเวอร์พูลชนะถ้วย Premier League กับผมได้เป็น ส.ส. จะเลือกอะไร ผมก็ตอบกลับไปว่าทำไมต้องบังคับให้ผมเลือก ทำไมทั้งสองอย่างเกิดขึ้นพร้อมกันไม่ได้ ผลปรากฏออกมาว่า ไม่ได้สักอย่างเลยครับ (เสียงหัวเราะ) อย่าท้าทายคนตั้งคำถาม “ทีนี้วันนี้ผมก็เลยตั้งหัวข้อที่ว่าเราเรียนรู้อะไร หรือว่าความสำเร็จของลิเวอร์พูล สอนอะไรเราเกี่ยวกับการเมืองไทย พอพูดอย่างนี้กับคนที่ไม่ใช่แฟนลิเวอร์พูลปั๊บ อะไรสำเร็จแล้วหรือ ยังไม่ได้แชมป์สักที ผมก็จะตอบกลับไปว่าแล้วการเมืองไทยสำเร็จแล้วเหรอครับ “เรามาดูการจัดอันดับความเป็นประชาธิปไตยของประเทศทั่วโลก เขามีการจัดลำดับเรียงกัน 167 ประเทศทั่วโลก ให้ทุกท่านทายว่าประเทศไทยอยู่ลำดับที่เท่าไหร่ครับ ประมาณ 60 กว่าค่อนไปท้าย ๆ คำตอบคือ 106 นะครับ ประมาณกลางตาราง หรือถ้าเทียบกับตาราง Premier League ประมาณที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อยู่นะครับ (เสียงหัวเราะและปรบมือ) “พอเราเทียบการเมืองกับฟุตบอล ผมมองว่าพรรคการเมืองก็เปรียบเสมือนกับทีมบอล ยิ่งมีพรรคมากขึ้น มาแข่งกันมากขึ้น ยิ่งมีทีมมาแข่งกันมากขึ้น สุดท้ายคนได้ผลประโยชน์ก็คือคนดู ยิ่งถ้าเกิดว่าพรรคหรือว่าทีมฟุตบอลมีความแข็งแกร่งมากขึ้น เป็นสถาบันมากขึ้น คนรับผลประโยชน์ก็คือคนดู ท้ายสุดแล้วถ้าเราหาพรรคในดวงใจเราไม่ได้ หรือเราหาทีมในดวงใจเราไม่ได้ ท้ายสุดแล้วเราอาจจะไม่เปิดดูบอล เราอาจจะไม่สนใจการเมือง เพราะงั้นนี่คือเหตุผลที่ทำไมผมจึงอยากจะบอกว่าสำหรับผมแล้ว พรรคการเมืองในฝันของผมมีหลาย ๆ อย่างครับที่คล้ายคลึงกับองค์ประกอบของลิเวอร์พูล ภายใต้การนำทีมของ Jürgen Klopp ปัจจุบัน “ในเมื่อเราเพิ่งฉลอง 6 แชมป์มา (ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก) ผมก็จะให้ 6 เหตุผลหรือว่า 6 คุณสมบัติของลิเวอร์พูล ที่ผมคิดว่าสะท้อนให้เห็นว่าพรรคการเมืองในฝันของเราควรจะเป็นแบบอย่างอย่างไร “อย่างแรกนะครับคือ ทีมลิเวอร์พูลภายใต้การนำทีมของ Jürgen Klopp ทีมที่เรียกได้ว่ามีอุดมการณ์หรือมีตัวตนที่ชัดเจน ไม่ว่าคุณจะเป็นนักเตะคนไหน ท้ายสุดแล้วทุกคนต้องยอมรับกับแนวการเล่นที่เรียกว่า Gegenpressing ก็คือพอเสียบอลปุ๊บ สำหรับใครที่ไม่ได้ดูบอล เสียบอลปุ๊บ อย่างแรกที่ทำคือไม่ใช่มาปักหลัก พยายามเอาบอลคืนมา “จะเห็นได้ว่าไม่ว่านักเตะจะมีความสามารถแค่ไหน ถ้าเกิดนักเตะไม่สามารถทำงานภายใต้อุดมการณ์นี้ได้ ไม่มีความเชื่อว่าแนวทางนี้เป็นแนวทางที่ดีที่สุดสำหรับการนำมาสู่ชัยชนะ ท้ายสุดแล้ว Jürgen Klopp ก็ไม่รับเขาเข้ามาในทีม ยกตัวอย่างเช่น Christian Benteke ต้องย้ายออกไป เพราะว่าเขาไม่สามารถเล่นให้เข้ากับระบบของ Klopp ได้ “พอตัดมาที่การเมืองนะครับ ผมคิดว่านี่คือสิ่งที่เราคาดหวังจากพรรคการเมือง เราไม่ได้คาดหวังว่าเราจะต้องเห็นด้วยกับพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่งตลอดไป แต่ผมคิดว่าสิ่งที่เราคาดหวังคือทุกพรรคต้องยืนหยัดบนอุดมการณ์อะไรสักอย่าง มีความเชื่ออย่างใดอย่างหนึ่ง ไม่ว่าเราจะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยว่าท้ายสุดแล้วเขาต้องการนำพาประเทศไปในทิศทางไหน ถ้ามีวิกฤตต่าง ๆ เข้ามา แนวทางการแก้ไขปัญหาจะเป็นอย่างไร รัฐบาลเข้ามาคุมเป็นหลักหรือว่าให้เอกชนขับเคลื่อน แต่ปัจจุบันถ้าเรามองไปในประเทศไทย ผมยังไม่สามารถกล้าพูดได้นะครับว่าทุกพรรคมีตัวตนที่ชัดเจนว่าอุดมการณ์คืออะไร “องค์ประกอบที่สองของลิเวอร์พูล ภายใต้ Jürgen Klopp ไม่มีนักเตะคนไหนใหญ่กว่าสโมสร ผมไปถามแฟนลิเวอร์พูลปัจจุบันว่า คิดว่านักเตะคนไหนสำคัญที่สุดของทีม คำตอบจะแตกต่างกันไปมาก อันนี้แสดงให้เห็นว่าท้ายสุดแล้ว เราต้องการเห็นทีมฟุตบอลเหมือนกับพรรคการเมืองที่เป็นสถาบัน ที่ท้ายสุดแล้วเราไม่สามารถชี้ได้ว่ามีใครเป็นเจ้าของ ตัดภาพมาที่การเมืองไทยผมก็ยังไม่แน่ใจว่าปัจจุบันพรรคการเมืองทุกพรรค เป็นพรรคที่เรากล้าพูดว่าไม่มีเจ้าของ “องค์ประกอบที่สามคือ Jürgen Klopp คัดเลือกนักเตะที่จะมาลง 11 ตัวจริง บนพื้นฐานของอุดมการณ์ที่เรียกว่า Meritocracy ภาษาไทยที่ใกล้เคียงที่สุดคือ ความสามารถนิยม อย่างแรกคือทุกตำแหน่งถูกคัดเลือกบนพื้นฐานความสามารถ ไม่มีแล้วเหมือนในยุค Brendon Rodgers นะครับที่เอา Enrique มาเล่นเป็นเซ็นเตอร์แบ็ก เอา Firmino ไปเล่นแบ็กขวา เอา Sterling มาเล่นแบ็กขวา ท้ายสุดแล้วทุกคนถูกคัดเลือกบนพื้นฐานของความสามารถ “แต่นอกเหนือจากความสามารถแล้ว ทีมของ Jürgen Klopp มีความหลากหลายนะครับ มีนักเตะมุสลิมถึง 4 คนในรายชื่อทีม 25 คน ในรายชื่อ 11 ตัวจริงในฤดูกาลที่แล้ว มีคนเด็กถึงอายุ 19-20 ปี อย่าง Trent Alexander-Arnold เล่นคู่กับคนมากประสบการณ์อย่าง James Milner ที่อายุ 34 แต่ภายใต้กรอบความหลากหลายตรงนี้ ทุกคนถูกปฏิบัติอย่างเท่าเทียมกัน ไม่มีการที่ James Milner ออกมาบอกว่า ในเมื่อผมอายุมากแล้ว วิ่งไม่เท่าคนอื่นครับ ไม่มีการที่ Trent Alexander-Arnold ออกมาบอกว่าในเมื่อผมเล่นยังไม่ถึง 1 ปี การตัดสินใจผมอาจจะดีไม่เท่า ทุกอย่างถูกตัดสินบนพื้นฐานของความสามารถ