5 เรื่องชวนรู้ อุ่นเครื่องก่อนดู Weak Hero Class 2 (2025) วังวนแห่งความรุนแรงที่ไม่มีวันจบ

(บทความนี้เปิดเผยเนื้อหาบางส่วนของซีรีส์ Weakhero Class ซีซัน 1 และเว็บตูน Weakhero Class

หากใครเป็นคอซีรีส์เกาหลีขาประจำบน Netflix คงต้องสังเกตเห็นว่า นอกจาก When Life Gives You Tangerines (2025) ที่โด่งดังสุดๆ ก็ยังมีซีรีส์อีกเรื่องที่ตีคู่มาอย่างสูสี และเรื่องนั้นก็คือ Weak Hero Class 1 (2022) ซีรีส์วัยรุ่นแนวแอคชั่นที่ตีแผ่ความรุนแรงในโรงเรียน

ซีรีส์เรื่องนี้เปิดตัวครั้งแรกเมื่อปี 2022 ผ่านสตรีมมิ่งเกาหลี Wavve Original และทำให้ Wavve สามารถครองส่วนแบ่งการตลาดในประเทศมากกว่าครึ่ง หรือ 45.5% แต่ด้วยข้อจำกัดของแพลตฟอร์ม กระแสจึงจำกัดเฉพาะแค่ในเกาหลีเท่านั้น 

จนกระทั่ง Weak Hero Class 1 เปิดตัวใน Netflix เมื่อปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ก่อนจะทะยานขึ้น “อันดับที่ 1” ในประเทศไทยและมาเลเซีย ตามด้วย “อันดับที่ 2” ในฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย และบราซิล และติดอันดับ Top 10 ในหลายประเทศทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็น ฝรั่งเศส (อันดับที่ 3) สเปน (อันดับที่ 4) สหรัฐอเมริกา (อันดับที่ 5) แคนาดา (อันดับที่ 6) เยอรมนี (อันดับที่ 8) และอิตาลี (อันดับที่ 10) ซึ่งทำให้การมาของ Weak Hero Class 2 (2025) ในวันที่ 25 เมษายน 2025 นี้ จึงเป็นอะไรที่น่าติดตาม

Weak Hero Class 1 เล่าเรื่องของยอนชีอึน รับบทโดยพัคจีฮุน (Park Ji-hoon) นักเรียนตัวอย่างที่ทั้งเรียนเก่งและความประพฤติดี แม้จะมีรูปร่างเล็กและนิสัยเงียบๆ แต่เมื่อถูกรังแก เขากลับใช้ “สติปัญญา” และ “สิ่งรอบตัว” ต่อสู้กับความรุนแรงในโรงเรียนได้อย่างฉลาดและกล้าหาญ โดยมีเพื่อนร่วมชั้นอย่างอันซูโฮ รับบทโดย ชเวฮยอนอุค (Choi Hyun-wook) ที่เก่งในเรื่องของการใช้กำลัง แต่ทว่าจริงใจ และโอบอมซอก รับบทโดยฮงคยอง (Hong Kyung) เพื่อนตัวเล็กที่ดูไร้เดียงสา มาร่วม “ผนึกกำลัง” กันต่อสู้กับคนที่มารังแก

จริงอยู่ที่ฉากหลังของเรื่องนี้ จะชูประเด็น “ความรุนแรงภายในโรงเรียน” เหมือนหลายต่อหลายเรื่อง แต่ Weak Hero Class 1 กลับถ่ายทอดเรื่องราวของเยาวชนได้อย่างมีชั้นเชิงและแยบคายกว่านั้น โดยไม่ต้องอาศัยเรื่อง “ชนชั้น” นักเรียนรวย-นักเรียนจน เหมือนที่เห็นกันดาษดื่น หากแต่เล่าเรื่องราวของ “การเติบโตเป็นผู้ใหญ่” ภายใต้ฉากแอคชั่นที่ดูดิบเถื่อน ผสมผสานการต่อสู้ของเด็กๆ ที่ต้องเอาชีวิตรอด และบางส่วนต้องกลายเป็น “เหยื่อ” จากผู้ใหญ่นิสัยเลว อันนำไปสู่การสำรวจความเข้มแข็งภายในจิตใจ มิตรภาพระหว่างเพื่อน และปัญหาคาบเกี่ยวทางศีลธรรมได้อย่างสมจริงอย่างที่สุด

นอกจากนี้ พัฒนาการของตัวละครแต่ละตัวก็นับเป็นเสน่ห์อันน่าติดตาม โดยเฉพาะในบทของ “ชีอึน” ที่เปลี่ยนตัวเองจากคนเฉยเมย ไม่สนใจต่อสิ่งใด ให้กลายมาเป็น “นักสู้” ที่เปลี่ยน “สมอง” ให้มาเป็น “กำลัง” และกลายเป็นตัวละครที่มีหลากสีสันในตัวเองมากที่สุด

ความสนุกสูตรสำเร็จ : อ้างอิงมาจากเว็บตูนในชื่อเดียวกัน 

เรียกว่ากลายเป็นสูตรสำเร็จกันไปแล้ว เพราะ Weak Hero Class 1 ถือเป็นอีกหนึ่งซีรีส์ที่ดัดแปลงมาจากเว็บตูนเกาหลีที่ชื่อ Weak Hero (약한영웅) ผลงานเขียนของ Seopass เปิดตัวครั้งแรกบน Naver Webtoonในปี 2018 ก่อนจะถูกแปลอีกหลากหลายภาษา สำหรับในเวอร์ชั่นภาษาไทยนั้น สามารถหาอ่านได้ที่แอพพลิเคชั่น Line Webtoon จำนวนทั้งสิ้น 267 ตอน ไม่รวมบทส่งท้าย

ความเป็นไปในซีรีส์นั้น เรียกว่าดำเนินไปในทิศทางที่แตกต่างจากในเว็บตูนอยู่เล็กน้อย เนื่องจากในเว็บตูนจะเปิดเรื่องด้วยเรื่องราวที่เกิดขึ้นภายหลังจาก Weak Hero Class 1 หรือถ้าพูดให้เห็นภาพ เรื่องราวที่เกิดขึ้นในเว็บตูนก็คือ Weak Hero Class 2 ที่กำลังจะมาถึงนั่นเอง 

ส่วนเรื่องราวที่อยู่ใน Weak Hero Class 1 ก็ไม่ได้หายไปไหน หากถูกร้อยเรียงผ่านพาร์ทย้อนอดีต เรื่องราวอันขมขื่นที่หล่อหลอมชีอึนในเป็นอย่างทุกวันนี้ นอกจากนี้ เพื่อให้เรื่องราวมีความเข้มข้นยิ่งขึ้น ซีรีส์ก็ได้เพิ่มตัวละครอย่างยองจี รับบทโดยอียอน (Lee Yeon) เด็กสาวที่มีส่วนช่วยให้ชีอึนกำจัดหัวหน้าแก๊งอันธพาล และเป็นตัวขับเคลื่อนให้มิตรภาพของชีอึน ซูโฮ และบอมซอกต้องสั่นคลอน

ปัญหาใหญ่ในเกาหลีใต้ : ความรุนแรงที่เกิดขึ้นจริงในโรงเรียน 

หลายคนอาจมองว่า “ความรุนแรงในโรงเรียน” (school violence) คงเป็นแค่เรื่องราวที่ช่วย “เติมสีสัน” ให้กับซีรีส์ แต่ความจริงแล้วสิ่งนี้กำลังเป็นปัญหาใหญ่ในเกาหลีใต้ จนทางการต้องออก “มาตรการรับมือ” อย่างเร่งด่วน 

ซึ่งตอนนี้เกาหลีมีการออก “กฏหมายต่อต้านการกลั่นแกล้ง” (Anti-Bullying Laws) ที่มีสาระสำคัญในการ “คุ้มครองเหยื่อ” ให้มากขึ้น ด้วยการบันทึกประวัติความรุนแรงของเยาวชน ให้มีอายุความยาวนานถึง 4 ปี และตั้งแต่ปี 2026 เป็นต้นไป ประวัติความรุนแรงดังกล่าว จะถูกนำมาใช้ “พิจารณา” การเข้ามหาวิทยาลัยอีกด้วย เพื่อให้เหล่าเยาวชนตระหนักว่า ทุกๆ การกระทำของพวกเขา สามารถส่งผลกระทบต่ออนาคต และไม่สามารถ “ฟอกขาว” ได้

จากการรายงานของกระทรวงศึกษาธิการประเทศเกาหลีใต้ เมื่อช่วงกลางปี 2024 พบว่า ความรุนแรงในโรงเรียนแตะระดับสูงสุดในรอบ 11 ปี โดยมีนักเรียนตั้งแต่ระดับชั้นประถมศึกษาตอนปลาย ถึงมัธยมปลายราวๆ ร้อยละ 2.1 จาก 3.9 ล้านคน ยอมรับว่าเคยประสบเหตุความรุนแรงในโรงเรียน

สอดคล้องกับรายงานของ ส.ส. จิน ซุนมี (Jin Sun-mee) จากพรรคประชาธิปไตยเกาหลี (DPK) ที่ออกมาเผยว่าในปี 2023 มีคดีความรุนแรงเกิดขึ้นในโรงเรียนรวมกันกว่า 61,445 คดี ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปี 2022 จำนวน 3,464 คดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในระดับมัธยมปลาย กลับพบอัตราที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ด้วยจำนวนคดีถึง 12,273 คดี ซึ่งเพิ่มขึ้น 1,394 คดี หรือร้อยละ 12.8 จากปีก่อน ขณะที่ระดับประถมศึกษา ที่เคยครองสัดส่วนจำนวนคดีสูงสุด กลับมีอัตราเพิ่มขึ้นเพียงร้อยละ 4.7 และร้อยละ 3.9 ในระดับมัธยมต้น

เมื่อพิจารณาแยกประเภทของความรุนแรง จะพบว่าความรุนแรงทางร่างกาย (physical violence) เป็นกรณีที่พบบ่อยที่สุด โดยมี 13,587 คดี รองลงมาคือการล่วงละเมิดทางวาจา (verbal abuse) 11,082 คดี ความรุนแรงทางเพศ (sexual violence) 3,685 คดี การกลั่นแกล้งทางอินเทอร์เน็ต (cyberbullying) 3,422 คดี การบังคับ (coercion) 1,777 คดี  การกรรโชก (extortion) 1,772 คดี และการกลั่นแกล้ง หรือบูลลี่ (bullying) 1,701 คดี 

และทุกความรุนแรงที่เกิดขึ้น ก็พบในซีรีส์เรื่องนี้ เริ่มตั้งแต่ “เบาสุด” อย่างกลั่นแกล้งข่มขู่ ไปจนถึ ง “หนักสุด” ที่มุ่งหมาย “เอาชีวิต” 

พ่อแม่รังแกฉัน : ความรุนแรงในครอบครัว 

นอกจากความรุนแรงในโรงเรียนแล้ว อีกหนึ่งความรุนแรงที่ซีรีส์เรื่องนี้เปิดประเด็นได้อย่างน่าสนใจ คงต้องยกให้กับ “ความรุนแรงในครอบครัว” (domestic violence) ที่นับเป็นอีกหนึ่งปัญหาใหญ่ในสังคม จากรายงานล่าสุดเมื่อปี 2021 พบว่ามีคดี “ทำร้ายเด็ก” เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 21.7 ซึ่งได้สะท้อนผ่าน “ตัวตน” ของตัวละครในเรื่อง

ในครึ่งแรกของซีรีส์เราจะเห็นว่าตัวละครอย่างบอมซอกไม่ใช่คนรุนแรงโดยธรรมชาติ หนำซ้ำเขายังดูอ่อนแอและยอมคนอื่นเสมอ ซึ่งเบื้องหลังมาจากการที่เขาถูกพ่อ (เลี้ยง) ทำร้ายร่างกายซ้ำๆ แต่แล้ววันหนึ่งความอดทนที่สะสมมาเนิ่นนานก็ปะทุขึ้น และเปลี่ยนเขาให้กลายเป็นคนที่เขาเคยกลัว ซึ่งสอดคล้องกับสถิติที่บอกว่า ความรุนแรงสามารถส่งต่อจาก “รุ่นสู่รุ่น”

ส่วนตัวละครอย่างชีอึน แม้จะไม่ได้ถูกทำร้ายร่างกาย แต่ตัวเขาก็พบก็ “ความรุนแรงอีกรูปแบบ” ที่มีชื่อเรียกว่า “การละเลย” (ignored) ในหลายฉากหลายตอน เราจะเห็นชีอึนอ่านหนังสืออยู่ในห้องแคบๆ เขาแทบไม่ดื่มน้ำ ไม่กินข้าว เพราะเขาถูกทอดทิ้งจากแม่ที่ออกไปมีครอบครัวใหม่และงานใหม่ ส่วนพ่อที่ทำหน้าที่เลี้ยงดูเขาอย่างลำพังก็ทำงานอย่างหนัก ด้วยความหวังให้ลูกชายประสบความสำเร็จ 

แต่ก็ต้องแลกมากับการทิ้งลูกชายให้อยู่คนเดียว 

สิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้น ล้วนทำให้ชีอึนรู้สึกไม่เคยเชื่อใจใครเลยแม้แต่น้อย เพราะไม่คิดว่าตัวเองจะมี “คุณค่า” และ “ความหมาย” มากพอที่จะได้รับความรักจากใครสักคน เขาจึงพยายามที่จะเติบโตด้วยตัวเอง ไม่ทำตัวให้เป็นภาระของใคร และยึดถือกับ “การเรียน” มากที่สุด เพื่อให้พ่อของเขาภาคภูมิใจ  

และในขณะที่สายตาของคนเป็นพ่อแม่มองว่าชีอึนเป็น “ลูกที่ดี” กว่าใคร แต่ความจริงนั้น ในใจของชีอึนกำลัง “แตกสลาย” และกลายเป็นคนที่ตัวเขาเองก็เคยต่อต้านมากที่สุด

ตอนจบที่น่าเศร้า :โศกนาฏกรรมแห่งมิตรภาพ

จากเนื้อเรื่องดราม่าที่ค่อนข้างความรุนแรงและหนักหน่วง หนึ่งสิ่งที่ชุบชูใจได้ดีที่สุดคงไม่พ้น “มิตรภาพ” อันแสนสวยงามของซีอึน ซูโฮ และบอมซอก ที่ร่วมต่อสู้กับความรุนแรงในโรงเรียน

คำว่ามิตรภาพได้เปลี่ยนแปลงเด็ก 3 คนที่มีภูมิหลังต่างกันมาเชื่อมโยงกันได้อย่างน่าอัศจรรย์ พวกเขาได้เรียนรู้ที่จะเชื่อใจ ไว้วางใจ และรับรู้ว่ามีคนที่รักเขาอยู่ ก่อนที่ความสัมพันธ์จะขาดสะบั้นลง

เมื่อหนึ่งในพวกเขาถูกหลอกหลอนด้วยความเจ็บปวด และได้ระเบิดความเจ็บปวดนั้นมายัง “เพื่อน” ผู้หวังดี แทนที่จะเป็นคนที่ทำร้ายเขาในชีวิตจริง ซึ่งกลายเป็นจุดหักเหและโศกนาฏกรรมแห่งมิตรภาพ

แม้เรื่องราวจะถูกบอกเล่าออกมาอย่างสาหัสสากรรจ์ แต่สิ่งที่ดีงามของเรื่องนี้คือ “การไม่ตัดสิน” ว่าใครคือคนผิดในความสัมพันธ์ในครั้งนี้ เราได้เห็นระเบียบวิธีคิดของเด็ก 3 คนที่มองปัญหาไม่เหมือนกัน คนแรกเลือกที่จะหักหลัง อีกคนเลือกที่จะปล่อยวาง ส่วนอีกคนก็เลือกจะแก้แค้น

ไม่มีใครถูกหรือผิด เพราะอย่าลืมว่าพวกเขาก็เป็นแค่ “เด็ก” ที่ต้องการการปกป้องและความเอาใจใส่จากครอบครัว ดีไม่ดีต้นเหตุของทั้งหมด อาจจะมาจากจุดเล็กๆ อย่างการที่ไม่ฟอลอินสตาแกรมกันก็เท่านั้น

ถึงตอนจบจะไม่ได้สมบูรณ์แบบ แต่เชื่อว่าหลายคนน่าจะแอบหวังให้ซูโฮและบอมซอก โคจรมาเจอกันอีกครั้ง แต่น่าเสียดายที่ท้องเรื่องหลักในเว็บตูน ตัวละครทั้งสองแทบไม่ได้ปรากฏตัว ยกเว้นในพาร์ทย้อนอดีต จึงไม่น่าจะเป็นไปได้ที่พวกเขาจะมีบทใน Weak Hero Class 2 อีกทั้งชื่อของชเวฮยอนอุคที่รับบทเป็นซูโฮ และฮงคยองที่รับบทเป็นบอมซอก ก็ได้อยู่ในลิสต์ของซีซั่นใหม่

เว้นเสียแต่ว่าจะมีเซอร์ไพร์ส!

Weak Hero Class 2 : ลูปความรุนแรงครั้งใหม่

ในตอนท้ายของ Weak Hero Class 1 ซีรีส์ได้ทิ้งเบาะแสของการมีอยู่ของชีอึนไว้ว่า เขาได้ถูกย้ายไปยังโรงเรียนอึนจัง ที่มีชื่อเสียงไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่ แต่เป็นโรงเรียนเดียวที่ยอมรับเขาไว้ หลังจากที่เขาถูกไล่ออกจากโรงเรียนเก่า จากเหตุทำร้ายร่างกายเพื่อนนักเรียน

เนื่องจากรูปลักษณ์ที่บอบบางของซีอึน เขาจึงตกเป็นเป้าหมายของนักเลงในชั้นเรียนอีกครั้ง และคู่ปรับใหม่ของเขาก็คือชเวฮโยมัน รับบทโดยยูซูบิน (Yoo Su-bin) ก่อนจะปิดฉากลงด้วย ซีอึน “กำปากกา” คู่ใจไว้ในมือ เพื่อเป็นการ “เปิดตัว” ด้วยความรุนแรงอีกครั้ง 

อีกทั้งเครดิตท้ายเรื่องยังแอบเผยคู่อริคนใหม่อย่างนาแพ็กจิน รับบทโดยแบนารา (Bae Na-Ra) ซึ่งในเว็บตูนเขาคือ ผู้นำกลุ่มพันธมิตรที่มีสมาชิกเป็นเหล่านักเรียน-นักเลงจาก 5 โรงเรียน 

โชคยังดีทีชีอึนจะยังได้เจอกับเพื่อนใหม่ที่รู้ใจอย่างพัคฮูมิน รับบทโดยรยออุน (Ryeo Un) ซอจุนแท รับบทโดยชเวมินยอง (Choi Min-Young) และโกฮยอนแท็ก รับบทโดยอีมินแจ (Lee Min-Jae) และที่สำคัญยังได้ผู้กำกับคนเดิมอย่างยูซูมิน (Yoo Soo-Min) ที่เข้ามารับหน้าที่เขียนบทพ่วงอีกหนึ่งตำแหน่ง ซึ่งน่าจะรับประกันความสนุกเข้มข้นอย่างแน่นอน

พร้อมกับประกาศกลายๆ ว่า ความรุนแรงไม่เคยสิ้นสุด เพียงแค่เปลี่ยนลูปใหม่ก็เท่านั้น

 

ภาพ : Wavve, Netflix

 

อ้างอิง

Hyun-Young, Deborah SHIN. Child Abuse in Korea. https://www.med.or.jp/english/activities/pdf/2013_05/318_324.pdf

Kayti Burt. Breaking Down the Devastating Ending of Weak Hero Class 1
https://time.com/7271539/weak-hero-class-1-netflix-k-drama/

Ktimes. 'Weak Hero Class 1' Gains Global Traction on Netflix 3 Years After Debut. https://www.koreatimes.co.kr/amp/entertainment/shows-dramas/20250328/weak-hero-class-1-gains-global-traction-on-netflix-3-years-after-debut

Lee Hae-rin. Korea Sees Surge in School Violence Despite Education Ministry's Efforts. https://www.koreatimes.co.kr/southkorea/society/20240826/korea-sees-surge-in-school-violence-despite-education-ministrys-efforts

Nam Kyung-don. School Violence Reports Reach 11-Year High. https://www.koreaherald.com/article/3844088

Serim Lee, Jieun Lee, JongSerl Chun. The Child Abuse Reporting Guideline Compliance in Korean Newspapers. https://pmc.ncbi.nlm.nih.gov/articles/PMC10228155/

Seopass. Weak Hero. https://www.webtoons.com/th/action/weak-hero/list?title_no=1532

Waan Choi. Korean Government Announces New Anti-Bullying Laws. https://ttonl.org/16216/global-news/korean-government-announces-new-anti-bullying-laws/