การบอกเล่าเรื่องราวของผู้คน คือ ‘พันธกิจ’ ของเรา

การบอกเล่าเรื่องราวของผู้คน คือ ‘พันธกิจ’ ของเรา

บทบรรณาธิการ : การบอกเล่าเรื่องราวของผู้คน คือ ‘พันธกิจ’ ของเรา

“เอ็งคิดว่า The People จะอยู่ได้อีกสักกี่ปีวะ” 

สมาชิกคนหนึ่งในกองบรรณาธิการของเราเอ่ยถามขึ้นด้วยความสงสัย ระหว่างที่เขากำลังนั่งรับประทานอาหารมื้อกลางวันกับเพื่อนร่วมงานบางคน แล้วคำถามนั้นได้ถูกส่งจากวงสนทนามาถึงผมโดยบังเอิญ นั่นคือช่วงใจกลางมรสุมโควิด-19 ที่กำลังระบาดหนักพอดี

วันนี้ เราผ่านช่วงโควิด-19 มาอย่าง ‘อยู่รอด - ปลอดภัย’ แล้ว แต่คำถามนั้นยังค้างคาในใจเสมอ แม้กระทั่งตอนที่ผมนั่งเขียนบทบรรณาธิการชิ้นนี้ เนื่องในวาระครบรอบ 5 ปี The People ซึ่งเราเปิดตัวสู่โลกออนไลน์เป็นครั้งแรก บนแพลตฟอร์ม Facebook เมื่อวันศุกร์ที่ 9 พฤศจิกายน 2561

เพราะหากพิจารณาถึงการเกิดขึ้นและดำรงอยู่ของสื่อใหม่ทั้งหลาย กรณีของ The People ก็มีชะตากรรมที่ไม่แตกต่างกัน ตั้งแต่จุดเริ่มต้นของการคิดคอนเซ็ปต์ไอเดีย การสร้างแนวทางอัตลักษณ์ การเขียนโปรเจกชันวิ่งหาแหล่งเงินทุน ฯลฯ ในสถานการณ์เทคโนโลยีกำลังดิสรัปต์ของวงการสื่ออย่างหนักหน่วง มันไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะพาองค์กรสตาร์ทอัพฝ่าข้ามกับดักของความล้มเหลวมาได้  

หากไม่ใช่เพื่อนร่วมงานคนนั้น ผมเชื่อว่าคุณเองก็คงตั้งคำถามไม่ต่างกัน กับชะตากรรมของสื่อออนไลน์หน้าใหม่ ในโมงยามอันสิ้นหวัง เป็นเรื่องปกติที่จะมีใครสักคนอดสงสัยถึงความมั่นคงในหน้าที่การงานมิได้

ทว่า ในความเป็นจริง ตลอดระยะเวลา 5 ปีเต็ม ในการเดินทางของ The People ตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้ แม้จะมีช่วงเวลาของความยากลำบากอยู่บ้าง แต่เราไม่เคยท้อแท้สิ้นหวัง - แม้สักครั้งเดียว

เหตุผลหลัก ๆ ในการดำรงอยู่ เรามุ่งมั่นแต่เริ่มแรกที่จะยืนหยัดบอกเล่าในสิ่งที่เราเชื่อ เราสร้างความแตกต่างจากจุดนี้ เราเปลี่ยนจากการ ‘อ่านข่าว’ มาเป็นการ ‘อ่านคน’ บนพื้นฐานของศิลปะในการเล่าเรื่อง

 - เราเชื่อว่า ทุกคนมีเรื่องเล่าเป็นของตนเอง

- เราเชื่อว่า ผู้คนเปลี่ยนแปลงโลกได้

- เราจึงเชื่อว่า พลังจากเรื่องเล่าของผู้คนจะสร้างความเปลี่ยนแปลงเชิงบวกให้แก่สังคม

เหนืออื่นใด ชาว The People ทุกคนที่นี่ มีจิตวิญญาณของนักสู้ เราปรับตัวและพร้อมเรียนรู้สิ่งใหม่ตลอดเวลา เราออกแบบและสร้างวัฒนธรรมที่ปราศจากความกลัว เรามีค่านิยมขององค์กรที่ให้ความสำคัญในเรื่องของ ความคิดสร้างสรรค์ แรงบันดาลใจ การยอมรับความหลากหลายแตกต่าง การมองโลกในแง่ดี บนพื้นฐานความจริง และความรับผิดชอบต่อสังคม

ตลอด 5 ปีที่ผ่านมา เราจึงเป็นหนึ่งในสื่อออนไลน์ที่เติบโตต่อเนื่อง ทั้งบนเว็บไซต์และโซเชียลมีเดียแพลตฟอร์มต่าง ๆ มีคนอ่านคนดูอยู่ที่ไหน เราจะไปเสิร์ฟคอนเทนท์ดี ๆ ที่นั่น พร้อมร่วมสร้างชุมชนสร้างสังคมที่มีคุณภาพ ในแบบไฮบริด คือทั้งออนไลน์และออนกราวนด์

ในช่วงขวบปีหลัง ๆ เราร่วมมือกับพันธมิตร ภาคเอกชน และภาคส่วนต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง ช่วยกันสร้าง co-creation ของคอนเทนต์ และมีการขยายอาณาเขตงานสร้างสรรค์ออกไปในหลายมิติ ทั้งการประชุม อบรม สัมมนา หรือแม้กระทั่งการจัดคอนเสิร์ต และกิจกรรมด้านไลฟ์สไตล์ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการกินดื่ม หรือคุณภาพชีวิต

 เพราะทั้งหมดนี้ เกี่ยวพันกับเรื่องราวของผู้คน

เมื่อมาถึงบรรทัดนี้ หากจะมีคำถามลอยตามลมมาอีกครั้ง

 “เอ็งคิดว่า The People จะอยู่ได้อีกสักกี่ปีวะ” 

 คำตอบอย่างเรียบง่ายของเรา มีเพียงว่า

“การบอกเล่าเรื่องราวของผู้คน คือ ‘พันธกิจ’ ของเรา ตราบใดที่ท่านรักและศรัทธาในพลังจากเรื่องเล่าของผู้คน ตราบนั้น The People จักทำหน้าที่ยืนหยัดกับพันธกิจนี้ต่อไป - ตราบนานเท่านาน”

สุดท้ายนี้ ในการก้าวสู่ปีที่ 6 ของ The People ขอขอบคุณผู้อ่าน ผู้ชม เพื่อนสื่อมวลชน องค์กรพันธมิตร ภาครัฐและภาคเอกชน ที่ร่วมสนับสนุน The People มาโดยตลอด พวกเราขอแสดงเจตนารมณ์ที่จะปฏิบัติหน้าที่ ‘สื่อสร้างสรรค์’ ให้ดีที่สุด