29 เม.ย. 2567 | 17:36 น.
KEY
POINTS
เรียกได้ว่า ทำคนดูลุ้นและเอาใจช่วยจนถึงตอนสุดท้าย สำหรับซีรีส์ ‘Queen of Tears’ ซีรีส์เรื่องใหม่จากช่อง TVN ที่นำแสดงโดยพระเอกระดับแนวหน้าวงการอย่าง ‘คิมซูฮยอน’ และนางเอกหน้าสวยอย่าง ‘คิมจีวอน’
ถ้าพูดถึงเส้นเรื่องก็ดูจะธรรมดาสุด ๆ เพราะเป็นเรื่องราวของ ‘แบคฮยอนอู’ ลูกชายคนเล็กของบ้านในหมู่บ้านยงดูรีที่ไปหลงรัก ‘ฮงแฮอิน’ ลูกสาวคนโตของควีนส์กรุ๊ป ผู้ดูแลอาณาจักรธุรกิจของควีนส์
แต่สิ่งที่ทำให้ Queen of Tears ครองใจผู้ชมได้อยู่หมัด จนนับรอวันเสาร์ - อาทิตย์ตลอด 2 เดือนที่ผ่านมาและคว้าอันดับ 1 ซีรีส์ที่เรตติ้งสูงสุดตลอดกาลของช่อง TVN ไปถึง 24.85% แซงหน้า Crash Landing on You ที่ทำให้เกิดคู่รักใหม่ของวงการอย่างฮยอนบินและซนเยจิน รวมถึง Reply1988
มากกว่านั้นยังขึ้นอันดับ 1 รายการที่ผู้ชมสูงสุดใน Netflix ด้วย และยังติดอันดับ 3 การเป็นซีรีส์เรตติ้งสูงสุดตลอดกาลช่องเคเบิล รองจาก The World of Married Couple (2020) และ Reborn Rich (2023)
ก็เพราะบทละครที่พลิกไปพลิกมาจนเดาทางไม่ถูก พร้อมกับการจับตาดูและตั้งคำถามว่า “ซีรีส์เรื่องนี้จะรอมคอมกี่โมง?” เพราะเอาเข้าจริง เส้นเรื่องแต่ละตอน มีจังหวะให้คนยิ้มและหัวเราะอยู่ไม่กี่นาที แต่ที่เหลือต้องนั่งปาดน้ำตา
หลังจากนี้ คือ หลากหลายเหตุผลในมุมมองของคนที่ดูซีรีส์เรื่องนี้ว่า ทำไม Queen of Tears จึงกลายเป็นซีรีส์ที่กวาดเรตติ้งเฉือน Crash Landing on You และเล่นกับใจคนดู ตั้งแต่ตอนแรกจนถึงตอนสุดท้าย
/บทความนี้เปิดเผยเนื้อหาบางส่วนของซีรีส์ Queen of Tears (2024)/
จะบอกว่าเสน่ห์อย่างหนึ่งของ Queen of Tears คือ เส้นเรื่องที่พลิกไปพลิกมาอยู่ทุกนาที และทุก ๆ ตอน
คนที่อยู่เบื้องหลังคือนักเขียน ‘พัคจีอึน’ มือเขียนบทฝีมือดีที่ฝากผลงานไว้มากมายอย่าง My Love From Star (2013), The Producers (2015), The Legend of the Blue Sea (2017) และ Crash Landing on You (2020)
รูปแบบผลงานของเธอมันจะเป็น plot twist เรื่องราวที่เปลี่ยนตลอดเวลา ตอนนี้ร้องไห้ นาทีต่อไปคุณอาจกำลังนั่งหัวเราะอยู่ รวมถึงเส้นรักที่ไม่ได้มากเกินไป แต่ก็ซ่อนแนวคิดชีวิตไว้ในบทสนทนาของตัวละคร
และผลงานของเธอก็ได้รับความนิยมจากเรตติ้งที่ทำลายสถิติของตัวเองอย่างต่อเนื่อง My Love From Star ที่กวาดเรตติ้งไปมากถึง 24% Crash Landing on You (2020) ที่ทำเรตติ้งไป 21.68% และผลงานเรื่องล่าสุดอย่าง Queen of Tears ที่มีเรตติ้งสูงถึง 24.85%
โดยผลงานของเธอไม่ใช่แค่สร้างอิมแพ็กต์กับผู้ชม แต่ยังส่งนักแสดงไปอยู่แถวหน้าวงการด้วย
หนึ่งคนที่ชัดเจน คือ คิมซูฮยอนที่ร่วมงานกับเขามามากถึง 3 ครั้ง ที่จากพระเอกดังอยู่แล้วกลายเป็นดังมากกว่าเดิม สิ่งที่เราคงเคยเห็นคือปรากฏการณ์โทมินจุนที่พาเขาเดินสายขึ้นเวทีแฟนมีตติ้งพบปะแฟน ๆ ในหลายประเทศิ
รวมถึงบทละครของเธอก็ทำให้เกิดรักกลางกองถ่ายในซีรีส์ Crash Landing on You ที่ส่งผลให้ความรักฮยอนบินและซนฮเยจินผลิบ้าน แต่งงาน และสร้างครอบครัวร่วมกันเป็นที่เรียบร้อย
ช่วงต้นของการออกอากาศ บอกได้เลยว่า Queen of Tears ดำเนินเรื่องได้ดีจริง
ทุกตอนช่วงแรก ๆ หัวเราะ ต่อมายิ้ม ร้องไห้ แล้วกลับมาหัวเราะอีกครั้ง
แล้วตอนจบของทุกตอนมันค้างคา มันอยากรู้ต่อว่า ความรักของฮยอนอูและแฮอินจะไปสิ้นสุดที่ตรงไหน จึงขอบอกว่าเป็นเส้นเรื่องที่ไร้การคาดเดา
สิ่งที่ตัวอย่างตอนต่อไปบอกไว้อาจเป็นเพียงแค่ช่วงต้นของตอนต่อไป หรืออาจเป็นเพียงเศษเสี้ยวของเรื่องราวทั้งหมดในตอนนั้น ๆ
นอกจากนี้การมี Epilogue บอกเบื้องหลังเส้นทางความสัมพันธ์ของพระเอกนางเอกยิ่งทำให้เราหลงรักตัวละคร เห็นสิ่งที่ซ่อนอยู่ในเรื่องราวมากขึ้น
นี่จึงอาจเป็นเสน่ห์ที่ทีมผู้สร้างเลือกทำไว้ฮีลใจคนดูที่น้ำตาท่วมจอในแต่ละสัปดาห์ที่ออกอากาศ
อีกหนึ่งสิ่งที่ทำให้หลายคนเลือกดูซีรีส์เรื่องนี้ คือ ‘นักแสดง’
เริ่มจากพระเอกค่าตัวแพงที่สุดในเกาหลีอย่าง ‘คิมซูฮยอน’ นางเอกหน้าสวยอย่าง ‘คิมจีวอน’ และตัวร้ายแบบทำถึงอย่าง ‘พัคซองฮุน’
ในบทสัมภาษณ์หนึ่งของทีมผู้สร้างบอกว่า ความหมายของราชินีเจ้าน้ำตา หรือ Queen of Tears คือ Queens หมายถึง ฮงแฮอินทายาทอาณาจักรควีนส์ธุรกิจหมื่นล้าน ส่วน Tears (น้ำตา) หมายถึง พระเอก
แล้วดูเหมือนว่าคิมซูฮยอนจะทำถึงทุกฉาก เขาร้องไห้และอินกับการแสดงสุด ๆ จนชาวเน็ตหลายคนชื่นชมและปรบมือให้ บอกว่าสมแล้วที่เขาเป็นนักแสดงที่ค่าตัวแพงที่สุดในเกาหลีใต้ เพราะการแสดงอัดแน่นด้วยคุณภาพจริง ๆ
ส่วนคิมจีวอนที่มารับบทเจ้าหญิงแห่งควีนส์ หลังจากได้รับความนิยมจากซีรีส์เรื่อง ‘My Liberation Notes’ ที่ฉากน่ารักก็ดี ฉากร้องไห้ก็ทำถึง และฉากตลกก็ทำให้บรรยากาศของฉากนั้นกำลังกลมกล่อม และคงเป็นตัวละครที่รวมตัวละครหลายๆ ตัวในอดีตของเธอไว้ด้วยกันในตัวละคร ‘ฮงแฮอิน’
เพราะมีคาแรกเตอร์ร้าย ๆ แบบ ‘ยูราเชล’ ใน ‘The Heirs’ เป็นสาวเจ้าน้ำตาที่คล้าย ๆ กับ ‘ยุนมยองจู’ ใน ‘Descendant of the Sun’ และน่ารัก ๆ สไตล์ ‘ชเวเอรา’ ในเรื่อง ‘Fight For My Way’
และสุดท้ายที่ไม่ทำให้ผิดหวัง คือ ‘พัคซองฮุน’ ตัวร้ายตัวจริงที่โด่งดังจาก The Glory เรื่องนี้ก็ยังคงทำได้ดีเช่นเคย รับบท ‘ยุนอึนซอง’ ชายหนุ่มผู้โหยหาความรักมาทั้งชีวิต
ร้ายแบบสุด ๆ ร้ายแบบไม่มีใครเกิน ร้ายจนมีผู้ชมเข้าไปต่อว่าในอินสตาแกรมส่วนตัวถึงการแสดงของเขา เช่น “ฉันเกลียดคุณมากกว่าจอนแจจุนใน The Glory อีก”, “ฉันพูดจริงนะ ได้โปรดหยุดแสดงดี”, “พี่ปล่อยแฮอินให้ฮยอนอูเถอะ”
ร้ายจนงานเลี้ยงปิดกล้องเขาพูดกับสื่อว่า “เกลียดอึนซองได้ แต่อย่าเกลียดผมเลยนะครับ”
นี่ยังไม่นับรวมนักแสดงท่านอื่นที่เป็นสีสันและองค์ประกอบสำคัญของเรื่องที่ทำให้โทนเรื่องดูอบอุ่นที่ทำให้เราเห็นและจินตนาการว่า ถ้าวันที่ชีวิตเราตกต่ำที่สุด แล้วมีใครสักคนที่เรารักคอยอยู่ข้าง ๆ เราคงรู้สึกดีมากเหมือนกัน
ในฐานะคนที่ติดตามซีรีส์เกาหลีมาหลายเรื่อง ซีรีส์ที่แมสและครองใจคนดูส่วนใหญ่จะพูดถึงเรื่องรัก เรื่องความสัมพันธ์ เรื่องความตาย หรือเส้นเรื่องที่สอนบทเรียนชีวิตให้เราสักอย่าง
ซึ่ง Queen of Tears คือ ส่วนผสมที่ค่อนข้างลงตัวของทุกเรื่องที่กล่าวไว้ข้างต้นทั้งหมด
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องชีวิตแต่งงานที่มีทุกข์ สุข เศร้า และบางครั้งเราก็อาจหลงลืมความรักที่ต่างคนต่างมอบให้กัน และบางครั้งเหตุผลของการมีชีวิตอยู่ คือ การนึกถึงคนที่เรารักที่สุด
เรื่องความหวัง ใบโคลเวอร์ 4 แฉก ใบไม้แห่งความโชคดีที่มอบความหวัง และเป็นที่พึ่งทางใจให้กับแฮอินในวันที่ป่วย และอะไร ๆ ไม่เป็นใจให้ก้าวข้ามผ่านเรื่องร้ายไปได้
รวมถึงความตาย ชีวิตของแฮอินที่ต้องต่อสู้กับความตาย ความกลัว และความโดดเดี่ยวที่อยู่ในใจตัวเอง
และสุดท้าย คือ ความสัมพันธ์ของครอบครัวในใจที่แม้ไม่ได้สนิทกัน แต่ก็ไม่ได้แปลว่าไม่รักกัน เพราะในวันที่เราแย่ที่สุด ครอบครัวอาจเป็นเบาะรองให้เราอยากสู้และมีชีวิตต่อ
ถึงอย่างนั้น ซีรีส์ก็ทำได้ดีในแง่การให้ข้อคิด ถึงจะมีคำถามและข้อสงสัยเรื่องการดำเนินเรื่องในช่วงท้ายเรื่อง แต่เราเชื่อว่าซีรีส์เรื่องนี้ก็มอบข้อคิดการดำเนินชีวิตให้คนดูไม่มากก็น้อย
แล้วก็เป็นซีรีส์ที่ทำให้คนดูอย่างเรากลับมาทบทวนเรื่องราวและทุก ๆ ความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นตลอดชีวิตของเรา
ถึงจะไม่ได้สวยงาม ถึงจะไม่ได้ดีที่สุด แต่มันก็ทำให้เราเติบโต
เรื่อง : ณัฐธนีย์ ลิ้มวัฒนาพันธ์
ภาพ : TvN Drama