21 พ.ค. 2567 | 15:55 น.
KEY
POINTS
คงต้องบอกว่าช่วงนี้ช่อง ‘tvN’ ทำซีรีส์อะไรก็ดูเข้าตาไปเสียหมด เพราะหลังจากความสำเร็จของ ‘Queen of Tears’ (2024) ก็ได้เวลาของ ‘Lovely Runner’ (2024) ที่มาสร้าง ‘เซอร์ไพรส์’ ให้กับวงการ จากการท้าทายสูตรสำเร็จซีรีส์แบบเดิม ๆ
เพราะซีรีส์เรื่องนี้ไม่ได้อัดแน่นไปด้วยดราม่าสุดเข้มข้น ไม่ได้ประกอบด้วยนักแสดงชั้นนำหรือมีนักเขียนชื่อดังอย่างเรื่องก่อนหน้า อีกทั้งยังถูกเลื่อนการถ่ายทำไปนาน 3 ปี พ่วงด้วยกระแสที่ออกมาในด้านลบที่ออกมา จนดูเหมือนเป็นลางที่ไม่ดีสักเท่าไร แต่พอฉายจริงซีรีส์เรื่องนี้กลับฝ่าฟันอุปสรรค พร้อมกับครองใจผู้ชมได้อย่างเหนียวแน่น และไม่ใช่แค่ในเกาหลีเท่านั้น หากแต่เป็นทั่วโลก
Lovely Runner สามารถสร้างสถิติเป็นซีรีส์เกาหลีที่มีผู้ชมมากที่สุดใน 130 ประเทศในช่วงสัปดาห์แรกที่เปิดตัว พร้อมกับติดอันดับ 1 ใน 133 ประเทศใน ‘Rakuten Viki’ ผู้ให้บริการสตรีมมิ่งคอนเทนต์เอเชียของสหรัฐอเมริกา เช่นเดียวกับในบ้านเราที่สามารถครองอันดับ 1 ในหมวดซีรีส์เกาหลีบน ‘VIU’ ในชื่อภาษาไทยว่า ‘ข้ามเวลามาเซฟเมน’
***บทความนี้เปิดเผยเนื้อหาบางส่วนของซีรีส์***
ที่ต้องบอกว่า ‘กึ่งสำเร็จรูป’ เพราะเรื่องนี้ก็เป็นอีกเรื่องที่ดัดแปลงมาจาก ‘เว็บตูน’ (อีกแล้ว) โดยวาดมาจากเว็บโนเวล หรือนวนิยายออนไลน์ชื่อดังเรื่อง ‘Tomorrow’s Best’ ของ ‘Kim Bbang’ และวาดโดย ‘Doong Doong’ ว่าด้วยเรื่องราวของแฟนคลับสาวที่เดินทางย้อนเวลามาเพื่อแก้ไขและเปลี่ยนแปลงอดีตของนักร้องไอดอลที่เธอรัก หลังจากที่เขาจบชีวิตตัวเองจากปัญหาด้านสุขภาพจิต ดังนั้น เมื่อมีโอกาสเป็นครั้งที่ 2 เธอจึงตัดสินใจว่าจะช่วยชีวิต ‘ซอนแจ’ อย่างถึงที่สุด
ด้วยประเด็นในเรื่องราวที่ค่อนข้างละเอียดอ่อน เพราะการเสียชีวิตของพระเอกก็คล้ายกับเรื่องราวที่เคยเกิดขึ้นจริง และยังส่งผลกระทบต่อจิตใจทั้งไอดอลและแฟนคลับมาจนถึงตอนนี้ ซีรีส์เรื่องนี้จึงถูกประท้วงตั้งแต่ตอนเริ่มโปรโมต ที่สำคัญตัวเนื้อเรื่องเองยังเกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์โรแมนติกระหว่างแฟนคลับกับไอดอล อันเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสมสักเท่าไร
ทั้งหมดทั้งมวลก็ล้วนเป็นเหตุให้ซีรีส์เรื่องนี้ต้องเลื่อนเวลาการถ่ายทำนานถึง 3 ปี เพราะนักแสดงชายหลายคนมองว่าเนื้อเรื่องดูเปราะบางและไม่น่าสนใจ จนท้ายที่สุดทีมงานก็มาลงตัวที่ ‘บยอนอูซอก’ (Byeon Woo-seok) ที่ตกลงมารับบทเป็น ‘รยูซอนแจ’ เข้าคู่กับ ‘คิมฮเยยุน’ (Kim Hye-yoon) ที่มารับบท ‘อิมซล’ แฟนคลับสาวนางเอกของเรื่อง
หากใครได้ติดตามทั้งทางฝั่งเว็บตูนและซีรีส์ เราจะพบว่าในซีรีส์ได้เปลี่ยนบริบทของตัวละครให้มีมิติมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นอายุตั้งต้นของตัวพระเอกและนางเอกจากช่วงวัย 20 กว่า ๆ มาเป็นวัย 30 กว่า ๆ แทน ซึ่งช่วยทำให้ตัวละครมีความเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น อีกทั้งยังปรับบทของพระเอกจากไอดอลในวงบอยกรุ๊ป ‘คัมจาจ็อน’ ให้กลายมาเป็นนักร้องนำวงดนตรีในชื่อ ‘อีคลิปส์’ (ECLIPSE)
นอกจากนี้ ยังเพิ่มปมให้กับตัวเอกด้วยการให้อิมซลเป็นอัมพาตตั้งแต่เอวลงไปจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ และสิ่งที่ทำให้เธอกลายเป็นแฟนคลับตัวยงของซอนแจนั้น ก็เป็นเพราะเธอได้รับกำลังใจจากซอนแจผ่านรายการวิทยุระหว่างที่เธอกำลังคิดจะจบชีวิตตัวเอง และนั่นก็ทำให้ตัวละครมีความสมเหตุสมผลมากขึ้นเลยทีเดียว
ด้วยเหตุนี้ สิ่งที่ซีรีส์เรื่องนี้สื่อออกมาจึงไม่ใช่แค่เรื่องราวความรักของหนุ่มสาวเท่านั้น แต่ยังผสมเรื่องราวสุดแฟนตาซีและคอมเมดี้ลงไปอย่างพอเหมาะพอเจาะ พร้อม ๆ กับพาเราไปสำรวจความสัมพันธ์และจุดเจ็บปวดเล็ก ๆ ที่เราพลาดไป ด้วยการเชื่อมโยงระหว่าง ‘อดีต’ และ ‘ปัจจุบัน’ ได้อย่างชาญฉลาด ราวกับเป็นการเปิดกล่องความทรงจำที่ไม่มีใครรู้อย่างช้า ๆ เริ่มตั้งแต่การได้เห็นเหตุการณ์วัยเยาว์ของซอนแจที่แอบมองซลจากระยะไกล แต่ในทางกลับกัน ซลยังคงดำเนินชีวิตโดยที่ไม่รู้จักซอนแจมาก่อน ทั้ง ๆ ที่ซอนแจคือเพื่อนบ้านของเธอ จากอนาคตที่อยู่ไกลกันเกินเอื้อมในฐานะศิลปินและแฟนคลับ แต่ในอดีตทั้งคู่กลับอยู่ใกล้กันแค่ตา
จากความสัมพันธ์ที่ดูเหมือนจะใกล้ชิดยิ่งขึ้น แต่ซีรีส์ก็ไม่ได้พาเราให้รู้สึกสุขล้นถึงขนาดนั้น เพราะยังสอดแทรก ‘รสขมปร่า’ จากความผิด (พลาด) หวังของชีวิตวัยรุ่น ควบคู่กับ ‘โอกาสครั้งที่สอง’ ที่ใช่ว่าจะได้มาง่าย ๆ อีกทั้งเมื่อยิ่งสะสางแก้ปมมากเท่าไรก็ยิ่งกระทบกับอีกสิ่งหนึ่งมากขึ้นเท่านั้น ตามหลัก ‘Butterfly Efflect’ อยู่ร่ำไป โดยเฉพาะเมื่อผ่านการย้อนเวลาครั้งที่ 3 ซีรีส์เรื่องนี้กลับ ‘หักมุม’ พาเรากระโจนเข้าสู่อีกโหมด จนไม่สามารถคาดเดาได้เลยว่าเรื่องราวต่อไปจะเป็นอย่างไร
หนึ่งในเสน่ห์ที่สร้างสีสันให้กับซีรีส์เรื่องนี้ก็คือ การพาเราไปทำความรู้จักกับวัฒนธรรมของ ‘แฟนคลับ’ ได้อย่างแนบเนียน สังเกตได้จากชื่อไทยอย่าง ‘ข้ามเวลามาเซฟเมน’ ก็สร้างความสงสัยแล้วว่า ‘เมน’ หมายถึงอะไร
จริง ๆ แล้วคำว่า ‘เมน’ มาจาก ‘Main’ ที่แปลว่า หลัก หรือสำคัญ เป็นคำที่แฟนคลับไทยใช้เรียก ‘สมาชิกที่ตัวเองชอบมากที่สุด’ ในวง ซึ่งไม่ได้จำกัดว่าจะต้องมีแค่คนเดียว อาจจะมีเมนอีกคนจากอีกวงก็ไม่ใช่เรื่องผิดกติกา แต่ในภาษาอังกฤษจะเรียกกันว่า ‘ไบแอส’ (Bias) ที่แปลว่า อคติ หรือความลำเอียง นั่นเอง ทั้งนี้ ยังมีคำที่แตกตัวมาอีกหลายคำ อาทิ ‘เมนรอง’ ซึ่งหมายถึง สมาชิกวงที่ชื่นชอบรองลงมาจากเมน หรือจะเป็น ‘เหนือเมน’ ที่ใช้เรียกสมาชิกวงที่ชอบทำให้จิตใจวอกแวกหวั่นไหวนอกเหนือจากเมน ซึ่งในภาษาอังกฤษจะเรียกว่า ‘Bias Wrecker’
หากสังเกตให้ดี สิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ เหล่านี้ล้วนถูกสื่อสารผ่านห้องส่วนตัวเล็ก ๆ ของซล ที่หัวเตียงของเธอจะเต็มไปด้วยรูปภาพของหนุ่ม ๆ วงอีคลิปส์ทั้ง 4 คน แต่ที่เพิ่มเติมมาจะเป็นสแตนดี้หรือรูปซอนแจขนาดเท่าตัวจริง เพื่อแสดงว่านี่คือเมนหลักของเธอเพียงหนึ่งเดียว เท่านั้นไม่พอ ภายในห้องของซลยังเต็มไปด้วยของสะสมของวง และนาฬิกาของซอนแจที่เธอประมูลมาด้วยราคากว่า 3 ล้านวอน พร้อมกับที่คาดผมคำว่า ‘อุ้มซอนแจแล้วซิ่ง’ ที่เป็นยูสเซอร์เนมที่ใช้ในการกระทำการติ่งของเธอ
จากการเลือกหยิบเอาความรักของแฟนคลับมาบอกเล่า ทำให้ซีรีส์เรื่องนี้สามารถลงรายละเอียดความโรแมนติกได้มากกว่าซีรีส์เรื่องอื่น ๆ พร้อมกับการสำรวจ ‘ความซับซ้อน’ ของความรักในอีกแง่มุมหนึ่ง อย่างในช่วงแรกของเรื่องความผูกพันของซลที่มีต่อซอนแจนั้น เป็นเพียงการมองซอนแจเหมือนรูปเคารพ และเธอก็พยายามปกป้องอย่างสุดหัวใจ แต่เวลาต่อมาเธอก็เริ่มเห็นว่าซอนแจไม่ใช่ศิลปินที่จับต้องไม่ได้ หากเป็นเพียงวัยรุ่นคนหนึ่งที่มีหัวจิตหัวใจ สามารถพบเจอกับความล้มเหลว มีความฝัน และมีความเจ็บปวดเหมือนคนธรรมดาทั่วไป
อันนำไปสู่บทพิสูจน์ว่าความรักที่เธอมีให้ซอนแจนั้น เป็นเพียงความชื่นชมอย่างสุดหัวใจที่แฟนคลับคนหนึ่งสามารถมีให้ หรือเป็นความรักที่แท้จริง
ถ้าเป็นคำนิยามแบบไทย ๆ คงต้องบอกว่า ใคร ๆ ก็ล้วนอยากมี ‘พี่โชน’ เป็นของตัวเอง และตัวเอกอย่าง ‘ซอนแจ’ ก็คือตัวแทนของภาพภาพนั้น
จุดเด่นที่สำคัญของเรื่องนี้คือการพาทุกคนไป ‘ย้อนอดีตอันใกล้’ ที่หลายคนคิดถึง ไม่ว่าจะเป็นความวุ่นวายในห้องเรียน ร้านโปรดที่เคยไป หนังที่ชอบดู และเพลงฮิตที่เคยฟัง จึงไม่น่าแปลกใจที่ซีรีส์เรื่องนี้จะครองใจผู้ชม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มคนอายุ 30 และ 40 ปี ซึ่งยังคงคิดถึงวันวานยังหวานอยู่ในยุค 2000 อย่างที่ซีรีส์เรื่อง ‘Reply 1988’ (2015) เคยประสบความสำเร็จมาแล้ว
คงต้องบอกว่า Lovely Runner นำเสนอ ‘ประวัติศาสตร์เกาหลีฉบับย่อ’ ของยุคมิลเลนเนียมอย่างจริงใจ ไม่ว่าจะเป็นการเลือกโลเคชันเป็นร้านขนมที่ฮิตที่สุดในสมัยนั้นอย่าง ‘Canmore’ ร้านน้ำแข็งไสชื่อดังที่มีโปรโมชั่นเด็ดด้วยการให้ฟรีขนมปังรีฟิล หรือจะเป็นการแช็ตผ่าน ‘Cyworld’ ที่เทียบเท่ากับ ‘MSN’ ในบ้านเรา รวมทั้งเครื่องมือสื่อสารที่เป็นตัวแทนของยุคนั้นอย่างโทรศัพท์มือถือฝาพับ ไปจนถึงเครื่องเล่น MP3 ที่เล่นเพลงเก่าอย่าง ‘Graduation’ ของ ‘Brown Eyes’ และ ‘I Guess That’s What Happened’ ของ ‘Kim Hyung-jung’
ร่วมด้วยการมัดรวมเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญของเกาหลี โดยเฉพาะความสำเร็จของ ‘นักกีฬาเกาหลี’ ในการแข่งขันโอลิมปิกที่ปักกิ่งปี 2008 ไม่ว่าจะเป็น ‘พัคแทฮวาน’ (Park Tae-hwan) นักกีฬาว่ายน้ำชาวเกาหลีใต้ที่สามารถคว้าเหรียญทองโอลิมปิกคนแรก และนักยกน้ำหนักหญิงขวัญใจชาวเกาหลีอย่าง ‘จางมีรัน’ (Jang Mi-ran) ที่สามารถสร้างสถิติและคว้าเหรียญทองได้จากการแข่งขันในปีนี้เช่นเดียวกัน และได้กลายเป็นแรงบันดาลใจให้กับซีรีส์เรื่อง ‘Weightlifting Fairy Kim Bok-joo’ (2016) อีกทอดหนึ่ง
แต่ฉากที่เป็นภาพจำมากที่สุดคงต้องยกให้ ฉากในร่มสีฟ้าของซลและซอนแจที่ได้คารวะหนังเกาหลีเรื่องดังในตอนนั้นอย่างเรื่อง ‘Romance of Their Own’ (2004) ที่นำแสดงโดย ‘คังดงวอน’ (Gang Dong-won) และ ‘ลีชุงอา’ (Lee Chung-ah)
นอกจากกระแสซีรีส์จะร้อนแรงแล้ว คงต้องบอกว่าเพลงที่บยอนอูซอกร้องในฐานะวง ECLIPSE ในเรื่องอย่าง ‘Sudden Shower’ หรือ ‘Sonaki’ นั้น สามารถสร้างเซอร์ไพรส์ยิ่งกว่าเรตติ้งของซีรีส์เสียอีก
โดยเพลงนี้สามารถสร้างปรากฏการณ์ด้วยการค่อย ๆ ไต่อันดับบน Melon Top 100 ชาร์ตเพลงหลักสุดหินของเกาหลี โดยเปิดตัวที่อันดับ 82 ก่อนจะขยับตัวสูงสุดที่อันดับ 9 (ข้อมูล ณ วันที่ 19 พฤษภาคม 2024) หรือเรียกได้ว่าเพลงนี้เข้าสู่ Top 10 อย่างเป็นทางการ ในขณะที่ Spotify เพลงของวงสมมตินี้ก็สามารถชนะใจคนทั่วโลกด้วยยอดการฟังถึง 1.8 ล้าน โดยใช้เวลาเพียงเดือนเดียว ซึ่งนับเป็นความสำเร็จอันน่าทึ่ง เพราะไม่ใช่เรื่องง่ายที่ทำได้ แม้จะเป็นนักร้องก็ตาม
เหตุการณ์แบบนี้ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เพราะเหตุการณ์วงสมมติจากซีรีส์ที่ดันฮิตแบบฉุดไม่อยู่นี้ เคยเกิดขึ้นมาแล้วกับซีรีส์ระดับตำนานเรื่อง ‘You’re Beautiful’ (2009) ที่มี ‘A.N.JELL’ วงสุดเท่ที่นางเอกของเรื่องซึ่งนำแสดงโดย ‘พัคชินฮเย’ (Park Shin-hye) ต้องปลอมตัวเป็นผู้ชายเพื่อเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของวง จนเป็นที่มาของความรักกุ๊กกิ๊ก และเป็นซีรีส์แจ้งเกิดพระนางในเรื่องด้วยเช่นกัน แถมเพลงประกอบซีรีส์ที่ร้องโดยวง A.N.JELL ก็สามารถขายได้มากกว่า 30,000 ชุด อีกทั้งยังมีมินิคอนเสิร์ตเป็นของตัวเองอีกด้วย
แต่สิ่งที่น่าสนใจกลับเป็นว่าทั้งวง ECLIPSE และ A.N.JELL กลับมีความเชื่อมโยงกันอย่างน่าประหลาด เริ่มตั้งแต่ทั้งสองวงมีนักร้องนำเป็น ‘นักแสดง’ ไม่ใช่ ‘นักร้อง’ ซึ่งนักร้องนำวง ECLIPSE ก็คือ บยอนอูซอก และ A.N.JELL ก็มี ‘จางกึนซอก’ (Jang Keun-suk) เป็นนักร้องนำ ในขณะที่สมาชิกคนอื่นในเรื่องเป็นไอดอลและนักร้องในชีวิตจริง อันดับต่อมาเป็นบริษัทผู้ผลิต เพราะทั้งสองวงผลิตโดยบริษัทเดียวกันคือ ‘Bon Factory’ ที่ดูแลเรื่องลิขสิทธิ์เพลง
ลำดับสุดท้าย สมาชิก 1 คนของ ECLIPSE ซึ่งก็คือ ‘อีซึงฮยอบ’ (Lee Seung-hyub) จากวง ‘N.Flying’ และสมาชิก 2 คนของ A.N.JELL ซึ่งก็คือ ‘อีฮงกิ’ (Lee Hong Ki) จากวง ‘FT ISLAND’ และ ‘จองยงฮวา’ (Jung Yong-hwa) จากวง ‘CNBLUE’ ต่างเป็นเพื่อนร่วมค่ายในชีวิตจริงภายใต้ ‘FNC Entertainment’ จนอาจเรียกได้ว่าเป็นสูตรสำเร็จแบบจับวางเลยก็ว่าได้
จากเคมีของสองพระนางที่ดีจนเกินคาด ทำให้ทั้งคู่กลายเป็นหนึ่งในนักแสดงที่ฮอตที่สุดในตอนนี้ ซึ่งหากมองเผิน ๆ ทั้งคู่คือนักแสดงที่ค่อนข้างหน้าใหม่ แต่ทั้งสองก็สั่งสมประสบการณ์มาอย่างยาวนาน
โดยเฉพาะนางเอกของเรื่องอย่างคิมฮเยยุน ที่เริ่มเดบิวต์ผลงานการแสดงตั้งแต่ปี 2012 ก่อนที่จะได้รับความสนใจจากบทบาทในเรื่อง ‘Sky Castle’ (2018 - 2019) ซีรีส์เรตติ้งสูงสุดในตำนาน จากนั้นก็ได้รับบทนำอีกหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็น ‘Extraordinary You’ (2019) และ ‘The Girl on a Bulldozer’ (2022) ภาพยนตร์ที่คว้ารางวัลมาหลายเวที ซึ่งทำให้สื่อหลายสำนักยกย่องให้เธอเป็น ‘น้องสาวแห่งชาติ’
สำหรับบยอนอูซอกนั้น คงต้องบอกว่าค่อนข้างหน้าใหม่ในวงการนักแสดง เพราะแรกเริ่มเดิมทีเขาเดบิวต์ในฐานะนายแบบและเป็นเพื่อนร่วมค่าย ‘YGKplus’ รุ่นเดียวกับ ‘นัมจูฮยอก’ (Nam Joo-hyuk) และ ‘จางกียง’ (Jang Ki-yong) ที่ตอนนี้ขึ้นแท่นเป็นนักแสดงเบอร์ต้น ๆ ของเกาหลี สำหรับผลงานที่ผ่านมาของบยอนอูซอกก็มี Record of Youth (2020), 20th Century Girl (2022) และ Strong Girl Nam-soon (2023)
ซึ่งตอนนี้บยอนอูซอกก็พร้อมแจ้งเกิดตามเพื่อนร่วมรุ่น จากการพยายามอย่างหนัก ไม่ว่าจะเป็นการลงเรียนว่ายน้ำเพื่อให้สมบทบาทนักกีฬาว่ายน้ำ และซ้อมร้องเพลงอย่างหนักเพื่อรับบทเป็นนักร้อง และทำให้ชื่อ ‘ซอนแจ’ แทบจะกลายเป็นชื่อเรียกของเขาไปเสียแล้ว
จากการแสดงในซีรีส์เรื่องนี้ทำให้ทั้งบยอนอูซอกและคิมฮเยยุน ติดอันดับนักแสดงที่ได้รับความนิยมมากที่สุดเป็นอันดับ 2 ของเกาหลี จากการจัดอันดับของ FUNdex (ข้อมูล ณ เดือนพฤษภาคม 2024)
เอาเป็นว่าถ้าใครมองหาซีรีส์ที่ผสมผสานระหว่างความโรแมนติก การเดินทางข้ามเวลา และการเติบโตภายในจิตใจ ด้วยเรื่องราวอันอบอุ่นหัวใจและตัวละครที่เข้าถึงง่ายแล้วละก็ อย่าลืมลิสต์เรื่องนี้ไว้เป็นคิวต่อไป
เรื่อง : โดย รตินันท์ สินธวะรัตน์
ภาพ : tvN DRAMA
อ้างอิง :
อ่านเว็บตูน ‘ที่สุดของวันพรุ่งนี้’ ได้ที่ https://th.kakaowebtoon.com
‘Lovely Runner’ builds strong fan base, defies success formula
What I learned about Life from ‘Lovely Runner’…so far
Why the Production of ‘Lovely Runner’ Was Delayed for a Few Years
Lovely Runner: The K-Drama That Has Captivated Audiences Worldwide
Lovely Runner: Byeon Woo Seok-Kim Hye Yoon’s Kdrama Defies Odds; Netizens Praise Its Organic Success