Future Trends Ahead 2025 : รับมืออนาคตผ่านเทรนด์รอบตัวที่ต้องรู้

โลกทุกวันนี้เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและซับซ้อนกว่าที่เคยเป็นมา ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยีที่พัฒนาอย่างก้าวกระโดด ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ หรือความผันผวนด้านภูมิรัฐศาสตร์ เหตุการณ์เหล่านี้ล้วนส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิต ธุรกิจ และสังคมในทุกมิติ การเตรียมพร้อมเพื่อรับมือวันพรุ่งนี้จึงเป็นสิ่งที่สำคัญยิ่ง ด้วยเหตุนั้นทำให้เราต้องพูดถึงหนังสือที่ชื่อว่า ‘Future Trends Ahead 2025’ ที่ถูกสร้างสรรค์ขึ้นเพื่อให้ผู้อ่านได้เตรียมพร้อมรับมือกับความเปลี่ยนแปลงเหล่านี้อย่างรอบด้าน ด้วยการนำเสนอ 62 เทรนด์สำคัญจาก 13 หมวดหมู่ ครอบคลุมทั้งเศรษฐกิจ การเมือง เทคโนโลยี ความยั่งยืน การตลาด และพฤติกรรมผู้บริโภค

Future Trends Ahead 2025 ไม่ได้เป็นเพียงหนังสือที่คาดการณ์อนาคต แต่ยังนำเสนอเครื่องมือและแนวคิดเพื่อการปรับตัวอย่างมีประสิทธิภาพ เช่น เทรนด์ Future Skills ที่เน้นย้ำความสำคัญของการพัฒนาทักษะใหม่ ๆ เพื่อตอบรับกับความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี รวมถึงประเด็นอย่าง Upskill & Reskill ที่ชี้ให้เห็นว่าการเรียนรู้ตลอดชีวิตเป็นกุญแจสำคัญในการรับมือกับโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ หนังสือยังพูดถึงการเปลี่ยนแปลงระดับโลก เช่น นโยบายเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ในยุค Trump 2.0 ที่อาจส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจและห่วงโซ่อุปทานทั่วโลก

สิ่งที่ทำให้ Future Trends Ahead 2025 โดดเด่น คือการนำเสนอข้อมูลที่ครอบคลุมและวิเคราะห์เชิงลึกเพื่อให้ผู้อ่านเข้าใจภาพใหญ่ของโลกยุคใหม่ ตั้งแต่แนวโน้มเศรษฐกิจ ไปจนถึงประเด็นอย่าง Generational Misunderstandings ที่พูดถึงความท้าทายในการสื่อสารระหว่างคนต่างวัยในองค์กร หนังสือเล่มนี้ยังชวนให้ตั้งคำถามกับบทบาทของ AI ที่ไม่ใช่แค่เครื่องมือช่วยเหลือ แต่กำลังก้าวเข้ามามีอิทธิพลต่อการทำงานและการใช้ชีวิตอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

เพื่อเผยแพร่ความรู้เหล่านี้อย่างกว้างขวาง Future Trends จึงได้เปิดตัวหนังสือ Future Trends Ahead 2025 Presented by SCBX ซึ่งเป็นความร่วมมือจาก 15 องค์กรชั้นนำ เช่น SCB EIC, คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และ FutureSkill พร้อมเปิดให้ดาวน์โหลดฟรีและจัดงาน Future Trends Ahead Summit 2025 ในวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2568 ณ True Digital Park โดยมีวิทยากรและผู้เชี่ยวชาญระดับประเทศร่วมแบ่งปันวิสัยทัศน์เพื่อช่วยให้ผู้คนและองค์กรเตรียมพร้อมสู่อนาคตอย่างมั่นใจ

ในบทความนี้ The People ได้หยิบยกบางประเด็นที่น่าสนใจมาเล่าสู่กันฟัง แบ่งได้เป็นสามหมวดย่อ ๆ ประกอบไปด้วย ‘โลกที่ไม่แน่นอน’ ที่ฉายภาพให้เราเห็นถึงความเปลี่ยนแปลงในระดับมหภาค, ‘ขยับตัวเองให้ทันโลก’ ที่พูดถึงการพัฒนาตัวเองในระดับปัจเจกว่าเราจะทั้งเรียนรู้ที่จะอยู่รอดและงอกงามในโลกใหม่ได้อย่างไร และท้ายที่สุด ‘โลกใหม่ที่กำลังมาถึง’ ที่พูดถึงเทรนด์ใหม่ ๆ ที่เราจะได้เห็นในอนาคตอันใกล้นี้ 

โลกที่ไม่แน่นอน

หากย้อนกลับไปในราว 10 ปีก่อน หรือไม่ก็ช่วงเวลาก่อนการแพร่ระบาดของโควิด-19 แล้วนึกล่วงหน้ามาถึงปี 2025 เราหลายคนอาจนึกไม่ออกว่าโลกจะเปลี่ยนไปมากขนาดนี้ เสมือนว่าทุกวันที่เคลื่อนผ่านไป คันเร่งของนวัตกรรมและพัฒนาก็ถูกเหยียบลึกขึ้นเรื่อย ๆ โดยไร้ท่าทีที่จะถูกถอนเลยแม้แต่น้อย เราได้เห็นทั้งความผันผวนทางโลกการเมืองและเศรษฐกิจ เทคโนโลยีที่เปลี่ยนโลกอย่างมีนัยสำคัญ หรือแม้แต่สภาวะของสิ่งแวดล้อมที่บีบให้เราต้องตื่นตัวมากกว่าที่เคยเป็น

เนื้อหาที่น่าสนใจของ Future Trends Ahead 2025 ในหลายส่วนพูดถึงเนื้อหาเหล่านี้ ว่าในปี 2025 โลกจะเปลี่ยนไปมากเพียงไหน ตั้งแต่เศรษฐกิจ การเมือง การตลาด เทคโนโลยี การตลาด ผู้บริโภค และอีกมากมาย เมื่ออ่านจะทำให้เราพอเห็นภาพว่ามีอะไรรอเราอยู่ข้างหน้าบ้าง เมื่อประจัญหน้ากับมันจริง ๆ จะได้ไม่ ‘ตกใจ’ มากนัก

ในส่วนของเศรษฐกิจ บทที่ใช้ชื่อว่า ‘Thailand 2025: Thai Economy Amidst More Challenges’ จะนำเสนอเนื้อหาที่สะท้อนให้เราเห็นถึงความท้าทายที่เฝ้ารอโลกใบนี้และเศรษฐกิจไทยอยู่ ยกตัวอย่างเช่นการก้าวขึ้นมาเป็นประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาของ ‘โดนัลด์ ทรัมป์’ (Donald Truimp) เป็นครั้งที่สอง ที่มาพร้อมกับนโยบาย Trump 2.0 ที่จะมาพร้อมกับการขึ้นอัตราภาษีนำเข้าทั่วโลก ที่จะทำให้ทั้งอัตราเงินเฟ้อของทั้งสหรัฐฯ เองและทั่วโลก กลับมาเร่งตัวขึ้นอีกครั้ง หลังจากที่เพิ่งทะยอยปรับตัวลดลงจากเดิมเมื่อปีก่อนหน้า นี่ยังไม่รวมไปถึงปัจจัยทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ยังคงกระทบห่วงโซ่อุปทานและการค้าโลกอย่างปฏิเสธไม่ได้ แม้จะมีการสนับสนุนจากภาคการท่องเที่ยว แต่ด้วยปัจจัยมากมายที่เปลี่ยนแปลงไปเช่นนี้ ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ามีความท้าทายไม่น้อยเฝ้ารอเศรษฐกิจไทยอยู่ในปี 2025

โดยในหมวด ‘POLITICS การเมือง’ หัวข้อ ‘Global Geopolitical Landscape’ ก็จะพาเราดำดิ่งไปในประเด็นที่เรากล่าวไปก่อนหน้ามากกว่าเดิม ว่าความขัดแย้งที่ได้มีอยู่จะเดินหน้าไปทางไหนว รวมถึงนโยบายของทรัมป์จะส่งผลต่อโลกการแข่งขันไปอย่างไรบ้าง โดยเฉพาะในด้านของความตึงเครียดระหว่างสหรัฐกับจีน โดยจะครอบคลุมไปตั้งแต่จุดนั้นไปจนถึงระบบพันธมิตรของสหรัฐฯ ทั่วทั้งโลก, ผลกระทบต่อความขัดแย้งในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก ไปจนถึงความผันผวนในการร่วมมือระหว่างประเทศ แม้จะดูเป็นปัญหาระดับโลกที่ไกลตัว แต่แน่นอนว่ามันไม่ไกลเลยแม้แต่น้อย…

บางความเปลี่ยนแปลงที่ทั้งดูเหมือนใกล้ตัวเรา และมันก็ใกล้จริง ๆ ใกล้เสียจนเป็นเรื่องน่ากังวลว่าเราจะสามารถก้าวเท่าทันมันได้อีกไหมในวันข้างหน้า โดยเฉพาะกับในด้าน Cybersecurity หรือการปลอดภัยของข้อมูล โดยในหมวด ‘MARKETING การตลาด’ ในหัวข้อ ‘Security’ ที่ว่าด้วยความกังวลด้านการปลอดภัยของผู้บริโภค จากมิจฉาชีพที่มีเพิ่มมากขึ้น อีกทั้งยังมาพร้อมกับท่าทีและกลยุทธ์ที่ยากจะหยั่งถึงมากขึ้น แต่ในขณะเดียวกัน ท่ามกลางปัญหาก็ยังมีโอกาสให้ผู้ที่มองเห็นมันอีกด้วย ยกตัวอย่างเช่นสตาร์ทอัพที่จะมุ่งเน้นเรื่องความปลอดภัยทางด้านข้อมูล เป็นต้น

เราจะเห็นได้ว่ามีความท้าทาย ความเปลี่ยนแปลง และโอกาสหลากหลายมิติ ในแทบทุกจะอุตสาหกรรมเปลี่ยนแปลงไปที่จะเป็นแนวทางที่น่าสนใจในการปรับตัวในการรับมือกับปัจจัยภายนอกที่รายล้อมเราทุกคนอยู่ แต่ในขณะเดียวกัน การเปลี่ยนแปลงและยกระดับตัวเองจากภายในก็สำคัญไม่แพ้กัน

 

ขยับตัวเองให้ทันโลก

ดังที่เราได้เห็นกันไปในเนื้อหาก่อนหน้า หนังสือเล่มนี้ช่วยให้เราเห็นภาพาความผันผวน ไม่แน่นอน และเปลี่ยนแปลงของโลกใบนี้ในภาพใหญ่ชัดเจนขึ้น เทรนด์การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ก็ไม่ต่างอะไรไปจากลมที่พัดแรงจนคนที่ยืนอยู่ต้องหาหลักที่มั่นคงเกาะหรือพัฒนากล้ามเนื้อขาของเราให้ดี ก่อนที่จะปลิวไสวไปตามพายุที่ไสวไปในทุกมิติ 

‘ทักษะ’ (Skill) จึงกลายเป็นสิ่งที่สำคัญยิ่งบนโลกที่เบ่งบานไปด้วยความเปลี่ยนแปลงในแทบจะทุกอุตสาหกรรมผ่าน Megatrends ทั้งในมิติของเทคโนโลยี ปัจจัยแวดล้อม หรือแม้แต่กฎเกณฑ์นานาประการที่จะขยับไปข้างหน้าอย่างไม่หยุดยั้ง ด้วยเหตุนั้นบทอย่าง ‘FUTURE SKILL ทักษะอนาคต’ จึงเป็นบทสำคัญที่ไม่ว่าคุณจะเป็นใครก็ควรจะแง้มอ่านไว้เสียหน่อย ว่าเราควรจะ—หรือ ‘ต้อง’ —พัฒนาตัวเองไปในทิศทางไหน

ยกตัวอย่างเช่นในแง่ของเทคโนโลยี เราจะเห็นได้อย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นอุตสาหกรรมยานยนต์ที่มีรถยนต์ไฟฟ้าเพิ่มมากขึ้น ภาคธุรกิจที่เริ่มมีเทคโนโลยีต่าง ๆ มาอยู่ในกระบวนการผลิตหรือทำงาน รวมไปถึงปัญญาประดิษฐ์หรือ AI ที่แทรกตัวเข้ามาในชีวิตของเราได้ในแทบจะทุกมิติ ตั้งแต่การวางแผนโปรเจกต์ใหญ่ยักษ์ไปจนถึงให้ช่วยสุ่มเมนูอาหารเย็น

เทรนด์อย่าง ‘New Skill for Emerging Tech’ จึงต้องถูกพูดถึง ว่าทักษะแบบใดบ้างที่จะกลายเป็นที่ต้องการในอนาคตอันใกล้ ที่ถูกนำเสนอผ่าน 3 แกนสำคัญ เริ่มตั้งแต่ ‘พื้นฐานความสำเร็จในอาชีพ’ (Job Skill) ที่เป็นทักษะและความรู้พื้นฐานในการประกอบอาชีพนั้น ๆ ที่สามารถแบ่งออกไปได้อีกตามระดับความเข้มข้น ต่อด้วย ‘พลังขับเคลื่อนองค์กร’ (Power and Innovation Skill) ที่จะเพิ่มมิติให้พนักงานมีคุณค่าที่ไม่ได้หยุดอยู่แค่เนื้องานที่ตัวเองทำ แต่ยังครอบคลุมไปถึงทิศทางและการก้าวหน้าขององค์กรด้วย ปิดท้ายด้วย ‘เครื่องมือสู่การเปลี่ยนแปลง’ (Digital and Technology Skill) ทักษะที่จะบ่งชี้ถึงการก้าวเท่าทันโลกและเทคโนโลยีของพนักงานคนนั้น ๆ 

อีกหนึ่งข้อกังวลในยุคสมัยนี้ก็คงหนีไม่พ้นการคืบคลานเข้ามาของ AI ที่ศักยภาพของมันเริ่มขยายตัวขึ้นอย่างก้าวกระโดด จนกลาย ๆ ครั้งจาก ‘ตัวช่วย’ มันเริ่มจะลอกคราบกลายเป็น ‘ภัยคุกคาม’ แทนเสียนี่ แต่อย่างไรก็ตาม เทรนด์อย่าง ‘Soft Skills’ ก็ได้ทำให้เราเห็นว่า ในบางทักษะของมนุษย์ AI ก็ไม่สามารถมาแทนที่ได้ ในบทนี้ หนังสือจึงชวนเราเจาะลึกลงไปถึง 10 ทักษะ Soft Skills ที่จะเป็นหลักประกันว่า AI จะไม่มาแทนที่เราในบทบาทนี้อย่างแน่นอน

แต่เข็มนาฬิกาเมื่อหมุนไปแล้วก็คงไม่มีทางหมุนกลับไปที่เดิม AI คงไม่ใช่ Fad ที่มาเพียงชั่วคราวและจากไป ฉะนั้นการปฏิเสธการอยู่ร่วมกับมันจึงเป็นเรื่องยากที่จะเป็นไปได้ กลับกัน การเรียนรู้อยู่กับ AI และใช้ประโยชน์จากสิ่ง ๆ นี้ให้มากที่สุดอาจจะนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ก้าวกระโดดอย่างไม่คาดคิด ดังที่สะท้อนผ่านเทรนด์ ‘Upskill & Reskill Trends’ ที่ทำให้เราเห็นว่า AI จะมาช่วยยกระดับการเรียนรู้แบบปรับตัวได้ (Adaptive Learning) ให้มีประสิทธิภาพไปกว่าเดิม หมายความว่าการเรียนรู้แต่ละอย่างจะมีความเฉพาะและถูกออกแบบมาให้เหมาะกับตัวเรามากที่สุดจากการประมวลผลของ AI นั่นเอง

เราจะเห็นได้ว่าในระดับปัจเจกมีการเปลี่ยนแปลงหลายประการที่ชวนให้เราขยับเพื่อรับมือกับสิ่งใหม่ แต่การรับมือกับความเปลี่ยนแปลงเหล่านี้จะต้องเตรียมพร้อมมากกว่าเดิมเมื่อบทบาทของคุณไม่เพียงแค่ทำหน้าที่ของตัวเองเพียงอย่างเดียว แต่ต้องนำพาองค์กรเดินไปข้างหน้าด้วย จึงนำมาสู่บท ‘LEADERSHIP ผู้นำ’ ที่จะพาผู้อ่านไปสำรวจเช็คลิสต์ต่าง ๆ ที่ผู้นำองค์กรต้องเตรียมพร้อม ปรับเปลี่ยน และรับมือ

ในองค์กรยุคสมัยปัจจุบันที่อุดมไปด้วยผู้คนหลากหลายรุ่นที่เติบโตมาในปัจจัยแวดล้อมที่แตกต่างกัน แน่นอนว่าย่อมเกิดความไม่เข้าใจกันบ้างในบางแง่มุม จนกลายเป็นปัญหาอย่าง ‘ช่องว่างทางช่วงวัย’ (Generation Gap) ที่ในทุก ๆ องค์กรล้วนต้องพบเจอ บทอย่าง ‘Generational Misunderstandings and Communication Gaps’ ที่จะพูดถึงช่องว่างระหว่างการสื่อสารระหว่างคนต่างรุ่น จนเรื่องของการสร้างบรรยากาศที่ปลอดภัยทางจิตใจ (Psychological Safety) ต้องเป็นสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญมากกว่าเดิมในฐานะผู้นำองค์กร รวมไปถึง ‘The Seniority Paradox’ ที่จะพูดถึงปัญหาและการรับมือในการทำงานกับคนต่างรุ่น

นอกจากนี้ก็ยังมีเทรนด์และประเด็นอีกมากมายที่เมื่ออ่านจะกลายเป็นการประดับความรู้เพื่อเตรียมตัวรับมือผ่านการเปลี่ยนแปลงจากหลากหลายมิติที่สามารถใช้ได้กับผู้คนในหลากหลายบทบาท แต่นอกจากการเปลี่ยนแปลงจากภายในตัวเราแล้ว มีอะไรใหม่ ๆ บ้างที่เราต้องเตรียมตัวและเตรียมใจรับมือ?

 

โลกใหม่ที่กำลังมาถึง

ในสองส่วนที่ผ่านมาทำให้เราเห็นว่าหนังสือเล่มนี้เป็นแนวทางที่น่าสนใจในการเตรียมตัวรับมือกับการเปลี่ยนแปลงภายนอก อีกทั้งยังการยกระดับตัวเองจากภายใน แต่นอกจากนั้นแล้ว ก็ยังนำเสนอเรื่องราวเทรนด์ต่าง ๆ ที่จะเป็นสิ่งใหม่ที่น่าสนใจเข้ามาอีกด้วย ทั้งในด้านของสุขภาพ ศิลปะและการออกแบบ ไปจนถึงไลฟ์สไตล์ของผู้คน

ไม่เพียงแค่สังคมปัจจุบันกำลังขยับเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ (Aging Society) ที่มีสัดส่วนผู้สูงอายุเพิ่มมากขึ้น แต่ในยุคปัจจุบันยังเผชิญกับแนวโน้มที่มีบุตรช้าลงเมื่อเทียบกับสมัยก่อน อาจะเป็นเพราะปัจจัยแวดล้อมทางเศรษฐกิจและสังคมด้วย และด้วยแนวโน้มที่ว่านี้ก็ย่อมตามมาด้วยภาวะการมีบุตรยาก ‘การฝากไข่’ จึงเป็นประเด็นที่ถูกพูดถึงในบท ‘Egg Freezing: A Hot Trend in a World of Low Birth Rates’ จากหมวด ‘HEALTH สุขภาพ’ ที่ฉายภาพให้เราเห็นถึงแนวโน้มความนิยมในเทคโนโลยีนี้ที่ทำให้ ‘เวลา’ เป็นเรื่องที่น่ากังวลน้อยลงได้บ้าง เมื่อกล่าวถึงแผนการอยากมีบุตรของผู้คนในยุคสมัยนี้

ศิลปะเองก็มีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนไปไม่น้อย ดังที่ในบท ‘Fusion is Everything’ จากหมวด ‘ART AND DESIGN ศิลปะและการออกแบบ’ ที่ทำให้เราเห็นว่าการออกแบบในอนาคต เราจะได้เห็นถึงการเล่าเรื่องที่มีการผสมผสานในหลากหลายมิติมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นื AR, VR หรือการออกแบบแบบ 3D ที่มาจากการผสมผสานของทั้งแนวคิด ศิลปะ วัฒนธรรม และเทคโนโลยี เป็นต้น เราอาจจะได้เห็นอะไรที่ไม่เคยเห็นมาก่อน หรืออาจจะเป็นสิ่งที่เคยเห็นมาก่อน แต่ถูกนำเสนอออกมาผ่านองค์ประกอบที่ใหม่กว่าเดิม

ท้ายที่สุด ท่ามกลางความวุ่นวายที่เราเห็นนี้ แนวโน้มทางไลฟ์สไตลืที่ผู้คนรู้สึกจากภายในก็เป็นเรื่องสำคัญที่ต้องพูดถึงไม่น้อย เพราะในไม่กี่ปีที่ผ่านมา สังคมเราได้ผ่านความวุ่นวายและผันผวนมานานาประการ ไม่ว่าจะเป็นโรคระบาด ความวุ่นวายขัดแย้ง การเปลี่ยนแปลงทางการเมือง และกระแสสังคมอีกมากมาย ‘New Nihilism and New Lifestyle’ ในหมวด ‘URBAN AND LIFESTYLE เมืองและไลฟ์สไตล์’ จึงได้นำเสนอถึงวิถีชีวิตแบบใหม่ที่เป็นที่นิยมมากขึ้น ที่เป็นวิถีชีวิตที่เอนเข้าหาความสงบและใช้ชีวิตแบบออฟไลน์มากขึ้นเพื่อหลีกหนีความวุ่นวายที่ปะทุอยู่ไม่เว้นวัน

เราจะเห็นได้ว่าในทุก ๆ ปีที่เปลี่ยนไปก็เต็มไปด้วยความเปลี่ยนแปลง ความท้าทาย และโอกาสหลากหลายรูปแบบเกิดขึ้นใหม่ตลอด ด้วยเหตุนั้น การที่เราพอจะรู้ล่วงหน้าหรือเห็นภาพของแนวโน้มความเป็นไปย่อมเป็นเรื่องสำคัญในการก้าวไปข้างหน้าอย่างแข็งแกร่งกว่าที่เคยเป็น หากสนใจมากกว่าในบทความนี้ The People ขอแนะนำให้ผู้อ่านลองแวะไปอ่าน ‘Future Trends Ahead 2025’ ฉบับเต็มที่เปิดให้ดาวน์โหลดกันอย่างฟรี ๆ ได้ที่ QR Code ด้านล่างนี้เลยครับ

โลกอนาคตขยับเข้ามาใกล้ขึ้นทุกวัน พร้อมเพรียงไปกับความเปลี่ยนแปลงคืบคลานเข้ามาอย่างไม่หยุดยั้ง โลกใบเดิมค่อย ๆ เลือนหาย โลกใบใหม่ขยับเข้าแทนที่ บางทีทำความรู้จักมันไว้บ้าง อาจจะทำให้เราเดินไปข้างหน้าอย่างมั่นคงขึ้นกว่าเดิม