เส้นทาง 34 ปี 'ขนมรสมะเขือเทศ FF' แบรนด์ระดับตำนานที่วันนี้โดนใจคนดังเกาหลี

• ไวรัลจาก จีซู วง Blackpink และพระเอกซีรีส์เกาหลีใต้ที่ชื่นชอบในรสชาติขนมอบกรอบรสมะเขือเทศแบรนด์ไทย FF ทำเอาหลายคนคิดถึงและตั้งคำถามที่มาของธุรกิจนี้
• ตลอด 34 ปีที่ทำธุรกิจ บริษัทแฟชั่นฟู้ด ได้ทดลองรสชาติใหม่ ๆ จนมาหยุดที่ 2 รสชาติคลาสิกที่ยากจะเลียนแบบ และกลายเป็นขนมในตำนานจนถึงตอนนี้
• หลายคนยังไม่รู้ว่ามีขนมและผลิตภัณฑ์อื่นอีกที่ผลิตจากบริษัทแฟชั่นฟู้ด ส่วนใหญ่เป็นข้าวเกรียบรสต่าง ๆ

กลายเป็นไวรัลอีกครั้งสำหรับขนมอบกรอบรสมะเขือเทศระดับตำนานแบรนด์ FF  เมื่อ ‘จีซู’ แห่งวง Blackpink ได้โพสต์ภาพขนมดังกล่าวลง IG ของเธอที่มีผู้ติดตามอยู่ 73.2 ล้านบัญชี พร้อมกับแคปชั่น ‘อร่อย’ 

และนี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่คนดังจากเกาหลีใต้ติดใจในรสชาติของขนม FF เพราะก่อนหน้านี้ได้มีภาพของนักแสดงชายชื่อดังอย่าง ‘คิม ซอน-โฮ’ หอบขนม FF จากประเทศไทยกลับประเทศบ้านเกิดของเขาไปหลายลังใหญ่ 

จนชาวเน็ตให้ความสนใจอย่างมาก ทั้งยังตั้งคำถามเกี่ยวกับที่มาของแบรนด์ และเปิดประเด็นว่าทำไมขนมชนิดนี้ไม่เคยเปลี่ยนแพคเกจ และไม่มีรสชาติใหม่ ๆ ออกมาเลย(ควันหลงจากพระเอก คิม ซอน-โฮ ยังมีให้เห็นอย่างต่อเนื่อง เพราะขนม FF ตอบรับกระแสดังกล่าวด้วยการเปิดตัวรสชาติใหม่ในรอบ 34 ปีตั้งแต่ที่ก่อตั้งบริษัท นั่นก็คือ รสบาร์บีคิว) 

อย่างไรก็ตาม ทางบริษัทที่ผลิตขนม FF ไม่ได้ออกมายืนยันหรือพูดถึงรสชาติใหม่แต่อย่างใด แต่สำหรับ FF ก็เป็นแบรนด์ที่อยู่ในใจคนไทยมาตลอด โดยเฉพาะกลุ่มคนยุค 90s ที่ยกให้ขนม FF เป็นหนึ่งในตำนานที่ยังหายใจไปแล้ว

เริ่มจากข้าวเกรียบรสชาติเบสิก

ย้อนไปเมื่อ 34 ปี หรือ เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2531 เป็นจุดกำเนิดของขนม FF ในตำนานในใจของใครหลายคน โดยบริษัท แฟชั่นฟู้ด จำกัด ได้จดทะเบียนเริ่มต้นที่ 70 ล้านบาท และเพิ่มทุนจดทะเบียนบริษัทหลังจากนั้นอีก 70 ล้านบาท ในเดือนเมษายน 2548

หลังจากที่บริษัทเปิดตัวได้ 1 ปี แฟชั่นฟู้ด ได้เริ่มผลิตขนมประเภทข้าวเกรียบรสต่าง ๆ และวางจำหน่ายในปี 2532 มีข้อมูลระบุว่าช่วงแรก ๆ ที่ แฟชั่นฟู้ด เปิดตัวข้าวเกรียบเป็นรสชาติเบสิก ๆ เช่น ข้าวเกรียบกุ้ง, ฟักทอง แต่ยังไม่โดนใจผู้ซื้อขนาดนั้น อาจเพราะว่าเป็นรสชาติข้าวเกรียบที่เคยเห็นกันอยู่แล้ว

แฟชั่นฟู้ด จึงปรับตัวทันทีภายในปีเดียวกัน ด้วยการเปลี่ยนรสชาติข้าวเกรียบเป็น ‘รสพริกหยวก - รสมะเขือเทศ’ หวังจะเจาะกลุ่มเป้าหมายทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ซึ่งก็ตามคาดข้าวเกรียบ 2 รสชาตินี้ทำให้บริษัทแฟชั่นฟู้ดประสบความสำเร็จ และมีคนรู้จักขนมยี่ห้อ ‘FF’ มากขึ้น

ความสำเร็จในครั้งนั้นทำให้ FF อยากที่จะต่อยอดกลุ่มลูกค้าโดยการทำ ‘ข้าวเกรียบรสผัก’ ภายใต้ชื่อแบรนด์ว่า ‘ตอร์ปิโด’ นอกจากนี้ ยังมีข้าวเกรียบรสชาติต่าง ๆ อีกมาก เช่น ข้าวเกรียบรสข้าวโพด ภายใต้แบรนด์สามพราน, ทุเรียนมากิ เป็นต้น ซึ่งผลิตภัณฑ์หลายตัวของ แฟชั่นฟู้ด ถือว่าเป็นที่รู้จักในกลุ่มวัยรุ่น (แต่บางคนก็ไม่รู้ว่ามาจากบริษัทเดียวกัน)

จากข้าวเกรียบสู่บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป

ในปี 2545 บริษัทแฟชั่นฟู้ด ได้เพิ่มไลน์การผลิตมาเป็น ‘บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป’ ทั้งแบบซอง 1 ห่อ, แพ็คใหญ่ที่มี 21 ก้อน และรูปแบบชามที่กินสะดวกขึ้น โดยส่วนใหญ่บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปของ FF จะใช้กันอย่างมากในร้านอาหาร โดยแฟชั่นฟู้ดเป็นบริษัทแรกที่ทำบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเพื่อผู้ประกอบการร้านอาหารโดยเฉพาะ

จากนั้นเมื่อเห็นว่าการทำกลยุทธ์แบบ B2B ค่อนข้างประสบความสำเร็จ แฟชั่นฟู้ดจึงผลิต ‘ข้าวต้มกึ่งสำเร็จรูปชนิดชาม’ ออกมาเพื่อจับตลาดร้านอาหาร เป็นตัวช่วยผู้ประกอบการโดยวางคอนเซปต์ไว้ว่า เป็นข้าวต้มกึ่งสำเร็จรูปที่ไม่ทำลายสุขภาพคนกิน

นอกจากนี้ แบรนด์ FF ยังตีตลาดเส้นอย่างต่อเนื่อง โดยได้เพิ่มนวัตกรรมในการผลิต หนึ่งในผลิตภัณฑ์ที่ใช้นวัตกรรมอย่างชัดเจนของแฟชั่นฟู้ด ก็คือ ‘บะหมี่โชกุน’ ซึ่งเป็นบะหมี่อบแห้งที่สามารถใช้แทนบะหมี่เส้นสดโดยไม่ทำให้เสียรสชาติ และยังช่วยร้านอาหารประหยัดเวลาได้ด้วย

ปัจจุบัน ผลิตภัณฑ์แบรนด์ FF หรือยี่ห้ออื่นที่อยู่ในบริษัทแฟชั่นฟู้ด ไม่ได้วางจำหน่ายแค่ในประเทศไทย แต่ส่งออกไปอีกหลายประเทศทั่วโลก เช่น สหรัฐอเมริกา, แคนาดา, ยุโรป (EU), อังกฤษ, ออสเตรเลีย, ไต้หวัน, ฮ่องกง, มาเลเซีย, สิงค์โปร์, เมียนมา, สปป.ลาว, กัมพูชา เป็นต้น

ความน่าสนใจของขนม FF ก็คือ มนต์ขลังจากแพคเกจเดิมตลอด 34 ปีที่ดำเนินธุรกิจ ไม่มีการเปลี่ยนแพคเกจ ไม่มีการทำมาร์เก็ตติ้ง และสุดท้ายที่ยังเป็นคำถามจนถึงตอนนี้คือ เจ้าของขนมในตำนานนี้คือใครเพราะแทบไม่มีข้อมูลเปิดเผยเลยกด้วยซ้ำ

อย่างไรก็ตาม ผู้บริโภคยังคงเก็บความสงสัยนี้เอาไว้ในใจเพราะคุณภาพของขนม และรสชาติที่ทำให้เราย้อนวัยเด็กได้ ยังเสมอต้นเสมอปลายอยู่จนถึงตอนนี้ ไม่ว่าในอนาคตขนม FF หรือ ผลิตภัณฑ์ตัวอื่นจะป้อนสินค้าอะไรเข้าสู่ตลาดก็ตาม แต่คุณภาพและความซื้อตรงของแบรนด์นี้ก็สร้าง loyalty จากผู้บริโภคได้เหมือนเดิม

 

ภาพ: FF

อ้างอิง:

FF

Data.creden

Prachachat

Longtunman