19 เม.ย. 2566 | 11:50 น.
- ‘แดนเนรมิต’ เป็นสวนสนุกที่ก่อตั้ง โดย ‘ไมตรี กิติพราภรณ์’ เปิดให้บริการเมื่อ 29 ม.ค. พ.ศ. 2519
- ด้วยความแปลกใหม่กับเครื่องเล่นที่ไม่เคยมีมาก่อน บวกกับสีสันต่าง ๆ ทำให้แดนเนรมิตประสบความสำเร็จ
“สนุกสุดแสน เที่ยวแดนเนรมิต” เป็นสโลแกนที่คนในยุค 70s - 90s ต่างคุ้นเคยเป็นอย่างดี แม้ปัจจุบันสวนสนุกแห่งนี้ได้ปิดตัวไปแล้วเกือบ 23 ปี แต่ ‘แดนเนรมิต’ ก็ถือเป็นสถานที่ระดับตำนานและอยู่ในความทรงจำของใครหลายคน
ย้อนกลับไปเมื่อปี พ.ศ.2518 ‘ไมตรี กิติพราภรณ์’ เจ้าของโรงหนังหลายแห่ง ได้แก่ พาราเมาท์, ฮอลลีวู้ด และโคลีเซียม เกิดไอเดียจากตอนไปท่องเที่ยวในประเทศญี่ปุ่น แล้วได้เห็นกิจการสวนสนุก บวกกับได้ยินมาว่า ดิสนีย์แลนด์ที่สหรัฐอเมริกามีคนจากทุกมุมโลกไปท่องเที่ยวแบบไม่ขาดสาย ทำให้ต้องการสร้างธุรกิจนี้ขึ้นมาในประเทศไทย
เมื่อเขากลับมาถึงกรุงเทพฯ จึงได้ใช้เงินลงทุนราว 100 ล้านบาท สำหรับขอเช่าที่บริเวณทุ่งบางเขน (อยู่ริมถนนพหลโยธิน อยู่เยื้องกับศูนย์การค้าเซ็นทรัลลาดพร้าว) ขนาด 33 ไร่ เป็นระยะเวลา 25 ปี พร้อมกับสั่งซื้อเครื่องเล่นทั้งจากญี่ปุ่นและอิตาลี เพื่อทำสวนสนุกในชื่อ ‘แดนเนรมิต’ เปิดให้บริการวันที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2519
ภายในสวนสนุกแห่งนี้มีเครื่องเล่นกว่า 30 ชนิดที่ไม่เคยมีมาก่อนในบ้านเรา และเน้นให้ทุกคนสามารถเล่นได้ โดยเครื่องเล่นยอดฮิต ได้แก่ รถไฟเหาะ เรือไวกิ้ง บ้านผีสิง เฮอร์ริเคน ฯลฯ รวมไปถึงมีการแสดงโชว์และขบวนพาเหรดแฟนตาซีต่าง ๆ
ด้วยความแปลกใหม่ บวกกับอยู่ใจกลางเมือง เดินทางสะดวกสบาย ทำให้การมาของแดนเนรมิตสร้างความฮือฮาและได้รับการตอบรับดีมาก แม้ยุคนั้น บ้านเราจะมีสวนสนุก ‘แฮปปี้แลนด์’ ย่านบางกะปิ ที่ได้ชื่อว่าเป็นสวนสนุกกลางแจ้งแห่งแรกของประเทศไทย และมีสวนสนุกตามศูนย์การค้าต่าง ๆ อยู่แล้ว
เมื่อบริหารไปสักพัก ไมตรีได้ดึงลูกสาวของตัวเอง นั่นคือ ‘พัณณิน กิติพราภรณ์’ (ผู้บริหารดรีมเวิลด์ในปัจจุบัน) ที่ตอนนั้นเรียนจบปริญญาโทด้านบริหารธุรกิจจาก University of California, Berkeley ประเทศสหรัฐอเมริกา และได้กลับมาเป็นอาจารย์ประจำที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ให้กลับมาช่วยธุรกิจของครอบครัวในตำแหน่งกรรมการผู้จัดการของแดนเนรมิต
เธอมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาสวนสนุกแห่งนี้ ทั้งการจัดหาเครื่องเล่น และเพิ่มเสน่ห์ด้วยการวางโซนพื้นที่ในสวนสนุกตามธีมต่าง ๆ โดยเฉพาะโซนเทพนิยาย ที่เปิดตัวเมื่อเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2529 ซึ่งมี ‘ปราสาทเทพนิยาย’ ที่ตั้งด้านหน้าของสวนสนุก เป็นแลนด์มาร์ค และยังมีสถานที่ต่าง ๆ จากเทพนิยายเรื่องดัง อาทิ บ้านคนแคระทั้ง 7 จากเรื่องสโนไวท์, ปราสาทเจ้าหญิงนิทรา, บ้านยักษ์ จากเรื่องแจ็คผู้ฆ่ายักษ์ เป็นต้น ให้ผู้คนที่มาท่องเที่ยวที่นี่ได้เยี่ยมชม
หลังจากเปิดให้บริการมานาน 25 ปี ครบกำหนดสัญญาเช่าที่ ทางแดนเนรมิตก็จำเป็นต้องปิดตัวลง เพราะทางเจ้าของที่ไม่ต่อสัญญาให้ เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวอยู่ใจกลางเมือง การเดินทางสะดวกสบาย ทำให้ราคาที่ดินตรงนี้มีราคาพุ่งสูงขึ้น บวกกับการจราจรพลุกพล่าน จนไม่สามารถขยับขยายพื้นที่สวนสนุกได้อีก
แต่ก่อนจะปิดตัวลง ทางผู้บริหารแดนเนรมิตได้ตัดสินใจลงทุนด้วยเงินกว่า 1,000 ล้านบาท ซื้อที่ดิน 160 ไร่ ย่าน กม.7 รังสิต นครนายก (คลอง 3) จ.ปทุมธานี และพัฒนาเป็นสวนสนุกแห่งใหม่ นั่นคือ ‘ดรีมเวิลด์’ ในคอนเซ็ปต์ The World of Happiness เปิดให้บริการวันแรกวันที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2536
ขณะที่แดนเนรมิตเองได้ปิดให้บริการอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2543 เป็นการปิดฉากสวนสนุกกลางแจ้งใจกลางเมือง (ว่ากันว่า วันนั้นมีคนมาบอกลาสวนสนุกแห่งนี้กว่า 50,000 คน)
แม้ปัจจุบันจะผ่านมาเกือบ 23 ปีแล้วที่สวนสนุกแห่งนี้ปิดตัวลง แต่ปราสาทเทพนิยายก็ยังคงอยู่เป็นแลนด์มาร์คให้หวนรำลึกถึงสถานที่ระดับตำนานอย่างแดนเนรมิต กระทั่งตอนนี้พื้นที่ดังกล่าวกำลังจะเปิดเป็น ‘จ๊อดแฟร์’ ตลาดนัดกลางคืนในคอนเซ็ปต์คล้ายกับม่อนจ๊อด จ.เชียงใหม่ ที่เน้นให้มาท่องเที่ยวและถ่ายรูป ซึ่งจะเปิดบริการวันที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2566 ก็ตาม
.
อ้างอิง