28 พ.ย. 2561 | 16:06 น.
“โศกนาฏกรรมมักเป็นของคู่กันกับร็อคสตาร์” ใครบางคนได้กล่าวเอาไว้ เมื่อพบว่าตั้งแต่โลกเริ่มต้นอุตสาหกรรมดนตรี เราจะได้ยินเรื่องราวเลวร้ายมากมายที่เหล่านักดนตรี ศิลปินในตำนาน ได้ประสบพบเจอ ทั้งเรื่องยา เรื่องความรัก หรือกระทั่งเรื่องความตาย ดูจะเป็นของคู่กันกับเหล่าศิลปินราวกับพระเจ้าได้กำกับ ไม่ว่าจะเป็นการแตกแยกของวง The Beatles, การเลือกดับชีวิตของตนเองของ เคิร์ท โคเบน วง Nirvana, ชีวิตที่ว่ายวนอยู่ในความบอบช้ำและยาเสพติดของ เอมี ไวน์เฮาส์ และ วิทนีย์ ฮูสตัน หรือแม้กระทั่งการแตกคอของพี่น้องอีโก้ล้นอย่าง Oasis ศิลปินทุกคนต่างมีสตอรี่ที่ชวนติดตาม และจากไปพร้อมประวัติศาสตร์ที่ให้ชนรุ่นหลังได้ตื่นเต้นกับเงื่อนปมในชีวิตอันโลดโผน แต่หากเทียบเรื่องราวของ คริส มาร์ติน (Chris Martin) และวง Coldplay กับวงข้างต้น ก็คงจะบอกว่าช่างห่างไกลและจืดชืดค่อนข้างมาก เขาไม่มีปัญหาพี้ยา ไม่เคยทำลายข้าวของในโรงแรมที่พัก ไม่เคยคิดฟาดปากใครในปาร์ตี้ มีข่าวในแทบลอยด์ซุบซิบในฐานะที่คบกับดาราบ้าง แต่ก็ไม่ใช่อาหารอันโอชะของปาปาราซซี่ มีการแตกคอกันในวงบ้างนิดหน่อย แต่สุดท้ายก็ง้องอนให้กลับมาเล่นในเวลาอันรวดเร็ว หากเปรียบเป็นหนังก็คงเป็นหนังเรียบ ๆ ที่ไม่มีจุดพีค ไร้จุดหักเห หรือมีไคลแมกซ์อะไรให้ต้องสนใจ แต่เพราะอะไรคนทั่วทั้งโลกถึงหลงรักและเทิดทูนวงนี้ราวกับเป็นพระเจ้า? หนังสารคดี A Head Full of Dreams (2018) น่าจะพอตอบคำถามข้อนี้ได้ คริส มาร์ติน หรือชื่อเต็ม ๆ ว่า คริสโตเฟอร์ แอนโธนี จอห์น มาร์ติน อาจจะเริ่มต้นชีวิตนักดนตรีด้วยความเฉิ่มในภาพลักษณ์ ผมที่ยาวและหยิกหยอย ฟันเหล็ก และใบหน้าที่ไร้พิษภัย ซึ่งมีความหมายเดียวกันกับความไร้เสน่ห์ พรหมลิขิตขีดเส้นทางตั้งแต่แรกเกิด เขาเติบโตท่ามกลางครอบครัวนักดนตรี มีแม่ที่เป็นครูสอนร้องเพลง และมีกิจกรรมตั้งวงดนตรีสมัครเล่นตั้งแต่ยังเด็กซึ่งก็ไม่ได้จริงจังอะไร จนกระทั่งเขาได้มาเรียนที่ University College London คริสก็ฝันว่า เขาจะเป็นนักดนตรีไปจนวันตาย คริส ตามหาพลพรรคเพื่อฟอร์มวง ซึ่งก็หาจากเพื่อนฝูงใกล้ชิดสนิทสนม จนได้ กาย เบอร์รีแมน, จอนนี บัคแลนด์ และ วิลล์ แชมเปียน มาร่วมวง ใช้ชื่ออันแสนเฉิ่มว่า Star Fish และให้เพื่อนซี้อีกคนที่กลายมาเป็นผู้กำกับสารคดีนี้คือ แมท ไวท์ครอสส์ บันทึกภาพตั้งแต่ก้าวแรกของวงจนกระทั่งในอีก 20 ปีต่อมา หนังบันทึกภาพของคริสในปี 1996 ที่เต็มไปด้วยแววตาแห่งความกระตือรือร้น เขาสารภาพว่าที่เข้าเรียนมหาวิทยาลัยก็เพื่อจะมาตั้งวงดนตรี วัน ๆ เอาแต่ร้องรำทำเพลงตามประสา แม้ว่าจะเอ่ยปากว่าไม่สนใจอะไรมากไปกว่าการเป็นศิลปิน แต่สุดท้ายคริสก็เรียนจบพร้อมเกียรตินิยมอันดับ 1 ซึ่งไม่ใช่เป้าหมายสำคัญอะไรเลย หากจุดหมายปลายทางของเขานั้นยังไปไม่ถึง คือการเป็นศิลปินผู้ยิ่งใหญ่ เขาอาจจะไม่ได้เริ่มต้นสายอาชีพอย่างรันทดนัก คอนเสิร์ตครั้งแรกภายใต้ชื่อวง Star Fish ที่ The Falcon ย่านแคมเดน เป็นวงอื่นอาจจะมีคนดูบางตา แต่ในคืนวันนั้นกลับมีคนสนใจวงนี้เต็มผับ ก่อนจะได้รับการเฉลยว่าคนเหล่านั้นคือเพื่อนสนิทมิตรสหายที่มาให้กำลังใจ ท้ายที่สุด พวกเขาก็เข็นแผ่นเดโมที่ชื่อว่า Safety EP ออกมา จากการผลักดันของเพื่อนซี้ที่ได้มาเป็นผู้จัดการวงและเปรียบได้ดั่ง Coldplay คนที่ 5 อย่าง ฟิล ฮาร์วีย์ พร้อมกับชื่อวงชื่อใหม่ (ที่เอามาจากชื่อที่วงอื่นเขี่ยทิ้งอีกที) ในชื่อ Coldplay และด้วยซาวนด์อันน่าหลงใหล จุดหมายปลายทางของเขาก็ได้ลงเอยกับตราแผ่นเสียง Parlophone ที่ที่วงในดวงใจของเขาไม่ว่าจะเป็น The Beatles, Radiohead และ Supergrass พำนักอยู่