20 ธ.ค. 2567 | 18:41 น.
KEY
POINTS
สำหรับคนส่วนใหญ่ ‘ปณิธานปีใหม่’ มักจบลงด้วยความรู้สึกผิดหวัง ราวกับเป็นพิธีกรรมประจำปีที่ทำตามหน้าที่ แต่ไร้ซึ่งพลังเปลี่ยนแปลง คุณเคยถามตัวเองบ้างไหมว่า ทำไมความตั้งใจอันแรงกล้าในวันแรกของปีถึงกลายเป็นเพียงความทรงจำเลือนราง ภายในไม่กี่สัปดาห์?
อันที่จริงแล้ว ความล้มเหลวของปณิธานไม่ได้เกิดจากความอ่อนแอหรือขาดความพยายาม หากแต่เป็นเพราะเรามักตั้งเป้าหมายที่ ‘ผิดวิธี’ โดยไม่รู้ตัว
บทความนี้จะพาคุณสำรวจกลไกทางจิตวิทยาที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังความล้มเหลวซ้ำซาก และมอบเครื่องมือที่แท้จริงในการปลดล็อกศักยภาพของตัวเอง เพื่อให้การพัฒนาตนเองกลายเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นและเป็นไปได้มากกว่าที่คุณเคยคิด
สมองเราชอบหลอกตัวเอง (แต่นี่เป็นเรื่องธรรมชาตินะ!)
รู้ไหมว่าการที่เราชอบตั้งเป้าหมายใหญ่เกินตัว แล้วก็ล้มเหลวซ้ำ ๆ นั่นไม่ใช่เพราะเราโง่หรือไร้ความสามารถหรอกนะ แต่เป็นเพราะสมองของเรามี ‘อคติในการวางแผน’ ติดตัวมาตั้งแต่เกิด
ลองนึกดู... เวลาเราบอกว่า “แค่วิ่งวันละ 5 กิโล มันคงไม่ยากหรอก” ทั้ง ๆ ที่ปกติเราเดินขึ้นบันไดสามชั้นยังหอบ หรือตอนที่คิดว่า “เดือนนี้จะเก็บเงินให้ได้หมื่นนึง!” ทั้งที่เดือนก่อนยังเก็บไม่ได้สักบาท... นี่แหละคือวิธีที่สมองของเราชอบหลอกตัวเอง
ความคิดแบบ “ได้ทั้งหมด หรือไม่เอาเลย”
เคยสังเกตตัวเองไหมว่า เวลาเราพลาดไปนิดเดียว เรามักจะคิดว่าพังไปหมดแล้ว? เช่น...
“วันนี้ลืมออกกำลังกาย... งั้นพรุ่งนี้ค่อยเริ่มใหม่ดีกว่า” (แล้วก็ไม่ได้เริ่มใหม่สักที) “กินช็อกโกแลตไปชิ้นนึงแล้ว... งั้นวันนี้กินต่อไปเลยละกัน พรุ่งนี้ค่อยคุมอาหาร”
นี่เป็นกับดักทางความคิดที่น่ากลัวมาก เพราะมันทำให้เราติดอยู่ในวงจรของการ ‘เริ่มใหม่’ ไม่รู้จบ แทนที่จะเรียนรู้ที่จะจัดการกับความพลาดพลั้งเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เกิดขึ้นได้ในชีวิตจริง
มองความล้มเหลวเป็นห้องเรียน ไม่ใช่ห้องสอบ
ลองคิดดูว่า... ตอนเราเรียนขับรถครั้งแรก เราคาดหวังว่าจะต้องขับเป็นตั้งแต่วันแรกไหม? หรือตอนหัดเล่นดนตรี เราคิดว่าจะต้องเล่นเพลงยาก ๆ ได้ทันทีไหม? แน่นอนว่าไม่ใช่!
แล้วทำไมเวลาเราจะเปลี่ยนแปลงตัวเอง เราถึงคาดหวังว่าต้องทำได้ดีตั้งแต่ครั้งแรก? ลองมองการเปลี่ยนแปลงเป็นเหมือนการเรียนวิชาใหม่ดูสิ ที่เราต้องค่อย ๆ เรียนรู้ ทำผิดบ้าง แก้ไขบ้าง จนค่อย ๆ เก่งขึ้น
เปลี่ยนจาก “ต้องทำให้ได้” เป็น “อยากทำให้ดีขึ้น”
แทนที่จะบอกว่า “ฉันต้องออกกำลังกายทุกวัน!” ลองเปลี่ยนเป็น “ฉันอยากดูแลสุขภาพให้ดีขึ้น” หรือแทนที่จะบอกว่า “ฉันจะไม่กินขนมหวานเลย!” ลองเปลี่ยนเป็น “ฉันจะค่อย ๆ ลดขนมหวานลงวันละนิด”
เห็นความต่างไหม? แบบแรกฟังแล้วเครียด กดดัน แต่แบบหลังฟังแล้วรู้สึกผ่อนคลาย และเปิดโอกาสให้เราได้พัฒนาตัวเองอย่างค่อยเป็นค่อยไป
เริ่มจากเล็ก ๆ แต่ทำได้จริง
รู้ไหมว่าทำไมคนที่ไม่เคยออกกำลังกายเลย พอไปสมัครฟิตเนสปุ๊บ มักจะเลิกภายในเดือนเดียว? เพราะเขาพยายามก้าวกระโดดเกินไงล่ะ!
ลองมาดูตัวอย่างการตั้งเป้าหมายแบบค่อย ๆ เพิ่มดีกว่า
เป้าหมายใหญ่: “ฉันจะออกกำลังกายให้ได้ทุกวัน” เป้าหมายที่ทำได้จริง:
สัปดาห์ที่ 1: เดินรอบบ้าน 5 นาทีหลังอาหารเย็น
สัปดาห์ที่ 2: เพิ่มเป็น 10 นาที
สัปดาห์ที่ 3: ลองวิ่งเหยาะ ๆ สลับเดิน
สัปดาห์ที่ 4: เพิ่มระยะทางหรือเวลาตามที่รู้สึกไหว
สร้างระบบที่ทำให้ ‘ทำถูก’ ง่ายกว่า ‘ทำผิด’
เคยสังเกตไหมว่า ทำไมเราถึงแปรงฟันได้ทุกวันโดยไม่ต้องบังคับตัวเอง? เพราะเรามีระบบไงล่ะ! แปรงสีฟันอยู่ในห้องน้ำ เราต้องเข้าห้องน้ำทุกเช้าอยู่แล้ว มันเลยเป็นเรื่องง่ายที่จะทำ
อยากกินอาหารสุขภาพ?
เวลาที่พลาดเป้า แทนที่จะด่าตัวเอง ลองถามคำถามเหล่านี้ดูนะวันนี้เกิดอะไรขึ้นที่ทำให้เราทำไม่ได้?
มีวิธีไหนที่จะป้องกันไม่ให้เกิดแบบนี้อีก?
ถ้าเกิดซ้ำ เราจะรับมือยังไงดี?
แล้วอย่าลืม... พลาดวันนี้ ไม่ได้แปลว่าต้องรอถึงปีหน้าถึงจะเริ่มใหม่ได้! จริง ๆ แล้ว เราสามารถเริ่มใหม่ได้ทุกวัน ทุกชั่วโมง ทุกนาทีเลย
ความจริงที่น่าประหลาดใจก็คือ การเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ที่สุดมักไม่ได้เกิดจากการตั้งเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่ แต่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงเล็ก ๆ ที่เราทำซ้ำ ๆ ทุกวัน เหมือนหยดน้ำที่ค่อย ๆ หยดลงบนก้อนหิน วันแล้ววันเล่า จนวันหนึ่ง... ก้อนหินนั้นก็ถูกเซาะจนเป็นร่อง
การพัฒนาตัวเองไม่ใช่การต่อสู้กับตัวเอง ไม่ใช่การลงโทษตัวเอง และไม่ใช่การพิสูจน์อะไรให้ใครเห็น แต่มันคือการค่อย ๆ เรียนรู้ที่จะรักและเข้าใจตัวเองมากขึ้น เหมือนที่เราดูแลต้นไม้ต้นหนึ่ง... เราไม่ได้ดุด่ามันที่โตช้า ไม่ได้บังคับให้มันออกดอกตามใจเรา แต่เราเรียนรู้ที่จะเข้าใจธรรมชาติของมัน ให้น้ำ ให้ปุ๋ย ให้แสงแดดที่พอเหมาะ แล้วรอคอยการเติบโตด้วยความอดทนและเมตตา
ปีใหม่นี้ แทนที่จะตั้งปณิธานว่า “ฉันจะเป็นคนใหม่” ลองตั้งปณิธานว่า “ฉันจะเป็นเพื่อนที่ดีของตัวเอง” ดูไหม? เพราะบางที... สิ่งที่เราต้องการอาจไม่ใช่การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ แต่เป็นการยอมรับว่าเราก็มีข้อบกพร่อง มีวันที่พลาด มีช่วงที่ท้อ เหมือนมนุษย์ทั่วไป และนั่นก็ “ไม่เป็นไร”
เพราะสุดท้ายแล้ว ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ที่สุดอาจไม่ใช่การไปถึงเป้าหมาย แต่เป็นการค้นพบว่าระหว่างทางนั้น เราได้เรียนรู้ที่จะรัก เข้าใจ และให้อภัยตัวเองมากขึ้น... และนั่นอาจเป็นของขวัญปีใหม่ที่ล้ำค่าที่สุดที่เราให้กับตัวเองก็ได้
“เพราะการเดินทางที่แท้จริง ไม่ใช่การไปให้ถึงจุดหมาย แต่เป็นการค้นพบตัวเองในทุกก้าวที่เดิน”
เรียบเรียง: พาฝัน ศรีเริงหล้า
ภาพ: Pexels
อ้างอิง:
Rosenthal, A. (2024). The Failed New Year's Resolution: Three Tips to Get on Track. Psychology Today. Retrieved January 2024, from https://www.psychologytoday.com/intl/blog/building-a-life-worth-living/202401/the-failed-new-years-resolution-three-tips-to-get-on-track
Villines, Z. (2023). Is Your New Year's Resolution Setting You Up for Failure? Psychology Today. Retrieved December 2023, from https://www.psychologytoday.com/intl/blog/communal-healing/202412/is-your-new-years-resolution-setting-you-up-for-failure
Morin, A. (2024). How to Keep Your New Year's Resolutions. Verywell Mind. Retrieved January 2024, from https://www.verywellmind.com/how-to-keep-your-new-years-resolutions-2795719