22 ม.ค. 2568 | 15:20 น.
KEY
POINTS
เดือนมกราคมสำหรับคุณเป็นอย่างไร?
สำหรับบางคน มกราคมอาจเป็นเดือนแห่งการเริ่มต้นใหม่ เริ่มงานใหม่ ๆ เริ่มโปรเจกต์ใหม่ ๆ เรียนรู้สิ่งใหม่ และเจอผู้คนใหม่ ๆ
ขณะที่บางคน มกราคมอาจเป็นเดือนที่หนักหน่วง ไม่ว่าจะเป็นงานที่สะสมจากปีเก่า เจอแรงกดดันที่หนักกว่าเดิม และคาดหวังว่า เราจะต้องเป็นคนใหม่ และต้องทำให้ปีนี้เป็นปีที่ดีกว่าปีที่แล้ว
บทความนี้ชวนหาคำตอบจากนักจิตวิทยาว่า ทำไมเดือนมกราคม ทั้ง ๆ ที่เดือนแรกของปี แต่กลับรู้สึกว่ายาวนาน และเป็นเรื่องยากที่จะต้องผ่านเดือนนี้ไปให้ได้
วันหยุดแปลว่าอิสระ การกลับมาทำงาน คือ การกลับมาใช้ชีวิตในกฎเกณฑ์อีกครั้ง
โคลอี คาร์ไมเคิล (Chloe Carmichael) นักจิตวิทยาคลินิกและผู้เขียนหนังสือ Nervous Energy: Harness the Power of Your Anxiety อธิบายว่าช่วงเทศกาลเป็นเวลาแห่งความสุข ทั้งการได้รับและมอบของขวัญ การฉลองร่วมกัน ซึ่งกระตุ้นให้สมองหลั่งสารแห่งความสุขอย่างเอ็นดอร์ฟินและโดปามีน
"แต่เมื่อกลับสู่กิจวัตรปกติ ระดับสารเหล่านี้ลดลงอย่างฉับพลัน ทำให้เรารู้สึกว่าชีวิตหลังวันหยุดไม่เพียงแต่ยากลำบาก แต่ยังขาดความสุขที่เคยมีไปด้วย" คาร์ไมเคิลกล่าว
การกลับสู่กิจวัตรหลังวันหยุดจึงไม่ใช่แค่ความยากลำบาก แต่ยังเป็นการเผชิญกับความสุขที่ลดน้อยลง และความจำเจที่ทำให้วันเวลายิ่งดูยาวนานขึ้น
“เป็นไปได้ที่การเริ่มงานใหม่หลังจากหยุดคริสต์มาสอาจทำให้เกิดความเบื่อหน่ายมาก (เมื่อเทียบกับความสนุกสนานในช่วงหยุดคริสต์มาส) ซึ่งในทางกลับกันก็ทำให้เกิดการรู้สึกว่าเวลาในเดือนมกราคมเดินช้า”
นอกจากนี้ เดือนธันวาคม คือ เดินแห่งการเฉลิมฉลอง ทุกคนต่างมอบความสุขให้กันและกัน ไม่ว่าจะเป็นคริสต์มาส หรือการนับถอยหลังเข้าสู่ปีใหม่ แต่เมื่อวันหยุดผ่านไป ความสุขก็ลดลง
“ตอนวันหยุด เราได้รับของขวัญ หรือมอบของขวัญให้ผู้อื่น และเฝ้าดูพวกเขามีความสุขกับเทศกาล ซึ่งกระตุ้นให้สมองหลั่งโดปามีน ทำให้เรารู้สึกดีมาก ดังนั้นเราอาจรู้สึกว่าโดปามีนลดลง เมื่อวันหยุดผ่านไป” คาร์ไมเคิลอธิบาย
จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่การกลับมาทำงานจะทำให้รู้สึกเบื่อหน่าย แตกต่างจากชีวิตวันหยุด และทำให้รู้สึกว่านาฬิกาของเดือนมกราคมเดินช้าลง
เมื่อปีใหม่เริ่มต้น หลายคนตั้งความคาดหวังและเป้าหมายใหม่ ๆ แต่ความคาดหวังนั้นอาจกลายเป็นแรงกดดันที่ส่งผลต่อจิตใจอย่างไม่รู้ตัว
“สำหรับบางคน เดือนมกราคมอาจทำให้รู้สึกกดดัน เพราะเดือนมกราคมเป็นจุดเริ่มต้นของปีใหม่ที่ทำให้นึกถึงช่วงเวลาที่ผ่านมาตลอดทั้งปี ซึ่งมีทั้งเรื่องที่สำเร็จและไม่สำเร็จ รวมถึงรู้สึกกดดันมากขึ้นในปีที่กำลังมาถึง”
แรงกดดันที่เกิดขึ้นไม่ได้มาจากเพียงสถานการณ์ปัจจุบัน แต่ยังรวมถึงความไม่แน่นอนในอนาคตด้วย ทำให้เรารู้สึกไม่สบายใจ แล้วจดจ่อกับสิ่งนั้น เลยทำให้แต่ละวันผ่านไปอย่างช้า ๆ
"เมื่อเราอยู่ในสภาวะวิตกกังวลหรือไม่สบายใจ จิตใจมักจะจดจ่ออยู่กับความรู้สึกนั้น ทำให้รู้สึกเวลาเดินช้าลง" Pauline Wallin นักจิตวิทยาคลินิกอธิบาย
ดังนั้น ความรู้สึกว่าเดือนมกราคมยาวนานจึงไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะบางคนอาจกำลังเผชิญกับความไม่สบายในรูปแบบที่ต่างกันออกไปซึ่งมีผลต่ออารมณ์และจิตใจของตัวเราเอง
ถึงแม้ว่าเดือนมกราคมจะยากและดูเหมือนยาวนาน แต่เวลาอาจผ่านไปอย่างรวดเร็ว ถ้าคุณได้ลองทำกิจกรรมเหล่านี้
1. ลองทำสิ่งใหม่และหากิจกรรมที่สนุก
ถ้าเดือนมกราคมมันน่าเบื่อ คุณลองทำสิ่งใหม่ที่ทำให้คุณสนุกจนลืมเวลา เช่น ลงเรียนหรือทำงานอดิเรกที่สนใจ หรืออาจจะไปพักผ่อนอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ ให้คุณมีเวลาอยู่กับตัวเอง และรู้สึกสบายใจ ซึ่งจะช่วยฟื้นฟูใจที่ห่อเหี่ยวให้พองโตขึ้น
2. นอนหลับให้เพียงพอ
การออกไปเที่ยวมันเหนื่อย คุณจึงต้องพักผ่อนให้เพียงพอ ให้สมองได้พัก ปล่อยให้สมองจัดเรียงข้อมูลในหัวก่อนออกไปใช้ชีวิต
3. เปลี่ยนแรงกดดันเป็นการสร้างสุขภาพที่ดี
แทนที่จะเสียเงินไปกับการสังสรรค์ คุณอาจซื้อแพกเกจเทรนนิ่งส่วนตัว คลาสทำอาหาร ซึ่งเป็นกิจกรรมที่จะทำให้คุณรู้สึกผ่อนคลายและเป็นผลดีต่อสุขภาพและจิตใจ
4. ทำรายการบทเรียนที่ได้เรียนรู้
การตั้ง New Year Resolution เป็นเรื่องดี แต่เราอาจเปลี่ยนจากเป้าหมายที่คาดหวัง เป็นสิ่งที่เราได้เรียนรู้จากปีนั้น ๆ เพื่อใช้ชีวิตเดือนมกราคมอย่างมั่นคง
แม้เดือนมกราคมอาจรู้สึกยาวนานและท้าทาย แต่การเข้าใจที่มาของความรู้สึกนี้จะช่วยให้เราปรับตัวและก้าวผ่านช่วงเวลานี้ไปได้ด้วยดี เพราะทุกวันคือโอกาสในการเริ่มต้นใหม่
Surviving January -- the Most Depressing Month of the Year / Psych Central.