‘ศักดิ์สยาม ชิดชอบ’ หนุ่มโปรไฟล์แน่น สู่รัฐมนตรีนมเย็นที่ตกจากม้า ปมถือหุ้นบ.บุรีเจริญฯ

• ‘ศักดิ์สยาม ชิดชอบ’ ถูกศาลรัฐธรรมนูญสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม จากปมถือหุ้น หจก.บุรีเจริญคอนสตรัคชั่น
• ศักดิ์สยาม คืออีกหนึ่งนักการเมืองจากตระกูลชิดชอบที่ก้าวหน้าในทางการเมือง แต่ในช่วงหลัง มีคำถามเกิดขึ้นต่อบทบาทของเขาหลายกรณี อาทิ ข้อกล่าวหาและภาพของศักดิ์สยาม ไปเที่ยวคริสตัลผับ ปรากฏออกมาช่วงแพร่ระบาดของโควิด-19

ทันทีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยตามที่ประธานสภาผู้แทนราษฎรส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่าความเป็นรัฐมนตรีของ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (5) ประกอบมาตรา 187

โอ๋ - ศักดิ์สยาม ชิดชอบ กลายเป็นอดีตรัฐมนตรีทันทีก่อนที่จะหมดสมัยครบวาระของคณะรัฐมนตรีของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา โดยให้นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีจากพรรคภูมิใจไทยเหมือนกันรักษาการจนครบวาระ

ดูเหมือนไฟร้อนจะสุมไปที่พรรคภูมิใจไทย หลังจากอดีต ‘เจ้าพ่ออ่างทองคำ’ ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ จัดหนักถล่มพรรคค่ายสีน้ำเงินแห่งนี้ทั้งเรื่องปล่อยผีกัญชาที่มอมเมาเยาวชน มีการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ เอานักเรียนมาตัดต้นกัญชา และกรณีแฉเรื่องกระทรวงคมนาคมเอี่ยวฮั้วประมูลโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม และยังทิ้งคำถามให้กับสังคมว่า

“ทำไมเมื่อจัดตั้งรัฐบาลทีไร พรรคภูมิใจไทยถึงจ้องมองกระทรวงคมนาคมทุกครั้งไป”

เพราะเรื่องนี้เกี่ยวโยงกับปมของการหยุดปฏิบัติหน้าที่ของ ศักดิ์สยาม เหตุเพราะศักดิ์สยาม ในฐานะผู้ถูกร้อง ยังคงไว้ซึ่งหุ้นส่วนและยังคงเป็นผู้ถือหุ้นและเจ้าของ หจก.บุรีเจริญคอนสตรัคชั่น อย่างแท้จริง ซึ่งจะทำให้ผู้ถูกร้องเข้าไปเกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการหุ้น หรือกิจการของ หจก. เป็นการกระทำอันเป็นการต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 187 ประกอบ พ.ร.บ.การจัดการหุ้นส่วนและหุ้นของรัฐมนตรี พ.ศ.2543 มาตรา 4 (1)

ถ้าหากย้อนไปดูโครงสร้างของ หจก.บุรีเจริญคอนสตรัคชั่น จะพบชื่อศักดิ์สยาม มีความเกี่ยวข้อง และ 2 ปีที่ผ่านมา บริษัทดังกล่าวได้รับประโยชน์ในงานของกระทรวงคมนาคมมากกว่า 1,000 ล้านบาท โดยเฉพาะในปี 2564 ปีเดียวกวาดงานกระทรวงคมนาคมไปทั้งสิ้นจำนวน 23 โครงการ วงเงิน 595.65 ล้านบาท

เส้นทางการเมืองของ ‘ศิษย์เก่าดีเด่นคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์’ คนนี้ถือว่าไม่ธรรมดา ตั้งแต่เกิดในครอบครัวการเมืองตั้งแต่รุ่นพ่อ นายชัย ชิดชอบ ที่เคยก้าวไปถึงตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร ที่เริ่มสร้างตัวจากธุรกิจโรงโม่หินศิลาชัย จังหวัดบุรีรัมย์ โดยครอบครัวแห่งนี้ก้าวเข้าสู่วงการการเมืองสมัยรุ่นพ่อจากการเมืองท้องถิ่น เป็นกำนันตำบลอิสาน อำเภอเมืองบุรีรัมย์ จนไต่เต้ามาสู่การเมืองระดับชาติของตระกูลชิดชอบ

ศักดิ์สยาม เป็นน้องชายคนเล็กในบรรดาพี่น้อง 3 คน โดยคนโตคือ เนวิน ชิดชอบ อดีต ‘กลุ่ม16’ อันเลื่องชื่อ และผู้ที่ผลักดันให้เกิดพรรคภูมิใจไทยหลังจากเกิดการยุบพรรคพลังประชาชน และพลิกข้างจับขั้วกับพรรคประชาธิปัตย์ผลักดันนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรี ก่อนจะหันไปทำฟุตบอลอย่างจริงจังกับทีมบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด 

ส่วนพี่ชายคนรองคือพล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ ที่ปรึกษาพิเศษ ตร. เรียกได้ว่าเกิดในครอบครัวพร้อมสรรพทั้งอำนาจและทุน

ด้วยความเป็นเด็กหัวดีกว่าพี่น้องในครอบครัว ศักดิ์สยาม เข้ามาเรียนต่อที่โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัยตามรอยพี่ชาย และสอบเข้ามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ในคณะรัฐศาสตร์ เอกบริหารรัฐกิจ

ที่แห่งนี้บ่มเพาะให้ศักดิ์สยาม เข้าใจกลไกการเมืองและอำนาจเป็นอย่างดี และเมื่อเรียนจบก็สอบเข้ารับราชการในตำแหน่งปลัดอำเภอ ตามสูตรของสิงห์แดง ก่อนที่จะผันตัวมาลงรับสมัครเลือกตั้งส.ส.ในปี 2544 และ 2548

อ่านเพิ่มเติม:

• เนวิน ชิดชอบ จาก ‘นักเลงเซราะกราว’ สู่ผู้มากบารมี
• ชัย ชิดชอบ นักเจรจาต่อรองมือเก๋า เจ้าของชั้นเชิงแพรวพราว

ศักดิ์สยาม เริ่มโดดเด่นเมื่อพี่เนวิน ถอยขยับไปการเมืองหลังฉากหลังเข้ารับตำแหน่งประธานคณะทำงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย สมัยที่นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และ บุญจง วงศ์ไตรรัตน์ เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เรียกได้ว่าเป็นยุคที่ภูมิใจไทยยึดครองกระทรวงมหาดไทยภายใต้รัฐบาลประชาธิปัตย์ที่ต้องพึ่งพิงเสียงสนับสนุนของงูเห่าจากภูมิใจไทยในการเป็นรัฐบาล

ในครั้งนั้น ศักดิ์สยาม ให้สัมภาษณ์กับมติชนถึงอิทธิพลของนายเนวินเรื่อง “คิดอย่างไรกับการที่มีคนบอกว่าเนวินคือ มท.1 ตัวจริง” ศักดิ์สยามตอบว่า 

“ไม่ใช่หรอก เพราะมท.1 ตัวจริงก็ยังเป็นคุณชวรัตน์ ท่านเนวินไม่ได้มายุ่งหรอก แต่ถ้ามีการปรึกษาหารือกันก็ถือว่าเป็นเรื่องปกติ” 

ซึ่งสะท้อนความสัมพันธ์อันดีระหว่างตระกูล ‘ชิดชอบ – ชาญวีรกูล’ ที่สนิทแนบแน่นกันมาอย่างยาวนาน 

เมื่อการเมืองผันผวน ศักดิ์สยาม ลงเลือกตั้งในปี 2557 ในระบบปาร์ตี้ลิสต์ พรรคภูมิใจไทย แต่การเลือกตั้งถูกประกาศเป็นโมฆะ ก่อนจะนำไปสู่คณะรัฐประหารของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบกในขณะนั้น ทำให้ประเทศไทยเว้นวรรคจากการเลือกตั้งไปจนถึงปี 2562 ซึ่งก่อนเลือกตั้งครั้งนั้น พรรคภูมิใจไทย โดยนายอนุทิน ในฐานะหัวหน้าพรรคออกมาประกาศว่า

“ผมจะไม่ยอมให้คน 250 คนที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งของประชาชน มาเลือกนายกฯ”

แต่หลังจากการเลือกตั้งในปี 2562 พรรคภูมิใจไทยกลับเป็นพรรคที่เข้าไปหนุนหลังการสืบทอดอำนาจของพล.อ.ประยุทธ์ และพรรคพลังประชารัฐ ในครั้งนั้น ศักดิ์สยาม เป็นหนึ่งในผู้รับรองให้พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯ ในวันเปิดสภา และพรรคภูมิใจไทยได้ตำแหน่งสำคัญในรัฐบาล ศักดิ์สยาม ก็ก้าวขึ้นไปถึงตำแหน่งเจ้ากระทรวงคมนาคม

คมนาคมในยุคศักดิ์สยามนั้นมีข้อครหาในหลายประเด็นโดยเฉพาะการจัดซื้อจัดจ้าง ทั้งป้ายสถานีกลางบางซื่อจำนวน 32 ล้านบาท การประมูลโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม และการประมูลการจัดสร้างถนนโครงข่ายต่าง ๆ ในประเทศ 

แต่ศักดิ์สยาม กลับถูกจำได้ดีที่สุดในภาพ ‘รัฐมนตรีนมเย็น’ เมื่อครั้งการแพร่ระบาดของ COVID-19 ที่มีนายอนุทิน ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเป็นคนดูแลหลัก กลับมีภาพของศักดิ์สยาม ไปเที่ยวมั่วสุมในคริสตัลผับ ย่านทองหล่อและมีพฤติกรรมไม่เว้นระยะห่างเพื่อความปลอดภัยและกฎระเบียบทางสาธารณสุข

ในครั้งนั้นได้มีการปกปิดไทม์ไลน์โดยอ้างว่าไม่ได้ไปคริสตัลผับ มีข่าวว่าศักดิ์สยาม สั่งให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดบุรีรัมย์แก้ไทม์ไลน์กลางดึก แจ้งความเอาผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 กับผู้ที่โพสต์รูปถ่ายบุคคลในผับซึ่งเขาอ้างว่าทำให้สังคมเข้าใจผิดว่าเป็นเขา วันที่ 9 เมษายน 2564 มีการเปิดเผยว่ามีผู้ติดเชื้อจากเขาแล้ว 7 คน

ทำให้การอภิปรายไม่ไว้วางใจในปี 2564 นายมงคลกิตติ์ สุขสินธนานนท์ จากพรรคไทยศรีวิไลย์ ลุกขึ้นมาอภิปรายว่าเป็นพฤติกรรมที่เสเพล เป็นต้นตอคลัสเตอร์การระบาดของโควิด ทั้งที่เป็นพรรคที่ดูแลกระทรวงสาธารณสุข เรื่องนี้นายศักดิ์สยาม ลุกขึ้นชี้แจงและกลายเป็นหนึ่งในวรรคทองของรัฐบาลชุดนี้ว่า

“เวลานั่งรับประทานผมทานอะไร เครื่องดื่มที่ผมดื่มเป็นนมเย็นนะครับ ถ้ากินนมเย็นแล้วเนี่ยถือว่าเสเพล ผมก็ไม่รู้จะพูดยังไง…

กรณีตั้งข้อสังเกตผมไปในที่ที่มีสุภาพสตรี… เช่น ร้องเพลงในร้านคาราโอเกะ ต้องเรียนว่า จริง ๆ ผมก็เคยไป แต่ไม่เคยไปในช่วงที่มีการแพร่ระบาดแน่นอน เป็นเรื่องปกติของผู้ชายคนหนึ่งนะครับ ที่มีสถานภาพโสด แล้วพักผ่อนในเวลาที่ไม่ได้ปฏิบัติราชการ ไปหัดร้องเพลงผิดตรงไหนครับ

เคยได้ยินคำกล่าวไหมครับ ชนใดไม่มีดนตรีส่อสันดานว่าอะไรครับ”

กลายเป็นฉายา ‘รัฐมนตรีนมเย็น’ ของศักดิ์สยาม แต่ด้วยความที่เสียงของภูมิใจไทยมีส่วนสำคัญในการค้ำจุนรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ ทำให้ประคับประคองผ่านมาได้จนเกือบครบสมัย แต่แล้วท้ายที่สุด ศาลรัฐธรรมนูญก็มีคำสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม

ปิดฉาก ‘รัฐมนตรีนมเย็น’ ที่ ‘โสด ฐานะดี บุรีรัมย์’ ก่อนจะหมดสมัยเพียงไม่กี่วัน

ล่าสุด ศาลรัฐธรรมนูญมีมติด้วยเสียงข้างมาก 7 ต่อ 1 วินิจฉัยว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนายศักดิ์สยามสิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (5) ประกอบ มาตรา 82 นับแต่วันที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ คือวันที่ 3 มี.ค. 2566 

หมายเหตุ : บทความนี้เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อเดือนกรกฎาคม 2566 กองบรรณาธิการอัพเดตข้อมูลเพิ่มเติมเมื่อวันที่ วันที่ 17 มกราคม 2567 

เรื่อง: พิเชฐ ยิ่งเกียรติคุณ

ภาพ: แฟ้มภาพ จาก NATION PHOTO

อ้างอิง:

Matichon

Nation TV

คม ชัด ลึก